pdf_name
stringlengths
5
8
bu_categories
stringclasses
18 values
action_non
stringclasses
2 values
result
stringclasses
32 values
pdf_name_path
stringlengths
44
48
text
stringlengths
517
26.8k
type
stringclasses
2 values
__index_level_0__
int64
0
1.51k
1132.pdf
SSHE
ACTION
SSHE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1132.pdf
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ฉลากของวัตถุอันตรายที่ส านักงานคณะกรรมการอาหารและยารับผิดชอบ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๕ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ และมาตรา ๒๐ (๑) และมาตรา ๔๔ (๑) แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยความเห็นของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความใน (๙) ของข้อ ๕ แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ฉลาก ของวัตถุอันตรายที่ส านักงานคณะกรรมการอาหารและยารับผิดชอบ พ.ศ. ๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “(๙) ในกรณีที่ภาชนะบรรจุวัตถุอันตรายมีขนาดเล็กมากจนไม่อาจแสดงข้อความได้ทั้งหมด ฉลากที่จะปิดบนภาชนะดังกล่าวอย่างน้อยจะต้องแสดงข้อความในข้อ ๔ (๑) - (๓) รูปสัญลักษณ์แสดง ความเป็นอันตราย ( hazard pictograms) และค าสัญญาณ ( signal words) ส่วนข้อความอื่น ๆ ให้แสดงในฉลากหีบห่อบรรจุหรือใบแทรกได้” ข้อ ๒ ให้ผู้ผลิตและผู้น าเข้าวัตถุอันตรายที่ได้แจ้งข้อเท็จจริงวัตถุอันตรายชนิดที่ ๑ หรือ ขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับ ใช้ฉลากเดิมได้ไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่ ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕6๕ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ้หนา ๒ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๗๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๕
train
100
926.pdf
QM
ACTION
QM_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/926.pdf
ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 59 พ.ศ. 2564 เรื่อง การก าหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ และการแสดงราคารับซื้อ หัวมันส าปะหลังสดตามเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง โดยที่ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 18 พ.ศ. 2563 เรื่อง การก าหนดสินค้าและบริการควบคุม ลงวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕63 สิ้นผลใช้บังคับ จึงท าให้ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 69 พ.ศ. 2563 เรื่อง การก าหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ และการแสดงราคารับซื้อหัวมันส าปะ หลังสด ตามเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง ลงวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 สิ้นผลใช้บังคับ ประกอบกับ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้พิจารณาทบทวนการใช้อ านาจก าหนดมาตรการ ดังกล่าวแล้ว เห็นควรคงมาตรการให้ผู้ประกอบการแสดงราคารับซื้อหัวมันส าปะหลังสด เปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง อัตราปรับเพิ่มลดราคาตามเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งต่อไป โดยเพิ่มมาตรการให้ผู้ประกอบการก าหนดราคารับซื้อ หัวมันส าปะหลังสดต้องระบุเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่ร้อยละ 25 และเพิ่มเงื่อนไขการรับซื้อมิให้ ผู้ประกอบการรับซื้อหัวมันส าปะหลังสดคิดค่าชั่งน้ าหนัก เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการ ขายหัวมันส าปะหลังสด และให้การปรับเพิ่มลดราคารับซื้ออยู่บนพื้นฐานเดียวกัน ซึ่งเป็นที่ยอมรับ ในทางการค้าปกติ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 9 (2) (5) มาตรา 25 (3) (4) และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ จึงออกประกาศ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาหนึ่งปี ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป เว้นแต่จะมีการออกประกาศใหม่ ข้อ 2 การก าหนดราคารับซื้อหัวมันส าปะหลังสด ผู้ประกอบการลานมัน โรงแป้ง หรือ โรงงานเอทานอล ต้องระบุเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่รับซื้อให้ชัดเจน โดยก าหนดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง ที่ร้อยละ 25 กรณีเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งในหัวมันส าปะหลังสดที่รับซื้อมีเปอร์เซ็นต์ต่ ากว่าที่ก าหนดไว้ตามวรรคหนึ่ง ให้ปรับลดราคารับซื้อได้ไม่เกินกิโลกรัมละ 0.05 บาทต่อเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่ลดลงทุก 1% หรือ กรณีเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งในหัวมันส าปะหลังสดที่รับซื้อมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่าที่ก าหนดไว้ตามวรรคหนึ่ง ให้ปรับเพิ่มราคารับซื้อได้ไม่น้อยกว่ากิโลกรัมละ 0.05 บาทต่อเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่เพิ่มขึ้นทุก 1% ข้อ 3 การแสดงราคารับซื้อ เปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง และอัตราปรับเพิ่มลดราคาตาม เปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งตามข้อ 2 ให้แสดงไว้ ณ บริเวณหน้าสถานที่รับซื้อและจุดรับซื้อ โดยราคา ที่แสดงไว้นั้นต้องเป็นราคาและอัตราเดียวกัน และให้แสดงราคาต่อหน่วยเป็นกิโลกรัม ้หนา ๓๐๖ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๒ งราชกิจจานุเบกษา ๓ ตุลาคม ๒๕๖๔ การแสดงรายการตามวรรคหนึ่ง จะมีตัวเลขภาษาใดก็ได้ แต่ต้องมีตัวเลขอารบิคอยู่ด้วย ขนาดความสูงไม่ต่ ากว่าสิบเซนติเมตร ในลักษณะที่ชัดเจนและเปิดเผย สามารถอ่านได้ง่าย ส าหรับ ข้อความหรือรายการที่แสดงควบคู่ต้องเป็นภาษาไทย แต่จะมีภาษาอื่นด้วยก็ได้ ข้อ 4 ในการรับซื้อหัวมันส าปะหลังสด ผู้ประกอบการลานมัน โรงแป้ง หรือโรงงาน เอทานอลต้องรับซื้อในราคาไม่ต่ ากว่าที่แสดงไว้ การค านวณราคาเพิ่มลดตามเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง ต้องปฏิบัติให้ตรงกับรายการที่ได้แสดงไว้ตาม ข้อ 3 และห้ามมิให้คิดค่าชั่งน้ าหนักหัวมันส าปะหลังสด ที่รับซื้อ ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖4 จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ้หนา ๓๐๗ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๒ งราชกิจจานุเบกษา ๓ ตุลาคม ๒๕๖๔
train
101
266.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/266.pdf
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 5/๒๕๖2 เรื่อง มาตรการสนับสนุนการฝึกอบรม อนุสนธิประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 2/2557 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2557 เรื่อง นโยบายและหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุน และประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 2/2560 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2560 เรื่อง การปรับปรุงสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมตามคุณค่า ของโครงการ (Merit-based Incentives) เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการพัฒนาทักษะแรงงานอย่ างต่อเนื่อง อาศัยอ านาจตามความใน มาตรา ๑๖ มาตรา ๑๘ และมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. ๒๕๒๐ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจึงออกประกาศปรับปรุงสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมตามคุณค่าของ โครงการ (Merit-based Incentives) ในข้อ 9.2.1 ของประกา ศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 2/2557 ดังนี้ ข้อ 1 ให้น าเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรไปรวมค านวณในวงเงิน ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยไม่ก าหนดเงื่อนไขเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายขั้นต่ า กรณีที่ได้ลงทุนหรือ มีค่าใช้จ่าย ดังนี้ 1.1 การฝึกอบรมหรือการฝึกท างานเพื่อพัฒนาทักษะ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (1) การจัดฝึกอบรมหรือฝึกการท างานเพื่อพัฒนาทักษะ เทคโนโลยีและ นวัตกรรมให้กับนักศึกษาที่อยู่ระหว่างการศึกษาในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ การจัด ฝึกอบรมหรือฝึกการท างานตามโครงการ Work-integrated Learning (WiL) โครงการอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคี หรือโครงการสหกิจศึกษาตามที่ส านักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้ความเห็นชอบ (2) ให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก ร้อยละ 100 ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) และ/หรือค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรม ตามที่ส านักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้ความเห็นชอบ 1.2 การฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology Training) (1) การฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีขั้นสูงตามที่ส านักงานคณะกรรมการส่งเสริม การลงทุนให้ความเห็นชอบ รวมถึงการฝึกอบรมในหลักสูตรเทคโนโลยีขั้นสูงหรือทักษะพิเศษ ที่เป็นเป้าหมายซึ่งได้รับการรับรองจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) หรือจากส านักงานคณ ะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ในกรณีที่เป็น สถานศึกษาที่ตั้งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งนี้ ต้องเป็นการฝึกอบรมภายใน บริษัทเองหรือการส่งไปฝึกอบรมที่หน่วยงานหรือสถาบันภายนอกก็ได้ แต่ต้องเป็นการฝึกอบรม ในประเทศเท่านั้น และต้องเป็นหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ้หนา ๕ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ (๒) ให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีกร้อยละ 200 ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) และ/หรือค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรม ตามที่ส านักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้ความเห็นชอบ ข้อ 2 ต้องยื่นขอรับการส่งเสริมตามมาตรการนี้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖2 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุน ้หนา ๖ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
train
102
377.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/377.pdf
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อ ได้ง่ายและเป็นอันตรายอย่างมากต่อชีวิตของผู้ได้รับเชื้อ ประกอบกับในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค ทั้งยังไม่มียารักษาโรคโดยตรง จึงมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นจ านวนมากทั่วโลก จนองค์การอนามัยโลกต้องประกาศให้การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นการระบาดใหญ่ และขอให้ประเทศในกลุ่มอาเซียนบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดเด็ดขาดยิ่งขึ้น การระบาดของโรคดังกล่าว จึงเป็นสถานการณ์อันกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนซึ่งต้องใช้มาตรการ เข้มงวดและเร่งด่วนเพื่อควบคุมมิให้โรคแพร่ระบาดออกไปในวงกว้าง ประกอบกับมีการกั กตุนสินค้า จ าเป็นต่อการเฝ้าระวังและควบคุมติดตามการระบาด การป้องกัน และการรักษาโรค ตลอดจน การกักตุนเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งจ าเป็นต่อการด ารงชีวิตประจ าวันของประชาชน ซึ่งต้องป้องกัน มิให้เกิดภาวะขาดแคลนอันจะเป็นการซ้ าเติมความเดือดร้อนของประชาชน กรณีจึงจ า เป็นต้องใช้ มาตรการเร่งด่วนเพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยของประชาชน และการด ารงชีวิตโดยปกติสุข ของประชาชน อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชก าหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงให้ประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ส าหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปควบคู่กัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ จนถึงวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกาศ ณ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖3 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ้หนา ๑ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๖๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๓
train
103
272.pdf
SUGAR
ACTION
SUGAR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/272.pdf
ประกาศส านักงานคณะกรรมการอ้อยและน าตาลทราย เรื่อง ราคาจ าหน่ายน าตาลทรายภายในราชอาณาจักร ประจ าฤดูการผลิตปี 2562/2563 อาศัยอ านาจตามความในข้อ 3 ของประกาศคณะกรรมการอ้อยและน าตาลทราย เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการในการก าหนดราคาจ าหน่ายน าตาลทรายภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2562 ส านักงานคณะกรรมการอ้อยและน าตาลทราย จึงประกาศราคาจ าหน่ายน าตาลทรายภายในราชอาณาจักร ประจ าฤดูการผลิตปี 2562/2563 ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ ดังต่อไปนี 1. น าตาลทรายขาว ราคากิโลกรัมละ 17.25 บาท (สิบเจ็ดบาทยี่สิบห้าสตางค์ถ้วน) 2. น าตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ราคากิโลกรัมละ 18.25 บาท (สิบแปดบาทยี่สิบห้าสตางค์ถ้วน) ทั งนี ตั งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖2 เอกภัทร วังสุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน าตาลทราย ้หนา ๔๒ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๗ งราชกิจจานุเบกษา ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
train
104
697.pdf
SUGAR
ACTION
SUGAR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/697.pdf
กฎกระทรวง การแจ้งเลิกประกอบกิจการโรงงานจ าพวกที่ 3 เพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นโรงงานจ าพวกที่ 1 หรือโรงงานจ าพวกที่ 2 พ.ศ. 2564 อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ง และมาตรา 28/1 แห่งพระราชบัญญัติ โรงงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ภายใต้บังคับแห่งกฎกระทรวงก าหนดให้โรงงานตามประเภท ชนิด หรือขนาดใด เป็นโรงงานจ าพวกที่ 1 โรงงานจ าพวกที่ 2 หรือโรงงานจ าพวกที่ 3 ที่ออกตามมาตรา 7 ผู้รับ ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจ าพวกที่ 3 ผู้ใดประสงค์จะเปลี่ยนแปลงโรงงานของตน เป็นโรงงาน จ าพวกที่ 1 หรือโรงงานจ าพวกที่ 2 ให้แจ้งการเลิกประกอบกิจการโรงงานเป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบ พร้อมทั้งส่งคืนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาต ข้อ 2 การแจ้งและการออกใบส าคัญการเลิกประกอบกิจการโรงงานจ าพวกที่ 3 ให้ด าเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเป็นหลัก ในกรณีที่ไม่สามารถด า เนินการได้หรือมีเหตุอื่นใดท าให้ ไม่สามารถด าเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ให้การด าเนินการดังกล่าวกระท า ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้ (1) โรงงานในเขตกรุงเทพมหานคร ให้กระท า ณ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (2) โรงงานในเขตจังหวัดอื่น ให้กระท า ณ ส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ในกรณีที่เป็นการแจ้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน จ าพวกที่ 3 ต้องส่งคืนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการแจ้ง หากไม่ด าเนินการ ภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าไม่ประสงค์จะให้ด าเนิ นการต่อไปและให้ผู้อนุญาตจ าหน่ายเรื่อง ออกจากสารบบ ้หนา ๑๙ ่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๒๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๕ เมษายน ๒๕๖๔ ข้อ 3 เมื่อผู้อนุญาตได้รับแจ้งการเลิกประกอบกิจการโรงงาน พร้อมทั้งได้รับใบอนุญาตคืน ถูกต้องและครบถ้วนแล้ว ให้ผู้อนุญาตออกใบส าคัญการเลิกประกอบกิจการโรงงานจ าพวกที่ 3 เพื่อที่ ผู้แจ้งจะได้ด าเนินการตามมาตรา 10 หรือมาตรา 11 ต่อไป ให้ไว้ ณ วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖4 สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ้หนา ๒๐ ่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๒๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๕ เมษายน ๒๕๖๔ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 28/1 แห่งพระราชบัญญัติ โรงงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 บัญญัติให้ ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานซึ่งประสงค์จะเปลี่ยนแปลงโรงงานจ าพวกที่ 3 เป็นโรงงานจ าพวกที่ 1 หรือโรงงานจ าพวกที่ 2 แล้วแต่กรณี ให้แจ้งการเลิกประกอบกิจการโรงงานตามหลักเกณ ฑ์และวิธีการ ที่ก าหนดในกฎกระทรวง จึงจ าเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้ ้หนา ๒๑ ่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๒๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๕ เมษายน ๒๕๖๔
train
105
1652.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1652.pdf
ประกาศส านักงานต ารวจแห่งชาติ เรื่อง วิธีการแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2566 โดยที่มาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติว่าในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้ผู้รับอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผย ให้เป็นสิทธิของ ผู้รับอนุญาตที่จะแสดงใบอนุญาตนั้นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการที่ผู้อนุญาตประกาศก าหนดก็ได้ โดยให้ถือว่าการแสดงเช่นว่านั้นเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว สมควร ก าหนดวิธีการแสดงใบอนุญาต ตามกฎหมายในความรับผิดชอบของส านักงานต ารวจแห่งชาติโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็น การอ านวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕ ผู้บัญชาการต ารวจแห่งชาติ ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ ในประกาศนี้ “ใบอนุญาต” หมายความว่า เอกสารหลักฐานที่กฎหมายก าหนดให้ต้องแสดงไว้ในที่เปิดเผย ดังต่อไปนี้ (๑) ใบอนุญาตประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัย ตามพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 มาตรา 23 (๒) หนังสือรับรองสถานฝึกอบรมหลักสูตรการรักษาความปลอดภัย ตามพระราชบัญญัติธุรกิจ รักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 มาตรา 34 ประกอบกฎกระทรวงการรับรองสถานฝึกอบรมหลักสูตร การรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2560 ข้อ 7 (๓) ใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ ในเขตกรุงเทพมหานคร ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 มาตรา 4 ประกอบกับกฎกระทรวงก าหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขออนุญาตและ การด าเนินกิจการสถานบริการ พ.ศ. 2549 ข้อ 13 (6) ข้อ ๓ ผู้รับอนุญาตสามารถเลือกแสดงใบอนุญาตตามข้อ ๒ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (๑) แสดงเป็นภาพผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (๒) แสดงเป็นคิวอาร์โคดที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถสแกนเพื่อเข้าถึงใบอนุญาต ที่เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หรือภาพทางอิเล็กทรอนิกส์ของใบอนุญาต ้หนา ๕ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ กันยายน ๒๕๖๖ ข้อ ๔ การแสดงใบอนุญาตตามข้อ ๓ ต้องมีขนาดของภาพและความละเอียดที่ชัดเจนเพียงพอ รวมทั้งสามารถแสดงให้เห็นข้อมูลอันเป็นสาระส าคัญของใบอนุญาตได้ครบถ้วน และผู้รับอนุญาตอาจเลือก แสดงภาพใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ สถานที่ประกอบกิจการมากกว่าหนึ่งภาพผ่านหน้าจอ เดียวกันก็ได้ แต่ต้องมีระยะเวลาแสดงภาพใบอนุญาตแต่ละใบไม่น้อยกว่าห้าวินาที ข้อ ๕ เมื่อผู้รับอนุญาตเลือกแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามข้อ ๓ แล้ว ผู้รับอนุญาตไม่ต้องแสดงใบอนุญาตไว้โดยเปิดเผยตลอดเวลา ณ สถานที่ประกอบกิจการ อีกต่อไป แต่ต้องสามารถแสดงต่อเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาเมื่ อมีการตรวจสอบ หรือต่อประชาชนที่ร้องขอ ประกาศ ณ วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖6 พลต ารวจเอก ด ารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการต ารวจแห่งชาติ ้หนา ๖ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ กันยายน ๒๕๖๖
train
106
245.pdf
QM
ACTION
QM_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/245.pdf
ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ก ำหนดคุณภำพหรือมำตรฐำนของอำหำรสัตว์ที่มิใช่อำหำรสัตว์ควบคุมเฉพำะ ประเภทอำหำรสัตว์ที่ผสมยำ ตลอดจนหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขในกำรผลิตเพื่อขำย หรือขำย พ.ศ. ๒๕๖๒ อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ และมำตรำ ๖ (๒) แห่งพระรำชบัญญัติควบคุมคุณภำพ อำหำรสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยค ำแนะน ำของ คณะกรรมกำรควบคุมคุณภำพอำหำรสัตว์ออกประกำศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกำศนี้เรียกว่ำ “ประกำศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ก ำหนดคุณภำพ หรือมำตรฐำนของอำหำรสัตว์ที่มิใช่อำหำรสัตว์ควบคุมเฉพำะ ประเภทอำหำรสัตว์ที่ผสมยำ ตลอดจน หลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขในกำรผลิตเพื่อขำย หรือขำย พ.ศ. ๒๕๖๒” ข้อ ๒ ประกำศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก ำหนดหกสิบวันนั บแต่วันถัดจำกวันประกำศ ในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป ข้อ ๓ ในประกำศนี้ “ยำ” หมำยควำมว่ำ ยำตำมกฎหมำยว่ำด้วยยำ “อำหำรสัตว์ที่ผสมยำ ” หมำยควำมว่ำ อำหำรสัตว์ผสมส ำเร็จรูปหรือหัวอำหำรสัตว์ ที่มีส่วนผสมของยำ “ใบสั่งใช้ยำ ” หมำยควำมว่ำ ใบสั่งใช้ยำซึ่งลงนำมโดยสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟำร์ม และใบสั่ง ใช้ยำนั้นต้องมีอำยุไม่เกินหกสิบวัน ทั้งนี้ รำยละเอียดในใบสั่งใช้ยำให้เป็นไปตำมที่อธิบดีประกำศก ำหนด ข้อ ๔ อำหำรสัตว์ที่ผสมยำที่สำมำรถผลิตเพื่อขำย หรือขำยได้ต้องเป็นอำหำรสัตว์ควบคุมเฉพำะ ที่ได้รับใ บส ำคัญกำรขึ้นทะเบียนอำหำรสัตว์ควบคุมเฉพำะและมีกำรผสมยำที่ได้รับอนุมัติ ขึ้นทะเบียนต ำรับยำส ำหรับผสมอำหำรสัตว์ กับส ำนักงำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำ ข้อ ๕ ก ำหนดคุณภำพหรือมำตรฐำนของอำหำรสัตว์ที่ผสมยำ โดยให้อัตรำส่วนของโปรตีน ไขมัน กำก และควำมชื้น คิดเป็นร้อยละของน้ ำหนักอำหำรสัตว์ ตำมที่ปรำกฏในใบส ำคัญกำรขึ้นทะเบียน อำหำรสัตว์ควบคุมเฉพำะ โดยรำยชื่อยำและปริมำณยำให้เป็นไปตำมใบสั่งใช้ยำ ยกเว้นอำหำรสัตว์ผสม ส ำเร็จรูปส ำหรับสุกรน้ ำหนักไม่เกิน ๒๕ กิโลกรัม ซึ่งมียำต้ำนแบคทีเรียไม่เกิน ๒ ชนิด เพื่อวำงจ ำหน่ำย ไม่ต้องมีใบสั่งใช้ยำหรือตำมอธิบดีประกำศก ำหนด ข้อ ๖ ส ำหรับอำหำรสัตว์ที่ผสมยำต้ำนจุลชีพให้ปฏิบัติตำมประกำศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ก ำหนดลักษณะและเงื่อนไขของอำหำรสัตว์ที่ผสมยำที่ห้ำมผลิต น ำเข้ำ ขำย และใช้ พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันที่ ๒๖ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๑ กรณีอำหำรสัตว์ที่ผสมยำที่ไม่ใช่ยำต้ำนจุลชีพตำมวรรคหนึ่ง ให้ปฏิบัติตำมหลักเกณฑ์และ เงื่อนไขที่อธิบดีประกำศก ำหนด ้หนา ๗ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๒ งราชกิจจานุเบกษา๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ข้อ ๗ กำรแจ้งเป็นผู้ผลิตเพื่อขำยอำหำรสัตว์ที่ผสมยำตำมประกำศนี้ ให้จดแจ้งตำมข้อ ๖ (๑) ของประกำศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ก ำหนดลักษณะและเงื่อนไขของอำหำรสัตว์ที่ผสมยำ ที่ห้ำมผลิต น ำเข้ำ ขำย และใช้ พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันที่ ๒๖ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๑ โดยให้ได้รับ กำรยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตำมประกำศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ก ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขกำรแจ้งเป็นผู้ผลิตเพื่อขำย หรือผู้น ำเข้ำเพื่อขำย อำหำรสัตว์ที่มิใช่อำหำรสัตว์ควบคุมเฉพำะ พ.ศ. ๒๕๕๙ ลงวันที่ ๒๒ ธันวำคม ๒๕๕๙ ประกำศ ณ วันที่ 18 ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๖2 ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่ำกำรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปฏิบัติรำชกำรแทน รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ้หนา ๘ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
train
107
1561.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1561.pdf
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง วัตถุที่ได้รับยกเว้นไม่เป็นยา (ฉบับที่ 39) พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยที่ซัลฟากัวนิดีน (Sulfaguanidine) เป็นวัตถุที่ปรากฏในต ารายาและเป็นวัตถุที่มุ่งหมาย ส าหรับใช้ในการบรรเทาหรือรักษาความเจ็บป่วยของมนุษย์หรือสัตว์ ซึ่งในปัจจุบันมีการน าวัตถุดังกล่าว มาใช้ในทางอุตสาหกรรม โดยใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตสีย้อม จึงสมควรได้รับยกเว้นจากการเป็นยา อาศัยอ านาจตามความในวรรคสอง (ก) ของบทนิยามค าว่า “ยา” ในมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒ และมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ ให้วัตถุซัลฟากัวนิดีน (Sulfaguanidine) ที่มุ่งหมายส าหรับใช้ในทางอุตสาหกรรม โดยน ามาใช้ในการผลิตสีย้อม ได้รับการยกเว้นจากการเป็นยา ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖6 สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ้หนา ๕ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๔๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๖
train
108
477.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/477.pdf
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ขยายก าหนดเวลาการยื่นแบบรายงานข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่มีความสัมพันธ์กันและมูลค่ารวมของธุรกรรมระหว่างกันในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี เพื่อเป็นการสนับสนุนให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่ยื่นแบบรายงานข้อมูล เกี่ยวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันและมูลค่ารวมของธุรกรรมระหว่างกัน ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ยื่นแบบรายงานข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เ น็ต และสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการช าระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว จึงอาศัยอ านาจ ตามมาตรา 3 อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร อนุมัติให้ขยายก าหนดเวลาการยื่นแบบรายงาน ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันและมูลค่ารวมของธุรกรรมระหว่างกัน ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ออกไปอีก 8 วัน นับแต่ วันพ้นก าหนดเวลายื่นแบบรายงานข้อมูลเกี่ ยวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน และมูลค่ารวมของธุรกรรมระหว่างกันในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีตามที่กฎหมายก าหนด ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ขยายก าหนดเวลาการยื่นแบบรายงานข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน นิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันและมูลค่ ารวมของธุรกรรมระหว่างกันในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งต้องยื่นภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ออกไปเป็นภายใน 158 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ทั้งนี้ ส าหรับการยื่นแบบ รายงานข้อมูลดังกล่าวระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563 ถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2564 ข้อ 2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับสิทธิขยายก าหนดเวลาตามข้อ 1 จะต้องยื่น แบบรายงานข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันและมูลค่ารวมของ ธุรกรรมระหว่างกันในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีฉบับปกติและฉบับเพิ่มเติมผ่านระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ตเท่านั้น หากเป็นการยื่นแบบรายงานข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือห้างหุ้ นส่วนนิติบุคคล ที่มีความสัมพันธ์กันและมูลค่ารวมของธุรกรรมระหว่างกันในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีฉบับปกติ ในรูปแบบของกระดาษ แม้ต่อมาจะได้ยื่นแบบรายงานข้อมูลดังกล่าวอีกครั้งผ่านระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ตจะไม่ได้รับสิทธิขยายก าหนดเวลาตามข้อ 1 หรือหากเป็นการยื่นแบบรายงานข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันและมูลค่ารวมของธุรกรรมระหว่างกัน ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีฉบับปกติผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ต่อมาได้ยื่นแบบรายงานข้อมูล ดังกล่าวอีกครั้งในรูปแบบของกระดาษ จะไม่ได้รับสิทธิขยายก าหนดเวลาตามข้อ 1 เช่นกัน ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖3 อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ้หนา ๗ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๔๐ งราชกิจจานุเบกษา ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๓
train
109
1395.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1395.pdf
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขยายก าหนดเวลาด าเนินการตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ประจ าปี พ.ศ. 2566 ด้วยคณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐได้มีประกาศ เรื่อง ก าหนด วันเริ่มใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สิน เพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ก าหนดให้ใช้บัญชีราคาประเมิน ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 ในวันที่ 1 มกราคม 2566 และประกาศ เรื่อง ก าหนดแบบมาตรฐานสิ่งปลูกสร้างและบัญชี เทียบเคียงสิ่งปลูกสร้าง ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2 564 ก าหนดให้ใช้แบบมาตรฐานสิ่งปลูกสร้าง แบบตารางปริมาณงานก่อสร้าง และบัญชีเทียบเคียงสิ่งปลูกสร้าง ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ส่งผลให้ในปี พ.ศ. 2566 จะมีการเปลี่ยนแปลงราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้ง เปลี่ยนแปลงวิธีการก าหนดประเภทสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประกอบการค านวณมูลค่าฐานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประกอบกับปัจจุบันหลายจังหวัดประสบปัญหาอุทกภัย ท าให้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของประชาชน ได้รับความเสียหาย แม้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายแล้วก็ตาม แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง ยังไม่สามารถเ ข้าไปด าเนินการส ารวจข้อมูลที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อเตรียมการจัดเก็บภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างประจ าปี พ.ศ. 2566 ได้อย่างทั่วถึง เพื่อให้การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปด้วย ความเรียบร้อย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบถ้วน รวมถึง บรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยให้กับประชาชนผู้เสียภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงอาศัยอ านาจตามมาตรา 14 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 เห็นชอบให้ขยายก าหนดเ วลาด าเนินการของผู้มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามก าหนดเวลาในพระราชบัญญัติ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 เฉพาะการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประจ าปี พ.ศ. 2566 เป็นการทั่วไป ออกไปอีก 2 เดือน ดังนี้ 1. ขยายก าหนดเวลาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใ นการจัดท าบัญชีรายการที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างเพื่อประกาศ พร้อมทั้งจัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ผู้เสียภาษีแต่ละรายทราบ ตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 และข้อ 23 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการด าเนินการตามพระราชบั ญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2562 จากเดิมภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 เป็นภายในเดือนมกราคม 2566 2. ขยายก าหนดเวลาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่จัดเก็บ และรายละเอียดอื่ นที่จ าเป็นในการจัดเก็บภาษี ตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 และข้อ 3 ้หนา ๓ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๘๘ งราชกิจจานุเบกษา ๙ ธันวาคม ๒๕๖๕ ของกฎกระทรวงก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ อัตราภาษี และ รายละเอียดอื่นในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จากเดิมก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นก่อนวันที่ 1 เมษายน 2566 3. ขยายก าหนดเวลาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแจ้งการประเมินภาษี โดยส่งแบบ ประเมินภาษีให้แก่ผู้เสียภาษี ตามมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 และข้อ 6 ของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การด าเนินการตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จากเดิมภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นภายในเดือนเมษายน 2566 4. ขยายก าหนดเวลาของผู้เสียภาษีในการช าระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษี ตามมาตร า 46 แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จากเดิมภายใน เดือนเมษายน 2566 เป็นภายในเดือนมิถุนายน 2566 5. ขยายก าหนดเวลาของผู้เสียภาษีในการผ่อนช าระภาษี ตามมาตรา 52 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 แ ละข้อ 3 ของกฎกระทรวง การผ่อนช าระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ดังนี้ 5.1 งวดที่หนึ่ง จากเดิมช าระภายในเดือนเมษายน 2566 เป็นช าระภายในเดือน มิถุนายน 2566 5.2 งวดที่สอง จากเดิมช าระภายในเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นช าระภายในเดือน กรกฎาคม 2566 5.3 งวดที่สาม จากเดิมช าระภายในเดือนมิถุนายน 2566 เป็นช าระภายในเดือน สิงหาคม 2566 6. ขยายก าหนดเวลาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการมีหนังสือแจ้งเตือนผู้เสียภาษี ที่มีภาษีค้างช าระ ตามมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จากเดิม ภายในเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นภายในเดือนกรกฎาคม 2566 7. ขยายก าหนดเวลาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแจ้งรายการภาษีค้างช าระ ให้ส านักงานที่ดินหรือส านักงานที่ดินสาขา ตามมาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จากเดิมภายในเดือนมิถุนายน 2566 เป็นภายในเดือนสิงหาคม 2566 ประกาศ ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕65 พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ้หนา ๔ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๘๘ งราชกิจจานุเบกษา ๙ ธันวาคม ๒๕๖๕
train
110
1223.pdf
ETHANOL
NON
ETHANOL_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1223.pdf
หน้า ๕๔ ( เล่มที่ ๑) เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยวิธีการคํานวณปริมาณน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามันโดยใช้มาตรวัดและเครื่องทดสอบ พ.ศ. 2560 เพื่อประโยชน ์ในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 6 (1) แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 25๖๐ อธิบดีกรมสรรพสามิตจึงวางระเบียบวิธีการคํานวณ ปริมาณน้ํามันและผล ิตภัณฑ์น้ํามัน ตามบัญชีพิกัดอัตราภาษ ีสรรพสาม ิตโดยใช ้มาตรวัดและ เครื่องทดสอบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยวิธีการคํานวณปริมาณน้ํามัน และผลิตภัณฑ์น้ํามันโดยใช้มาตรวัดและเครื่องทดสอบ พ.ศ. 2560” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป ข้อ 3 ในระเบียบนี้ “มาตรวัด” หมายความว่า มาตรวัดสําหรับใช้วัดปริมาณน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามัน “เครื่องทดสอบ” หมายความว่า เครื่องทดสอบมาตรวัดปริมาณน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามัน “อุปกรณ์อื่น” หมายความว่า อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องที่นํามาประกอบกับมาตรวัดหรือเครื่องทดสอบ ข้อ 4 การขออนุญาตติดตั้ง หรือการขอให้รับรองมาตรวัด เครื่องทดสอบและอุปกรณ์อื่น ที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในการคํานวณปริมาณน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามันให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยื่นคําขอ ติดตั้งพร้อมรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 4.1 ชื่อแบบหรือชนิดของมาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง ชื่อบริษัทผู้ผลิต ชื่อทางการค้าและประเทศที่ผลิต 4.2 คุณลักษณะเฉพาะ (Specification) เช่นค่าความถูกต้องในการวัด (Accuracy) ค่าความสามารถในการอ่านค่าซ้ําที่จุดเดียวกัน (Repeatability) 4.3 รายละเอียดแบบแปลนการออกแบบติดตั้งมาตรวัด เครื่องทดสอบและอุปกรณ์อื่น ที่เกี่ยวข้องเข้ากับท่อทางและหมายเลขภาชนะเก ็บน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามันให้เป็นไปตามมาตรฐาน American Petroleum Institute (API) หรือ American Gas Association (AGA) แล้วแต่กรณี ข้อ 5 ให้ผู้อํานวยการกลุ่มพัฒนาและตรวจสอบทางเทคน ิคเป็นผู้อนุญาตให้ติดตั้งมาตรวัด เครื่องทดสอบและอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องตามข้อ 4 แล้วสําเนาหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานสรรพสามิตทราบ ดังนี้ 5.1 ผู้อํานวยการสํานักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี ๒ 5.2 ผู้อํานวยการสํานักงานสรรพสามิตภาคที่โรงอุตสาหกรรมตั้งอยู่ 5.3 สรรพสามิตพื้นที่ที่โรงอุตสาหกรรมตั้งอยู่ 5.4 เจ้าพนักงานสรรพสามิตผู้ควบคุมโรงอุตสาหกรรม หน้า ๕๕ ( เล่มที่ ๑) เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ข้อ 6 การตรวจสอบมาตรว ัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องเมื่อผู้ประกอบ อุตสาหกรรมได้ทําการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คณะกรรมการดังต่อไปนี้ เป็นผู้ร่วมทําการตรวจสอบ 6.1 เจ้าพนักงานสรรพสามิต กลุ่มพัฒนาและตรวจสอบทางเทคนิค 6.2 เจ้าพนักงานสรรพสามิต สํานักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี ๒ 6. ๓ สรรพสามิตพื้นที่ที่โรงอุตสาหกรรมนั้นตั้งอยู่ หรือผู้แทน 6. ๔ เจ้าพนักงานสรรพสามิตผู้ควบคุมโรงอุตสาหกรรม ข้อ 7 ให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมจัดหาบริษัทผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับ มาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมิได้มีส่วนได้เสียหรือมีความเกี่ยวข้องกับ ผู้จําหน่าย หรือเป็นเจ้าของมาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับความเห็นชอบ จากที่ปรึกษา หรือรองอธิบดีซึ่งสั่งและปฏิบัติราชการแทนอธิบดีในราชการของกลุ่มพัฒนาและตรวจสอบ ทางเทคนิคเป็นผู้ดําเนินการในการตรวจสอบ ข้อ 8 มาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องต้องมีคุณสมบัติ รวมทั้ง ใช้วิธีการตรวจสอบ ดังนี้ 8. ๑ เครื่องทดสอบต้องเป็น 8. ๑.1 ถังมาตรฐาน (Prover Tank) 8. ๑.2 มาตรวัดมาตรฐาน (Master Meter) 8. ๑.3 Pipe Prover หรือ Prover Loop หรือ Compact Prover หรืออุปกรณ์ทดสอบอื่น 8. ๑.4 Bell Prover หรือ Piston Prover หรือ Master แบบ Air Facility Test หรือ Under Condition Pressure Test หรืออุปกรณ์ทดสอบอื่น ๆ ในกรณีข้อ 8.๒ 8. ๒ มาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องให้ติดตั้งโดยมีความสัมพันธ์กัน อย่างถูกต้อง 8. ๓ การตรวจสอบมาตรวัด เครื่องทดสอบและอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องในกรณีที่เป็นน้ํามัน หรือผลิตภัณฑ์น้ํามันที่เป็นของเหลวให ้ใช้วิธีการตาม American Petroleum Institute (API) : Manual of Petroleum Measurement Standards 8. ๔ การตรวจสอบมาตรวัด เครื่องทดสอบและอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องในกรณีที่เป็น ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่อยู่ในสถานะไอหร ือก๊าซ (Vapor หรือ Gas) ให้ใช้วิธีการตรวจสอบตาม American Gas Association (AGA) หรือวิธีการที่เป็นมาตรฐานสากลกําหนดไว้หรือเป็นที่ยอมรับ ข้อ 9 ให้คณะกรรมการตามข้อ 6 และผู้แทนผู้ประกอบอุตสาหกรรมตามข้อ 7 ทดสอบ ค่าความถูกต้องของมาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องหลังจากที่ได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง ต่อจากนั้นให้ปฏิบัติ ดังนี้ หน้า ๕๖ ( เล่มที่ ๑) เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ 9.1 ทดสอบความจ ุของถังมาตรฐาน (Prover Tank) โดยวิธีการตวงน้ําจาก ถังมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงพาณิชย์และให้ทดสอบใหม่อย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี 9.2 ทดสอบมาตรวัดมาตรฐาน (Master Meter) หาค่าความคลาดเคลื่อนของ มาตรวัด (Meter Factor) กับถังมาตรฐานตามข้อ 9.1 และต้องทดสอบใหม่ทุก ๆ 6 เดือน 9.3 ทดสอบหาค่าความจุของ Pipe Prover หรือ Prover Loop (Pipe Volume In Performance หรือ Loop Volume In Performance) หรือ Compact Prover กับถังมาตรฐาน ตามข้อ 9.1 หรือมาตรวัดมาตรฐานตามข้อ 9.2 และต้องทดสอบใหม่อย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี 9.4 ให้ทดสอบค่าความคลาดเคลื่อนของมาตรวัด (Meter Factor) เพื่อใช้ในการ คํานวณภาษีและเครื่องทดสอบตามข้อ 8.๑ ต้องทดสอบใหม่อย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี หรือตามมาตรฐาน กําหนดไว้ ข้อ 10 ให้ที่ปรึกษาหรือรองอธิบดีซึ่งสั่งและปฏิบัติราชการแทนอธิบดีในราชการของกลุ่มพัฒนา และตรวจสอบทางเทคน ิคมีอํานาจอนุมัติให้ใช้มาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง หรือมีอํานาจใด ๆ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบนี้แทนอธิบดีกรมสรรพสามิต และให้ผู้อํานวยการกลุ่มพัฒนา และตรวจสอบทางเทคนิคสําเนาหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานสรรพสามิตทราบ ดังนี้ ๑๐.๑ ผู้อํานวยการสํานักมาตรฐานและพัฒนาการจัดเก็บภาษี ๒ 1 ๐.๒ ผู้อํานวยการสํานักงานสรรพสามิตภาคที่โรงอุตสาหกรรมนั้นตั้งอยู่ 1 ๐.๓ สรรพสามิตพื้นที่ที่โรงอุตสาหกรรมนั้นตั้งอยู่ 1 ๐.๔ เจ้าพนักงานสรรพสามิตผู้ควบคุมโรงอุตสาหกรรม ข้อ 11 มาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องที่ได้รับการตรวจรับรองและ ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสาม ิตแล้ว ให้ใช้สําหรับคํานวณปริมาณน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามัน โดยเปรียบเทียบกับถังจ่ายเพื่อเสียภาษีได้ มาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องที่ได้ติดตั้งก่อนใช้ระเบียบนี้ ให้อยู่ในบังคับ ตามความในวรรคแรกด้วย ข้อ ๑2 วิธีการใช้มาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องที่ได้รับอนุญาตจาก กรมสรรพสามิตแล้ว ให้ปฏิบัติดังนี้ ๑2.๑ ให้เจ้าพนักงานสรรพสามิตผู้ควบคุมโรงอุตสาหกรรมผนึกตรากรมสรรพสามิต ที่มาตรวัดและที่แผงควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องปฏิบัติการ ๑2.๒ กรณีมาตรวัดน้ํามันและผลิตภัณฑ์ที่มีการรับ - จ่าย ทางท่อ และทางเรือ ให้เจ้าพนักงานสรรพสามิตผู้ควบคุมโรงอุตสาหกรรม และบริษัทผู้แทนผู้ประกอบอุตสาหกรรม ตามข้อ 7 ทดสอบหาค่าความคลาดเคลื่อนของมาตรวัด (Meter Factor) ทุก ๆ ๔ เดือน หน้า ๕๗ ( เล่มที่ ๑) เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ในกรณีข้อ 8.๔ ให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมทําการทดสอบค่าความคลาดเคลื่อนของ ระบบมาตรวัด ประกอบด้วย Pressure Transmitter, Temperature Transmitter, Flow Computer, Density Meter และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่อยู่ในระบบมาตรวัดทุก ๆ ๔ เดือน ๑2.๓ กรณีมาตรวัดน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามันที่มีการจ่ายทางรถยนต์ ให้เจ้าพนักงาน สรรพสามิตผู้ควบคุมโรงอุตสาหกรรม และบริษัทผู้แทนผู้ประกอบอุตสาหกรรม ตามข้อ 7 ทดสอบ หาค่าความคลาดเคลื่อนของมาตรวัด (Meter Factor) ทุก ๆ ๖ เดือน ๑2.๔ ผู้ประกอบอุตสาหกรรมจะต ้องแจ้งให้เจ้าพนักงานสรรพสาม ิต ผู้ควบคุม โรงอุตสาหกรรมทราบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง ซ่อมแซมหรือปรับแต่งมาตรวัด เครื่องทดสอบ และ อุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อทําลายผนึกตรากรมสรรพสามิตออกและเมื่อดําเนินการเสร็จแล้ว ให้แจ้ง กรมสรรพสามิตเพื่อทําการตรวจสอบมาตรวัด เครื่องทดสอบ และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง ตามวิธีการ ข้อ 8 โดยคณะกรรมการตามข้อ 6 และข้อ 7 โดยอนุโลม ๑2.๕ ให้เจ้าพนักงานสรรพสามิตผู้ควบคุมโรงอุตสาหกรรมรายงานผลการทดสอบ มาตรวัดตามข้อ ๑2.๒ และข้อ ๑2.๓ ให้กรมสรรพสามิตทราบทุกครั้ง และหากปรากฏว่าจากผลการทดสอบ ไม่ได้ผลตามข้อ 8.๓ และหรือข้อ 8.๔ ให้ระงับการใช้มาตรวัดแล้วรายงานให ้กรมสรรพสาม ิต ทราบโดยด่วน ข้อ 13 ให้ผู้อํานวยการกลุ่มพัฒนาและตรวจสอบทางเทคนิค เป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ ข้อ 1 ๔ ผู้ที่ได้ยื่นคําขอก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับและยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ให้ถือว่าเป็นคําขอตามระเบียบนี้ การดําเนินการใด ๆ ตามระเบียบกรมสรรพสามิต ว่าด้วยวิธีการคํานวณปริมาณน้ํามันและ ผลิตภัณฑ์น้ํามันโดยใช้มาตรวัดและเครื่องทดสอบ พ.ศ. ๒๕๔๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งได้รับ การอนุมัติ อนุญาต หรือผ่อนผันการดําเนินการจากกรมสรรพสาม ิตไว้ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้เป็นอันใช้ได้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดไปโดยเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่กําหนดไว้ หรือจนกว่าจะมีคําสั่งยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลง ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐ สมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต
train
111
1545.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1545.pdf
ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยที่ปรากฏว่าประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๓๘ ง เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ และมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๖ ซึ่งพบว่าการปฏิบัติเพื่อให้ ถูกต้องตามที่กฎหมายก าหนด ผู้ประกอบธุรกิจมีความจ าเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการด าเนินการมากกว่า ระยะเวลาที่ก าหนดไว้ในประกาศ ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค โดยไม่เป็นการเพิ่มภาระ เกินควรแก่การประกอบธุรกิจ จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๔ แห่งประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของ ฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๔ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป” ข้อ ๓ ให้ผู้ผลิตเพื่อขายหรือผู้สั่งหรือน าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายที่ได้จัดท าฉลาก ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก พ.ศ. ๒๕๔๑ ไว้ก่อนวันที่ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๕ ใช้บังคับ ต้องด าเนินการให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่อง ลักษณะ ของฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๕ ภายในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๗ ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕66 ธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ ประธานกรรมการว่าด้วยฉลาก ้หนา ๕ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๓๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๖
train
112
1193.pdf
SUGAR
ACTION
SUGAR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1193.pdf
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 432) พ.ศ. 2565 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. ๒๕๒๒ เรื่อง การแสดงฉลากอาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อก าหนดเกี่ยวกับการแสดงฉลากอาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิต ดัดแปรพันธุกรรม อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๖ (๑๐) แห่งพระราชบัญญัติ อาหาร พ.ศ. ๒๕๒๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๒๕๑) พ.ศ. ๒๕๔๕ เรื่อง การแสดงฉลากอาหารที่ได้จากเทคนิคการดัดแปรพันธุกรรมหรือพันธุวิศวกรรม ลงวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๕ ข้อ ๒ ในประกาศนี้ “อาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม” หมายความว่า (๑) พืช สัตว์ จุลินทรีย์ ที่มีการตัดต่อ ตัดแต่ง ดัดแปร หรือเปลี่ยนแปลงสารพันธุกรรม หรือผสมผสานสารพันธุกรรมใหม่จากวิธีการใช้เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่และใช้บริโภคเป็นอาหาร (๒) ผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้ (๑) เป็นส่วนประกอบของอาหาร หรือผลิตจาก (๑) (๓) ผลิตผลจาก (๑) ที่ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหาร หรือที่ใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร หรือที่ใช้เป็นสารอาหาร “ผู้ผลิตรายย่อย ” หมายความว่า ผู้ผลิตขนาดเล็กที่จ าหน่ายแก่ผู้บริโภคโดยตรง และผู้ผลิต สามารถให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคได้โดยตรงด้วย ข้อ ๓ ให้อาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม เป็นอาหารที่ต้องมีฉลาก ข้อ ๔ การแสดงฉลากของอาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยอาหารนั้น ๆ (๒) ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ โดยต้องแสดงข้อความเพิ่มเติมส าหรับอาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ด้วยแล้วแต่กรณี ดังนี้ (๒.๑) พืชดัดแปรพันธุกรรม ที่เป็นส่วนประกอบตั้งแต่ร้อยละ ๕ ของแต่ละ ส่วนประกอบในอาหาร และตรวจพบสารพันธุกรรมหรือโปรตีนที่เป็นผลจากการดัดแปรพันธุกรรม (ก) ให้แสดงข้อความว่า “ดัดแปรพันธุกรรม ” ประกอบชื่ออาหารที่มี ส่วนประกอบส าคัญเพียงชนิดเดียว ้หนา ๑๔ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๒๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ (ข) ให้แสดงข้อความว่า “ดัดแปรพันธุกรรม ” ในส่วนประกอบที่ได้จากพืช ดัดแปรพันธุกรรมตาม (๒.๑) วรรคหนึ่ง โดยแสดงไว้ท้ายหรือใต้ชื่อส่วนประกอบนั้น ๆ ตามแต่กรณี (ค) ให้แสดงข้อความว่า “[ ชื่ออาหาร/ผลิตภัณฑ์ ] ผลิตจาก... [ ชนิดของพืช ] ดัดแปรพันธุกรรม” ส าหรับผลิตผลที่ได้จากพืชดัดแปรพันธุกรรม (๒.๒) สัตว์ดัดแปรพันธุกรรม ที่เป็นส่วนประกอบตั้งแต่ร้อยละ ๕ ของแต่ละ ส่วนประกอบในอาหาร และตรวจพบสารพันธุกรรมหรือโปรตีนที่เป็นผลจากการดัดแปรพันธุกรรม (ก) ให้แสดงข้อความว่า “ดัดแปรพันธุกรรม ” ประกอบชื่ออาหารที่มี ส่วนประกอบส าคัญเพียงชนิดเดียว (ข) ให้แสดงข้อความว่า “ดัดแปรพันธุกรรม ” ในส่วนประกอบที่ได้จากสัตว์ ดัดแปรพันธุกรรมตาม (๓.๒) วรรคหนึ่ง โดยแสดงไว้ท้ายหรือใต้ชื่อส่วนประกอบนั้น ๆ ตามแต่กรณี (ค) ให้แสดงข้อความว่า “[ ชื่ออาหาร/ผลิตภัณฑ์ ] ผลิตจาก... [ ชนิดของสัตว์ ] ดัดแปรพันธุกรรม” ส าหรับผลิตผลที่ได้จากสัตว์ดัดแปรพันธุกรรม กรณีพืชดัดแปรพันธุกรรมตาม (๒.๑) และสัตว์ดัดแปรพันธุกรรมตาม (๒.๒) ที่มีความประสงค์ ใช้น้อยกว่าร้อยละ ๕ เป็นส่วนประกอบของอาหารจะต้องแสดงฉลากตามประกาศฉบับนี้ (๒.๓) จุลินทรีย์ดัดแปรพันธุกรรม (ก) ให้แสดงข้อความว่า “ดัดแปรพันธุกรรม ” ประกอบชื่ออาหารที่มี ส่วนประกอบส าคัญเพียงชนิดเดียว (ข) ให้แสดงข้อความว่า “ดัดแปรพันธุกรรม” ในส่วนประกอบที่ได้จากจุลินทรีย์ ดัดแปรพันธุกรรมทั้งหมดที่ใช้ในอาหาร โดยแสดงไว้ท้ายหรือใต้ชื่อส่วนประกอบนั้น ๆ ตามแต่กรณี (ค) ให้แสดงข้อความว่า “[ ชื่ออาหาร/ผลิตภัณฑ์ ] ผลิตจาก... [ ชื่อจุลินทรีย์ ] ดัดแปรพันธุกรรม” ส าหรับผลิตผลที่ได้จากจุลินทรีย์ดัดแปรพันธุกรรม การแสดงข้อความตาม (๒.๑) (๒.๒) และ (๒.๓) ต้องแสดงด้วยตัวอักษรหนา และอ่าน ได้ชัดเจน สีของตัวอักษรตัดกับสีพื้นของฉลาก และมีขนาดสัมพันธ์กับขนาดของพื้นที่ฉลาก ทั้งนี้ อาจแสดงสัญลักษณ์เป็นรูปสามเหลี่ยม พื้นสีเหลืองตัวอักษรสีด า โดยมีข้อความว่า “GMO” หรือ ข้อความเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคเพิ่มเติมผ่านโปรแกรมแอปพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์ด้วยก็ได้ ข้อ 5 การแสดงข้อความ ข้อห้าม ข้อควรระวังในการบริโภค หรือข้อความอื่นใดท านอง เดียวกัน ตามข้อเสนอจากผลการประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพด้านอาหาร ข้อ 6 ห้ามใช้ข้อความว่า “ปลอดอาหารดัดแปรพันธุกรรม ” หรือ “ไม่ใช่อาหารดัดแปร พันธุกรรม ” หรือ “ไม่มีส่วนประกอบของอาหารดัดแปรพันธุกรรม ” หรือ “มีการคัดหรือแยก ส่วนประกอบที่มีการดัดแปรพันธุกรรมออก” หรือข้อความหรือสัญลักษณ์อื่นในท านองเดียวกัน ในฉลาก อาหารทุกชนิดเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับการแสดงฉลากอาหารทุกชนิด ้หนา ๑๕ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๒๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ ข้อ 7 ให้ฉลากอาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่ได้รับอนุญาตผลิตหรือน าเข้า อาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม อยู่แล้วก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับยังคงจ าหน่ายได้ต่อไป ทั้งนี้ ต้องไม่เกินสองปีนับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ ข้อ 8 ประกาศนี้ไม่ใช้บังคับกับ (๑) ผู้ผลิตหรือผู้น าเข้าที่มีหลักฐานระบบตรวจสอบย้อนกลับหรือระบบตามสอบสินค้า (Traceability) แสดงว่าไม่มีการใช้วัตถุดิบที่เป็นอาหารดัดแปรพันธุกรรมในกระบวนการผลิต (๒) ผู้ผลิตรายย่อยที่จ าหน่ายแก่ผู้บริโภคโดยตรง (๓) ผู้ปรุงจ าหน่ายแก่ผู้บริโภคโดยตรง (๔) อาหารที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่ไม่หลงเหลือสารพันธุกรรมที่เป็นผลจาก การดัดแปรพันธุกรรมและไม่หลงเหลือโปรตีนที่เป็นผลจากการดัดแปรพันธุกรรมในผลิตภัณฑ์สุดท้าย (๕) โปรตีนที่เป็นผลจากการดัดแปรพันธุกรรม ซึ่งใช้เป็นสารช่วยในกระบวนการผลิต ข้อ 9 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนึ่งร้อยแปด สิบวันนับแต่วันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. ๒๕๖5 สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ้หนา ๑๖ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๒๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๗ มิถุนายน ๒๕๖๕
train
113
1331.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1331.pdf
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ ๔๔) เรื่อง กําหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได และภาษีมูลคาเพิ่มสําหรับการนําเขาและบริจาคสินคาที่ใชรักษา วินิจฉัย หรือปองกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๕ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน ประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๕๕) พ.ศ. ๒๕๖๕ อธิบดีกรมสรรพากร กําหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ วิธีการและเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินไดและภาษีมูลคาเพิ่มสําหรับ การนําเขาและบริจาคสินคาที่ใชรักษา วินิจฉัย หรือปองกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ดังตอไปนี้ ขอ ๑ สินคาที่นําเขาตองเปนสินคาที่ใชรักษา วินิจฉัย หรือปองกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ตามรายการในประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ขอ ๒ ผูนําเขาตองระบุขอความ “บริจาค COVID-19” ในใบขนสินคาขาเขา โดยการสงขอมูล ใบขนสินคาใหเปนไปตามที่กรมศุลกากรประกาศกําหนด ขอ ๓ สถานพยาบาลของทางราชการที่รับบริจาคตองไดรับการรับรองจากหนวยงานที่สถานพยาบาลนั้น สังกัดวาเปนสถานพยาบาลของทางราชการที่ให บริการรักษาพยาบาลแก บุคคลภายนอกเปนการทั่วไป และไดรับรหัสหนวยงานบริการสุขภาพจากกระทรวงสาธารณสุข ขอ ๔ องคการหรือสถานสาธารณกุศล หรือสถานพยาบาล ตามมาตรา ๔๗ (๗) (ข) แหงประมวลรัษฎากรที่รับบริจาคตองเปนหนวยงาน ดังตอไปนี้ (๑) สภากาชาดไทย หรือ (๒) องคการหรือสถานสาธารณกุศล หรือสถานพยาบาล ตามขอ ๓ ของประกาศ กระทรวงการคลัง วาดวยภาษีเงินไดและภาษีมูลคาเพิ่ม (ฉบับที่ ๒) เรื่อง กําหนดองคการ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาลและสถานศึกษา ตามมาตรา ๔๗ (๗) (ข) แหงประมวลรัษฎากร และมาตรา ๓ (๔) (ข) แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนภาษีมูลคาเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๓๙) พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวน ภาษีมูลคาเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๕๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ้หนา ๘๙ ่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๗๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๒ กันยายน ๒๕๖๕ ขอ ๕ ผูที่ใชสิทธิยกเวนภาษีเงินไดและภาษีมูลคาเพิ่ม ตามมาตรา ๔ และมาตรา ๕ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๕๕) พ.ศ. ๒๕๖๕ ตองมีเอกสารหลักฐาน ดังตอไปนี้ พรอมใหเจาพนักงานประเมินตรวจสอบได (๑) ใบขนสินคาขาเขา (๒) เอกสารหลักฐานเปนหนังสือจากผูรับบริจาค ซึ่งสามารถพิสูจนการรับบริจาคสินคา นําเขาจากผูบริจาคได เวนแตผูรับบริจาคไดทําการรับบริจาคผานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส (e-Donation) ตามประกาศกรมสรรพากร เรื่อง การบริจาคผ านระบบบริจาคอิเ ล็กทรอนิกส (e-Donation) ลงวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ใหใชขอมูลการบริจาคที่ปรากฏในระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส (e-Donation) เปนหลักฐานประกอบการใช สิทธิยกเวนภาษีอากร โดยผูที่ใชสิทธิยกเวนภาษีอากรไม ตองแสดงเอกสาร หลักฐานการบริจาคตอเจาพนักงานประเมิน ทั้งนี้ เอกสารหลักฐานประกอบการใชสิทธิยกเวนภาษีอากรตามวรรคหนึ่งไมวาเปนหนังสือ หรือเปนขอมูลที่ปรากฏในระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส (e-Donation) ตองระบุจํานวนและมูลคาของสินคานําเขา ที่บริจาคดวย ขอ ๖ ผูที่ใชสิทธิยกเวนภาษีเงินไดและภาษีมูลคาเพิ่ม ตามมาตรา ๕ แหงพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๕๕) พ.ศ. ๒๕๖๕ ตองไมนําตนทุน ของทรัพยสินหรือสินคามาหักเปนรายจายในการคํานวณภาษีเงินไดนิติบุคคล ขอ ๗ ประกาศนี้ใหใชบังคับตั้งแตวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๕ เปนตนไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ้หนา ๙๐ ่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๗๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๒ กันยายน ๒๕๖๕
train
114
251.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/251.pdf
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง วิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และการออกหนังสือรับรอง ว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาผู้ควบคุมระบบงานเชื่อมจุดความต้านทานด้วยหุ่นยนต์ ระดับ ๑ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๒ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา ฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา 39 (3) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557 คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงก าหนดวิธีการทดสอบมาตรฐาน ฝีมือแรงงาน และการออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่า งอุตสาหการ สาขาผู้ควบคุมระบบงานเชื่อมจุดความต้านทานด้วยหุ่นยนต์ ระดับ 1 ไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ วิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาผู้ควบคุม ระบบงานเชื่อมจุดความต้านทาน ด้วยหุ่นยนต์ ระดับ ๑ ๑.๑ การทดสอบความรู้ ความเข้าใจ เป็นการทดสอบความรู้ ความเข้าใจ ที่จ าเป็นจะต้องน ามาใช้ในการปฏิบัติงาน ได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ในการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยในการท างาน สถานที่ ปฏิบัติงาน การป้องกันอันตรายส่วนบุคคล หุ่นยนต์เชื่อม เครื่องเชื่อมพร้อมอุปกรณ์ประกอบ เครื่องมือ ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน วัสดุ อุปกรณ์จับยึดชิ้นงานและท างานตามแบบสั่งงาน การควบคุมการเคลื่อนที่ หุ่นยนต์เชื่อมการเขียนโปรแกรม (teaching) การเรียกใช้โปรแกรมการเชื่อมงานได้ การใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยงานได้อย่างถูกต้องปลอดภัย การตรวจสอบข้อบกพร่องของชิ้นงาน การจัดเก็บเครื่องเชื่อม พร้อมอุปกรณ์ประกอบ เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติงานและสถานที่ปฏิบัติงานได้ ในเรื่องความปลอดภัย ในการท างาน สถานที่ปฏิบัติงาน โดยลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัย ชนิด ๔ ตัวเลือก จ านวน ๕๐ ข้อ ใช้เวลาในการทดสอบ ๑ ชั่วโมง คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน ผู้เข้ารับการทดสอบต้องได้คะแนน ไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบจึงจะมีสิทธิเข้ารับการทดสอบภาคความสามารถ ๑.๒ การทดสอบความสามารถ เป็นการทดสอบความสามารถซึ่งเกิดจากการสะสมประสบการณ์จนเกิด ความช านาญเพียงพอที่จะปฏิบัติงานได้อย่างมีคุ ณภาพตามข้อก าหนด ถูกขั้นตอนและเสร็จตามเวลา ที่ก าหนดลักษณะแบบทดสอบเป็นการทดสอบทักษะฝีมือ โดยให้ผู้เข้ารับการทดสอบปฏิบัติงาน เชื่อมชิ้นงาน ตามแบบก าหนดด้วยวิธีการเขียนโปรแกรม (teaching) ใช้ค่าพารามิเตอร์ที่ก าหนดให้ ตามรูปแบบและกฎเกณฑ์ในวิธีการทดสอบมาตรฐา นฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ ้หนา ๓๔ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ สาขาผู้ควบคุมระบบงานเชื่อมจุดความต้านทานด้วยหุ่นยนต์ ระดับ ๑ จ านวน ๑ ชิ้นงาน ใช้เวลาใน การทดสอบ ๑ ชั่วโมง คะแนนเต็ม ๘๐ คะแนน ผู้เข้ารับการทดสอบต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า ร้อยละเจ็ดสิบ จึงจะถือว่าผ่านการทดสอบภาคความสามารถ ๑.๓ รายละเอียดวิธีการทดสอบให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศก าหนด ข้อ ๒ การออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาผู้ควบคุมระบบงานเชื่อมจุดความต้านทาน ด้วยหุ่นยนต์ ระดับ ๑ จะออกให้แก่ผู้ผ่านการทดสอบ โดยมีเกณฑ์ ดังนี้ ๒.๑ ผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานต้องผ่านการทดสอบทั้งภาคความรู้ ความเข้าใจ และภาคความสามารถ โดยต้องได้คะแนนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบ จึงจะถือว่า ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาผู้ควบคุมระบบงาน เชื่อมจุดความต้านทานด้วยหุ่นยนต์ ระดับ ๑ ๒.๒ ให้หนังสือรับรองมีอายุสามปี นับแต่วันที่ออกหนังสือรับรอง ประกาศ ณ วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖2 สุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ้หนา ๓๕ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
train
115
414.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/414.pdf
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง คุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๒ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา ฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ก าหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิค ระบบไฟฟ้า ไว้ดังนี้ ข้อ ๑ ผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ระดับ ๑ ต้องมีอายุไม่ต่ ากว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์นับถึง วันสมัครเข้ารับการทดสอบ และต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) มีประสบการณ์ในการท างานหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ไม่น้อยกว่า ๑ ปี โดยมีใบรับรองการท างานหรือการประกอบอาชีพจากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือ จากสถานประกอบกิจการ หรือ (2) ผ่านการฝึกอบรมฝีมือแรงงานหรือการฝึกอบรมอาชีพในสาขาที่เกี่ยวข้อง กับสาขา ช่างเทคนิคระบบไฟฟ้าไม่น้อยกว่า ๑๕๐ ชั่วโมง โดยได้รับใบรับรองการฝึกอบรมฝีมือแรงงาน หรือฝึกอบรมอาชีพจากหน่วยงานฝึกอบรมหรือหน่วยงานการศึกษา (3) จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ข้อ ๒ ผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ระดับ ๒ ต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) มีประสบการณ์ในการท างานหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคระบ บไฟฟ้า ไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน แห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ระดับ ๑ (2) มีประสบการณ์ในการท างานหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ไม่น้อยกว่า ๓ ปี โดยมีใบรับรองการท างานหรือการประกอบอาชีพจากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง หรือจากสถานประกอบกิจการ หรือ (3) จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า มีประสบการณ์ในการท างานหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขา ้หนา ๓๔ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๘๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ เมษายน ๒๕๖๓ ช่างเทคนิคระบบไฟฟ้าไม่น้อยกว่า ๒ ปี โดยมีใบรับรองการท างานหรือการประกอบอาชีพจากสมาคม วิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือจากสถานประกอบกิจการ (4) จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ในสาขาวิชา ที่เกี่ยวข้องกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า (5) ได้คะแนนรวมในการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ระดับ ๑ ไม่น้อยกว่าร้อยละเก้าสิบ ข้อ ๓ ผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ระดับ ๓ ต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) มีประสบการณ์ในการท างานหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ไม่น้อยกว่า ๒ ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน แห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ระดับ ๒ (2) มีประสบการณ์ในการท างานหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ไม่น้อยกว่า ๕ ปี โดยมีใบรับรองการท างานหรือการประกอบอาชีพจากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือ จากสถานประกอบกิจการ (๓) จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส .) ในสาขาวิชา ที่เกี่ยวข้องกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า และมีประสบการณ์ในการท างานหรือการประกอบอาชีพ เกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ส าหรับอุตสาหกรรมต่อเรือไม่น้อยกว่า ๓ ปี โดยมีใบรับรอง การท างานหรือการประกอบอาชีพจากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือจากสถานประกอบกิจการ (๔) จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้องกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า หรือวิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหการ หรือวิศวกรรมสาขาอื่นที่เกี่ยวข้องและมีประสบการณ์ ในการท างานหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ส าหรับอุตสาหกรรมต่อเรือ ไม่น้อยกว่า ๑ ปี โดยมีใบรับรองการท างานหรือการประกอบอาชีพจากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือ จากสถานประกอบกิจการ (๕) ได้คะแนนรวมในการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ระดับ ๒ ไม่น้อยกว่าร้อยละเก้าสิบ ข้อ ๔ ผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ระดับ ๔ ต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) มีประสบการณ์ในการท างานหรื อการประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ไม่น้อยกว่า ๒ ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน แห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ระดับ ๓ ้หนา ๓๕ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๘๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ เมษายน ๒๕๖๓ (๒) มีประสบการณ์ในการท างานหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ไม่น้อยกว่า ๗ ปี โดยมีใบรับรองการท างานหรือการประกอบอาชีพจากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือ จากสถานประกอบกิจการ (๓) จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า หรือวิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหการ หรือวิศวกรรมสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง และมีประสบการณ์ ในการท างานหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้าส าหรับอุตสาหกรรมต่อเรือ ไม่น้อยกว่า ๓ ปี โดยมีใบรับรองการท างานหรือการประกอบอาชีพจากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือ จากสถานประกอบกิจการ (๔) ได้คะแนนรวมในการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างเทคนิคระบบไฟฟ้า ระดับ ๓ ไม่น้อยกว่าร้อยละเก้าสิบ ประกาศ ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖2 สุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ้หนา ๓๖ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๘๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ เมษายน ๒๕๖๓
train
116
1733.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1733.pdf
'1>@01/211พ2@/>! N1APอ ํ@ห% 1ห?22>%คO@211พ2@/>!2ํ@ห1?&1>&&O3N'3?P0%Oอ/C3อ>N3O#1อ%>2์ (ELECTRONIC DATA INTERCHANGE) (&?&#?P 33) NพAPอOหO1ห?22>%คO@211พ2@/>!O3>อ?!1@.@1?211พ2@/>! 2ํ@ห1?&1>&&O3N'3?P0%Oอ/C3อ>N3O#1อ%>2์ (ELECTRONIC DATA INTERCHANGE : EDI) "C!OอO3>N' ็%'ัB&?% อ$>& ?1/211พ2@/ >! @ํ@ห% 1ห?22>%คO@211พ2@/>! 1@0@12>%คO@211พ2@/>! O3>อ?!1@.@1?211พ2@/>! Nพ@>O%2N/% อ%Qํ@/?%N&%>% O3>%Qํ@/?%#?Pค3O@0?% O% (1) (2) (3) (4) O3> (5) อ'1>N.##?P ^_.^1 P/O ?!NอP'%?Q Oอ _ OหO0N3>ค/@/O%Nอ1ห?21@0P O%ํ@N>%2Nค3? 1ห?22>%คO@2ํ@ห1?&1>&&คอ/ 1@0@1 O3>อ?!1@.@1? O% (1) (2) (3) (4) O3> (5) อ'1>N.##?P ^_.^1 %Qํ@/?%N&%>% O3>%Qํ@/?% #?Pค3O@0?% !@/&?ญ?#O@0'1>@01/211พ2@/ >! N1APอ ํ@ห% 1ห?22>%คO@211พ2@/>!2ํ@ห1?&1>&& O3N'3?P0%Oอ/C3อ>N3O#1อ%>2์ (ELECTRONIC DATA INTERCHANGE) 3/?%#?P _` ?%0@0% พ.0. `_`^ O3>OหOOOค/@/O%Nอ1ห?21@0P O%ํ@N>%2Nค3? 1ห?22>%คO@2ํ@ห1?&1>&&คอ/ 1@0@1 O3>อ?!1@.@1? O% (1) (2) (3) (4) O3> (5) อ'1>N.##?P ^_.^1 %Qํ@/?%N&%>% O3>%Qํ@/?% #?Pค3O@0?% !@/&?ญ?#O@0'1>@0%?QO#% Oอ ` '1>@0%?QOหOOO&?ค?&!?QO!N/?%#?P 7 พ20>@0% พ.0. 2566 N'็%!O%P' '1>@0  /?%#?P 6 พ20>@0% พ.0. `_`6 Nอ%>!> %>!>#?ฑ์'1>.@0 อ$>& ?1/211พ2@/>! หนา ๕๕ เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๙๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ 1ห?22>%คO@211พ2@/>!O3>/?!1@.@1? 2ํ@ห1?&1>&& EDI #O@0'1>@01/211พ2@/>! N1AP/ ํ@ห% 1ห?22>%คO@211พ2@/>!2ํ@ห1?&1>&&O3N'3?P0%O//C3 />N3O#1/%>2์ (ELECTRONIC DATA INTERCHANGE) (&?&#?P 33) '1>N.##?P 1ห?2 1@0R O %ํ@N>% 2Nค3? 1ห?22>%คO@ 2ํ@ห1?&1>&& ค// 1@0@1 /?!1@.@1? !@/ /C3คN@ 1O/03> !@/'1>/@ ห%N/0 ห%N/03>- &@# !?QO!N/?%#?P e พ20>@0% `cdd "@/?%#?P a_ /1@ค/ `cde “01.01 210 0101010000 ( _) %Qํ@/?%N&%>%%> R1O2@1!>?P/ ^ 3>!1 N01 /3>!1 QหO%?&N'็% ห%@P3>!1 c.c^^ 210 0101020000 ( `) %Qํ@/?%N&%>%%/@ (_) ^ 3>!1 N01 /3>!1 QหO%?&N'็% ห%@P3>!1 c.c^^ 210 0101030000 ( a) %Qํ@/?%OP2P0/3์ /? _^ !@/ ห3?Nฑ์O3>NAP/%R#?P/$>& ? '1>@0ํ@ห% ^ 3>!1 N01 /3>!1 QหO%?&N'็% ห%@P3>!1 b.gc^ 210 0101040000 ( b) %Qํ@/?%OP2P0/3์ /? `^ !@/ ห3?Nฑ์O3>NAP/%R#?P/$>& ? '1>@0ํ@ห% ^ 3>!1 N01 /3>!1 QหO%?&N'็% ห%@P3>!1 b.b^^ 210 0101050000 ( c) %Qํ@/?%OP2P0/3์ /? fc !@/ ห3?Nฑ์O3>NAP/%R#?P/$>& ? '1>@0ํ@ห% 0 3>!1 N01 /3>!1 QหO%?&N'็% ห%@P3>!1 ^.f`c '1>N.##?P 1ห?2 1@0R O %ํ@N>% 2Nค3? 1ห?22>%คO@ 2ํ@ห1?&1>&& ค// 1@0@1 /?!1@.@1? !@/ /C3คN@ 1O/03> !@/'1>/@ ห%N/0 ห%N/03>- &@# !?QO!N/?%#?P _ B/.@พ?%$์ `cde N'็%!O%R' 01.01 210 0101010000 ( _) %Qํ@/?%N&%>%%> R1O2@1!>?P/ ^ 3>!1 N01 /3>!1 QหO%?&N'็% ห%@P3>!1 d.c^^ 210 0101020000 ( `) %Qํ@/?%N&%>%%/@ (_) ^ 3>!1 N01 /3>!1 QหO%?&N'็% ห%@P3>!1 d.c^^ 01.01 210 0101030000 ( a) %Qํ@/?%OP2P0/3์ /? _^ !@/ ห3?Nฑ์O3>NAP/%R#?P/$>& ? '1>@0ํ@ห% 0 3>!1 N01 /3>!1 QหO%?&N'็% ห%@P3>!1 c.fc^ 210 0101040000 ( b) %Qํ@/?%OP2P0/3์ /? `^ !@/ ห3?Nฑ์O3>NAP/%R#?P/$>& ? '1>@0ํ@ห% 0 3>!1 N01 /3>!1 QหO%?&N'็% ห%@P3>!1 c.`^^ 210 0101050000 ( c) %Qํ@/?%OP2P0/3์ /? fc !@/ ห3?Nฑ์O3>NAP/%R#?P/$>& ? '1>@0ํ@ห% 0 3>!1 N01 /3>!1 QหO%?&N'็% ห%@P3>!1 ^.gec” Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
117
2001.pdf
POWER
NON
POWER_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2001.pdf
'1>@0 N1APอ @10@01>0>N/ล@@1'1>@02"@%@1์BN>% #?P/?ค/@/1O@0O1Q%N!#Oอ#?P?ห/? %1@$>/@2 0N/O%อO@N.อ0?Pอ อO@N.อ2BRหP-ล อO@N.อO/O Oล>อO@N.อ2Bค>1>% ?ห/? 'ั!!@%? 0N/O%อO@N.อ0>ห1>P อO@N.อ'>%@N1> อO@N.อ/@0อ อO@N.อR/OON% อO@N.อ#BN0@O  อO@N.อ>*Oอ Oล>อO@N.อO/Nล@% Oล>?ห/? 0>ล@ 0N/O%อO@N.อN&! อO@N.อ1@/?% อO@N.อ@&? Oล>อO@N.อ1'ิ%? !@/#?PR O/?@10@01>0>N/ล@@1'1>@02"@%@1 ์BN>%#?P/?ค/@/1O@0O1Q%N!#Oอ#?P ?ห/? %1@$>/@2 0N/O%อO@N.อ0?Pอ อO@N.อ2BRหP-ล อO@N.อO/O Oล>อO@N.อ2Bค>1>% ?ห/? 'ั!!@%? 0N/O%อO@N.อ0>ห1>P อO@N.อ'>%@N1> อO@N.อ/@0อ อO@N.อR/OON% อO@N.อ#BN0@O  อO@N.อ>*Oอ Oล>อO@N.อO/Nล@% Oล>?ห/? 0>ล@ 0N/O%อO@N.อN&! อO@N.อ1@/?% อO@N.อ@&? Oล>อO@N.อ1'ิ%? !@/'1>@0ล/?%#?P __ N/1@0% *.0. `_`a #O@QหONO@ห%O@#?Pอ1?2@/@1"0@0(ล@1'>&?!>@% N*APอOOR'ัห@ค/@/R/N2&Q%*AQ%#?P?ห/? @0O %.@คQ!O Oล>2@/@1"?&B/!?/ลBN/(CONอNห!B1B%O1 1//#?Q2@/@1"คBO/ค1อค/@/'ลอ .?0QหO?&'1>@%Q%*AQ%#?PR O ?0>P@Q% O!N'1@/N@0?ค/?@1NอNห!B@1์ 1O@0O1N*APอ21O@2"@%@1์ อ?#?Q0?*&OหลNหล&Nอ%Oล>Nอ2B/O@ล?*ลN*APอN!1?0/NอNห!B อ?%N'็%(ล 2A&N%APอ/@@)่@0(CONอNห!B1B%O10?/?0?0.@*Q%@1'>&?!>@1Oล>0?/?ค/@/'1>2ค์#?P>NอQหON> ค/@/N2?0ห@01O@0O1 O/0@1QOค/@/1B%O1Q%1C'O&&!N@ N Q%*AQ%#?PN*APอ#O@1O@0NO@ห%O@#?POล>'1>@% (CO&1>2B#$>N P 0/BNห/?QหON> @1N1ล?/อ?%N'็%@11>#&!Nอค/@//?P%คอ1? Oล>ค/@/'ลอ .?0 อ'1>@%%R/Nอ@ O@1?/>!R Oอ0N@'!>2B @2/ค/10@01>0>N/ล@Q%@1'1>@02"@%@1 ์BN>%#?P/?ค/@/1O@0O1 N*APอQหON> ค/@/!NอN%APอQ%@1OOR'ัห@ค/@/R/N2&#?P1>#&!Nอค/@//?P%คอ1? ค/@/'ลอ .?0Q%?/>! Oล>#1?*0์2>%#?Qอ1?Oล>อ&Bคคล @PO@N'็%!OอQO/@!1@1!@/*1>1@O@ห% @1&1>ห@11@@1 Q%2"@%@1์BN>% *.0. `_^b Q%@1OOR'ัห@QหO0B!>ลR Oอ0N@/?'1>2>#$>.@*Oล>#?%#N/#? อ@0?0อO@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ _ Oล>/@!1@ __ /11คห%@P OหN*1>1@O@ห% @1&1>ห@11@@1 Q%2"@%@1์BN>% *.0. `_^b %@01?/%!1?P 0ค/@/NหO%อ&อค>1 ?/%!1?@QหO0@0 1>0>N/ล@@1'1>@02"@%@1์BN>%#?P/?ค/@/1O@0O1Q%N!#Oอ#?P?ห/? %1@$>/@2 0N/O%อO@N.อ0?Pอ อO@N.อ2BRหP-ล อO@N.อO/O Oล>อO@N.อ2Bค>1>% ?ห/? 'ั!!@%? 0N/O%อO@N.อ0>ห1>P อO@N.อ'>%@N1> อO@N.อ/@0อ อO@N.อR/OON% อO@N.อ#BN0@O  อO@N.อ>*Oอ Oล>อO@N.อO/Nล@% Oล>?ห/? 0>ล@ 0N/O%อO@N.อN&! อO@N.อ1@/?% อO@N.อ@&? Oล>อO@N.อ1'ิ%? ออR'อ?N'็%N/ล@2@/N Aอ% #?Q%?Q !?QO!N/?%#?P `^ 1@ค/ *.0. `_`a N'็%!O%R' '1>@0  /?%#?P _b 1@ค/ *.0. `_`a N011@ #/?2>% %@01?/%!1? หนา ๓๗ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๙๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
118
311.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/311.pdf
ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ก าหนดคุณลักษณะ ขนาด และประสิทธิภาพของวัสดุเพื่อบังหรือกรองแสงแดด ส าหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2562 อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๑ (๒) (ก) และ (ซ) ข้อ ๑๐ (๒) (ฉ) และข้อ ๑๕ (๒) (ข) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๕๒๔) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๖๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติ การขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ อธิบดีกรมการขนส่งทางบกออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ กระจกกันลมหน้าของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร มาตรฐาน ๑ มาตรฐาน ๒ มาตรฐาน ๓ มาตรฐาน ๔ มาตรฐาน ๖ มาตรฐาน ๗ รถขนาดเล็ก และรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์ หรือสิ่งของลักษณะ ๑ ลักษณะ ๒ ลักษณะ ๓ ลักษณะ ๔ ลักษณะ ๕ และลักษณะ 9 ให้ติดวัสดุเพื่อบังหรือกรองแสงแดดได้ ดังนี้ (1) ฟิล์มกรองแสง ให้ติดได้เต็มกระจกกันลม แต่ทั้งนี้ เฉพาะบริเวณจากขอบล่างสุด ของกระจกกันลมถึงระนาบสูงสุดที่เครื่องปัดน้ าฝนปัดผ่านขณะท างาน เมื่อวัดการผ่านของแสงแล้ว แสงต้องผ่านทั้งกระจกและฟิล์มกรองแสงได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 7๐ กรณีติดฟิล์มกรองแสงที่กระจกกันลมของชั้นบนของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร มาตรฐาน 4 เมื่อวัดการผ่านของแสงแล้ว แสงต้องผ่านทั้งกระจกและฟิล์มกรองแสงได้ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 40 (2) วัสดุเพื่อบังหรือกรองแสงแดดแบบปรับต าแหน่งได้ ให้ติดได้เฉพาะส่วนที่เกินกว่าระนาบสูงสุด ที่เครื่องปัดน้ าฝนปัดผ่านขณะท างาน แต่ต้องไม่บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับรถ ข้อ ๒ หน้าต่างที่ด้านข้างรถของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร รถขนาดเล็ก และรถที่ใช้ ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของ ถ้าบานหน้าต่างท าด้วยวัสดุโปร่งแสง ให้ติดวัสดุเพื่อบังหรือกรองแสงแดดได้ ดังนี้ (1) ฟิล์มกรองแสง ให้ติดได้เต็มบานหน้าต่าง แต่ทั้งนี้ เมื่อวัดการผ่านของแสงแล้ว แสงต้องผ่านทั้งวัสดุโปร่งแสงและฟิล์มกรองแสงได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4๐ ห้ามมิให้ติดฟิล์มกรองแสงที่บานหน้าต่างที่ก าหนดให้เป็นกระจกนิรภัยประเภทเทมเปอร์ และใช้ส าหรับเป็นทางออกฉุกเฉิน (2) วัสดุเพื่อบังหรือกรองแสงแดดแบบปรับต าแหน่งได้ ให้ติดกับบานหน้าต่างได้ แต่ต้อง ไม่บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับรถ ข้อ 3 กระจกกันลมหลังของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร รถขนาดเล็ก และรถที่ใช้ ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของ ถ้าท าด้วยวัสดุโปร่งแสง ให้ติดวัสดุเพื่อบังหรือกรองแสงแดดได้ ดังนี้ ้หนา ๕๓ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๓๑๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ (1) ฟิล์มกรองแสง ให้ติดได้เต็มกระจกกันลม แต่ทั้งนี้ เฉพาะกระจกกันลมหลังของรถที่ใช้ ในการขนส่งผู้โดยสาร มาตรฐาน 2 (จ) และมาตรฐาน 3 (ฉ) เมื่อวัดการผ่านของแสงแล้ว แสงต้องผ่านทั้งวัสดุโปร่งแสงและฟิล์มกรองแสงได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4๐ (2) วัสดุเพื่อบังหรือกรองแสงแดดแบบปรับต าแหน่งได้ ให้ติดกับกระจกกันลมได้ ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับกับรถ รถที่จดทะเบียนใหม่ รถที่มีการเปลี่ยนตัวถัง หรือรถที่ได้ จดทะเบียนไว้แล้วแต่ได้แจ้งเลิกใช้รถตามมาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งมีการเปลี่ยนตัวถังและน ามาจดทะเบียนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ส าหรับรถที่จดทะเบียนไว้ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖2 จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ้หนา ๕๔ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๓๑๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๒
train
119
894.pdf
UST
ACTION
UST_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/894.pdf
ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง ก าหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือซึ่งเป็นกิจการค้าขาย อันเป็นสาธารณูปโภคอันกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชน ตามข้อ ๓ (๙) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ (ฉบับที่ ๓) อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๗ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ประกอบกับมาตรา 3 มาตรา ๔ และมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกา ก าหนดให้กิจการท่าเรือเดินทะเลเป็นกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภคอันกระทบกระเทือนถึง ความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งก าหนดห้ามมิให้บุคคลใดประกอบกิจการท่าเรือ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและในการอนุญาตรั ฐมนตรีจะก าหนด เงื่อนไขใด ๆ ตามที่เห็นว่าจ าเป็น เพื่อความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชน รวมทั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมเงื่อนไขตามที่รัฐมนตรีเห็นสมควรก็ได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จึงออกประกาศก าหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับนับถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๕ แห่งประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง ก าหนดเงื่อนไข ในการอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือซึ่งเป็นกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภคอันกระทบกระเทือนถึง ความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชน ตามข้อ ๓ (๙) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ และให้ใช้ความ ต่อไปนี้แทน “ข้อ ๕ ให้ใบอนุญาตประกอบกิจการท่าเรือ มีอายุตามเวลาที่ก าหนด ดังนี้ (๑) กรณีท่าเรือสร้างขึ้นใหม่ ให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน ๑0 ปี นับแต่วันที่ออกใบอนุญาต (๒) กรณีท่าเรือซึ่งมีอยู่ก่อนและเคยได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือมาแล้ว ต่อมา มีการขออนุญาตประกอบกิจการใหม่ ให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน ๕ ปี นับแต่วันที่ออกใบอนุญาต (๓) กรณีการต่ออายุใบอนุญาต ให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน ๕ ปี นับแต่วันที่ต่อใบอนุญาต เว้นแต่เป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าอันตรายให้มีอายุไม่เกิน ๓ ปี นับแต่วันที่ต่อใบอนุญาต ทั้งนี้ การก าหนดอายุใบอนุญาตให้ค านึงถึงกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิท ธิใช้สอยที่ดิน บริเวณท่าเรือนั้นด้วย โดยระยะเวลาใดสั้นกว่าก็ให้อายุใบอนุญาตเป็นไปตามระยะเวลานั้น ในกรณีที่ใบอนุญาตที่มีอยู่จะหมดอายุ ให้ผู้ขออนุญาตซึ่งประสงค์จะขอต่อใบอนุญาตยื่นค าร้อง ณ กองก ากับการพาณิชยนาวี กรมเจ้าท่า ก่อนวันที่ใบอนุญาตเดิมจะสิ้นอายุ เมื่อได้ยื่นค าร้องขอต่ออายุใบอนุญาตตามวรรคหกแล้ว ให้ผู้ยื่นค าร้องประกอบกิจการต่อไปได้ จนกว่าจะได้รับแจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าใบอนุญาตไม่ได้รับการอนุมัติให้ต่ออายุ ้หนา ๒๐ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๒๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ กันยายน ๒๕๖๔ ในกรณีที่ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือซึ่งยังไม่สิ้นอายุสูญหาย หรือช ารุดเสียหาย ในสาระส าคัญ ให้ผู้รับอนุญาตขอใบแทนใบอนุญาตโดยยื่นค าขอ ณ กองก ากับการพาณิชยนาวี กรมเจ้าท่า ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือที่ออกให้ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับและยังมีผลใช้บังคับอยู่ ให้มีผลใช้ได้จนกว่าใบอนุญาตนั้นจะหมดอายุ” ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๔ แห่งประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง ก าหนดเงื่อนไข ในการอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือซึ่งเป็นกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภคอันกระทบกระเทือนถึง ความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชน ตามข้อ ๓ (๙) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง ก าหนด เงื่อนไขในการอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือซึ่งเป็นกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูป โภค อันกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัยหรือผาสุกของประชาชนตามข้อ ๓ (๙) แห่งประกาศของ คณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๕ (ฉบับที่ ๒) ประกาศ ณ วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “(๑) หลักฐานแสดงว่าการประกอบกิจการท่าเรืออยู่ในขอบวัตถุประสงค์ของผู้ขออนุญาต ในกรณีที่ผู้ขออนุญาตเป็นนิติบุคคล (๒) ใบอนุญาตให้สร้างสิ่งล่วงล้ าล าน้ า หรือหนังสือรับรองการตรวจสภาพท่า หรือเอกสารอื่น ในท านองเดียวกันที่อนุญาตให้ใช้ท่าเทียบเรือ ตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ าไทย หรือหลักฐานแสดงว่าได้มีการขอต่ออายุใบอนุญาตดังกล่าว (๓) รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อม (๔) เอกสารหรือหลักฐานที่แสดงว่าได้ผ่านการประเมินหรืออยู่ระหว่างการประเมินผล การปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัย ตาม “คู่มือการรักษาความปลอดภัยส าหรับท่าเรือ” แนบท้าย ประกาศนี้ (๕) เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิทธิใช้สอยที่ดินบริเวณท่าเรือ หรือหลักฐาน แสดงว่าผู้ขออนุญาตก าลังด าเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิทธิ์ใช้สอยที่ดิน บริเวณท่าเรือ (๖) บัตรส่งเสริมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ถ้ามี (๗) แผนผังแสดงบริเวณท่าเรือ และสิ่งปลูกสร้างภายในบริเวณท่าเรือ (๘) แผนที่สังเขปแสดงเส้นทางคมนาคมเข้าออกท่าเรือ ้หนา ๒๑ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๒๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ กันยายน ๒๕๖๔ (๙) แผนที่สังเขปแสดงที่ตั้งท่าเรือนั้น และท่าเรืออื่นที่ใช้บรรทุกหรือขนถ่ายสินค้าประเภท เดียวกัน ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง (๑๐) อัตราค่าบริการที่เรียกเก็บจากผู้อื่น กรณีที่ท่าเรือนั้นให้บริการแก่ผู้อื่นด้วย (๑๑) เอกสารและหลักฐานอื่น ถ้ามี” ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕64 ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ้หนา ๒๒ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๒๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ กันยายน ๒๕๖๔
train
120
2438.pdf
GENERAL
NON
GENERAL_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2438.pdf
/>N&?.&/BN#*-ห@%ค/ /N@ O/.ห1?N์O1>/>$?@/Q%@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@O*N O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ *.0. `cdf P .#?POอ `/_ OหN/>#/// N@ O/.@/R1 NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@##@O* N *.0. `cca @POORN*>P-N!>-P ./>#/// N@ O/.@/R1NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@##@O*N (&?&#?P `) *.0. `cdb ํ@ห% QหO2@-@/"%ํ@/>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์-@QO?&@/ ํ@N%>%@/ R1NN1?P.Oอ*>*@#!@-/>#///N@ O/.@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@O*N *.0. `cca N*APอN'็%@/อํ@%/.ค/@-2> /ON'/>@% #?Q%?Q QหON'็%R'!@-ห1?N์O1>/>$?@/#?P/BN#*-ห@%ค/ ํ@ห% อ@0?.อํ@%@!@-ค/@-Q% Oอ `/_ OหN/>#/// N@ O/.@/R1 NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@##@O*N *.0. `cca @POORN*>P-N!>-P ./>#/// N@ O/.@/R1NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@##@O*N (&?&#?P `) *.0. `cdb '/>อ&?&-@!/@ bg OหN*/>/@&??!>/>N&?.& &/>ห@//@@//BN#*-ห@%ค/ *.0. `c`f (CO/N@/@@//BN#*-ห@%ค/ @ํ@ห% />N&?.&@Q%R/O ?!NอR'%?Q Oอ _ />N&?.&%?QN/?./N@ “/>N&?.&/BN#*-ห@%ค//N@ O/.ห1?N์O1>/>$?@/Q%@/ R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@O*N O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ *.0. `cdf” Oอ ` />N&?.&%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'/>@0Q%/@>@%BN&1@N'็%!O%R' Oอ a @/ ํ@N%>%@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@O*N O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ QหON'็%R'!@-#?Pํ@ห% R/OQ%/>N&?.&%?Q N/O%O!N/?#?P->R Oํ@ห% R/OQ%/>N&?.&%?QQหO%ํ@/>#///N@ O/. @/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@O*N-@QO&?ค?&P .อ%BP1- Oอ b QหO'1? /BN#*-ห@%ค//?1@@/!@-/>N&?.&%?Q ห-/ _ &#%>.@- Oอ c Q%/>N&?.&%?Q “อ>N1O#/อ%>2์” ห-@.ค/@-/N@ @/'/>.B!์QO/>$?@/#@อ>N1O!/อ% R++O@ ค1AP%O-NNห1OR++O@ ห/Aอ/>$?อAP%Q Q%1?1>ค1O@.?% O1>QหOห-@.ค/@-//-" @@/'/>.B!์QO/>$?@/#@O2 />$?@/ #@O-NNห1O ห/AออB'/์#?PN?P./Oอ?&@/'/>.B!์QO/>$?!N@ N NN%/N@%?Q% “Oอ-C1อ>N1O#/อ%>2์” ห-@.ค/@-/N@ Oอ-C1#?PR O2/O@ 2N /?& NO&/?1@ ห/Aอ'/>-/1(1 O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ หนา ๑ เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๐๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ มิถุนายน ๒๕๖๘ “/>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์” ห-@.ค/@-/ N@ />$?@/O1N'1 ?P.%Oอ-C1อ>N1O#/อ%>2์P . N#คP%P1.?2@/2%N#0 NN%  ห-@.อ>N1O#/อ%>2์ @/'/>B-#@อ,@* Oอ'*1>Nค?%2ํ@ห/?& @/2APอ2@/ O/.N2?. ,@* ห/AอOอค/@- P#/0?*#์ห/AอN#คP%P1.?2@/2%N#0อAP%Q “@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@อ>N1O#/อ%>2์” ห-@.ค/@-/N@ />&/%@/R1NN1?P. O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@O*N!@-/>#/// N@ O/.@/R1NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@##@O*N *.0. `cca O1>#?POORN*>P-N!>- #?P ํ@N%>%@/(N@%/>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ ห-/ ` @/ ํ@N%>%@/R1NN1?P.Oอ*>*@# Oอ d Q%/?คCN*>*@#)[email protected] )N@.ห%@P'/>2ค์>QหO-?@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@# 2@-@/"OOค/@-'/>2ค์ O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ (N@%/>&&@/%? ห[email protected]>@/!//2อ&Nอ2@/ N&AQอ!O%Nอ%NO@2CN@/ ํ@N%>%@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@O*Nอ2ํ@%?@%N! #@N/O&R!์ https://bs.bangkok.go.th ห/AอNอ#@อ>N1O#/อ%>2์#?P/BN#*-ห@%ค/'/>@0ํ@ห% OR O N-APอ2ํ@%?@%N!R O/?&OO(N@%/>&&@/% ? ห[email protected]>@/!//2อ&Nอ2@/N& AQอ!O% !@-///คห%@PO1O/ @/OOO1>@/2อ&"@-ค/@-'/>2ค์อคCN*>*@#QหO/>#ํ@ O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์OR O @%?Q%QหOคCN*>*@#)N@.(CO/Oอ .AP%คํ@/OออQห O-?@/R1 NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@##@O* N #?P2ํ@%?@%N! Q%/?#?P/BN#*-ห@%ค/R O ํ@N%>%@/? #ํ@/>&&/?&คํ@/OออQหO-?@/R1NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@##@O*N#@อ>N1O#/อ%>2์ QหOคCN*>*@# ํ@N%>%@/.AP%คํ@/Oออ#@อ>N1O#/อ%>2์R O Q%/?#?PคCN*>*@##B)N@.!1.>%.อ-#?P>NO@2CN/>&/%@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@# @/OOQหOคCN*>*@##B)N@.#/@&*/Oอ-#?Qํ@ห% /?% N/1@ O1>Nอ#@@/!> !Nอ2APอ2@/ N*APอQหOคCN*>*@# #B)[email protected]@*/Oอ-?%N*APอN1Aอ(COR1NN1?P.O1>'/>$@%ค>(COR1NN1?P. >/>#ํ@ O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ OR O /?คCN*>*@##B)[email protected]@*/Oอ-?%!@-Nอ#@@/!> !Nอ2APอ2@/ O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ Q%@/ ํ@N%>%@/QหOคCN*>*@#N1Aอ(COR1NN1?P.อ!%O1>'/>$@%ค>( COR1NN1?P. QหOคCN*>*@##B)N@. .A%.?%!?/!% O/.@/O2 &?!/'/>ํ@!?/'/>@%ห/Aอ&?!/อAP%Q #?Pห%N/.@%/@@/ออQหO O1>QหO-? @/&?%#@@/.A%.?%!?/!%O1>ค/@-!1. >%.อ-R/OQ%2@/&&@/R1 NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@# N*APอN'็%ห1?@% Q%/?#?PคCN*>*@#)[email protected] )N@.ห%@PR-N.>%.อ-NO@2CN/>&/%@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@# QหOํ@ห%N@.คํ@/OออR1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@# ?1N@/ O1>OOคCN*>*@#อ?)N@.ห%@P#/@& O/. />$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์OR O หนา ๒ เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๐๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ มิถุนายน ๒๕๖๘ Oอ e /?-?@/N1Aอห/Aอํ@ห% (COR1NN1?P.O1>'/>$@%ค>(COR1NN1?P.O1O/ O1>'/>$@% ค>(COR1NN1?P.%? '/>B-ค>(COR1NN1?P.N*APอ*>@/@คํ@/OออR1 NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@# @/'/>B- ?1N@/อ@/>#ํ@ O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์OR O Oอ f @/OOQหOคCN*>*@##/@&1N/ห%O@ /?ํ@ห% QหO ํ@N%>%@/R1NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@#  2"@%#?P/@@/อAP% >QO/>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ O/.OR O @/%? ห-@.@/R1 NN1?P.Oอ*>*@#ค/?QO/ O1>@/% ? ห-@.ค/ ?Q"? R' >QO/>$?@/ #@อ>N1O#/อ%>2์ O/.OR O P .Q%@/%? ห-@.ค/?QO/ QหO2ํ@%?@%N!OO/?% N/1@ O1>Nอ#@ @/!> !Nอ2APอ2@/R'. ?ค>(COR1NN1?P.O1>คCN*>*@##B)N@.#/@& O1>@/% ? ห[email protected]%ค/ ?Q"? R' N-APอ'/>$@%ค>( COR1NN1?P.R Oํ@ห% O1O/ QหOOO/?% N/1@ O1>Nอ#@@/!> !Nอ2APอ2@/ R'.? ค>(COR1NN1?P.O1>คCN*>*@##B)N@.#/@& O1>&?%#@@/%? ห[email protected]/OQ%2@/&&@/R1 NN1?P.O1> '/>%อ-Oอ*>*@# Oอ g Nอ%N/>P- ํ@N%>%@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@อ>N1O#/อ%>2์#?PN'็%@/'/>B- #@อ,@*#Bค/?Q QหOคCN*>*@##B)N@.//-"@(COR1NN1?P.O1>'/>$@%ค>( COR1NN1?P..A%.?%!?/!% O/. @/O2 &?!/'/>ํ@!?/'/>@%ห/Aอ&?!/อAP%Q #?Pห%N/.@%/@@/ออQห O!Nอค>(COR1NN1?P. O1> &?%#@@/.A%.?%!?/!%R/OQ%2@/&&@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@# Oอ _^ N*APอ'/>P.% ์Q%@/*>@/@@/2> B ห.B 1ออ@. Bค/@-Q%@/+ Oอ/Oอค ? QหO"Aอ/?%#?P2ํ@%?@%N!R O/?&คํ@/OออQหO-?@/R1NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@##@O*N!@-Oอ d ///ค2อ N'็%/?%.AP%Oอ*>*@# Oอ __ @/&อN1 >@/R1NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@# @/N1Aอ(COR1NN1?P.Qห-Nห/Aอ @/อN'1?P.%!?/(COR1NN1?P.>QO/>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์OR O Oอ _` />&/%@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@อ>N1O#/อ%>2์QหO ํ@N%>%@/N'็%ค/@-1?& O1>R-NQหO-?@/&?%#@,@*O1>N2?.อ/>&/%@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@อ>N1O#/อ%>2์ R-N/N@Q%/C'O&&Q ห-/ a @//?1@ค/@-1?&อOอ-C1 Oอ _a QหOค>(COR1NN1?P.O1>คCN*>*@##B)N@./?1@Oอ-C1#?Qห- #?PN?P./?&@/R1NN1?P.O1> '/>%อ-Oอ*>*@##@อ>N1O#/อ%>2์N'็%ค/@-1?& N/O%O!NN'็%@/QON#N@#?Pํ@N'็%N*APอ'>&?!>ห/Aอ&?ค?& QหON'็%R'!@-2?@'/>%?'/>%อ-.อ-ค/@- ห-/ b @/คBO-ค/อค/@-/?&(> หนา ๓ เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๐๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ มิถุนายน ๒๕๖๘ Oอ _b ค>(COR1NN1?P.ห/AอNO@ห%O@#?P#?PN?P./OอR-N!Oอ/?&(> !Nอ&Bคค1Q อ?%N%APอ-@@ @/&/>ห@/? @/@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@อ>N1O#/อ%>2์ห/Aอ@/'>&?!>!@-/>N&?.&%?Q N/O%O!N>/>#ํ@P .Qห/Aอ'/>-@#N1>%N1Nออ.N@/[email protected]/ ห-/ c />.>N/1@O1>@/? #ํ@2?@'/>%?'/>%อ-.อ-ค/@- Oอ _c @/ ํ@N%>%@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@#!OอQหOO1O/N2/O!@-/>.>N/1@#?Pํ@ห% R/OQ%Oอ `_ OหN/>#/// N@ O/.@/R1NN1?P.O1>'/>%อ- Oอ*>*@##@O*N *.0. `cca O1>#?POORN*>P-N!>- P .QหON/>P-%?&/>.>N/1@%?&O!N(COอํ@%/.@/N!R O1N/APอQ%2@/&&@/R1 NN1?P. O1>'/>%อ-Oอ*>*@#ห/Aอ/?%#?P2ํ@%?@%N!R O/?&คํ@/OออQหO-?@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@O*N ห@*O%/>.>N/1@ ?1N@/ห@.?R-NR OOอ.B!>QหOค>(COR1NN1?P.2?Pํ@ห%N@.Oอ*>*@# Q%/?#?P/BN#*-ห@%ค/R O ํ@N%>%@//?&คํ@/OออQหO-?@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@# #@O*N#@อ>N1O#/อ%>2์ QหON/>P-%?&/>.>N/1@%?&O!N/?%#?Pคํ@/OออNO@2CN/>&&อ>N1O#/อ%>2์ Q%/?-?@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@อ>N1O#/อ%>2์O1>คCN*>*@#2@-@/"!1?%R O QหOค>(COR1NN1?P.O1>คCN*>*@#-@#?P2ํ@%?@%N!ห/Aอ2"@%#?P/@@/อAP% N*APอ#ํ@2?@'/>%?'/>%อ- .อ-ค/@-QหOO1O/N2/O!@-/>.>N/1@Q%///คห%@P ห-/ d คN@!อ&O#%O1>คN@QO[email protected]%@/N >%#@ Oอ _d ค>(COR1NN1?P.-?2>#$>R O/?&คN@!อ&O#%/?#?P#ํ@ห%O@#?PR1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@# #@อ>N1O#/อ%>2์Q%O!N1>ค/?Q#?PR OO2 !%NO@/N/-'/>B- O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ !@-อ?!/@ #?Pํ@ห% Q%/>#///N@ O/.@/R1NN1?P.O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@O*N *.0. `cca O1>#?POOR N*>P-N!>- Oอ _e ค>(COR1NN1?P.-?2>#$>R O/?&คN@QO[email protected]%@/N >%#@/?#ํ@ห%O@#?PQ%@/R1NN1?P. O1>'/>%อ-Oอ*>*@##@อ>N1O#/อ%>2์N*@>/?N >%#@-@#?P2ํ@%?@%N!ห/Aอ2"@%#?P/@@/อAP% !@-#?Pํ@ห% N*APอ@/'/>B- O/./>$?@/#@อ>N1O#/อ%>2์ '/>@0  /?%#?P `^ *01,@ค- *.0. `cdf ?@!> 2>#$>*?%$B์ (CO/N@/@@//BN#*-ห@%ค/ หนา ๔ เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๐๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ มิถุนายน ๒๕๖๘ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
121
16.pdf
QM
ACTION
QM_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/16.pdf
หน้า ๒๘ เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ประกาศกรมการค้าภายใน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบการแสดงปริมาณของสินค้าหีบห่อ เพื่อให้การตรวจสอบความถูกต้องของการแสดงปริมาณของสินค้าหีบห่อเป็นไปด้วยความถูกต้อง และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ มาตราชั่งตวงวัด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2557 อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖๓ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติ มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. ๒๕๕๗ อธิบดีกรมการค้าภายใน จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ข้อ 2 ในประกาศนี้ “ประกาศกระทรวงพาณิชย์” หมายความว่า ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กําหนดชนิด ของสินค้าหีบห่อ หลักเกณฑ์และวิธีการแสดงปริมาณของสินค้า และอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561 ข้อ ๓ การตรวจสอบความถูกต้องของการแสดงปริมาณของสินค้าหีบห่อที่มีการแสดงปริมาณสุทธิ ไว้เท่ากัน เป็นหน่วยของน้ําหนักและหน่วยของปริมาตร ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้ (1) เกณฑ์การสุ่มตัวอย่างสินค้าเพื่อตรวจสอบ จํานวนหีบห่อที่อนุญาตให้มีความคลาดเคลื่อน เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อยขั้นที่ 1 แต่ไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อยขั้นที่ 2 ตามข้อ 6 (2) ของประกาศกระทรวงพาณิชย์ และค่าแก้ไข ให้เป็นไปตามตาราง ดังต่อไปนี้ จํานวนสินค้าหีบห่อ จํานวนหีบห่อที่สุ่ม ตัวอย่างเพื่อตรวจสอบ จํานวนหีบห่อที่อนุญาตให้มี ความคลาดเคลื่อนเกินอัตรา เผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อย ขั้นที่ ๑ แต่ไม่เกินขั้นที่ ๒ ค่าแก้ไข ไม่เกิน 50 หีบห่อ ไม่เกิน 10 หีบห่อ - - มากกว่า ๕๐ แต่ไม่เกิน ๑๐๐ หีบห่อ ๒๐ หีบห่อ ๑ ๐.๖๔๐ มากกว่า ๑๐๐ แต่ไม่เกิน ๕๐๐ หีบห่อ ๕๐ หีบห่อ ๓ ๐.๓๗๙ มากกว่า ๕๐๐ แต่ไม่เกิน ๓,๒๐๐ หีบห่อ ๘๐ หีบห่อ ๕ ๐.๒๙๕ มากกว่า ๓,๒๐๐ หีบห่อ ๑๒๕ หีบห่อ ๗ ๐.๒๓๔ (2) เกณฑ์การพิจารณาค่าเฉลี่ย กําหนดให้ค่าเฉลี่ยของปริมาณที่ตรวจสอบได้รวมกับผลคูณ ของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของปริมาณที่ตรวจสอบได้กับค่าแก้ไข ต้องไม่น้อยกว่าปริมาณสุทธิที่แสดง (3) สินค้าแต่ละหีบห่อ ต้องมีความคลาดเคลื่อนไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดขั้นที่ ๒ ข้อ 4 การตรวจสอบความถูกต้องของการแสดงปริมาณของสินค้าหีบห่อ รายการก๊าซปิโตรเลียมเหลว เฉพาะบรรจุถังใช้สําหรับหุงต้ม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้ หน้า ๒๙ เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ (1) เกณฑ์การสุ่มตัวอย่างสินค้าเพื่อตรวจสอบ จํานวนหีบห่อที่อนุญาตให้มีความคลาดเคลื่อน เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อยขั้นที่ 1 แต่ไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อยขั้นที่ 2 ตามข้อ 6 (2) ของประกาศกระทรวงพาณิชย์ และค่าแก้ไข ให้เป็นไปตามตาราง ดังต่อไปนี้ จํานวนสินค้าหีบห่อ จํานวนหีบห่อที่สุ่ม ตัวอย่างเพื่อตรวจสอบ จํานวนหีบห่อที่อนุญาตให้มี ความคลาดเคลื่อนเกินอัตรา เผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อย ขั้นที่ ๑ แต่ไม่เกินขั้นที่ ๒ ค่าแก้ไข ไม่เกิน 20 หีบห่อ ทุกหีบห่อ - - มากกว่า 2๐ หีบห่อ ๒๐ หีบห่อ ๑ ๐.๖๔๐ (2) เกณฑ์การพิจารณาค่าเฉลี่ย กําหนดให้ค่าเฉลี่ยของปริมาณที่ตรวจสอบได้รวมกับผลคูณ ของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของปริมาณที่ตรวจสอบได้กับค่าแก้ไข ต้องไม่น้อยกว่าปริมาณสุทธิที่แสดง (3) สินค้าแต่ละหีบห่อ ต้องมีความคลาดเคลื่อนไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดขั้นที่ 2 ข้อ 5 การตรวจสอบความถ ูกต้องของการแสดงปร ิมาณของสินค้าหีบห่อที่ประกอบด้วย เนื้อสินค้าและส่วนประกอบที่เป็นของเหลว ให้ตรวจสอบปริมาณสุทธิและตรวจสอบปริมาณเนื้อสินค้า ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้ (1) ให้ดําเนินการตรวจสอบปริมาณสุทธิตามข้อ 3 (2) การตรวจสอบปร ิมาณเนื้อสินค้า ให้สุ่มตัวอย่างมาตรวจสอบไม ่เกิน 10 หีบห่อ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้ ( ก) เกณฑ์การพิจารณาค่าเฉลี่ย กําหนดให้ค่าเฉลี่ยของปริมาณเนื้อสินค้าที่ตรวจสอบได้ ต้องไม่น้อยกว่าปริมาณเนื้อสินค้าที่แสดง ( ข) สินค้าแต่ละหีบห่อ ต้องมีความคลาดเคลื่อนไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดขั้นที่ 2 ตามข้อ 6 (2) ของประกาศกระทรวงพาณิชย์ ข้อ 6 การตรวจสอบความถ ูกต้องของการแสดงปร ิมาณของสินค้าหีบห่อที่บรรจุสินค้า ชนิดเดียวกันและแสดงปร ิมาณสุทธิไว้ไม่เท่ากัน เป็นหน่วยของน้ําหนัก ให้เป็นไปตามหล ักเกณฑ์ และวิธีการ ดังนี้ (1) ให้สุ่มตัวอย่างสินค้ามาตรวจสอบไม่เกิน 10 หีบห่อ (2) สินค้าแต่ละหีบห่อ ต้องมีความคลาดเคลื่อนไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดขั้นที่ ๑ ตามข้อ 6 (5) ของประกาศกระทรวงพาณิชย์ ข้อ 7 การตรวจสอบความถูกต้องของการแสดงปริมาณของสินค้าหีบห่อที่แสดงปริมาณสุทธิ ไว้เท่ากัน เป็นหน่วยของความยาว ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้ หน้า ๓๐ เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ (1) เกณฑ์การสุ่มตัวอย่างสินค้าเพื่อตรวจสอบ จํานวนสินค้าหีบห่อที่อนุญาตให้มีความคลาดเคลื่อน เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อยขั้นที่ 1 แต่ไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อยขั้นที่ 2 ตามข้อ 6 (3) ของประกาศกระทรวงพาณิชย์ และค่าแก้ไข ให้เป็นไปตามตาราง ดังต่อไปนี้ จํานวนสินค้าหีบห่อ จํานวนหีบห่อที่สุ่ม ตัวอย่างเพื่อตรวจสอบ จํานวนหีบห่อที่อนุญาตให้มี ความคลาดเคลื่อนเกินอัตรา เผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อย ขั้นที่ ๑ แต่ไม่เกินขั้นที่ ๒ ค่าแก้ไข ไม่เกิน 2๕ หีบห่อ 2 หีบห่อ - - มากกว่า 2๕ แต่ไม่เกิน ๕๐ หีบห่อ ๓ หีบห่อ - ๑.๐๐ มากกว่า ๕๐ แต่ไม่เกิน ๑๕๐ หีบห่อ ๕ หีบห่อ - ๐.๓๕ มากกว่า ๑๕๐ แต่ไม่เกิน ๕๐๐ หีบห่อ ๘ หีบห่อ ๑ ๐.๒๐ มากกว่า ๕๐๐ แต่ไม่เกิน ๓,๒๐๐ หีบห่อ ๑๓ หีบห่อ ๑ ๐.๑๕ มากกว่า ๓,๒๐๐ หีบห่อ ๒๐ หีบห่อ ๑ ๐.๑๐ (2) เกณฑ์การพิจารณาค่าเฉลี่ย กําหนดให้ค่าเฉลี่ยของปริมาณที่ตรวจสอบได้รวมกับผลคูณ ของค่าพิสัยของปริมาณที่ตรวจสอบได้กับค่าแก้ไข ต้องไม่น้อยกว่าปริมาณสุทธิที่แสดง (3) สินค้าแต่ละหีบห่อ ต้องมีความคลาดเคลื่อนไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดขั้นที่ ๒ ข้อ 8 การตรวจสอบความถูกต้องของการแสดงปริมาณของสินค้าหีบห่อที่แสดงปริมาณสุทธิ ไว้เท่ากัน เป็นจํานวนนับ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้ (1) เกณฑ์การสุ่มตัวอย่างสินค้าเพื่อตรวจสอบ จํานวนสินค้าหีบห่อที่อนุญาตให้มีความคลาดเคลื่อน เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อยขั้นที่ 1 แต่ไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อยขั้นที่ 2 ตามข้อ 6 (4) ของประกาศกระทรวงพาณิชย์ และค่าแก้ไข ให้เป็นไปตามตาราง ดังต่อไปนี้ จํานวนสินค้าหีบห่อ จํานวนหีบห่อ ที่สุ่มตัวอย่างเพื่อ ตรวจสอบ จํานวนหีบห่อที่อนุญาตให้มี ความคลาดเคลื่อนเกินอัตรา เผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อย ขั้นที่ ๑ แต่ไม่เกินขั้นที่ ๒ ค่าแก้ไข ไม่เกิน 2๕ หีบห่อ 2 หีบห่อ - - มากกว่า 2๕ แต่ไม่เกิน ๕๐ หีบห่อ ๓ หีบห่อ - ๑.๐๐ มากกว่า ๕๐ แต่ไม่เกิน ๑๕๐ หีบห่อ ๕ หีบห่อ - ๐.๓๕ มากกว่า ๑๕๐ แต่ไม่เกิน ๕๐๐ หีบห่อ ๘ หีบห่อ ๑ ๐.๒๐ มากกว่า ๕๐๐ แต่ไม่เกิน ๓,๒๐๐ หีบห่อ ๑๓ หีบห่อ ๑ ๐.๑๕ มากกว่า ๓,๒๐๐ หีบห่อ ๒๐ หีบห่อ ๑ ๐.๑๐ (2) เกณฑ์การพิจารณาค่าเฉลี่ย กําหนดให้ค่าเฉลี่ยของปริมาณที่ตรวจสอบได้รวมกับผลคูณ ของค่าพิสัยของปริมาณที่ตรวจสอบได้กับค่าแก้ไข ต้องไม่น้อยกว่าปริมาณสุทธิที่แสดง หน้า ๓๑ เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ (3) สินค้าแต่ละหีบห่อ ต้องมีความคลาดเคลื่อนไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดขั้นที่ ๒ ข้อ 9 ในกรณีดําเนินการตรวจสอบสินค้าหีบห่อ ถ้าทดสอบน้ําหนักของหีบห่อเปล่าสําหรับ ใช้บรรจุสินค้า จํานวน ๒๕ หีบห่อ ปรากฏว่าน้ําหนักเฉลี่ยของหีบห่อเปล่ามากกว่าร้อยละ ๑๐ ของปริมาณสุทธิที่แสดง และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของน ้ําหนักของหีบห่อเปล่ามากกว่า ๐.๒๕ เท่า ของอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดขั้นที่ 1 ของปริมาณสุทธิที่แสดง ให้ดําเนินการตรวจสอบปร ิมาณสุทธิ ของสินค้าหีบห่อดังกล่าว ดังนี้ (1) ให้สุ่มตัวอย่างสินค้ามาตรวจสอบไม่เกิน ๒๐ หีบห่อ (2) ให้เปิดหีบห่อเพื่อทําการชั่ง ตวง วัด หรือนับจํานวนของสินค้าทุกหีบห่อ (3) เกณฑ์การพิจารณาค่าเฉลี่ย กําหนดให้ค่าเฉลี่ยของปริมาณสุทธิที่ตรวจสอบได้ต้องไม่น้อยกว่า ปริมาณสุทธิที่แสดง (4) จํานวนหีบห่อที่มีความคลาดเคลื่อนเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อยขั้นที่ ๑ แต่ไม่เกิน อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดฝ่ายน้อยขั้นที่ ๒ อนุญาตให้มีได้ไม่เกิน ๑ หีบห่อ (5) สินค้าแต่ละหีบห่อ ต้องมีความคลาดเคลื่อนไม่เกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดขั้นที่ ๒ ข้อ 10 การตรวจสอบปริมาณสุทธิของสินค้าหีบห่อที่แสดงปริมาณของสินค้า เป็นหน่วยของปริมาตร หน่วยของความยาว หรือเป็นจํานวนนับ โดยวิธีการชั่งน้ําหนัก ให้ดําเนินการหาค่าความหนาแน ่น ค่าน้ําหนักต่อหน่วยความยาว หรือค่าน้ําหนักต่อหน่วยนับ เพื่อคํานวณหาค่าปริมาตร ความยาว หรือจํานวนของสินค้า แล้วแต่กรณี ประกาศ ณ วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน
train
122
722.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/722.pdf
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๔๐๒) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินหรือผลประโยชนใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการขายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ อาศัยอํานาจตามความใน ขอ ๒ (๖๕) แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๖๕ (พ.ศ. ๒๕๕๑) ออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงิน หรือผลประโยชนใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการขายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ดังตอไปนี้ ขอ ๑ ใหยกเลิกความในวรรคสองของ (๑) ของขอ ๑ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๑๗๐) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินหรือผลประโยชนใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการขายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๒๕๘) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงิน หรือผลประโยชนใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการขายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ขอ ๒ ใหยกเลิกความในขอ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๑๗๐) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงิน หรือผลประโยชนใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการขายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุน รวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๒๕๘) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงิน หรือผลประโยชนใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการขายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ และใหใชความตอไปนี้แทน ้หนา ๖๕ ่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๓๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔ “ขอ ๒ กรณีผูมีเงินไดไดซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพเกินกวาหนึ่งกองทุน เงินหรือผลประโยชนใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการข ายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ในแตละกองทุนที่จะไดรับยกเวนไมตองรวมคํานวณเ พื่อเสียภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา ตองเปนไป ตามหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขตามขอ ๑” ขอ ๓ ใหยกเลิกความในขอ ๓ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๑๗๐) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินหรือผลประโยชนใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการขายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ และใหใชความตอไปนี้แทน “ขอ ๓ กรณีผูมีเงินไดที่ไดซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพปฏิบัติไมเปนไป ตามหลักเกณฑในขอ ๑ หรือขอ ๒ ในปใด เมื่อผูมีเงินไดไดยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา เพิ่มเติมสําหรับปภาษีที่ไดนําจํานวนเงินคาซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพไปหักออกจากเงินได พึงประเมินในการคํานวณภาษีเงินได ภายในเดือนมีนาคมของปถัดจากปที่ไมไดปฏิบัติตามหลักเกณฑนั้น และไดถือหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่ยังคงเหลืออยู หากผูมีเงินไดซื้อหนวยลงทุน ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตอไป โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑในขอ ๑ และขอ ๒ นับตั้งแตปที่ไดยื่น แบบแสดงรายการภาษีเงินไดบุคคลธรรมดาเพิ่มเติม ใหผูมีเงินไดมีสิทธินับระยะเวลาการถือหนวยลงทุน ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพกอนปที่ไดยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินไดบุคคลธรรมดาเพิ่มเติมรวมเขาดวย” ขอ ๔ ใหเพิ่มความตอไปนี้เปนวรรคสามของขอ ๕ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๑๗๐) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินหรือผลประโยชนใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการขายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๒๕๘) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงิน หรือผลประโยชน ใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการขายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ “กรณีการขายหนวยลงทุนที่ผูมีเงินไดไดซื้อหนวยลงทุนนั้นตั้งแตวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เปนตนไป ใหยกเวนภาษีเงินไดสําหรับเงินหรือผลประโยชนใด ๆ ที่คํานวณมาจากเงินได พึงประเมินที่ซื้อหนวยลงทุนดังกลาวในอัตราไมเกินรอยละ ๓๐ ของเงินไดพึงประเมินที่ไดรับ ซึ่งตองเสียภาษีเงินได แตไมเกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ในแตละปภาษี” ้หนา ๖๖ ่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๓๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ขอ ๕ ใหยกเลิกความในขอ ๗ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๑๗๐) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินหรือผลประโยชนใด ๆ ที่ไดรับเนื่องจากการขายหนวยลงทุนคืนใหแกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ขอ ๖ ประกาศนี้ใหใชบังคับตั้งแตวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เปนตนไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เอกนิติ นิติทัณฑประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ้หนา ๖๗ ่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๓๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔
train
123
2205.pdf
TIS
NON
TIS_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2205.pdf
'/>@02ํ@%?@%-@!/@%(ล>!,?์/B!2@ห//- N/AP/ O!N!?Q(CO!//2/&@/#ํ@(ล>!,?์/B!2@ห//- (&?&#?P ``) *.0. `cde P .#?PN'็%@/2-ค//O!N!?Q(CO!//2/&@/#ํ@(ล>!,?์/B!2@ห//- N*AP/ ํ@N%>%@/!//2/& @/#ํ@(ล>!,?์/B!2@ห//- /@0?./ํ@%@!@-ค/@-Q%-@!/@ c OหN*/>/@&?ญญ?!>-@!/@%(ล>!,?์/B!2@ห//- *.0. `c__ @POORN*>P-N!>-P .*/>/@& ?ญญ?!>-@!/@%(ล >!,?์/B!2@ห//- (&?&#?P f) *.0. `cd` Nล@$>@/2ํ@%?@%-@!/@%(ล>!,?์/B!2@ห//- P .ค/@-NหO%/&/ค>//-@/ -@!/@%(ล>!,?์/B!2@ห//- @//'/>@0R/O ?!N/R'%?Q O/ _ '/>@0%?QN/?./N@ “'/>@02ํ@%?@%-@!/@%(ล>!,?์/B!2@ห//- N/AP/ O!N!?Q (CO!//2/&@/#ํ@(ล>!,?์/B!2@ห//- (&?&#?P ``) *.0. `cde” O/ ` '/>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'/>@0Q%/@>@%BN&1@N'็%!O%R' O/ a QหOO!N!?Q &/>1?# #?.C/? R/%์Oล% ์ ('/>N#0R#.) ํ@? N'็%(CO!//2/&@/#ํ@ (ล>!,?์/B!2@ห//- ํ@%/% _g` -@!/@% ?!N/R'%?Q ลํ@ ?&#?P (ล>!,?์/B!2@ห//- -@!/@%Nล#?P -/. 1 O&!N!//?PQO2!@/์! %> !>?P/ - / NลN- 1 คBล?1>#?P!O/@/#?P/R'Oล> />$?# 2/& 6 NลN- 1 2 Oห%&O(N% - คBล?1>#@N#ค%>ค 93 3 (O@N&/2ํ@ห/?&.@%.%!์ 97 4 />%>/,?.2ํ@ห/?&/".%!์ 196 5 />%>/,?.2ํ@ห/?&/".%!์ 197 6 />%>/,?.2ํ@ห/?&/".%!์ 198 7 (O@คล?!์2ํ@ห/?&/".%!์ 212 8 ห?/N#?.% 231 9 #N/R/N2?./".%!์ 340 10 #N/R/N2?./"?/.@%.%!์ 341 11 .@/".%!์ NลN- 1 2-//"%>#?P!O/@/Oล>@/# 2/& 367 NลN- 1 12 ห-O/%Qํ@/".%!์ 388 หนา ๔๕ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ ลํ@ ?&#?P (ล>!,?์/B!2@ห//- -@!/@%Nล#?P -/. 13 .@Q%/".%!์ 651 14 @%[email protected]ํ@ห/?&/".%!์ 657 15 -/N!//์2!@/์!2ํ@ห/?&/".%!์ 666 16 .@Q%/"?/.@%.%!์ 683 17 .@Q%2ํ@ห/?&/"?/.@%.%!์Oล>P-N' 683 18 ล>Q%Nค/AP/.%!์2?% @',@.Q% 690 19 @%คล?!์2ํ@ห/?&/".%!์ 708 20 -/N!//์Nค/AP/'ั %Qํ@)%2ํ@ห/?&/".%!์ 709 21 *%?*>0?/1>2ํ@ห/?&QOQ%.@%.%!์ 714 22 O&!N!//?P%> !>?P/ - / QO'/>ํ@#?P 718 23 O&!N!//?P/"?/.@%.%!์ 719 24 NO-? %>/,?.2ํ@ห/?&/".%!์ 721 25 '>NO%)@2C&2ํ@ห/?&Nค/AP/.%!์//".%!์ 722 26 /B'/์2?ญญ@N2?.N!A/%2ํ@ห/?&.@%.%!์ 771 27 Nค/AP/.%!์ ?Nล%@ NลO/>&@.ค/@-/O/% O/.%Qํ@ 787 28 R2Oห-O////@@0#?PQO?&Nค/AP/.%!์2?% @',@.Q% 788 29 @&N*ล@ค/@P?2ํ@ห/?&Nค/AP/.%!์//".%!์ 790 30 Nค/AP//? /> ?&%Qํ@-?%NAQ/N*ล>2ํ@ห/?&/".%!์ 806 31 >Q%2N/%!?/"?/".%!์%?P 813 32 !?/"?N'ลA/.//".%!์%?P 814 33 หO@-ลO/2ํ@ห/?&/".%!์ 823 34 "?%Qํ@-?%/".%!์%?P 830 35 /ลO//".%!์ 869 36 #?P%?P B .@ #?P%?P Oล>*%?*>0?/1>/.@%.%!์ 896 37 /ลO//".%!์ 908 38 NหลO?%Pคล2ํ@ห/?&/".%!์ 944 39 />-/หล? 954 หนา ๔๖ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ ลํ@ ?&#?P (ล>!,?์/B!2@ห//- -@!/@%Nล#?P -/. 40 *? ล-/>&@.ค/@-/O/%Nค/AP/.%!์2ํ@ห/?&/".%!์ 978 41 2'/> 2ํ@ห/?&/?&%Qํ@ห%?/".%!์ 1019 42 /".%!์#?PQONค/AP/.%!์N&%>% N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1085 43 /"?/.@%.%!์ N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1105 44 /".%!์#?PQONค/AP/.%!์N&%>% N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1120 45 /".%!์%@ NลO#?PQONค/AP/.%!์ ?Nล N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1140 46 /B'/์ลO/'/>!COล>/B'/์.@ '/>!C/.@%.%!์ 1162 47 /".%!์%@ QหญN#?PQONค/AP/.%!์ ?Nล N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1180(1) 48 /"?/.@%.%!์ N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1185 49 2@.ค?%N/N/".%!์ 1250 50 )@ห-O/%Qํ@/".%!์ 1265 51 /".%!์#?PQONค/AP/.%!์N&%>% N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1280 52 /".%!์%@ NลO#?PQONค/AP/.%!์ ?Nล N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1285 53 /".%!์%@ QหญN#?PQONค/AP/.%!์ ?Nล N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1290 54 /".%!์%@ QหญN#?PQONค/AP/.%!์ ?Nล N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1295 55 /"?/.@%.%!์ '/>-@!//>&/2C&R-NN>% 110 ลC&@0์N%!>N-!/ N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1305 56 /"?/.@%.%!์ N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1355 57 /"?/.@%.%!์ N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1360 58 /".%!์#?PQONค/AP/.%!์N&%>% N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1365 59 /".%!์%@ NลO#?PQONค/AP/.%!์ ?Nล N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1370 60 /".%!์%@ NลO#?PQONค/AP/.%!์ ?Nล N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1435 61 /".%!์#?PQONค/AP/.%!์N&%>% N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1440 62 ห-O///%Qํ@-?%NAQ/N*ล>2ํ@ห/?&/".%!์#?PQONค/AP/.%!์ ?Nล 1464 63 หO@-ลO/2ํ@ห/?&.@%.%!์'/>N,#/".%!์%?P (M) /"&//#B (N) Oล>/"*N/ (O) 1466 64 B .@ NO-? %>/,?. />&&.@ O&&R/P+ิ Oล>B .@ R/P+ิ#/'N#N#//์ 1467 หนา ๔๗ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ ลํ@ ?&#?P (ล>!,?์/B!2@ห//- -@!/@%Nล#?P -/. 65 2N/%!?/"?Oล>/B'/์,@.%/.@%.%!์ 1469 66 /B'/์&?ค?&Nล?Q./2ํ@ห/?&.@%.%!์ 1471 67 /".%!์%?P 1472 68 .@%.%!์N>*@>.์Oล>/".%!์P .2@/ - ห%O@O'ล%2?P/C2ํ@ห/?&QOQ%Nค/AP//? /@@0#?P?&NคลAP/% O/.N+ื/ 1576 69 Nค/AP/.%!์2?% @',@.Q% - Oห/%ลC2C& NลN- 3 O/ํ@ห% 2ํ@ห/?&/?2 B 1609 70 Nค/AP/.%!์2?% @',@.Q% - Oห/%ลC2C& NลN- 4 O/ํ@ห% #?P/R' 1610 71 Nค/AP/.%!์2?% @',@.Q% - Oห/%ลC2C& NลN- 5 O/ํ@ห% O@%คB,@* 1611 72 /"?/.@%.%!์ N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1650 73 Nค/AP/.%!์2?% @',@.Q% - Oห/%ลC2C& NลN- 1 Oห/%ลC2C&ห%O@!? 2?PNหล?P.- 1658 74 Nค/AP/.%!์2?% @',@.Q% - Oห/%ลC2C& - Oห/%/@ %Qํ@-?%Nค/AP/O&& N NM E Oล> EM 1659 75 Nค/AP/.%!์2?% @',@.Q% - Oห/%ลC2C& NลN- 1 Oห/%ค?.์2P!% 1660 76 Nค/AP/.%!์2?% @',@.Q% - Oห/%ลC2C& - Oห/%/@ %Qํ@-?%Nค/AP/O&& S G D Oล> DV 1661 77 Nค/AP/.%!์2?% @',@.Q% - Oห/%ลC2C& - Oห/%/@ %Qํ@-?%Nค/AP/#?P O/.2'/> 1662 78 /".%!์#?PQONค/AP/.%!์N&%>% N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1870 79 /".%!์%@ NลO#?PQONค/AP/.%!์ ?Nล N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 1875 80 /"?/.@%.%!์ N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 2130 81 /".%!์%@ NลO#?PQONค/AP/.%!์ ?Nล N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 2155 82 /".%!์#?PQONค/AP/.%!์N&%>% N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 2160 83 -ล*>1#@N2?.#?PN> @.@%.%!์!?QO!N 4 ลO/ @Q%R' 2264 84 .@ลO//@@0.@% 2301 85 หO@-ลO/2ํ@ห/?&/".%!์%?P 2305 86 หO@-ลO/2ํ@ห/?&.@%.%!์'/>N,# L 2306 87 -@!/ค/@-N/O/2ํ@ห/?&.@%.%!์ Oล>@/!> !?Q 2308 88 /".%!์%@ Qหญ N#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.@//? N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. 2315 หนา ๔๘ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ ลํ@ ?&#?P (ล>!,?์/B!2@ห//- -@!/@%Nล#?P -/. 89 /".%!์%@ QหญN#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.'/>@.R+#?PQOP@$//-@!> ห/A/P@'ิP!/Nล?.-Nหล/N'็%NAQ/N*ล> N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 2320 90 />-/หล?2ํ@ห/?&/"?/.@%.%!์ 2330 91 />&&@/QOP@$//-@!>/? N'็%NAQ/N*ล>Q%.@%.%!์ NลN- 1 O/ํ@ห% O@%ค/@-'ล/ ,?. 2333 NลN- 1 92 .@%.%!์'/>N,# M1 N1 #?PQONค/AP/.%!์2?% @',@.Q% ห/A/#?P?&NคลAP/% O/.R++้@ ห/A/R0&/> R++้@ 2335 93 /B'/์'้/?%@/ล/ Q!O O@%#O@..@%.%!์ 2347 94 /"?/.@%.%!์ N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 2350 95 -ล*>1#@N2?.#?PN> @/"?/.@%.%!์ 2355 96 @/'้/?%(COP .2@/N-AP/N> @/%@ O@%O@/.@%.%!์ 2399 97 @/'้/?%(COP .2@/N-AP/N> @/% O@%ห%O@/.@%.%!์ 2400 98 !?/.@ /N/ล #?PPค%Nล?./2ํ@ห/?&Nล?./N-!/> ISO Nล?./%/ 2418 99 /".%!์#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.'/>@.R+ N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 2540 100 /".%!์%@ Nล O#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.@//? N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. 2550 101 /".%!์%@ NลO#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.'/>@.R+#?PQOP@$//-@!> ห/A/P@'ิP!/Nล?.-Nหล/N'็%NAQ/N*ล> N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 2555 102 />%>/,?.2ํ@ห/?&.@%.%!์ 2602 103 /"?/.@%.%!์ 2605 104 B (O@N&/2ํ@ห/?&.@%.%!์ 2608 105 .@ลO/O&&2C&ล-2ํ@ห/?&/".%!์Oล>2N/%*N/ 2718 106 .@ลO/O&&2C&ล- 2ํ@ห/?&/".%!์N>*@>.์Oล>2N/%*N/ 2719 107 .@ลO/O&&2C&ล-2ํ@ห/?&/"?/.@%.%!์Oล>P-N' 2720 108 .@ลO/2C&ล- 2721 109 N!O@N2?.& N!O@/?& - N@. !?/!N/.@%.%!์ Oล>N!O@/?&.@%.%!์ - @/'/>BR++้@ (N@%!?/%ํ@/.@%.%!์R++้@ NลN- 1 O/ํ@ห% #?P/R' 2749 NลN- 1 หนา ๔๙ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ ลํ@ ?&#?P (ล>!,?์/B!2@ห//- -@!/@%Nล#?P -/. 110 N!O@N2?.& N!O@/?& - N@. !?/!N/.@%.%!์ Oล>N!O@/?&.@%.%!์ – @/'/>BR++้@ (N@%!?/%ํ@/.@%.%!์R++้@ NลN- 2 O/ํ@ห% ค/@-NO@?%R ON>->!> Oล> @/2?&N'ล?P.%R O2ํ@ห/?&@N2?.& Oล>#N/ห%O@2?-(?2/N!O@R++้@/>O22ล?& 2749 NลN- 2 111 N!O@N2?.& N!O@/?& - N@. !?/!N/.@%.%!์ Oล>N!O@/?&.@%.%!์ – @/'/>BR++้@ (N@%!?/%ํ@/.@%.%!์R++้@ NลN- 3 O/ํ@ห% ค/@-NO@?%R ON>->!> Oล> @/2?&N'ล?P.%R O2ํ@ห/?&@N2?.& Oล>#N/ห%O@2?-(?2คCNN!O@!N/.@%.%!์R++้@ />O2!/ Oล>/>O22ล?&//>O2!/ 2749 NลN- 3 112 /"!? /O/. 2773 113 Nค/AP//BN%R2O// 2809 114 Nค/AP/(2-O'้N&N//?P 2862 115 *@Nล#ลN/ 2890 116 /"?/.@%.%!์N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. - 2@/-ล*>1@Nค/AP/.%!์ /> ?&#?P 7 2915 117 Nค/AP/(2-/?2 B(>/#@ 2ํ@ห/?&@%'>N/-Oล>/ห/A/'/?&'/B(>/#@ล@ .@ O&&ล@C 2950 118 .@%.%!์'/>N,# L : คBล?1>N*@>2ํ@ห/?&/>&&2Nํ@ล? O/.R++้@ 2952 119 .@ลO/O&&2C&ล-หลN/ /Qํ@ 2ํ@ห/?&.@%.%!์N>*@>.์Oล>2N/%*N/ 2979 120 .@ลO/O&&2C&ล- 2ํ@ห/?&.@%.%!์N*AP/@/N1!/Oล>2N/%*N/ 2980 121 Nค/AP/!/N2@NO-%> NคลAP/%#?P 2983 122 !CO%Qํ@ AP-ห./ Nห/?.ญ/?!P%-?!> 2984 123 Nค/AP/'ิ (%@ 3001 124 Nค/AP/'ิ )@Nล?./ 3004 125 Nค/AP/!> ล@(ล>!,?์ 3005 126 /".%!์%@ NลO#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.'/>@.R+ N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. 3016 127 /".%!์%@ NลO#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.'/>@.R+ N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. 3017 128 /".%!์%@ Nล O#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.@// ? N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. 3018 หนา ๕๐ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ ลํ@ ?&#?P (ล>!,?์/B!2@ห//- -@!/@%Nล#?P -/. 129 /".%!์%@ Nล O#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.@// ? N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. 3019 130 .@%.%!์'/>N,# M Oล> N 3026 131 /".%!์%@ QหญN#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.'/>@.R+#?PQOP@$//-@!> ห/A/P@'ิP!/Nล?.-Nหล/N'็%NAQ/N*ล> N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 3042 132 /".%!์%@ QหญN#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.'/>@.R+#?PQOP@$//-@!> ห/A/P@'ิP!/Nล?.-Nหล/N'็%NAQ/N*ล> N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 3043 133 /".%!์%@ QหญN#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.'/>@.R+ N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. 3044 134 /".%!์%@ Qหญ N#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.@//? N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. 3045 135 /".%!์%@ Qหญ N#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.@//? N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. 3046 136 /".%!์%@ Qหญ N#?PQONค/AP/.%!์O&&B />N&> O/.@//? N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. 3047 137 Nค/AP/2/-'ล/ห !?/ 3048 138 Nค/AP/ลO@(?'/>N,#Q& 3049 139 Nค/AP/2ล? %Qํ@//@(? 3050 140 Nค/AP/ห?P%(? 3051 141 /".%!์%@ NลO#?P!> !?Q/>&&P@N*>P-N!>- N*@> O@%ค/@-'ล/ ,?. 3055 142 O(N%'้@.?Q&N.@ลO/ O/.ค/@-"?P/>#.B 3066 143 -@!//? %Qํ@ 3078 144 Nค/AP/ลO@!>/O@ 3079 145 Nค/AP/? ลO@/ 3080 146 Nค/AP/& P-NO&&!?/>O# 3088 147 Nค/AP/& P-NO&&& NA/% 3089 148 Nค/AP/&//B/Nหล/ O/.O/P%O-"N/O&&O"/!/ 3090 หนา ๕๑ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ ลํ@ ?&#?P (ล>!,?์/B!2@ห//- -@!/@%Nล#?P -/. 149 Nค/AP/&//B/Nหล/ O/.O/P%O-"N/O&&ห-B%/% 3091 150 .@%.%! ์?&Nคล AP/% O/.R++ ้@#?PQO&%"%% - O/ํ@ห% N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. NลN- 1 />&&?NO&*ล?@%#?P2@-@/"/? '/>BQํ@R O 3102 NลN- 1 151 .@%.%! ์?&Nคล AP/% O/.R++ ้@#?PQO&%"%% - O/ํ@ห% N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. NลN- 2 ค/@-'ล/ ,?.Q%@/QO@%.@%.%!์ 3102 NลN- 2 152 .@%.%! ์?&Nคล AP/% O/.R++ ้@#?PQO&%"%% - O/ํ@ห% N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. NลN- 3 ค/@-'ล/ ,?.#@R++้@ 3102 NลN- 3 153 .@%.%! ์?&Nคล AP/% O/.R++ ้@#?PQO&%"%% - O/ํ@ห% N*@> O@% ค/@-'ล/ ,?. NลN- 4 ค/@-'ล/ ,?.#@R++้@หล?N> @/% 3102 NลN- 4 154 2-//"%>/P-N' R++ ้@Oล>/" ?/.@%.%! ์R++้@ NลN- 1 : @/QO *ล?@%Oล>/>.>#@/O@/> 3105 NลN- 1 155 2-//"%>/P-N' R++ ้@Oล>/"?/.@%.%!์R++้@ NลN- 2 : ล?1> @/QO@%&%"%% 3105 NลN- 2 156 />&&?Q%N*AP/'้/?%(COP .2@/@@/NคลAP/%#?P/2?-,@/> 3107 157 2-//"%>@//>O# O@%O@.@%.%!์?&N2@ 3108 158 Nค/AP/&//B/Nหล/ O/.O/P%O-"N/O&&@P/?!P%-?!> 3112 159 หBN%ํ@ล/2ํ@ห/?&@/# 2/&/>&&.@ Nห%?P./(COP .2@/ NลN- 1: หBN%ํ@ล/(COQหญN 3114 NลN- 1 160 หBN%ํ@ล/2ํ@ห/?&@/# 2/&/>&&.@ Nห%?P./(COP .2@/ NลN- 2: หBN%ํ@ล/N O 3114 NลN- 2 161 .@ลO/?/.@%Oล>/ลO/ NลN- 2 : /ลO/ 3160 NลN- 2 162 .@Q%2ํ@ห/?&.@%.%!์ - คBล?1>#@N#ค%>ค#?P!O/@/Oล>/>$?@/# 2/& 3162 163 Nค/AP/&//B/Nหล/ O/./>&/2C&O&&O"/!/ 3165 164 Nค/AP/&//B/Nหล/ O/./>&/2C&O&&ห-B%/% 3166 165 Nค/AP/&//B/Nหล/ O/./>&/2C&O&&@P/?!P%-?!> 3167 166 />&&.@ Nห%?P./(COP .2@/N O?Q%2C 3187 167 >Q%2N/%#N/R/N2?./"?/.@%.%!์ 3226 168 /"!BP!BPR++้@ 3264 169 .@%.%!์#?P!> !?Q/>&&หO@-ลO/BN>%?Q%2C 3289 170 /".%!์%?P#?P!> !?Q/>&&N/.หO@-ลO/ 3292 หนา ๕๒ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ ลํ@ ?&#?P (ล>!,?์/B!2@ห//- -@!/@%Nล#?P -/. 171 /".%!์%?P#?P!> !?Q/>&&ค/&คB-N2"?./,@*O&&/>NลO#//%>2์ 3293 172 P-N' R++้@Oล>/"?/.@%.%!์R++้@ - />&&?NO&*ล?@%R++้@#?P2@-@/" /? '/>BQํ@Oล>"/ //R O 3316 173 O/ํ@ห% O@%ค/@-'ล/ ,?./.@%.%!์'/>N,# L1, L2, L3, L4, L5 #?PQOR0P /N%N'็%NAQ/N*ล> 3376 174 Nค/AP/N/?./ *ล@2!> 3400 175 Nค/AP//%(2-Oล>'/B2B/@ห@/QO?&P@'ิP!/Nล?.-Nหล/ 3408 176 Nค/AP/!//N)้@/>/?/Bห,C->2ํ@ห/?&!CONO&/?ค?% O@%2-//"%> NลN- 1 %> //-?&!CONO&/?ค?% 3414 NลN- 1 177 Nค/AP/!//N)้@/>/?/Bห,C->2ํ@ห/?&!CONO&/?ค?% O@%2-//"%> NลN- 2 %> />.>Rล@!CONO&/?ค?% 3414 NลN- 2 178 />&&.@ Nห%?P./(COP .2@/N O 3418 179 /B'/์'้/?%@/ล/ Q!O O@%ห%O@.@%.%!์ 3421 180 /B'/์ํ@? ค/@-N/O/.@%.%!์ 3425 181 /ลO//".%!์ 3506 182 /ลO/# O#%2ํ@ห/?&.@%.%!์Oล>2N/%*N/ 3507 183 B >Q%2N/%2ํ@ห/?&/"?/.@%.%!์R++้@ ? O'ล 3630 184 />&&'/>BR++้@(N@%!?/%ํ@/.@%.%!์R++้@ NลN- 1 O/ํ@ห% #?P/R' 61851 NลN- 1 185 />&&'/>BR++้@(N@%!?/%ํ@/.@%.%!์R++้@ NลN- 21 O/ํ@ห% .@%.%!์ R++้@2ํ@ห/?&@/NAP/-!N/(N@%!?/%ํ@R'.?OหลN[email protected]++้@/>O22ล?&//>O2!/ 61851 NลN- 21 186 />&&'/>BR++้@(N@%!?/%ํ@/.@%.%!์R++้@ NลN- 22 2"@%?'/>BR++้@ />O22ล?&2ํ@ห/?&.@%.%!์R++้@ 61851 NลN- 22 187 />&&'/>BR++้@(N@%!?/%ํ@/.@%.%!์R++้@ NลN- 23 2"@%?'/>BR++้@ />O2!/2ํ@ห/?&.@%.%!์R++้@ 61851 NลN- 23 188 />&&2Nํ@ล?R++้@R/O2@./.@%.%!์R++้@ NลN- 1 คBล?1>#?P!O/@/ #?P/R' 61980 NลN- 1 189 />&&2Nํ@ล?R++้@R/O2@./.@%.%! ์R++้@ NลN- 2 คBล?1>N*@> #?P!O/@/ O@%@/2AP/2@//>ห/N@.@%.%!์R++้@Oล>Pค/2/O@*AQ%@% 61980 NลN- 2 190 />&&2Nํ@ล?R++้@R/O2@./.@%.%! ์R++้@ NลN- 3 คBล?1>N*@> #?P!O/@/ O@%/>&&2Nํ@ล?R++้@R/O2@. O/.2%@-O-NNหลO 61980 NลN- 3 หนา ๕๓ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ ลํ@ ?&#?P (ล>!,?์/B!2@ห//- -@!/@%Nล#?P -/. 191 O&!N!//?P#B!>.,C-> (.N/O%ล>N#?.-) 2ํ@ห/?&@/?&NคลAP/%.@%.%!์R++้@ - O/ํ@ห% O@%ค/@-'ล/ ,?.2ํ@ห/?&Nลล์Oล>-/ Cล%>N>ลN-#?ลR0R / ์ 61982 NลN- 4 192 />&&2?&N'ล?P.%O&!N!//?P/.@%.%!์R++้@ NลN- 2 คBล?1>#?P!O/@/ O@%ค/@-'ล/ ,?. 62840 NลN- 2 '/>@0  /?%#?P `b !Bล@ค- *.0. `cde /?%?. *%-?. Nล@$>@/2ํ@%?@%-@!/@%(ล>!,?์/B!2@ห//- หนา ๕๔ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
124
982.pdf
GENERAL
NON
GENERAL_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/982.pdf
ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เรื่อง ก าหนดฉลากที่ภาชนะบรรจุหรือหีบห่อบรรจุกัญชาหรือกัญชงและสารสกัดของกัญชาหรือกัญชง ที่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ที่ผลิต น าเข้า หรือส่งออก พ.ศ. ๒๕๖๔ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓๔/๑ (๓) และมาตรา ๓๔/๒ (๓) แห่งพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกอบมติคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ในการประชุมครั้งที่ ๔๓๓-๙/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการควบคุมยา เสพติดให้โทษ เรื่อง ก าหนดฉลาก ที่ภาชนะบรรจุหรือหีบห่อบรรจุกัญชง และสารสกัดของกัญชง ที่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ที่ผลิต น าเข้า หรือส่งออก พ.ศ. ๒๕๖๔ ลงวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับกับผู้รับอนุญาตผลิต น าเข้า หรือส่งออกยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๕ ส าหรับกัญชาหรือกัญชง และสารสกัดของกัญชาหรือกัญชงที่เป็นยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๕ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์ต ารับยาที่มีกัญชาหรือกัญชงปรุงผสมอยู่ และกรณีที่ เป็นการศึกษา วิจัย หรือใช้ส าหรับห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ของกัญชาหรือสารสกัดของกัญชา ข้อ ๔ ในประกาศนี้ “ฉลาก ” หมายความว่า รูป รอยประดิษฐ์ เครื่องหมายหรือข้อความใด ๆ ซึ่งแสดงไว้ ที่ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุกัญชาหรือกัญชง และสารสกัดของกัญชาหรือกัญชง ที่เป็นยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๕ ข้อ ๕ ผู้รับอนุญาตผลิต น าเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ส าหรับ กัญชาหรือกัญชง และสารสกัดของกัญชาหรือกัญชง ที่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ต้องจัดให้มี ฉลากที่ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุ โดยให้อยู่ในต าแหน่งที่เห็นได้ง่ายและชัดเจน และต้องจัดท าให้แล้วเสร็จ ก่อนจ าหน่ายหรือส่งออก ข้อ ๖ ฉลากส าหรับกัญชาหรือกัญชง (ก) กรณีเมล็ดพันธุ์ อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้ (๑) ชื่อพันธุ์ ในกรณีที่ไม่ทราบชื่อพันธุ์ให้ระบุแหล่งที่มาของกัญชาหรือกัญชงนั้น (๒) ปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) (๓) อัตราความงอกของเมล็ดพันธุ์ และระบุวันเดือนปีที่ทดสอบ (๔) เดือนและปีที่รวบรวม และเดือนและปีที่สิ้นอายุการใช้ท าพันธุ์ ้หนา ๓๗ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๙๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ (๕) รุ่นการผลิต (๖) น้ าหนักสุทธิ (๗) ชื่อและสถานที่ตั้งของผู้รับอนุญาตผลิตหรือน าเข้า แล้วแต่กรณี (๘) เลขที่ใบอนุญาตผลิตหรือน าเข้ายาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ แล้วแต่กรณี (๙) ข้อความว่า “เมล็ดพันธุ์ควบคุม” และข้อความเตือน ค าว่า “เก็บไว้ในที่แห้ง เย็น ไม่ถูกแดด และมีอากาศถ่ายเท” (๑๐) เครื่องหมายการค้า (ถ้ามี) (๑๑) อัตราความบริสุทธิ์ (๑๒) อัตราส่วนของวัตถุดิบอื่นที่ผสมหรือเจือปน (ถ้ามี) (ข) กรณีที่มิใช่เมล็ดพันธุ์ อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้ (๑) ชื่อพันธุ์ ในกรณีที่ไม่ทราบชื่อพันธุ์ให้ระบุแหล่งที่มาของกัญชาหรือกัญชงนั้น (๒) ปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) (๓) เดือนและปีที่รวบรวม และเดือนและปีที่สิ้นอายุ (๔) รุ่นการผลิต (๕) น้ าหนักสุทธิ (๖) ชื่อและสถานที่ตั้งของผู้รับอนุญาตผลิตหรือน าเข้า แล้วแต่กรณี (๗) เลขที่ใบอนุญาตผลิตหรือน าเข้ายาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ แล้วแต่กรณี ข้อ ๗ ฉลากส าหรับเมล็ดพันธุ์กัญชงเพื่อการใช้ประโยชน์จากเส้นใย อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้ (๑) ชื่อพันธุ์ ในกรณีที่ไม่ทราบชื่อพันธุ์ให้ระบุแหล่งที่มาของกัญชงนั้น (๒) เดือนและปีที่รวบรวม ข้อ ๘ ฉลากส าหรับกัญชาหรือกัญชงที่จะส่งออก อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้ (๑) รายการตามข้อ ๖ (๒) ชื่อผู้ผลิตและที่ตั้งของสถานที่ผลิต และค าว่า “Thailand” (๓) ชื่อผู้ส่งออกและที่ตั้งของสถานที่ส่งออก ในกรณีที่มีตัวแทนส่งออก (๔) ข้อความว่า “For export only” ข้อ ๙ ฉลากส าหรับสารสกัดของกัญชาหรือกัญชง ที่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ อย่างน้อย ต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้ (๑) ชื่อสารสกัด โดยมีค าว่า “สารสกัดกัญชา” หรือ “สารสกัดกัญชง” เป็นส่วนหนึ่งของชื่อ (๒) ปริมาณสารส าคัญ THC และ CBD โดยแสดงเป็นร้อยละโดยน้ าหนัก (๓) ขนาดบรรจุ ให้แสดงหน่วยน้ าหนักหรือปริมาตรในระบบเมตริก กรณีของแข็งให้ใช้ หน่วยน้ าหนัก กรณีของเหลวให้ใช้หน่วยปริมาตรหรือหน่วยน้ าหนัก ้หนา ๓๘ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๙๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ (๔) ค าว่า “ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕” ด้วยอักษรสีแดงบนพื้นสีขาวมีเส้นกรอบสีแดง เห็นได้ชัดเจน (๕) วัน เดือน ปี ที่ผลิต (๖) สภาวะการเก็บรักษา (storage condition) (๗) ชื่อผู้ผลิต ผู้น าเข้ายาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ หรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ และสถานที่ตั้ง ข้อ ๑๐ ฉลากส าหรับสารสกัดของกัญชาหรือกัญชง ที่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ที่จะส่งออก อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้ (๑) รายการตามข้อ ๙ (๒) ชื่อผู้ผลิตและที่ตั้งของสถานที่ผลิต และค าว่า “Thailand” (๓) ชื่อผู้ส่งออกและที่ตั้งของสถานที่ส่งออก ในกรณีที่มีตัวแทนส่งออก (๔) ข้อความว่า “manufacturing date …” หรือ “mfg. date …” เพื่อแสดงวัน เดือน ปี ที่ผลิต และข้อความว่า “expiry date …” หรือ “exp. date …” เพื่อแสดงวัน เดือน ปี ที่ผลิตภัณฑ์สิ้นอายุ (๕) ข้อความว่า “For export only” ข้อ ๑๑ ในกรณีที่ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุมีขนาดเล็กโดยไม่สามารถแสดงรายการตามข้อ ๖ (ข) หรือข้อ ๙ ได้ทั้งหมด อย่างน้อยจะต้องมีรายการตามข้อ ๖ (ข) (๑) (๓) และ (๖) หรือตามข้อ ๙ (๑) (๒) (๕) และ (๗) ส่วนข้อความอื่น ๆ ให้จัดท าเป็นใบแทรกก ากับไว้กับภาชนะหรือหีบห่อที่บรรจุ ข้อ ๑๒ ข้อความในฉลากต้องใช้ข้อความเป็นภาษาไทย ในกรณีมีข้อความภาษาต่างประเทศ รวมอยู่ด้วย ต้องไม่ขัดกับข้อความภาษาไทย ประกาศ ณ วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖4 ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ ประธานกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ้หนา ๓๙ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๙๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
train
125
2119.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2119.pdf
'102010#1/21ค31 /N2 O/0.21?N>%R OO30.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N f`e) N1ANอ ํ2ห% อค์21 2"2%22$21B03 2"2%พ02&23 O302"2%0@12 !2//2!12 be (e) () OหN'10//311121 O30/2!12 a (b) () OหNพ101221?2 ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `ag) พ.0. `cab @NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `cb) พ.0. `cac อ2010อํ2%2!2/ค/2/Q%/2!12 be (e) () OหN'10//311121 @NOORNพ>N/N!>/P 0 พ1012&11!>OORNพ>N/N!>/'10//311121 (&1&#?N _g) พ.0. `c^f O30/2!12 a (b) () OหNพ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `ag) พ.0. `cab @NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O% .21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `cb) พ.0. `cac 11/%!1?/N22110#1/21ค31 @'1020 1!NอR'%?O Oอ _ QหO0N3>ค/2/Q% (ffe) อOอ a อ'102010#1/21ค3 1 /N2 O/0 .21?N>%R OO30.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `) N1ANอ ํ2ห% อค์21 2"2%22$21B03 2"2%พ02&23 O302"2%0 @12 !2//2!12 be ( e) ( ) OหN'10//31 1121 O30/2!12 a ( b) ( ) OหNพ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `ag) พ.0. `cab @NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O% .21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `cb) พ.0. `cac 3/1%#?N _` !B32ค/ พ.0. `cac @NOORNพ>N/N!>/P 0 '102010#1/21ค31 /N2 O/0.21?N>%R OO30.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N e^e) N1ANอ ํ2ห% อค์21 2"2%22$21B03 2"2%พ02&23 O302"2%0@12 !2//2!12 be (e) () OหN'10//311121 O30/2!12 a (b) () OหNพ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//31 1121 /N2 O/0210N/O% .21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `ag) พ.0. `cab @NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q% '10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `cb) พ.0. `cac 3/1%#?N f />"B%20% พ.0. `cd_ Oอ ` '1020%?OQหON1>N/QO&1ค1&!1OO!N/1%#?N `^ />"B%20% พ.0. `cdd N'็%!O%R' '1020  /1%#?N _d !B32ค/ พ.0. `cde B3พ1%$์ อ/1/>/1%์ 11/%!1?N/0/N221/ '>&1!>1221O#% 11/%!1?/N22110#1/21ค31 หนา ๒๓ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๐๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
126
2010.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2010.pdf
)1>@0อ&>("?1/211,@1 N?P0/?(.@1?N>'R"O ((?(%?P bbe) N1APอ ํ@ห'"ห3?N!์ />&?@1 O3>NAPอ'R N,APอ@13"อ?#1@O3>0N/O'.@1?N>'R"O 2ํ@ห1?(@1O@O1@'O3>@13%B'Q'(1>1?%ห1AอหO@หBO'2N/''>#>(Bคค3 @P)1>อ(>@1Q'N#,? '@,>N01N,@>> อ@0?0อํ@'@#@/ค/@/Q'/@#1@ d (_) O3> (d) O3>/@#1@ f /11ค2อO3>/11ค2@/ OหN,1>1@21 ?@ออ#@/ค/@/Q')1>//31 ?1@1 /N@"O/0@13"อ?#1@O3>0N/ O'1?1@1 ((?(%?P efb) ,.0. `cde อ&>("?1/211,@1 ํ@ห'"ห3?N!์ />&?@1 O3>NAPอ'RN,APอ@13"อ?#1@ O3>0N/ O'.@1?N>'R"O2ํ@ห1?(@1O@O1@'O3>@13% B'Q'(1>1?%ห1AอหO@หBO'2N/''>#>(Bคค3 @P)1>อ(>@1Q'N#,? '@,>N01N,@>> "?#NอR)'?Q Oอ _ *CO/?N>'R"O%?PN)็'O1@'+ ี/Aอห1Aอ*CON?P0/@%?P>R"O1?(2>%&>3"อ?#1@.@1?N>'R"O #@//@#1@ b O3>/@#1@ c OหN,1>1@21?@ออ#@/ค/@/Q')1>//31?1@1 /N@"O/0@13"อ?#1@ O3>0N/O'1?1@1 ((?(%?P efb) ,.0. `cde #Oอ/?คB!2/(?#> "?#NอR)'?Q (_) 1!?N)็'O1@'+ี/Aอ ( ) #Oอ2ํ@N1O@10@1@1>"?()1>@#1? ห1Aอ)1>@0'?0(?#1/>@?,?Q'2C ()/2.) ห1Aอ)1>@0'?0(?#1/>@?,N%ค'>ค ()/%.) ห1AอN%?0(N%N@@Q'R) ( ) #Oอ*N@'@1%"2อ(/@#1@'+ี/AอO1@'OหN@#>1>"?( ` Q'O#N3>2@@ %?Q'?Q #@/ห/@0/N@"O/0@12NN21>/@1,? '@+ี/AอO1@' O3> ( ค) #Oอ/?)1>2(@1!์%ํ@@'N?P0/Oอห1AอN)็')1>P0'์ON@1%ํ@@'Q'#ํ@Oห'N%?P$C/N@O@ R/N'Oอ0/N@ c )ี P"0#Oอ/?ห'?2Aอ1?(1อ@1%ํ@@'@'@0O@1@0ห'@P1@0Q" ห1Aอห3@01@0%?PO2"$@ 1>0>N/3@@1%ํ@@'1//?'#@/)1>2(@1!์@1%ํ@@'"?3N@/ (`) 1!?N)็'*CON?P0/@ ( ) #Oอ2ํ@N1O@10@1@1>"?()1>@#1?ห1AอN%?0(N%N@@Q'R) ( ) #Oอ/?)1>2(@1!์%ํ@@'%?PN?P0/Oอห1AอN)็')1>P0'์ON@1%ํ@@'Q'#ํ@Oห'N %?P$C/N@O@R/N'Oอ0/N@ f )ี P"0#Oอ/?ห'?2Aอ1?(1อ@1%ํ@@'@'@0O@1@0ห'@P1@0Q" ห1Aอห3@01@0 %?PO2"$@1>0>N/3@@1%ํ@@'1//?'#@/)1>2(@1!์@1%ํ@@'"?3N@/ Oอ ` QหO(1>1?%ห1AอหO@หBO'2N/''>#>(Bคค3@PN)็''@0O@อ*CO/?N>'R"O#@/Oอ _ OOAPอ*CO/?N>'R"O %?PN)็'3CO@@P>QO2>%&>3"อ?#1@.@1?N>'R"O#Nอ2ํ@'?@'211,@1,AQ'%?P%?P2$@')1>อ(>@1#?Qอ0CN @P/?Oอค/@/อ0N@'Oอ0#@/O((%?PO'(%O@0)1>@0'?Q Nอ'%?P>/?@1N@0N>'R"OQหOON3CO@ค1?QO1 O3>QหONO(1?1@Nอ2@1ห3?@')1>อ('?Q'R/O ! 2$@')1>อ(>@1 ,1Oอ/%?P>QหONO@,'?@')1>N/>' #1/2อ(R"O หนา ๓๑ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๙๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ Oอ a (1>1?%ห1AอหO@หBO'2N/''>#>(Bคค3%?P>R"O1?(0N/O'.@1?N>'R"O'>#>(Bคค3N)็'ํ@'/'2อN%N@ อ1@0N@0%?PR"ON@01>2ํ@ห1?(N>'3%B'Q'หBO'ห1Aอ@1N)็'หBO'2N/'อ(1>1?%ห1AอหO@หBO'2N/''>#>(Bคค3 %?P/?2$@')1>อ( >@1#?Qอ0CNQ'N#,? '@,>N01N,@>>#@//@#1@ f OหN,1>1@21 ?@ ออ#@/ค/@/Q')1>//31?1@1 /N@"O/0@13"อ?#1@O3>0N/O'1?1@1 ((?(%?P efb) ,.0. `cde '?Q' #OอN)็'R)#@/ห3?N!์ />&?@1 O3>NAPอ'R "?#NอR)'?Q (_) #OอR/N/?2$@')1>อ( >@1OหNQ"#?Qอ0CNQ'N#,? '@,>N01N,@> >N)็'N/3@ R/N'Oอ0/N@ _ )ี Nอ'@13%B''?Q' (`) #OอR/N@0ห1AอPอ'หBO'ห1Aอ@1N)็'หBO'2N/'อ(1 >1?%ห1AอหO@หBO'2N/''>#>(Bคค3 %?P/?2$@')1>อ(>@1#?Qอ0CNQ'N#,? '@,>N01N,@>> N/O'O#N1!?%?P/?Nห#Bอ?'2/ค/1@PN)็'1!? %?PR"O@0ห1AอPอ'หBO'ห1Aอค/@/N)็'หBO'2N/''?Q' N'APอ@(1>1?%ห1AอหO@หBO'2N/''>#>(Bคค3%?P/?2$@')1>อ(>@1 #?Qอ0CNQ'N#,? '@,>N01N,@>>/?ค/@/)1>2ค์%?P>N,>P/%B' @ํ@#Oอ@0ห1AอPอ'หBO'ห1Aอ@1N)็'หBO'2N/' อ(1>1?%%?P/?2$@')1>อ(>@1#?Qอ0CNQ'N#,? '@,>N01N,@>>'?Q'(@2N/' QหOON(1>1?%ห1Aอ หO@หBO'2N/''>#>(Bคค3อAP'%?PR/N/?2$@')1>อ(>@1อ0CNQ'N#,? '@,>N01N,@>> N,APอ(1>1?%ห1Aอ หO@หBO'2N/''>#>(Bคค3อAP'>NO@AQอหBO'ห1AอNO@N)็'หBO'2N/'Q'(1>1?%ห1AอหO@หBO'2N/''>#>(Bคค3%?P)1>อ(>@1 Q'N#,? '@,>N01N,@>>Q'2N/'%?P/?@1N,>P/%B'"?3N@/R"O )1>@0 ! /?'%?P 27 />$B'@0' ,.0. `c67 B30@ #?'#>N#/>% อ&>("?1/211,@1 หนา ๓๒ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๙๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
127
364.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/364.pdf
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เพื่อสุขอนามัยส าหรับมือ พ.ศ. ๒๕๖๒ ด้วยสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) ที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันนั้น การก าหนดให้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เพื่อสุขอนามัยส าหรับมือเป็นเครื่องมือแพทย์ มีขั้นตอนการอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องมือแพทย์ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดสภาวการณ์ขาดแคลนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ในขณะนี้ ดังนั้น การก าหนดมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบรวมกันตั้งแต่หรือมากกว่าร้อยละ ๗๐ โดยปริมาตร (volume by volume) ควรด าเนินกา รตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องส าอาง เพื่อให้เหมาะสมกับ สถานการณ์เร่งด่วนในปัจจุบัน อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยค าแนะน าของคณะกรรมการเครื่องมือแพทย์ ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เพื่อสุขอนามัยส าหรับมือ พ.ศ. ๒๕๖๒ ลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๒ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖3 อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ้หนา ๕ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๕๔ งราชกิจจานุเบกษา ๙ มีนาคม ๒๕๖๓
train
128
1424.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1424.pdf
ประกาศส านักงานประกันสังคม เรื่อง การด าเนินการขึ้นทะเบียนลูกจ้างแรงงานต่างด้าว โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงการด าเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาต ให้ท างานในประเทศไทย เพื่อให้การขึ้นทะเบียนลูกจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นผู้ประกันตนตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม พ.ศ. 2533 และขึ้นทะเบียนเป็นลูกจ้างของนายจ้างตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 เลขาธิการส านักงานประกันสังคม จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิก (1) ประกาศส านักงานประกันสังคม เรื่อง การด าเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2560 (2) ประกาศส านักงานประกันสังคม เรื่อง การด าเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561 (3) ประกาศส านักงานประกันสังคม เรื่อง การด าเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ข้อ 2 ให้ลูกจ้างแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติ ม และขึ้นทะเบียนเป็นลูกจ้างของนายจ้างตามพระราชบัญญัติ เงินทดแทน พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยใช้เอกสารคือ หนังสือเดินทาง ( Passport) หรือเอกสารแสดงตัวแทนหนังสือเดินทาง และใบอนุญาตท างาน ( Work Permit) เป็นหลักฐาน ในการขึ้นทะเบียน ข้อ 3 ให้ลูกจ้างแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาท างานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษส าหรับ ผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง นักลงทุน ผู้บริหารระดับสูง และผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น ซึ่งได้รับการตรวจ ลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ( Smart Visa) ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาท างานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ส าหรับผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง นักลงทุน ผู้บริหารระดับสูง และผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น ลงวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และขึ้นทะเบียนเป็นลูกจ้างของนายจ้างตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ใช้เอกสารคือ หนังสือเดินทาง ( Passport) หรือเอกสารแสดงตัวแทนหนังสือเดินทาง และเอกสารการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวกรณีพิเศษ (Smart Visa) เป็นหลักฐานในการขึ้นทะเบียน ้หนา ๔๕ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ มกราคม ๒๕๖๖ ข้อ 4 ให้ลูกจ้างแรงงานต่างด้าวที่ได้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามมาตรา 64 แห่งพระราชก าหนดการบริหารจัดการการท างานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีสัญชาติและได้รับอนุญาตให้เข้าท างานในพื้นที่ ดังต่อไปนี้ ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และขึ้นทะเบียนเป็นลูกจ้าง ของนายจ้างตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (1) สัญชาติกัมพูชา ได้รับอนุญาตให้เข้ามาท างานในพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี (2) สัญชาติเมียนมา ได้รับอนุญาตให้เข้ามาท างานในพื้นที่ อ าเภอเมืองกาญจนบุรี อ าเภอแม่สาย อ าเภอแม่จัน อ าเภอเมืองเชียงราย อ าเภอแม่ สอด อ าเภอแม่ระมาด อ าเภอพบพระ และอ าเภอเมืองระนอง การขึ้นทะเบียนตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้เอกสารคือ บัตรผ่านแดน (Border pass) หรือเอกสารราชการ ที่ประเทศต้นทางออกให้ และใบอนุญาตท างาน (Work Permit) ข้อ 5 ให้ลูกจ้างแรงงานต่างด้าวสัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ได้รับอนุญาต ให้ท างานในราชอาณาจักรถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวท างานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษส าหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ลงวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ขึ้นทะเบียนลูกจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นผู้ประกันตน ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และขึ้นทะเบียนลูกจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นลูกจ้าง ของนายจ้างตามพระราชบัญญัติเงิน ทดแทน พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยใช้เอกสารคือ ใบรับค าขออนุญาตท างานแทนคนต่างด้าวและใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียม ซึ่งออกให้โดยกรมการจัดหางาน หรือใช้บัตรประจ าตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย และใบอนุญาตท างาน ( Work Permit) เป็นหลักฐาน การขึ้นทะเบียน ข้อ 6 การขึ้นทะเบียนลูกจ้างแรงงานต่างด้าวตามข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 ให้นายจ้างมีหน้าที่ด าเนินการแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนและลูกจ้างภายในระยะเวลาสามสิบวัน นับแต่วันที่มีหลักฐานครบถ้วน ข้อ 7 กรณีลูกจ้างแรงงานต่างด้าวมีหลักฐานการขึ้นทะเบียนครบถ้วน อยู่ก่อนวันที่ประกาศนี้ มีผลใช้บังคับ ให้นายจ้างมีหน้าที่แจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนและลูกจ้างตามประกาศส านักงาน ประกันสังคม เรื่อง การด าเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 8 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖5 บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการส านักงานประกันสังคม ้หนา ๔๖ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ มกราคม ๒๕๖๖
train
129
183.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/183.pdf
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง คุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 22 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา ฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และมาตรา 39 (3) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557 คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงก าหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐาน ฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบ และซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ระดับ 1 1.1 ผู้เข้ารับการทดสอบต้องมีอายุไม่ต่ ากว่า 18 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันสมัครเข้ารับ การทดสอบ และ 1.2 มีประสบการณ์ในการท างานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคประกอบ และซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยมีใบรับรองการท างานหรือประกอบอาชีพ จากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือจากสถานประกอบกิจการ หรือ 1.3 ผ่านการฝึกอบรมฝีมือแรงงานหรือฝึกอ บรมอาชีพในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ สาขาช่างเทคนิค ประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐานไม่น้อยกว่า 60 ชั่วโมง โดยได้รับใบรับรอง การฝึกอบรมฝีมือแรงงานหรือฝึกอบรมอาชีพจากหน่วยงานฝึกอบรมหรือหน่วยงานการศึกษา หรือ 1.4 เป็นผู้จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนี ยบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในสาขาวิชา ที่เกี่ยวข้องกับสาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ข้อ 2 มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบ และซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ระดับ 2 2.1 ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ระดับ 1 และ 2.2 มีประสบการณ์ในการท างานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคประกอบ และซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐานไม่น้อยกว่า 2 ปี โดยมีใบรับรองการท างานหรือประกอบอาชีพ จากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือจากสถานประกอบกิจการ หรือ 2.3 มีประสบการณ์ในการท างานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคประกอบ และซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 1 ปี และได้คะแนนรวมภาคความสามารถ ในการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบและ ซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ระดับ 1 ไม่น้อยกว่าร้อยละเก้าสิบ หรือ ้หนา ๔๘ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๙๘ งราชกิจจานุเบกษา ๗ สิงหาคม ๒๕๖๒ 2.4 เป็นผู้จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือ อนุปริญญาในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับสาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ข้อ 3 มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบ และซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ระดับ 3 3.1 ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่ งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ระดับ 2 และ 3.2 มีประสบการณ์ในการท างานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคประกอบ และซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐานไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยมีใบรับรองการท างานหรือประกอ บอาชีพ จากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องหรือจากสถานประกอบกิจการ หรือ 3.3 มีประสบการณ์ในการท างานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคประกอบ และซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐานไม่น้อยกว่า 1 ปี และได้คะแนนรวมในการทดสอบมาตรฐาน ฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ระดับ 2 ไม่น้อยกว่าร้อยละเก้าสิบ หรือ 3.4 เป็นผู้จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือ อนุปริญญาในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับสาขาช่างเทคนิคประกอบแล ะซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน และมีประสบการณ์ในการท างานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ ต่อพ่วงพื้นฐานไม่น้อยกว่า 1 ปี ข้อ 4 ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง วิธีทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และการออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐาน ฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วง พื้นฐาน ระดับ 3 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ผู้ที่ปฏิบัติงานสาขาอาชีพช่างเครื่อง กล สาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ในสถานประกอบกิจการซึ่งปฏิบัติงานในระดับ หรือต าแหน่งที่เทียบได้ไม่ต่ ากว่าข้อก าหนดของมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ต่อพ่วงพื้นฐาน ระดับ 3 มาไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยมี ใบรับรองการท างานจากสถานประกอบกิจการที่ปฏิบัติงานอยู่ในขณะนั้น สามารถเข้ารับการทดสอบ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคประกอบและซ่อมบ ารุงอุปกรณ์ ต่อพ่วงพื้นฐาน ระดับ 3 ได้ ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖2 พันต ารวจตรีหญิง รมยง สุรกิจบรรหาร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ้หนา ๔๙ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๙๘ งราชกิจจานุเบกษา ๗ สิงหาคม ๒๕๖๒
train
130
986.pdf
GENERAL
NON
GENERAL_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/986.pdf
ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เรื่อง ห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๖๔ อาศัยอ านาจตามความในบทนิยามค าว่า “ห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ ” ของข้อ ๑ แห่งกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต น าเข้า ส่งออก จ าหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกอบมติคณะกรรมการควบคุม ยาเสพติดให้โทษในการประชุมครั้งที่ ๔๓๓-๙/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔ คณะกรรมการ ควบคุมยาเสพติดให้โทษ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ ให้ห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ดังต่อไปนี้เป็นห้องปฏิบัติการที่ให้บริการตรวจวิเคราะห์ หรือทดสอบหาปริมาณสารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) สารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) หรือสารส าคัญอื่น สารปนเปื้อน โลหะหนัก หรือสารอื่น หรือ สิ่งปนเปื้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย หรือเป็นห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจยืนยัน กรณีมีข้อสงสัย ในผลการตรวจสอบ (๑) ห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี (๒) ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 หรือเทียบเท่า (๓) ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าผ่านการทดสอบ ความช านาญหรือเปรียบเทียบผลระหว่างห้องปฏิบัติการกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงห้องปฏิบัติการของผู้รับอนุญาตที่ใช้เพื่อการตรวจวิเคราะห์หรือทดสอบกัญชา ที่ได้รับอนุญาตผลิต น าเข้า ส่งออก จ าหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองของตนเอง ประกาศ ณ วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖4 ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ ประธานกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ้หนา ๑๖ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๙๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
train
131
1419.pdf
POWER
ACTION
POWER_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1419.pdf
ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง ก าหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการค านวณ ปริมาณส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๕ อนุสนธิประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง ก าหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการค านวณปริมาณส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อให้การก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการค านวณปริมาณส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง สอดคล้องกับมติคณะอนุกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินด้าน พลังงานและสถานการณ์ปัจจุบัน อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ ามันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการค้าน้ ามันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป และจะยกเลิก ต่อเมื่อมีการยกเลิกมาตรการใช้น้ ามันดีเซลและน้ ามันเตาทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า ในช่วงสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงานโดยจะออกเป็นประกาศกรมธุรกิจพลังงานเพื่อยกเลิกในภายหลัง ข้อ ๒ ให้ยกเลิกประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง ก าหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการค านวณปริมาณส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๕ ข้อ ๓ ให้เพิ่มข้อความต่อไปนี้เป็น (๔) ของข้อ ๖ แห่งประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง ก าหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการค านวณปริมาณส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ “(๔) ปริมาณน้ ามันส าเร็จรูปที่จ าหน่ายเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและขายกระแสไฟฟ้าทั้งหมด ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย” ข้อ ๔ ข้อความอื่นใดนอกจากประกาศนี้ ให้ใช้ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง ก าหนดชนิด และอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการค านวณปริมาณส ารองน้ ามันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ ทุกประการ ประกาศ ณ วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖5 นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ้หนา ๑๗ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๓๐๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๕
train
132
1794.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1794.pdf
/>N&?.&2ํ@%?@%ค>//-@/@/ON?%#@@/คO@ /N@ O/.N>%คN@'/?& *.0. 2567 P .#?PN'็%@/2-ค//Q/O-?/>N&?.&2ํ@%?@%ค>//-@/@/ON?%#@@/คO@ /N@ O/.N>%คN@'/?& N*AP1N'็%O%/#@'>&?!>2ํ@//?&NO@/%O@#?P#?PN?P./O1 1@0?.1ํ@%@!@-ค/@-Q%-@!/@ 38 (2) O/N*/>/@&??!>@/ON?%#@@/คO@ *.0. 2560 O1 5 O1 7 O1 15 O1>O1 20 1O1&?ค?&ค>//-@/@/ON?%#@@/คO@ /N@ O/.@/N>% O1>#/?*.์2>% *.0. 2564 O1>#?POORN*>P-N!>- '/>1&?&-!>ค>//-@/@/ON?%#@@/คO@ Q%@/'/> B-ค/?Q#?P 49/2566 N-AP1/?%#?P 30 *00>@.% 2566 N1@$>@/ค>//-@/ @/ON?%#@@/คO@ P .ค/@-N/O%1&1ค>//-@/@/O N?%#@@/คO@ @11/>N&?.&R/O ?!N1R'%?Q O1 1 />N&?.&%?QN/?./N@ “ />N&?.&2ํ@%?@%ค>//-@/@/O N?%#@@/ค O@ /N@ O/.N>%คN@'/?& *.0. 2567” O1 2 />N&?.&%?QQ/OQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'/>@0Q%/@>@%BN&1@N'็%!O%R' O1 3 />N&?.&%?Q “N>%คN@'/?&” /-@.ค/@-/N@ N>%คN@'/?&#@1@@O1>N>%คN@'/?&#@'ค/1 “N>%คN@'/?&#@1@@” /-@.ค/@-/N@ N>%คN@'/?&#?Pค>//-@/Q O1ํ@%@N'/?.&N#?.& !@--@!/@ 79 O/N*/>/@&??!>@/ON?%#@@/คO@ *.0. 2560 “N>%คN@'/?&#@'ค/1” /-@.ค/@-/N@ N>%คN@'/?&!@--@!/@ 80 -@!/@ 81 -@!/@ 82 -@!/@ 83 O1>-@!/@ 84 O/N*/>/@&??!>@/ON?%#@@/คO@ *.0. 2560 “(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1” /-@.ค/@-/N@ &Bคค1(COํ@/>N>%คN@'/?&#@'ค/1 !@-คํ@2?Pค>//-@/O1>0@1'ค/1-?คํ@*>*@1@"@#?P2B Q/ON*>"1%คํ@2?P ?1N@/ O1 4 /1?N์O1>O%/'>&?!>N?P./?&@//?&N>%O1>@/คA%N>%#?P/>N&?.&%?QR-NR Oํ@/% R/O Q/O'>&?!>!@-O1&?ค?&O1>/>N&?.&#?PN?P./?&@/N>%O1>#/?*.์2>% @//?&N>% @/NO&/?1@N>% O1>@/[email protected]>% #?Pค>//-@/O1>2 ํ@%?@%ํ@/% //-#?QQ/O%ํ@/1?N์O1>O%/'>&?!>1 #@/@@/#?PN?P./O1-@QO&?ค?&P .1%BP1- O1 5 @//?&N>%คN@'/?& Q/ON/>P-!?QO!NN/1@ 08.30 %@0>@ "@N/1@ 16.30 %@0>@ 1O!N1>/?%#ํ@@/ /?R O/?&N>%คN@'/?&/1?N/1@ 16.30 %@0>@ Q/O"A1/N@N'็%@//?&N>% Q%/?%#ํ@@/"? R' O1 6 Q/ON1@$>@//?1@@/!@-/>N& ?.&%?Q O1>Q/O-?1ํ@%@11'/>@0// A1คํ@2?P /1?N์ O1>/>$?'>&?!> N*AP1'>&?!>@/Q/ON'็%R'!@-/>N&?.&%?Q หนา ๓๙ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ Q%/?#?P-?'ั/@N?P./?&@/'>&?!>@/!@-/>N&?.&%?Q Q/ON1@$>@/-?1ํ@%@/>%>?.?Q@ O1>คํ@/>%>?.%?Q%Q/O"A1N'็%#?P2B /-/ 1 @//?&N>%คN@'/?& O1 7 N-AP1ค>//-@/ ํ@/% ํ@%/%คN@'/?&#?P(CO/>#ํ@(> !O1ํ@/>!@-'/>@0 ค>//-@/@/ON?%#@@/คO@ /N@ O/./1?N์ />$?@/ O1>NAP1%RQ%@/ํ@/% ํ@%/%N>% คN@'/?&#?P>N'/?.&N#?.& //A1-?คํ@2?PQ/O(COQ ํ@/>N>%คN@'/?&#@'ค/1 Q/O)N@.&/>/@/@%ค ? N1@%B@/ค>1%B//-@/21&2/% //A1)[email protected]@!/@/O1>%>!>//-2?@ O1O/O!N/? -?/%?2A1 OO-!>//A1คํ@2?PQ/O(CO/>#ํ@ค/@-(> //A1(CO/?&คํ@2?P#/@& O1>OOQ/O)N@.@/ค1?#/@& N*AP1 ํ@N%>%@/ Q%2N/%#?PN?P./O1!N1R' O/. O1 8 @//?&ํ@/>N>%คN@'/?&Q/Oํ@/>N'็%N>%2 OคN?./์NOค /@+!์Q%'/>N#0 @/P1%N>%ํ@/>(N@%$%@ค@/ &?!/Nค/ >! &?!/N &>! $%@?!> /%N/.&/>@//?&ํ@/>N>% ํ@/>P . />$?@/N>%1>N1O#/1%>2์ //A1/>$?@/1AP%Q !@-#?PN1@$>@/'/>@0ํ@/% คN@$//-N%?.-//A1คN@QO[email protected]%@@/N/ ?.NO&N>%!@-///ค/% @P Q/O(COํ@/>N>%คN@'/?& N'็%(CO/?&,@/> O1 9 @//?&N>%คN@'/?&R-N/N@ํ@/>P ./>$?Q !@-O1 8 Q/ONO@/%O@#?P@/N>%11Q&N2/O/?&N>% Q%/?%#?PR O/?&N>%คN@'/?&ํ@%/%2@-& ?& '/>1& O/. !O%&?&O1>2ํ@N%@21& ?& P .!O%&?& -1&Q/O(CO%ํ@N>%-@ํ@/> 2ํ@N%@&?&#?P/%@PNO&R/OQ%2ํ@%/%ค ? O1>2ํ@N%@&?&#?P21-1&Q/ONO@/%O@#?P @/N>%QON'็%/1?@%Q%@/&?%#@&?? //A1? #ํ@#>N&?.%คB-@/11Q&N2/O/?&N>%Q%/>&&@/N>% 1>N1O#/1%>2์1/>&&2@/2%N#012ํ@%?@% Q%/?(COํ@/>N>%คN@'/?&ํ@/>N>%(N@%/>&&@/N>%1>N1O#/1%>2์1$%@ค@/NO@&??N>%)@ 12ํ@%?@%!@-O1 11 Q/O"A1/N@N12@/@/#ํ@$B///-#?P$%@ค@/11Q/ON'็%/1?@%Q%@//?&N>% 12ํ@%?@% N/O%O!N(COํ@/>N>%คN@'/?&OOค/@-'/>2ค์!O1@/Q&N2/O/?&N>% Q/O2ํ@%?@%? 2N Q&N2/O/?&N>%Q/O(COํ@/>N>%คN@'/?& ?1N@/ Q&N2/O/?&N>%คN@'/?&Q/ON'็%R'!@-O&&#?PN1@$>@/ํ@/% O1 10 N-AP1/?&ํ@/>N>%คN@'/?&O1O/Q/O)N@.@/ค1?%ํ@N>%คN@'/?&NO@&??N>%)@&??$%@ค@/ !@-O1 11 Q%/?%#?P/?&N>%%?Q% //A11.N@O@,@.Q%/?%#ํ@@/"? R' N/O%O!NN'็%@//?&N>%(N@%/>&& @/N>%1>N1O#/1%>2์NO@&??N>%)@12ํ@%?@% O1 11 N>%คN@'/?&Q/ONO@/%O@#?P@/N>%N'็%(CO? NO& //A1/?&(N@%/>&&@/N>%1>N1O#/1%>2์ P .%ํ@NO@&??N>%)@$%@ค@/12ํ@%?@% ?%?Q หนา ๔๐ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ (1) N>%คN@'/?&#@1@@ Q/O%ํ@NO@&??N>%)@$%@ค@/ @PN'็%/?/>2@/> AP1&?? “2ํ@%?@%ค>//-@/@/ON?%#@@/คO@ - N>%คN@'/?&#@1@@” (2) N>%คN@'/?&#@'ค/1 Q/O%ํ@NO@&??N>%)@$%@ค@/ @PN'็%/?/>2@/> AP1&?? “2ํ@%?@%ค>//-@/@/ON?%#@@/คO@ - N>%คN@'/?&#@'ค/1” /-/ 2 @/N@.คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1 O1 12 N-AP10@1-?คํ@*>*@1@"@#?P2B O1O/O1>ค>//-@/- ?-!>Q/ON@.คA%N>%คN@'/?& #@'ค/1*/ O1- 1N& ?Q.ON(COQ N'็%ํ@%/%N>%N#N@Q Q/O)N@.&/>/@/@%ค ?OO)N@.@/ค1 ? N*AP1คA%N>% ?1N@/P .N/O/ O1 13 Q/O2ํ@%?@%-?/%?2A1OO(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1N*AP1Q/O(CO-?2>#$>/?&คA% N>%คN@'/?&#@'ค/1/?&N>%!@-คํ@*>*@1@10@1 O1 14 @/N@.คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1!@- O1 12 Q/O[email protected]'็%NOค P .Q/ONO@/%O@#?P @/N>%? #ํ@/1?@%@/N@.คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1ํ@%/%2@-&?&O1O/Q/O(CO/?&คA%N>%1[email protected]AP1 /?&N>%#?Q2@-&?&N*AP1//-R/OQ%2ํ@%/%ค ?/%@P&?& NO&R/ON'็%/1?@%Q%@/1& ??/%@P&?& O1>NO&R/ON'็%/1?@%@/N@.คA%N>%1?/%@P&?& //A1? #ํ@#>N&?.%/1?@%@/[email protected]>%คA%Q%/>&& @/N>%1>N1O#/1%>2์1/>&&2@/2%N#012ํ@%?@% Q%/?#?P(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1'/>2ค ์Q/O%ํ@NOค!@-///ค/%@P)@NO@&?? $%@ค@/1&Bคค1 ?1N@/P ..>%.1-Q/O2ํ@%?@%/?N>%คN@$//-N%?.-//A1คN@QO[email protected]@1AP%!@-#?P $%@ค@/N/?.NO&@N>%#?PR O/?&2ํ@%?@%> ํ@N%>%@/Q/O!@-ค/@-'/>2ค์OR O O1 15 "O@(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/11/?&NOคN>%/>.>N/1@/N A1%%?&O!N/?%#?P 11NOคQ/O.N1>NOค%?Q%O1O/11NOคQ/-N O1 16 "O@(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1R- NR O%ํ@NOคคA%N>%คN@'/?&R'N/?.NO&N>% %N>%/>.>N/1@/%@P'ี%?&O!N/?%11NOค "O@(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1%ํ@-@1Q/ON'1?P.%NOคQ/-N Q/O.N1>NOคO1O/11NOคQ/-N O1 17 "O@(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1/?&NOคคA%N>%คN@'/?&R'O1O/ O!N,@./1? NOค%?Q%ํ@/B //A12C/@. //A1Q%/?$%@ค@/'>N2$@/[email protected]>%Q/ONO@/%O@#?P@/N>% ํ@N%>%@/ ?%?Q (1) /?NOคํ@/B O1>$%@ค@/' >N2$[email protected]>% Q/O(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1 %ํ@NOค*/O1-/1?@%#?P$%@ค@/'>N2$@/[email protected]>%-@O2 O1>Q/ ONO@/%O@#?P ํ@N%>%@/.N1>NOค%?Q% O1O/11NOคQ/OQ/-N หนา ๔๑ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ (2) /?NOค2C/@. N-AP1(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1O2 /1?@%&?%#@'/>ํ@/?% 1NO@/%O@#?P!ํ@///N@NOค2C/@.Q/ONO@/%O@#?P@/N>% ํ@N%>%@/OO$%@ค@//>?&@/[email protected]>%!@-NOค%?Q% P .N/O/ N-AP1$%@ค@/OO/N@R O/>?&@/[email protected]>%!@-NOค%?Q%O1O/ Q/ONO@/%O@#?P ํ@N%>%@/.N1>NOค%?Q% O1O/11NOคQ/OQ/-N (3) /?$%@ค@/'>N2$@/[email protected]>%!@-'/>-/1/[email protected]*NO1>*@>.์ -@!/@ 991 (2) N%AP1@(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1%ํ@NOคคA%N>%คN@'/?&R'@Q%N>%?&$%@ค@/N>%/N A1% %?&O!N/?%#?P11NOค Q/O(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1% ํ@NOค*/O1-/1?@%#?P$%@ค@/'>N2$ @/[email protected]>%-@O2 N* AP11Q/ON'1?P.%NOคQ/OQ/-N,@.Q%/>.>N/1@/% @P'ี%?&O!N/?%11NOคO1>Q/ O NO@/%O@#?P ํ@N%>%@/.N1>NOค%?Q% O1O/11NOคQ/OQ/-N (4) NOค#?P$%@ค@/'>N2$@/[email protected]>%N*/@>N/!B1AP%%1@#?P1N@/Q%O1 (1) - (3) Q/O(CO-?2>#$> /?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1 %ํ@NOค%?Q%*/O1-/1?@%#?P$%@ค@/'>N2$@/[email protected]>%-@O2 O1>Q/O NO@/%O@#?P@/N>% ํ@N%>%@/OOR!@-#?Pํ@N'็% //A1.N1>NOค%?Q%O1>11NOคQ/-N O1O/O!N/? /-/ 3 @/2NN>%N'็%/@.R OO(N% >% O1 18 N>%คN@'/?&#@1@@O1> 1N&?Q.#?PN> @@/)@N>%!@-O1 11 (1) Q/O2ํ@%?@% %ํ@2Nค1?N'็%/@.R OO(N% >%Q%#BR!/-@21#B'ี O1 19 N>%คN@'/?&#@'ค/1Q/O2ํ@%?@%%ํ@2Nค1?N'็%/@.R OO(N% >%P .N/O/ N-AP1*O%ํ@/% />.>N/1@@/+O1ค ? //A1N-AP10@1-?คํ@*>*@1@"@#?P2B O1O/O!N/? !@--@!/@ 46 O/N*/>/@&??!> @/ON?%#@@/คO@ *.0. 2560 P .)[email protected]@!/@/O1>% >!>//-2?@//A1)N@.&/>/@/@%ค ? O1O/O!N/? >N'็%(CO!//21&O1>-?/%?2A1OOQ/O)N@.@/ค1?#/@&!@-%?. ?1N@/ 1N&?Q.N>%คN@'/?&#@'ค/1#?PN> @@/)@N>%!@-O1 11 (2) Q/O2ํ@%?@%%ํ@2Nค1? N'็%/@.R OO(N% >%*/O1-?&@/%ํ@2NN>%คN@'/?&#@'ค/1!@-///ค/%@P /-/ 4 N>%คO@N@. O1 20 /@(CO-?2>#$>/?&คA%N>%คN@'/?&#@'ค/1!@--!>ค>//-@/->R ON/?.N1@,@.Q%/O@'ี %?&O!N/?%#?PR O/?&OO-!>ค>//-@/ Q/O2ํ@%?@%%ํ@2NN>% ?1N@/O1> 1N&?Q.#?PN> @@/)@N>% !@-O1 11 (2) N'็%/@.R OO(N% >%N-AP1ค/&N/1@O@!O%P .N/O/ หนา ๔๒ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ &#N*@>@1 O1 21 &// @@/Q N ?P./O1?&@// ?&N>%O1>@/ค A%N>%คN@'/?&#?P1.CN/>// N@ @/ ํ@N%>%@/O1>. ?R-NO1O/N2/OQ%/?%N1%/?%#?P/>N&?.&%?Q-?(1&?ค?&QOQ/O ํ@N%>%@/!N1R'!@- /1?N์ O1>/>$?@/N >-%/N@>O1O/N2/O '/>@0  /?%#?P 5 -/@ค- *.0. ๒_`7 (CON/.0@2!/@@/.์/>1B /0์2>%0>/>B1 N1@$>@/ค>//-@/@/ON?%#@@/คO@ หนา ๔๓ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
133
1570.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1570.pdf
ค ำสั่งส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมือง ที่ 108/๒๕๖6 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีกำรปฏิบัติในกำรคัดกรองและตรวจสอบเอกสำรล่วงหน้ำส ำหรับคนต่ำงด้ำว ผู้ยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Extension of Temporary Stay in The Kingdom : e - Extension) ตำมค ำสั่งส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมือง ที่ 87/2565 ลงวันที่ 26 เมษำยน พ.ศ. 2565 ก ำหนดวิธีกำรยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Extension of Temporary Stay in The Kingdom : e - Extension) ให้พนักงำน เจ้ำหน้ำที่คัดกรองและตรวจสอบเอกสำรล่วงหน้ำ พร้อมทั้งนัดหมำยให้คนต่ำงด้ำวมำพบ พนักงำนเจ้ำหน้ำที่เพื่อประทับตรำหรือติดแผ่นปะอนุญำตให้อยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวต่อไป เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทำงกำรพัฒนำประเทศ และยุทธศำสตร์กำรปรับเปลี่ยนภำค รัฐสู่กำรเป็นรัฐบำล ดิจิทัล รวมทั้งยกระดับกำรอ ำนวยควำมสะดวกให้อยู่ในระดับสำกล ( World Class) ภำยใต้กำรรักษำ มำตรฐำนควำมมั่นคงของประเทศ นั้น โดยที่สมควรปรับปรุงค ำสั่งส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมือง ที่ 87/2565 เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีกำรปฏิบัติในกำรคัดกรองแ ละตรวจสอบเอกสำรล่วงหน้ำส ำหรับคนต่ำงด้ำวผู้ยื่นค ำขออนุญำต เพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronics Extension of Temporary Stay in The Kingdom : e - Extension) ลงวันที่ 26 เมษำยน พ.ศ. 2565 ในส่วนบทอำศัยอ ำนำ จให้สอดคล้องกับพระรำชบัญญัติต ำรวจแห่งชำติ พ.ศ. 2565 และระเบียบ ก.ต.ช. ว่ำด้วยหลักเกณฑ์กำรปฏิบัติรำชกำรของผู้บัญชำกำรในฐำนะเป็นอธิบดีหรือแทนผู้บัญชำกำร ต ำรวจแห่งชำติ พ.ศ. 2565 อำศัยอ ำนำจตำมควำมในข้อ 4 วรรคหนึ่ง ของระเบียบ ก.ต.ช. ว่ำด้วยหลักเก ณฑ์ กำรปฏิบัติรำชกำรของผู้บัญชำกำรในฐำนะเป็นอธิบดีหรือแทนผู้บัญชำกำรต ำรวจแห่งชำติ พ.ศ. 2565 ประกอบมำตรำ 35 แห่งพระรำชบัญญัติคนเข้ำเมือง พ.ศ. 2522 ภำยใต้บทบัญญัติมำตรำ 6 และมำตรำ 19 แห่งพระรำชบัญญัติกำรปฏิบัติรำชกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 รวมทั้งวิธีกำร ทำงอิเล็กทรอนิกส์ตำมที่คณะรัฐมนตรีมีมติก ำหนด ผู้บัญชำกำรส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมืองจึงให้ยกเลิก ค ำสั่งส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมือง ที่ 87/2565 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีกำรปฏิบัติในกำรคัดกรอง และตรวจสอบเอกสำรล่วงหน้ำส ำหรับคนต่ำงด้ำวผู้ยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว โดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronics Extension of Temporary Stay in The Kingdom : e - Extension) ลงวันที่ 26 เมษำยน พ.ศ. 2565 และก ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีกำรปฏิบัติ ในกำรคัดกรองและตรวจสอบเอกสำรล่วงหน้ำ ส ำหรับคนต่ำงด้ำวผู้ยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักร เป็นกำรชั่วครำวโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Extension of Temporary Stay in The Kingdom : e - Extension) ไว้ ดังต่อไปนี้ ้หนา ๕๕ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๑ งราชกิจจานุเบกษา ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ ข้อ 1 ในค ำสั่งนี้ “อิเล็กทรอนิกส์” ให้มีควำมหมำยตำมที่บัญญัติไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ “ข้อควำม” ให้มีควำมหมำยตำมที่บัญญัติไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ “ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ” ให้มีควำมหมำยตำมที่บัญญัติไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยธุรกรรม ทำงอิเล็กทรอนิกส์ “ผู้ส่งข้อมูล” ให้มีควำมหมำยตำมที่บัญญัติไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ “ผู้รับข้อมูล” ให้มีควำมหมำยตำมที่บัญญัติไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยธุรกรรมทำงอิเล็กทรอนิกส์ “บุคคลที่เป็นสื่อกลำง ” ให้มีควำมหมำยตำมที่บัญญัติไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยธุรกรรม ทำงอิเล็กทรอนิกส์ “วิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์” หมำยควำมรวมทั้งและใช้ตลอดถึงกำรด ำเนินกำรใด ๆ ที่กฎหมำย ว่ำด้วยคนเข้ำเมืองหรือกฎหมำยอื่นที่เกี่ยวข้องบังคับให้จัดท ำ ยื่น ส่ง รับ เก็บรักษำ กำรอนุญำต กำรช ำระเงิน หรือด ำเนินกำรอื่นใดโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือบำงส่วน “ระบบท ำกำรแทน” หมำยควำมว่ำ ระบบและเครือข่ำยกลำงในกำรเชื่อมโยงข้อมูลระหว่ำง สมำชิก หน่วยงำน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นระบบที่พัฒนำขึ้นเพื่อท ำหน้ำที่เป็นตัวกลำงในกำรเชื่อมต่อ ข้อมูลเข้ำกับร ะบบสำรสนเทศตรวจคนเข้ำเมือง เพื่อลดกำรเกิดควำมเสี่ยงในกำรเกิดข้อผิดพลำด จำกกำรด ำเนินกำร (human errors) กำรปลอมแปลงเอกสำรและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ “ตัวแทนผู้ยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Extension of Temporary Stay in The Kingdom : e - Extension)” หมำยควำมถึง ผู้ประกอบกำรซึ่งเป็นผู้ให้บริกำรบันทึกข้อมูลและรับส่งข้อมูลทำงอิเล็กทรอนิกส์กับระบบสำรสนเทศ ตรวจคนเข้ำเมือง หรือด ำเนินกำรอื่นใดตำมที่ส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมืองก ำหนดในนำมของคนต่ำงด้ ำว ที่มีคุณสมบัติยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว ข้อ 2 เพื่อประโยชน์แก่กำรให้บริกำรคนต่ำงด้ำวยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักร เป็นกำรชั่วครำว ให้ใช้วิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ในระบบท ำกำรแทนในกำรรับและส่งผ่ำนข้อมูลไปยัง ระบบสำรสนเทศตรวจคนเข้ำเมืองได้ ดังนี้ 2.1 ภำยใต้หลักเกณฑ์ของกฎหมำยว่ำด้วยกำรปฏิบัติรำชกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ ในกำรยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวโดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Extension of Temporary Stay in The Kingdom : e - Extension) 2.1.1 ห้ำมปฏิเสธควำมผูกพันและกำรบังคับใช้กฎหมำยของข้อควำมใด เพียงเพรำะเหตุที่ข้อควำมนั้นอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ้หนา ๕๖ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๑ งราชกิจจานุเบกษา ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ 2.1.2 ในกรณีที่กฎหมำยก ำหนดให้กำรใดต้องท ำเป็นหนังสือ มีหลักฐำน เป็นหนังสือ หรือมีเอกสำรมำแสดง ถ้ำได้จัดท ำข้อควำมขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สำมำรถเข้ำถึงและ น ำกลับมำใช้ได้โดยควำมหมำยไม่เปลี่ยนแปลง ให้ถือว่ำข้อควำมนั้นเป็นหนังสือ มีหลักฐำนเป็นหนังสือ หรือมีเอกสำรมำแสดงแล้ว 2.1.3 ในกรณีที่ต้องลงลำยมือชื่อในหนังสือ ให้ถือว่ำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้น มีกำรลงลำยมือชื่อแล้ว เมื่อได้ด ำเนินกำรตำมรูปแบบที่ส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมืองก ำหนด 2.2 กำรยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวตำมค ำสั่งนี้ ให้กระท ำโดยส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่ำนบุคคลที่เป็นสื่อกลำงผู้ให้บริกำรระบบท ำกำรแทนเข้ำสู่ระบบ สำรสนเทศตรวจคนเข้ำเมือง ตำมรูปแบบที่ส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมืองก ำหนดแทนกำรจัดท ำ ยื่น ส่ง รับเอกสำร และกำรลงลำยมือชื่อในแบบ ตม.7 ( Application for Extension of Temporary Stay in The Kingdom) 2.3 กำรส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ส่งข้อมูลเข้ำสู่ระบบสำรสนเทศตรวจคนเข้ำเมือง ทดแทนเอกสำรใด หำกระบบสำรสนเทศตรวจคนเข้ำเมืองผู้รับข้อมูลได้ท ำกำรตอบรับข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์นั้น ๆ ในกำรยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวแล้ว ถือเป็นกำร ยื่นเอกสำรนั้นตำมกฎหมำยว่ำด้วยคนเข้ำเมืองและกฎหมำยอื่นที่เกี่ยวข้องแล้ว ข้อ 3 วิธีกำรยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวโดยวิธีกำรทำง อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Extension of Temporary Stay in The Kingdom : e - Extension) กำรคัดกรอง กำรตรวจสอบเอกสำรล่วงหน้ำ และกำรนัดหมำยให้คนต่ำงด้ำวมำพบพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ เพื่อประทับตรำอนุญำตให้อยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวต่อไป มีขั้นตอนด ำเนินกำร ดังนี้ 3.1 กำรส่งข้อมูลและกำรช ำระค่ำธรรมเนียม 3.1.1 กำรส่งข้อมูล ให้ตัวแทนผู้ยื่นค ำขออนุ ญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว โดยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronics Extension of Temporary Stay in The Kingdom : e - Extension) จัดท ำข้อมูลโดยอ้ำงอิงกับหน้ำข้อมูลหนังสือเดินทำง (Passport information page) ของคนต่ำงด้ำวที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในกำรยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว และข้อมูลอื่น ๆ ตำมค ำสั่งที่เกี่ยวข้องตำมรูปแบบที่ส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมืองก ำหนด และส่งข้อมูล ทำงอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้ำเข้ำสู่ระบบท ำกำรแทน โดยให้มีหน้ำที่รับผิดชอบต รวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วน ถูกต้องก่อนส่งข้อมูลล่วงหน้ำทำงอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่สำมำรถคัดกรองและ ตรวจสอบล่วงหน้ำและนัดหมำยให้คนต่ำงด้ำวมำพบพนักงำนเจ้ำหน้ำที่เพื่อประทับตรำอนุญำต ให้อยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวต่อไป ้หนา ๕๗ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๑ งราชกิจจานุเบกษา ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ 3.1.2 กำรช ำระค่ำธรรมเนียม ให้ผู้ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด ำเนินกำรตำมรูปแบบที่ส ำนักงำนตรวจ คนเข้ำเมืองก ำหนด เพื่อช ำระค่ำธรรมเนียมในอัตรำตำมที่ก ำหนดในกฎกระทรวงเป็นสกุลเงินไทยเท่ำนั้น (THAI CURRENCY ONLY) ทั้งนี้ จะได้รับกำรพิจำรณำอนุญำตหรือไม่ก็ตำม จะไม่คืนเงินค่ำธรรมเนียม ในทุกกรณี 3.2 กำรคัดกรองและตรวจสอบเอกสำรล่วงหน้ำ ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ที่ได้รับมอบหมำยด ำเนินกำรคัดกรองและตรวจสอบ เอกสำรอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้ำ ( Pre-Approved) ในระบบท ำกำรแทน ให้เป็นไปตำมค ำสั่งส ำนักงำน ตรวจคนเข้ำเมือง ที่ 138/25 57 เรื่อง รำยกำรเอกสำรประกอบกำรพิจำรณำกรณีคนต่ำงด้ำว ขออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว ลงวันที่ 7 กรกฎำคม 2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พร้อมทั้งตรวจสอบกำรช ำระค่ำธรรมเนียมให้เสร็จสิ้นและตอบกลับแจ้งให้คนต่ำงด้ำวก ำหนดนัดหมำย วันที่จะมำพบพนักงำนเจ้ำหน้ำที่เพื่อประทับตรำอนุญำตให้อยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวต่อไป ข้อ 4 กำรประทับตรำอนุญำตให้อยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวต่อไป เมื่อคนต่ำงด้ำวที่ผ่ำนกำรคัดกรองและตรวจสอบเอกสำรอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้ำ แล้วมำพบพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ตำมก ำหนดนัดหมำย ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ตรวจสอบกำรผ่ำนกำรคัดกรอง กำรตรวจสอบเอกสำรอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้ำ และช ำระค่ำธรรมเนียมในระบบสำรสนเทศตรวจคนเข้ำเมือง รวมทั้งตรวจสอบหนังสือเดินทำงหรือเอกสำรใช้แทนหนังสือเดินทำง ระยะเวลำกำรอยู่ในรำชอำณำจักร และข้อมูลบุคคลต้องห้ำม และเ ฝ้ำดูอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงประทับตรำหรือติดแผ่นปะกำรอนุญำตให้อยู่ใน รำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว พร้อมทั้งถ่ำยภำพคนต่ำงด้ำว และบันทึกข้อมูลลงในระบบสำรสนเทศ ของส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมือง ข้อ 5 กำรยื่นเอกสำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ หรือกำรด ำเนินกำรใด ๆ เฉพำะที่กระท ำในรูป ของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับระบบสำรสนเทศตรวจคนเข้ำเมืองตำมค ำสั่งนี้ ให้มีก ำหนดเวลำตลอด ยี่สิบสี่ชั่วโมง โดยไม่เว้นวันหยุดรำชกำร ข้อ 6 ตัวแทนผู้ยื่นค ำขออนุญำตเพื่ออยู่ในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวโดยวิธีกำรทำง อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Extension of Temporary Stay in The Kingdom : e - Extension) ล่วงหน้ำในระบบท ำกำรแทนต้องได้รับอนุญำตจำกผู้บัญชำกำรส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมืองก่อน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 3 เมษำยน พ.ศ. ๒๕๖6 พลต ำรวจโท ภำคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชำกำรส ำนักงำนตรวจคนเข้ำเมือง ้หนา ๕๘ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๑ งราชกิจจานุเบกษา ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๖
train
134
1122.pdf
SSHE
ACTION
SSHE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1122.pdf
ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ก าหนดโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการ ซึ่งต้องจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ก าหนดโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการ ซึ่งต้องจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกข้อความในข้อ ๗ (๗) (ก) ของประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม เรื่อง ก าหนดโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการ ซึ่งต้องจัดท ารายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดท ารายงานการประเ มินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “(ก) ต้นฉบับรายงาน ส าเนาต้นฉบับรายงาน และข้อมูลต้นฉบับรายงานในรูปแบบ ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ตามที่ส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศก าหนด” ข้อ ๒ ให้ยกเลิกข้อความในข้อ ๘ (๑) (ค) ของประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม เรื่อง ก าหนดโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการ ซึ่งต้องจัดท ารายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “(ค) สภาพสิ่งแวดล้อมปัจจุบัน ให้แสดงรายละเอียดพร้อมภาพถ่ายทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ทางชีวภาพ คุณค่าการใช้ประโยชน์ขอ งมนุษย์ และคุณค่าต่อคุณภาพชีวิต โดยต้องมีรายละเอียดของผลการศึกษาด้านเศรษฐกิจสังคมและการมีส่วนร่วมของประชาชน ตลอดจน สภาพปัญหาปัจจุบัน พร้อมกับให้แสดงแผนที่สภาพแวดล้อม และการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยรอบที่อาจ ได้รับผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจากการด าเนินกา ร ทั้งนี้ การด าเนินการเพื่อรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชน และการด าเนินการเพื่อประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านสุขภาพ ส าหรับโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการ ให้เป็นไปตามแนวทางที่ส านักงานนโยบายและ แผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศก าหนด” ้หนา ๑๒ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๖๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๕ ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อความในข้อ ๘ (๔) (ก) และข้อ ๘ (๔) (ข) ของประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ก าหนดโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการ ซึ่งต้องจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการจัดท ารายงานก ารประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “(ก) ต้นฉบับรายงานฉบับหลัก ตาม (๑) ส าเนาต้นฉบับรายงานฉบับหลัก และข้อมูล ต้นฉบับรายงานฉบับหลักในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ตามที่ส านักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศก าหนด (ข) กรณีโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการ ของหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ ด าเนินการร่วมกับเอกชนที่ต้องจัดท ารายงานฉบับย่อตาม (๓) ให้ผู้ด าเนินการ ผู้ขออนุญาต หรือหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการจัดส่งต้นฉบับของรายงานฉบับย่อ และข้อมูลรายงานฉบับย่อในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ตามที่ส านักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศก าหนด” ข้อ ๔ ให้ยกเลิกข้อความในข้อ ๑๔ ของประกาศกระท รวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม เรื่อง ก าหนดโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการ ซึ่งต้องจัดท ารายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๑๔ ให้ผู้ด าเนินการ ผู้ขออนุญาต หรือหัวหน้าหรือผู้รักษาการแทนหัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐซึ่งรับผิดชอบโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการจัดส่งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ตามข้อ ๗ หรือรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามข้อ ๘ แล้วแต่กรณี มายังส านักงาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือหน่วยงานของรัฐที่ได้รับมอบหมาย จากส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยื่นข้อมูลเกี่ยวกับรายงาน ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นหรือรายงานการประเมินผลกระท บสิ่งแวดล้อมดังกล่าวผ่านทางระบบ อิเล็กทรอนิกส์ ตามที่ส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศก าหนดด้วย โดยให้ถือว่าส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือหน่วยงานของรัฐที่ได้รับ มอบหมายจากส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมได้รับรายงานไว้ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ นับแต่วันประทับรับเอกสาร” ข้อ ๕ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖5 วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ้หนา ๑๓ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๖๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๕
train
135
188.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/188.pdf
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง วิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และการออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างควบคุมงานเชื่อมอาร์กด้วยหุ่นยนต์ ระดับ ๑ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๒ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา ฝีมือแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๕ และมาตรา ๓๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงก าหนดวิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและการออก หนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่ องกล สาขาช่างควบคุมงานเชื่อมอาร์กด้วยหุ่นยนต์ ระดับ ๑ ไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ วิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างควบคุมงานเชื่อมอาร์กด้วยหุ่นยนต์ ระดับ ๑ ๑.๑ การทดสอบความรู้ ความเข้าใจ เป็นการทดสอบความรู้ ความเข้าใจ ที่จ าเป็นจะต้องน าไปใช้ในการปฏิบัติงาน ได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัยชนิด ๔ ตัวเลือก จ านวน ๕o ข้อ ใช้เวลาในการทดสอบ 60 นาที คิดเป็นร้อยละยี่สิบของคะแนนทั้งหมด ผู้เข้ารับการทดสอบต้องทดสอบ ได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบ จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการทดสอบความสามารถ ๑.๒ การทดสอบความสามารถ เป็นการทดสอบภาคปฏิบัติเกี่ยวกับการเรียกใช้โปรแกรมที่บันทึกไว้การทดสอบ การท างานของโปรแกรมก่อนการเชื่อมจริง การประกอบชิ้นงานเข้ากับโต๊ะเชื่อม และปฏิบัติการเชื่อม ตามโปรแกรม ใช้เวลาในการทดสอบ 120 นาที คิดเป็นร้อยละแปดสิบของคะแนนทั้งหมด โดยมี ทั้งหมด ๕ งาน ดังนี้ (๑) การปฏิบัติตามกฎระเบียบความปลอดภัยในการท างาน (๒) การเตรียมความพร้อมของวัสดุอุปกรณ์และหุ่นยนต์เชื่อม (๓) การเรียกใช้โปรแกรมที่บันทึกไว้ในเครื่องควบคุมหุ่นยนต์เชื่อม (๔) การบ ารุงรักษาและการท าความสะอาดหุ่นยนต์เชื่อม (๕) การลงบันทึกจ านวนรายการผลิต ผู้เข้ารับการทดสอบต้องทดสอบภาคความสามารถทั้ง ๕ งาน ในแต่ละงาน ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละแปดสิบ และต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบทุกงานที่ก าหนดไว้ ๑.๓ รายละเอียดวิธีการทดสอบให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศก าหนด ้หนา ๓๔ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๙๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๗ สิงหาคม ๒๕๖๒ ข้อ ๒ การออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างควบคุมงานเชื่อมอาร์กด้วยหุ่นยนต์ ระดับ ๑ จะออกให้แก่ผู้ผ่านการทดสอบ โดยมีเกณฑ์ ดังนี้ ๒.๑ ผู้เข้ารับการทดสอบต้องทดสอบได้คะแนนการภาคความรู้ ความเข้าใจ และ ภาคความสามารถรวมกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบสี่ของคะแนนทั้งหมด จึงจะถือว่าผ่านการทดสอบ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างควบคุมงานเชื่อมอาร์กด้ วยหุ่นยนต์ ระดับ ๑ ๒.๒ กรณีผู้เข้ารับการทดสอบได้คะแนนรวมผ่านการทดสอบร้อยละเจ็ดสิบสี่ แต่ได้คะแนนภาคความสามารถในงานใดงานหนึ่งไม่ผ่านเกณฑ์ที่ก าหนด ให้สามารถเข้ารับการทดสอบใหม่ ในงานนั้น ๆ ภายในระยะเวลา ๑๒ เดือน นับแต่วันที่ประกาศผล ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖2 พันต ารวจตรีหญิง รมยง สุรกิจบรรหาร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ้หนา ๓๕ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๙๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๗ สิงหาคม ๒๕๖๒
train
136
620.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/620.pdf
ค ำสั่งศูนย์ปฏิบัติกำรแก้ไขสถำนกำรณ์ฉุกเฉินด้ำนควำมมั่นคง ที่ 2/๒๕๖๔ เรื่อง กำรปฏิบัติตำมข้อก ำหนดออกตำมควำมในมำตรำ ๙ แห่งพระรำชก ำหนดกำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๒) เพื่อให้กำรปฏิบัติตำมข้อก ำหนดออกตำมควำมในมำตรำ ๙ แห่งพระรำชก ำหนด กำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๗) ลงวันที่ ๖ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔ และค ำสั่งที่เกี่ยวข้อง เป็นไปด้วยควำมเรียบร้อย อำศัยอ ำนำจตำมค ำสั่งนำยกรัฐมนตรี ที่ ๔/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๒๕ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งผู้ก ำกับกำรปฏิบัติงำน หัวหน้ำ ผู้รับผิดชอบและพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ในกำรแก้ไขสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน ข้อ ๓ (๖) ข้อ ๔ และข้อ ๕ ค ำสั่งนำยกรัฐมนตรี ที่ ๓๙/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๒๕ ธันวำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง กำรจัดโครงสร้ำง ของศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (โควิด - 19) เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๕) และค ำสั่งศูนย์ปฏิบัติกำรแก้ไขสถำนกำรณ์ฉุกเฉินด้ำนควำมมั่นคง ที่ ๑/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๒๗ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง กำรจัดโครงสร้ำงของศูนย์ปฏิบัติกำรแก้ไขสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน ด้ำนควำมมั่นคง ข้อ ๑ จึงก ำหนดแนวทำงกำรปฏิบัติดังนี้ ๑. เพิ่มควำมเข้มงวดในกำรตรวจกิจกำรและกิจกรรมต่ำง ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบกำร ผู้ใช้บริกำร ผู้เดินทำง และประชำชนทั่วไปปฏิ บัติตำมมำตรกำรป้องกันโรคอย่ำงเคร่งครัด ด้วยกำรรักษำระยะห่ำง กำรสวมหน้ำกำกผ้ำหรือหน้ำกำกอนำมัย กำรล้ำงมือ กำรตรวจวัดอุณหภูมิร่ำงกำย และกำรติดตั้ง และใช้ระบบแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ควบคู่กับกำรใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ภำยใต้กรอบของ ข้อก ำหนดซึ่งออกตำมควำมในมำตรำ ๙ แห่งพระรำชก ำหนดกำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ๒. ให้จัดตั้งจุดตรวจหรือจุดสกัดโดยบูรณำกำรกำรปฏิบัติกับจังหวัด และกรุงเทพมหำนคร เพื่อคัดกรองกำรเดินทำงเข้ำออกเขตพื้นที่ตำมมำตรกำรที่ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด หรือผู้ ว่ำรำชกำร กรุงเทพมหำนครก ำหนด ๓. ให้กวดขัน สอดส่องและเฝ้ำระวังเพื่อป้องกันกำรลักลอบเข้ำเมืองโดยผิดกฎหมำย กำรเปิดให้มีกำรมั่วสุมลักลอบเล่นกำรพนัน อันเป็นสำเหตุแห่งกำรระบำดของโรค ให้เพิ่มควำมเด็ดขำดในกำรด ำเนินกำรปรำบปรำมและลงโทษพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ เจ้ำหน้ำที่ ของรัฐ รวมทั้งบุคคลใดก็ตำมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนกำรลักลอบขนย้ำยแรงงำนต่ำงประเทศโดยมิได้ ผ่ำนกระบวนกำรตรวจสอบ กำรคัดกรองโรค และกำรกักกันตัวตำมมำตรกำรทำงสำธำรณสุข ตลอดจน กำรปล่อยปละละเลย ละเว้นกำรปฏิบัติหน้ำที่ เอื้ออ ำนวยหรือสมรู้ร่วมคิดให้มีกำรเปิดบ่อนกำรพนันขึ้น ในพื้นที่ต่ำง ๆ โดยให้ด ำเนินกำรตำมขั้นตอนทำงกฎหมำยทั้งทำงวินัยและทำงอำญำ ้หนา ๓๑ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๘ มกราคม ๒๕๖๔ ให้สนับสนุนกำรมีส่วนร่วมตรวจสอบของภำคประชำชนในกำรแจ้งเบำะแสมำที่นำยกรัฐมนตรี ผ่ำนศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์โควิด - 19 ท ำเนียบรัฐบำล หำกพบเห็นกำรกระท ำ หรือกำรปล่อยปละละเว้น กำรกระท ำซึ่งเป็นควำมผิดตำมกฎหมำยและส่งผลกระทบเป็นเหตุที่ท ำให้เกิดกำรแพร่ระบำดของโรค อย่ำงรุนแรง ๔. กำรด ำเนินกำรดังกล่ำวตำมมำตรกำรที่ทำงรำชกำรก ำหนด ให้พิจำรณำ ตำมควำมเหมำะสมของแต่ละพื้นที่ และต้อ งไม่เป็นกำรก่อควำมเดือดร้อนแก่ประชำชน และ ผู้ประกอบกิจกำร เกินสมควรแก่เหตุ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๗ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 6 มกรำคม พ.ศ. ๒๕64 พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชำกำรทหำรสูงสุด หัวหน้ำศูนย์ปฏิบัติกำรแก้ไขสถำนกำรณ์ฉุกเฉินด้ำนควำมมั่นคง ้หนา ๓๒ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๘ มกราคม ๒๕๖๔
train
137
2188.pdf
SSHE
ACTION
SSHE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2188.pdf
'#>@0#!$B#>%?@% N#APอ ห%?N์O%>/>$?@#!Nออ@"BQ&อ%B@!!@!#>#@$1?@/N@ O/"@#ํ@ห% QหO(CO#?&Q&อ%B@! ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! .0. `cde O/"#>#@&??!>ค/&คB!%Qํ@!?%NAQอN%> .0. `cb` ํ@ห% QหO(CO#?&Q&อ%B@!'#>อ&>@# ค/&คB!'#>N ##?P a #?P'#>2ค์!Nออ@"BQ&อ%B@! >!Oอ"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@!!@!ห!@" /N@ O/"@#ค/&คB!%Qํ@!?%NAQอN%> O!NN%APอ O/"#>#@$1 ?@@#ํ@ห% QหO(CO#?&Q&อ%B@!ํ@#> คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! .0. `cdb @P!?(%&?ค?&QO Q%/?%#?P `` $0>@"% `cdb R O!?@#ํ@ห% QหO(CO#?&Q&อ%B@!'#>อ&>@#ค/&คB!'#>N ##?P a !@!#>#@&??!>ค/&คB!%Qํ@!?%NAQอN%> .0. `cb` 2@!@#"ํ@#>คN@$##!N%?"!Q%@#!Nออ@"B Q&อ%B@!O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@!R O '#>อ&?&#!$B#>%?@%R O? #ํ@#>&&#?&OO O%>อ%B@! QหO'#>อ& >@#!@!ห!@"/ N@ O/"@#ค/&ค B!%Qํ@!?%NAQอN%>P "/>$?@##@ อ>N%O##อ%>2์ (SAFETY) @Q%NAPอQหON> @#$##!@ >&@%Oอ!C% @ค#?O%>N'%?P"%(N@%@#QหO&#>@# N'็%@# ํ@N%>%@#(N@%#>&& >>#?% ?%?Q% NAPอQหO@#&?ค?&QO#>#@$1 ?@ ?%N@/ N'็%R' อ"N@"C!Oอ Nห!@>2! O%>2อ ค% Oอ?&N!%@#! ์อ!@!#@ _` OหN#>#@& ??!> @#อํ@%/"ค/@!2> /Q%@# >@#@อ%B@!อ#@#@@# .0. `ccf #?P>N'็%@#อํ@%/" ค/@!2> /ON'#>@% อ@0?"อํ@%@!@!ค/@!Q%!@!#@ a` OหN#>#@&??!>#>N&?"&&#>ห@##@@#O(N% >% .0. `cab OORN>P!N!>!P "#>#@&??!>#>N&?"&&#>ห@##@@#O(N% >% (&?&#?P c) .0. `cbc '#>อ&?&!@!#@ b /##ค2อ OหN#>#@$1?@@#ํ@ห% QหO(CO#?&Q&อ%B@!ํ@#>คN@$##!N%?"! @#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#" AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! .0. `cdb อ$>& ?#!$B#>%?@% @ออ'#>@0R/O ?!NอR'%?Q Oอ _ '#>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'#>@0Q%#@>@%BN&1@N'็%!O%R' Oอ ` QหO"N%>'#>@0#!$B#>%?@% N#APอ ห%?N์O%>/>$?@#!Nออ@"BQ&อ%B@! !@!#>#@$1?@/N@ O/"@#ํ@ห% QหO(CO#?&Q&อ%B@!ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@# "AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! .0. `cdb หนา ๖๘ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๓๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ Oอ a Q%'#>@0%?Q “ห%N/"@%อ%B@!” ห!@"ค/@!/N@ #!$B#>%?@%ห#Aอห%N/"@%อ(CO#?PR O#?&!อ&ห!@" @อ$>& ?#!$B#>%?@%QหON'็%(COอ%B@! ห#Aออค์#'ค#อ2N/%#Oอ">P%#?PR O#?&@#"N@"Pอ% @#> @%@#!$B#>%?@% “#>&&” ห!@"ค/@!/N@ #>&&#?&OOO%>อ%B@!QหO'#>อ&>@#!@!ห!@"/ N@ O/" @#ค/&คB!%Qํ@!?%NAQอN%>P "/>$?@##@อ>N%O##อ%>2์ (SAFETY) “O&&ํ@#>คN@$##!N%?"!” ห!@"ค/@!/N@ O&&ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@! O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@!'#>อ&>@#ค/&คB!'#>N ##?P a “(CO#?&Q&อ%B@!” ห!@"ค/@!/ N@ (CO#?&Q&อ%B@!'#>อ& >@#ค/&ค B!'#>N ## ?P 3 !@!ห!@"/N@ O/"@#ค/&คB!%Qํ@!?%NAQอN%> ห!/ _ &##?P/R' Oอ b (CO#?&Q&อ%B@!'#>อ&>@#ค/&คB!'#>N ##?P a ?!NอR'%?Q อ@ํ@#>คN@$##!N%?"! Q%@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@!!@!#>#@&??!>ค/&คB!%Qํ@!?%NAQอN%>R O (_) "?%2N%Qํ@!?% (`) ค%?%Qํ@!?% (a) 2"@%#?PNO&#?1@%Qํ@!?% %?1>#?P2@! (b) 2"@%?&#>@#%Qํ@!?%'#>N #  (c) 2"@%?&#>@#%Qํ@!?%'#>N #  (d) 2"@%?&#>@#%Qํ@!?%'#>N # ค %?1>#?P2อ (e) 2"@%?&#>@#%Qํ@!?%'#>N #  %?1>#?P2อ (f) 2"@%?&#>@#%Qํ@!?%'#>N #  (g) #>&&@#%2N%Qํ@!?%#@#Nอ (_^) "?%2NP@'ิP!#N%?"!Nห%/ (__) ค%?P@'ิP!#N%?"!Nห%/ (_`) 2"@%#?P&##BP@'ิP!#N%?"!Nห%/'#>N #P#&##B หนา ๖๙ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๓๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ (_a) 2"@%#?P&##BP@'ิP!#N%?"!Nห%/'#>N #หOอ&##B (_b) 2"@%?&#>@#P@'ิP!#N%?"!Nห%/ (_c) 2"@%#?PNO&#?1@P@'ิP!#N%?"!Nห%/'#>N #2"@%#?PQO %?1>#?P2@! (_d) 2"@%#?PNO&#?1@P@'ิP!#N%?"!Nห%/'#>N ##O@%ํ@ห%N@" %?1>#?P2อ (_e) 2"@%#?PNO&#?1@P@'ิP!#N%?"!Nห%/'#>N #P#NO& %?1>#?P2อ (_f) #>&&@#%2NP@'ิP!#N%?"!Nห%/#@#Nอ (_g) "?%2NP@$##!@!> (`^) ค%?P@$##!@!> (`_) 2"@%#?PQOP@$##!@!> (``) 2"@%?&#>@#P@$##!@!> (`a) #>&&@#%2NP@$##!@!>#@#Nอ ห!/ ` @#ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! O/"O&&ํ@#>คN@$##!N%?"! 2ํ@ห#?&#!$B#>%?@% Oอ c (CO#?&Q&อ%B@! #?Pอ"CNQ%ํ@?& CO%อ#!$ B#>%?@% #?P'#>2ค์>ํ@#> คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! QหO ํ@N%>%@#Q%>@#ค/&คB! ?!NอR'%?Q (_) >@#!@! Oอ b ( _) '#>N ##"%2 N%Qํ@!?% #?P #>N&?"%#BN#!ห@%ค# !@!ห!@"/N@ O/"@#%2N#@& (`) >@#!@!Oอ b (_) '#>N ##"N!>!%Qํ@!?%QหOอ@@0"@% @"Q%2%@!& >% '#>N # #"R%2N%Qํ@!?% (a) >@#!@!Oอ b (`) (f) (g) (b) >@#!@!Oอ b (a) (b) (c) (d) (e) Q%N!#BN#!ห@%ค# (c) >@#!@!Oอ b (_^) '#>N ##"%2NP@'ิP!#N%?"!Nห%/ #?P #>N&?"%#BN#!ห@%ค# !@!ห!@"/N@ O/"@#%2N#@& (d) >@#!@!Oอ b (_^) '#>N ##"R%2NP@'ิP!#N%?"!Nห%/ หนา ๗๐ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๓๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ (e) >@#!@!Oอ b (__) (_a) (_f) (f) >@#!@!Oอ b (_`) (_b) (_d) (_e) Q%N!#BN#!ห@%ค# (g) >@#!@!Oอ b (_c) Q%N!#BN#!ห@%ค# #/!"@Q%N!?ห/? อAP%%อ@N! #BN#!ห@%ค# #?P!?@#QO"?NO&O%>N@"P@'ิP!#N%?"!Nห%/อ"N@ห%@Pอ"N@Q N'็%O&&##%! (Sphere type) ห#AอO&&"?N"O% (Refrigerated type) (_^) >@#!@!Oอ b (_g) - (`a) #?#?P#BN#!ห@%ค##?&@#"N@"Pอ% @#>@%ค/&คB!%Qํ@!?% !@!O(%@##>@"อํ@%@ QหOONอค์#'ค#อ2N/%#Oอ">P%O%>O(%'>&?!>@#ํ@ห% ?Q%!อ%@##>@"อ ํ@%@QหOONอค์# 'ค#อ2N/%#Oอ">P% Q%N!AQ%#?P#BN#!ห@%ค#@#!$B#>%?@%O%O/ QหO>@#!@!Oอ b (b) (c) (d) (e) Q%N!#BN#!ห@%ค# QหOR'"AP%ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!!@!#>#@$1?@ @#ํ@ห% QหO(CO#?&Q&อ%B@!ํ@#>คN@$##!N% ?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#" AP%คํ@อ!Nออ@"B Q&อ%B@! .0. `cdb  2"@%#?P#?P#BN#!ห@%ค#ํ@ห% Oอ d QหO(CO#?&Q&อ%B@!!@!Oอ 5 %APอQO@% (login) Q%#>&& NAPออ#?&O&&ํ@#> คN@$##!N%?"! #?#?P"?R!NR O%#>N&?"%Q%#>&& QหO(CO#?&Q&อ%B@! ํ@N%>%@#QหON'็%R'!@!'#>@0 #!$B#>%?@%/N@ O/"@#%#>N&?"%QO@%#>&&#?&OOO%>อ%B@!QหO'#>อ&>@#!@!ห!@" /N@ O/"@#ค/&คB!%Qํ@!?%NAQอN%>P "/>$?@##@อ>N%O##อ%>2์Nอ% Oอ e @#ํ@#>คN@$##!N%?"!!@!ห!/ %?Q !Oอ ํ@N%>%@#ํ@#>คN@$##!N%?"!Nอ%/?%#?P Q&อ%B@!2>Q%อ@"B P "2@!@#""AP%ํ@#>คN@$##!N%?"!(N@%Nอ#@Q Nอ#@ห%@P ?%?Q (_) 0C%"์&#>@#$B#>%?@% #!$B#>%?@% (`) Nค@%์N!อ#์อ$%@ค@##BR#"#B2@@ (a) !CO ATM อ$%@ค@## BR#" ห#Aอ!CO ATM อ$%@ค@## ?PNO@#N/!&#>@#ํ@#>&>% O@!$%@ค@# (Cross Bank Bill Payment) (b) Mobile Banking (N@%Oอ'%>Nค?P% Krungthai Next ห#AอOอ'%>Nค?P%อ$%@ค@# #?PNO@#N/!&#>@#ํ@#>&>%O@!$%@ค@# (Cross Bank Bill Payment) Oอ f #?#?PR O!?@#ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@! !@!อ?!#@#?Pํ@ห% Q%O&& ํ@#>คN@$##!N%?"!O%O/ O%>!Nอ!@ห@&/N@@#ํ@ห% อ?!#@คN@$##!N%?"! ?%N@/ R!NN'็%R'!@!#?P หนา ๗๑ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๓๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ ห!@" ํ@ห% #!$B#>%?@%> ํ@N%>%@#? 2NO&&ํ@#>คN@$##!N% ?"! N>P!N!>!@ อ?!#@คN@$##!N%?"!#?PR O!?@#N#?"NO&!@!O&&ํ@#>คN@$##!N%?"!ค#?QO#R O P "#!$B#>%?@% > ํ@N%>%@# ?%N@/QหOO%O/N2#ONอ%@#ออQ&อ%B@! Oอ g N!APอ(CO#?&Q&อ%B@!R Oํ@#>คN@$##!N%?"!O%O/ QหO"Aอ/N@R O#?&@#!Nออ@"BQ&อ%B@! !@!#>#@& ??!>ค/&คB!%Qํ@!?%NAQอN%> .0. `cb` O%>QหOQOO&&ํ@#>คN@$##!N%?"! O%> ห%?@%@##?&N>% NAPอQOO#%Q&อ%B@!'#>อ&>@#ค/&คB!'#>N ##?P a P "QหO!?อ@"B2@!N Aอ% %?&O!N/?%#?Pออห%?@%@##?&N>% Oอ _^ @#ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! !@!ห!/ %?Q QหO"Aอ/N@(CO#?&Q&อ%B@!R OQหO@##?&#อNอ2@#O%>ห% ?@%#?PR ONค""AP%R/ONAPอ'#>อ& คํ@อ#?&Q&อ%B@!'#>อ&>@#ค/&คB!'#>N ##?P a P "N@>2>#$>QO#?P >%/N@!>R O!?@#N'%?P"%O'% QหO(> R'@#?PR O#?&อ%B@!R/ON >!O%O/ Oอ __ N!APอ(COอ%B@!R O#?&ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O%O/ (CO#?&Q&อ%B@! 2@!@#"!#/2อ&(%@#>@#@ออQ&อ%B@! O%>#?&Q&อ%B@!(N@%#@#>&&R O #?(COอ%B@!R O!#/2อ&O%O/&/N@ Nอ2@#O%>ห%?@%@#!Nออ@"BQ&อ%B@!R!N"C!Oอ ค#&"O/% (COอ%B@!>OON!Aอ%QหO'>&?!>QหO"C!Oอค#&"O/%#@R'#1?"์อ>N%O##อ%>2์ Oอ _` @#ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!!@!ห!/ %?Q (CO#?&Q&อ%B@!>R O#?& Q&อ%B@!'#>อ&>@#ค/&คB!'#>N ##?P a #@อ>N%O##อ%>2์ ห!/ 3 @#ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! O/"O&&ํ@#>คN@$##!N%?"! 2ํ@ห#?&ห%N/"@%#?PR O#?&!อ&ห!@"ห#Aอ#?PR O#?&@#"N@"Pอ% @#> Oอ _a (CO#?&Q&อ%B@! #?Pอ"CNQ%ํ@?& CO%อห%N/"@%#?PR O#?&!อ&ห!@"ห#AอR O#?&@#"N@" Pอ% @#> #?P'#>2ค์>ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! !Oอ ํ@N%>%@#ํ@#>คN@$##!N% ?"!Nอ%/?%#?PQ&อ%B@!2>Q%อ@"B P "QหO"AP%ํ@#>คN@$##!N% ?"! #?P$%@ค@##BR#"#B2@@ ห#Aอ2"@%#?P#ํ@@#อห%N/"@%อ%B@! 2ํ@ห#?&>@#ค/&คB! ?!NอR'%?Q (_) (CO#?&Q&อ%B@!!@!Oอ b (_) '#>N ##"%2 N%Qํ@!?% #?P #>N&?"%Q%?ห/? อAP% !@!ห!@"/N@ O/"@#%2N#@& QหO"AP%  2ํ@%?@%%?@%?ห/? Q%?ห/? #?PR O #>N&?"% หนา ๗๒ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๓๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ (`) (CO#?&Q&อ%B@!!@!Oอ b (a) Q%N!?ห/? อAP%%อ@N!#BN#!ห@%ค# QหO"AP%  2ํ@%?@%%?@%?ห/? #?P2"@%'#>อ&@#%?Q%!?Qอ"CN (a) (CO#?&Q&อ%B@!!@!Oอ b (b) (c) (d) (e) Q%N!?ห/? อAP%%อ@N!#BN#!ห@%ค# QหO"AP%  2ํ@%?@%ออค์#'ค#อ2N/%#Oอ">P%#?P2"@%'#>อ&@#%?Q%!?Qอ"CN (b) (CO#?&Q&อ%B@!!@!Oอ b (`) (a) (g) N@>Q%2N/%อ%Qํ@!?% >&#?Pอ"CNQ%ํ@?& CO% อ#!NAQอN%>$##!@!>Q%N!>@#'ิP!#N%?"! !@!#>#@& ??!>'ิP!#N%?"! .0. `c_b QหO"AP%  #!NAQอN%>$##!@!> #>##/%?@% (c) (CO#?&Q&อ%B@!!@!Oอ b (_^) '#>N ##"%2NP@'ิP!#N%?"!Nห%/ #?P #>N&?"% Q%?ห/? อAP%!@!ห!@"/N@ O/"@#%2N#@& QหO"AP%  2ํ@%?@%%?@%?ห/? Q%?ห/? #?PR O #>N&?"% (d) (CO#?&Q&อ%B@!!@! Oอ b ( _`) ( _b) ( _d) ( _e) Q%N!?ห/? อAP%%อ@ N!#BN#!ห@%ค# QหO"AP%  2ํ@%?@%%?@%?ห/? #?P2"@%'#>อ&@#%?Q%!?Qอ"CN (e) (CO#?&Q&อ%B@!!@!Oอ b (_c) Q%N!?ห/? อAP%%อ@N!#BN#!ห@%ค# #?PR!N!? @#QO"?NO&O%>N@"P@'ิP!#N%?"!Nห%/อ"N@ห%@Pอ"N@Q N'็%O&&##%! (Sphere type) ห#Aอ O&&"?N"O% (Refrigerated type) QหO"AP%  2ํ@%?@%%?@%?ห/? #?P2"@%'#>อ&@#%?Q%!?Qอ"CN #?#?P#BN#!ห@%ค##?&@#"N@"Pอ% @#>@%ค/&คB!%Qํ@!?% !@!O(%@##>@"อํ@%@ QหOONอค์#'ค#อ2N/%#Oอ">P%O%>O(%'>&?!>@#ํ@ห% ?Q%!อ%@##>@"อ ํ@%@QหOONอค์# 'ค#อ2N/%#Oอ">P% Q%N!AQ%#?P#BN#!ห@%ค#@#!$ B#>%?@%O%O/ QหO(CO#?&Q&อ%B@! !@!Oอ b (b) ( c) ( d) ( e) Q%N!#BN#!ห@%ค# QหOR'"AP%ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"B Q&อ%B@!!@!#>#@$1?@@#ํ@ห% QหO(CO#?&Q&อ%B@!ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@! O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! .0. `cdb  2"@%#?P#?P#BN#!ห@%ค#ํ@ห% Oอ _b (CO#?&Q&อ%B@!ห#Aอ(CO#?PR O#?&!อ&ห!@" #?P'#>2ค์>ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"B Q&อ%B@!O#%@#" AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! QหO%ํ@O&&ํ@#>คN@$##!N%?"!#?P(COอ%B@!>? 2N QหOON(CO#?&Q&อ%B@!Nอ%"@ํ@ห% /?%#?&ํ@#>คN@$##!N%?"! R'"AP%อํ@#>คN@$##!N%?"! #?#?PR O!?ํ@#>คN@$##!N% ?"!@#! Nออ@"BQ&อ%B@! !@!อ?!#@#?Pํ@ห% Q%O&& ํ@#> คN@$##!N%?"!!@!/##คห%@PO%O/ O%>!Nอ!@ห@&/N@@#ํ@ห% อ?!#@คN@$##!N%?"! ?%N@/ R!NN'็%R' !@!#?Pห!@"ํ@ห% ห%N/"@%อ%B@!> ํ@N%>%@#? 2NO&&ํ@#>คN@$##!N%?"! N>P!N!>!@ หนา ๗๓ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๓๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ อ?!#@คN@$##!N%?"!#?PR O!?@#N#?"NO&!@!O&&ํ@#>คN@$##!N%?"!ค#?QO#R O P "ห%N/"@%อ%B@! > ํ@N%>%@# ?%N@/QหOO%O/N2#ONอ%@#ออQ&อ%B@! Oอ _c N!APอ(CO#?&Q&อ%B@!R Oํ@#>คN@$##!N%?"!O%O/ QหO"Aอ/N@R O#?&@#!Nออ@"BQ&อ%B@! !@!#>#@& ??!>ค/&คB!%Qํ@!?%NAQอN%> .0. `cb` O%>QหOQOO&&ํ@#>คN@$##!N% ?"! O%>ห%?@%@##?&N>% NAPอQOO#%Q&อ%B@!'#>อ& >@#ค/&คB!'#>N ##?P a P "QหO!?อ@"B 2?PN Aอ%%?&O!N/?%#?Pออห%?@%@##?&N>% Oอ _d QหO(CO#?&Q&อ%B@!%ํ@ห%?@%!@O2 NAPออ#?&Q&อ%B@!'#>อ&>@#ค/&คB! '#>N ##?P a @"ห%?2@!N Aอ%%?&O!N/?%#?PR O#?&ห%?@%@##?&N>% #?#?P(CO#?&Q&อ%B@!R O#?&ห%?2AอOO@#ออQ&อ%B@!'#>อ&>@#ค/&คB!'#>N ##?P a R!N/N@Nอ%ห#Aอห%?/?%#?Pค#&ํ@ห% QหO#?&Q&อ%B@!!@!/##คห%@P QหO(CO#?&Q&อ%B@!ห#Aอ(CO#?&!อ&อํ@%@ %ํ@ห%?@%@##?&N>%O%>ห%?2Aอ ?%N@/ #Oอ!O2 &?!#'#>ํ@!?/'#>@% NAPออ#?&Q&อ%B@! ห@(CO#?&Q&อ%B@!"?R!NR O#?&ห%?2AอOO!@!/##ค2อ @"ห%?2@!N Aอ%%?&O!N/?%#?PR O#?& ห%?@%@##?&N>% QหO(CO#?&Q&อ%B@!ห#Aอ(CO#?&!อ&อํ@%@%ํ@ห%?@%@##?&N>% #Oอ!O2 &?!# '#>ํ@!?/'#>@% NAPออ#?&Q&อ%B@!#?Pห%N/"@%อ%B@! "O@(CO#?&Q&อ%B@!R!N2@!@#"!@# ?&Q&อ%B@!!@!/##คห% @P O/"!%NอR O QหO#ํ@ห%?2Aอ !อ&อํ@%@QหO(COอAP%!@#?&O#%!% #Oอ!2ํ@N%@&?!#'#>ํ@!?/'#>@%อ(CO!อ&อํ@%@O%>(CO#?&!อ&อํ@%@ %ํ@!@"AP% O/" Oอ _e @#ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! !@!ห!/ %?Q QหO"Aอ/N@(CO#?&Q&อ%B@!R OQหO@##?&#อNอ2@#O%>ห% ?@%#?PR ONค""AP%R/ONAPอ'#>อ& คํ@อ#?&Q&อ%B@!'#>อ&>@#ค/&คB!'#>N ##?P a P "N@>2>#$>QO#?P >%/N@!>R O!?@#N'%?P"%O'% QหO(> R'@#?PR O#?&อ%B@!R/ON >!O%O/ Q%2N/%อNอ2@#O%>ห% ?@%N?P"/?&@## 2อ&O%>!#/2อ&ค/@!'%อ ?"!@!#?P ห!@"ํ@ห% อO!N%>'#>N #>@# @P(CO#?&Q&อ%B@!!Oอ? 2N(%@## 2อ&O%>!#/2อ& QหOO%O/N2#O O%>QหO(CO#?&Q&อ%B@! ํ@N%>%@#? 2N!@!O%/#@#?P(COอ%B@!ํ@ห% Oอ _f ห@(CO#?&Q&อ%B@!R O#?&O&&ํ@#>คN@$##!N%?"!O%O/ R!N'#>2ค์#?P> ํ@N%>%@# อ"AP%ํ@#>คN@$##!N%?"! ?%N@/ O!>R ON'็%@#!? 2>#$>อ(CO#?&Q&อ%B@!#?P>"AP%คํ@อ!Nออ@"B Q&อ%B@! O/"O&& $.%.a ห#AอO&& $..a O%O/O!N#? หนา ๗๔ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๓๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ Oอ _g ห%?N์ />$?@#O%>#>">N/%@Q%@# ํ@N%>%@#>@#@!Nออ@"BQ&อ%B@! อห%N/"@%(CO#?PR O#?&!อ&ห!@"@อ$ >& ?#!$B#>%?@%QหON'็%(COอ%B@! ห#Aออค์#'ค#อ 2N/%#Oอ">P%#?PR O#?&@#"N@"Pอ% @#>@%@#!$B#>%?@%!@!ห!/ %?Q อ@%ํ@O%/#@@#'>&?!> !@!#>N& ?"&#!$ B#>%?@%/N@ O/"ห%?N์ />$?@#O%>#>">N/%@@#! Nออ@"BQ&อ%B@! !@!#>#@$1?@/N@ O/"@#ํ@ห% QหO(CO#?&Q&อ%B@!ํ@#>คN@$##!N%?"!@#!Nออ@"BQ&อ%B@!O#% @#"AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! !@QONAPอ'#>อ&@#' >&?!>!@!#>#@$1 ?@@#ํ@ห% QหO(CO#?&Q&อ%B@!ํ@#>คN@$##!N% ?"!@#! Nออ@"BQ&อ%B@!O#%@#" AP%คํ@อ!Nออ@"BQ&อ%B@! .0. `cdb OR O '#>@0  /?%#?P 18 !B%@ค! .0. `cde 2#@/B$ OO/!@#>"์ อ$>& ?#!$B#>%?@% หนา ๗๕ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๓๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
138
615.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/615.pdf
กฎกระทรวง การแจ้งเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงาน ที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิม ส าหรับโรงงานจ าพวกที่ 3 พ.ศ. 2563 อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ง และมาตรา 19/1 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ผู้รับใบอนุญาตซึ่งประสงค์จะเพิ่มประเภทหรือชนิดข องการประกอบกิจการโรงงาน ที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิมตามมาตรา 19/1 ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อนการด าเนินการ พร้อมด้วยข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐาน ดังต่อไปนี้ (1) กระบวนการผลิต (2) วัตถุดิบ (3) ผลิตภัณฑ์และวัตถุพลอยได้ (๔) มาตรการการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (๕) สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (6) การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม การเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบ กิจการโรงงานเดิมตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศก าหนด ตามมาตรา 19/1 วรรคสอง ข้อ 2 ภายในห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นว่าการแจ้ง หรือข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานตามข้อ 1 ไม่ถูกต้องหรือยังขาดข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานใด ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่บันทึกความบกพร่องนั้นไว้และแจ้งให้ผู้แจ้งด าเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา ที่ก าหนด ในกรณีที่การแจ้งมิได้ด าเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ ้หนา ๑๖ ่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๑ ก ราชกิจจานุเบกษา ๗ มกราคม ๒๕๖๔ ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมหรือส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่และ ผู้แจ้งลงนามไว้ในบันทึกนั้นด้วย ในกรณีที่ผู้แจ้งไม่ด าเนินการตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้แจ้ง ไม่ประสงค์จะด าเนินการต่อไป และให้พนักงานเจ้าหน้าที่จ าหน่ายเรื่องออกจากสารบบ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ งพร้อมด้วยข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานถูกต้องและครบถ้วน และเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศก าหนดตามมาตรา 19/1 วรรคสอง แล้ว ให้ออกหนังสือรับแจ้งการเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับ การประกอบกิจการโรงงานเดิมตามมาตรา 19/1 แก่ผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐานภายในสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานตามข้อ 1 แล้ว เห็นว่า มิใช่กรณีการเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการ โรงงานเดิมตามมาตรา 19/1 ให้มีค าสั่งไม่รับแจ้ง พร้อมทั้งแจ้งเหตุผลและสิทธิในการอุทธรณ์ให้ผู้แจ้ง ทราบด้วย ข้อ 3 การแจ้งและการออกหนังสือรับแจ้งตามกฎกระทรวงนี้ ให้ด าเนินการโดยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือส านักงาน อุตสาหกรรมจังหวัดเป็นหลัก ในกรณีที่ไม่สามารถด าเนินการได้หรือมีเหตุอื่นใดท าให้ไม่สามารถ ด าเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ให้การด าเนินการดังกล่าวกระท า ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้ (1) โรงงานในเขตกรุงเทพมหานคร ให้กระท า ณ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (2) โรงงานในเขตจังหวัดอื่น ให้กระท า ณ ส านักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ให้ไว้ ณ วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖3 สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ้หนา ๑๗ ่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๑ ก ราชกิจจานุเบกษา ๗ มกราคม ๒๕๖๔ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 19/1 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 บัญญัติให้การแจ้งเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับ การประกอบกิจการโรงงานเดิมเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดในกฎกระทรวง จึงจ าเป็นต้องออก กฎกระทรวงนี้ ้หนา ๑๘ ่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๑ ก ราชกิจจานุเบกษา ๗ มกราคม ๒๕๖๔
train
139
2085.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2085.pdf
#>##/ /N@ O/"@#ค/&คB!'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@" !@!ห!@"/N@ O/"@#ค/&คB!อ@ค@# (&?&#?P 2) .0. 2567 อ@0?"อํ@%@!@!ค/@!Q%!@!#@ c (a) OหN#>#@&??!>ค/&คB!อ@ค@# .0. `c`` Oล>!@!#@ f (_) (e) Oล> (f) OหN#>#@&??!>ค/&คB!อ@ค@# .0. `c`` @POORN>P!N!>! P "#>#@& ??!>ค/&คB!อ@ค@# (&?&#?P a) .0. `cba #?ฐ!%!#?/N@@##>##/!ห@ R#" P "คํ@O%>%ํ@อค>##!@#ค/&คB!อ@ค@#ออ#>##/R/O ?!NอR'%?Q Oอ _ QหO"Nล>ค/@!Q%Oอ g OหN#>##//N@ O/"@#ค/&คB!'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q% 2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"!@!ห!@"/N@ O/"@#ค/&คB!อ@ค@# .0. `ccf Oล>QหOQOค/@!!NอR'%?QO#% “Oอ g '้@"&%หล?ค@ห#Aอ @ ้@ออ@ค@# QหON'็%R'!@!Oอํ@ห% ?!NอR'%?Q (_) R!NลQํ@ออ%อO%/(%?#อ&%อออ@ค@# (`) ค/@!2Cอ'้@"R!NN>% d N!!# (a) !?AQ%#?P'้@"R!NN>% ec !@#@N!!# NAPอ'#>P"%์Q%@#ค> #>">#N%ออ@ค@# QหO%ํ@ค/@!2Cอ'้@"!@ค> #/!?&ค/@!2C ออ@ค@# O/" P "ค/@!2Cอ'้@"#/!?&ค/@!2Cออ@ค@#N!APอ/? @B ห%@PB Q !Oอ!?ค/@!2C R!NN>%2อN# N@อ#>">#@&/ ? @B %?Q%R'!?Q@?&O%/N! O@%!# O@!อ"%%2@$@#> #?Pอ"CNQลOอ@ค@#%?Q%#?P2B ” Oอ ` QหO"Nล>ค/@!Q%Oอ _c OหN#>##//N@ O/"@#ค/&คB!'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q% 2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"!@!ห!@"/N@ O/"@#ค/&คB!อ@ค@# .0. `ccf Oล>QหOQOค/@!!NอR'%?QO#% “Oอ _c '้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"#?P!> !?Qอ"CN&%AQ% >%P "!# QหON'็%R' !@!Oอํ@ห% ?!NอR'%?Q หนา ๔ เลม ๑๔๑ ตอนที่ ๖๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๗ (_) ค/@!2Cอ'้@"N!APอ/? @B ห%@PB Q !Oอ!?ค/@!2CR!NN>%2อN#N@อ#>">#@& /? @B %?Q%R'!?Q@?&O%/N! O@%!# O@!อ"%%2@$@#># ?Pอ"CNQลO'้@"%?Q%#?P2B #?Q%?Q !Oอ!?ค/@!2CR!NN>% a^ N!!# Oล>!?ค/@!"@/R!NN>% a` N!!# (`) !?#>">หN@@'้@"อAP%R!N%Oอ"/N@ค/@!2Cอ'้@" (a) !?#>">หN@@O%/N!# ?P >%#?P!> ห#Aอ!?Q'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@" O@%#?PR!Nอ"CN!> ห#AอQลO"%%2@$@#>R!N%Oอ"/N@ค/@!2Cอ'้@" N/O%O!NR O#?&ค/@!">%"อ!N'็%ห%?2Aอ @NO@อ#?P >%O@Nค?" O@%%?Q%Oล>หN@@O%/N!#?P >% O@%%?Q%R!N%Oอ"/N@ d N!!#” Oอ a '้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"#?P!?อ"CNQ%/?%Nอ%/?%#?P#>##/ /N@ O/"@#ค/&คB!'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"!@!ห!@"/N@ O/"@#ค/&คB!อ@ค@# .0. `ccf QO&?ค?& Oล>NO@อห#Aอ(COค#อ&ค#อ'#>2ค์>ออ%B@!Nอ2#O@'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q% 2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"%?Q% QหO"AP%คํ@ออ%B@!Nอ2#O@R O @"Q%ห% @P#Oอ"O' 2 >&/?%%?&O!N/?%#?P #>##/% ?QQO&?ค?& P "NO@อห#Aอ(COค#อ&ค#อ ?ลN@/!Oอ"AP%หล?ฐ@%อ"N@ห%@Pอ"N@Q ?!NอR'%?Q (_) Q&#?&#อ@#!#/2อ&อ@ค@#!@!!@!#@ a` #/> (`) หล?ฐ@%@#N2?" @1?'้@"QหOONอค์#'ค#อ2N/%#Oอ">P% (a) หล?ฐ@%อAP% N #?PO2 R O/N@N'็%'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"#?P!?อ"CNQ% /?%Nอ%/?%#?P#>##//N@ O/"@#ค/&คB!'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"!@!ห!@" /N@ O/"@#ค/&คB!อ@ค@# .0. `ccf QO&?ค?& Oอ b @#อ%B@!Nอ2#O@'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"#?P!?อ"CNQ%/?%Nอ%/?%#?P #>##// N@ O/"@#ค/&ค B!'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"!@!ห!@"/ N@ O/" @#ค/&คB!อ@ค@# .0. `ccf QO&?ค?& QหOQOOอํ@ห% N?P"/?&ล?1> %@ #>"> ค/@!2C O%/#N% Oล>AQ%#?P !@!'#>N #'้@"#?Pห!@"ํ@ห% Q%>#?PNอ2#O@'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?& !> ห#Aอ!?Q'้@"%?Q% #?Q%?Q !Oออ"CN @"Q!ONAPอ%R ?!NอR'%?Q (_) '้@"&%หล?ค@ห#Aอ @ ้@ออ@ค@#!OอR!NลQํ@ออ%อO%/(%?#อ&%อออ@ค@# (`) R!NN>P!AQ%#?POล>ค/@!2Cอ'้@" QหOR/O  /?%#?P 7 !Bล@ค! .0. `cde อ%B#>% @/?#Cล #?ฐ!%!#?/N@@##>##/!ห@ R#" หนา ๕ เลม ๑๔๑ ตอนที่ ๖๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๗ ห!@"Nห!B :- Nห!B(ลQ%@#'#>@0QO#>##/&?&%?Q คAอ P "#?PN'็%@#2!ค/#OORN>P!N!>!Oอํ@ห% N?P"/?&'้@"&%หล?ค@ห#Aอ @ ้@ออ@ค@#Oล>' ้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"#?P!> !?Q อ"CN&%AQ% >%P "!#QหONห!@>2!ON@ล'ัB&?% #/!#?Q(Nอ%'#%QหO'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@" #?P!?อ"CNQ%/?%Nอ%/?%#?P#>##//N@ O/"@#ค/&คB!'้@"ห#Aอ2>P#?P2#O@@Q%2ํ@ห#?&!> ห#Aอ!?Q'้@"!@!ห!@" /N@ O/"@#ค/&คB!อ@ค@# .0. `ccf QO&?ค?& #?P!?ค/@!!?P%คOOO#QหO2@!@#"ออ%B@!Nอ2#O@R O @"Q!ONAPอ%R#?Pํ@ห% @ํ@N'็%!Oอออ#>##/%?Q หนา ๖ เลม ๑๔๑ ตอนที่ ๖๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
140
995.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/995.pdf
ประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ ๑๕) ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ ๑๔ ออกไปจนถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ นั้น สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในห้วงเวลาที่ผ่านมา มีแนวโน้ม ที่ดีขึ้นตามล าดับ การฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนสามารถด าเนินการได้ตามเป้าหมายอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง กอปรกับรัฐบาลให้ความส าคัญแก่การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบสาธารณสุขควบคู่ไปกับการด าเนิน มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ท าให้ระบบเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะ มาตรการเปิดประเทศ อย่างไรก็ดี การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในทวีปยุโรปกลับมามีการระบาดอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้งจากสายพันธุ์โอไมครอน ที่ติดเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์เดลต้า ประกอบกับประเทศไทยก าลังเข้าสู่ ฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงเวลา ที่มีการระบาดของเชื้อได้ง่าย และในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีการรวมตัวและการเดินทางของประชาชน เป็นจ านวนมาก ทั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยท าให้ปัญหาการลักลอบเข้าเมือง โดยผิดกฎหมายในบริเวณพื้นที่ชายแดนรุนแรงมากขึ้น กรณีจึงจ าเป็นที่จะต้องคงไว้ซึ่งมาตรการ ในการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคเพื่อความมั่นคงทางสาธารณสุขของชาติและชีวิตประชาชน อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชก าหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ จึงให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปอีกคราวหนึ่ง ส าหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ จนถึงวันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖4 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ้หนา ๖๓ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๙๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
train
141
935.pdf
QM
ACTION
QM_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/935.pdf
ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ก าหนดปุ๋ยที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. 2564 อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓๔ (๕) แห่งพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ โดยค าแนะน าของคณะกรรมการปุ๋ยออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ก าหนดปุ๋ยที่ได้รับ การยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. 2564” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับนับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ก าหนดปุ๋ยที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องขึ้นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. 2554 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2554 ข้อ ๔ ก าหนดให้ปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียน โดยให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมวิชาการเกษตรก าหนดโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการปุ๋ย ประกาศ ณ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖4 มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ้หนา ๘ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ ตุลาคม ๒๕๖๔
train
142
372.pdf
SSHE
ACTION
SSHE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/372.pdf
กฎกระทรวง ฉบับที่ 27 (พ.ศ. 2563) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๘ วรรคหนึ่ง (๗) และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ ๗ แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความ ในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ “ข้อ ๗ โรงงานที่มีสารมลพิษหรือสารเคมีต ามที่รัฐมนตรีก าหนดโดยประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา ไม่ว่าจะเกิดจากการผลิต การครอบครอง หรือการใช้ หรือเกิดขึ้นจาก การประกอบกิจการโรงงาน ต้องจัดท ารายงานข้อมูล ดังต่อไปนี้ (๑) ปริมาณการผลิต การครอบครอง และการใช้สารมลพิษหรือสารเคมี (๒) การเคลื่อนย้ายสารมลพิษหรือสารเคมีออกนอกโรงงาน (๓) ขั้นตอนการด าเนินงานเพื่อควบคุมการปลดปล่อยสารมลพิษหรือสารเคมี (๔) คุณลักษณะเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง (๕) การตรวจสอบประสิทธิภาพระบบป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ (๖) การปลดปล่อยสารมลพิษหรือสารเคมี และการตรวจสอบสภาพแวดล้อม (๗) ข้อมูลอื่นตามที่รัฐมนตรีก าหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา” ให้ไว้ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖3 สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ้หนา ๑๕ ่เลม ๑๓๗ ตอนที่ ๒๒ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๓ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรก าหนดให้ผู้ประกอบ กิจการโรงงานต้องแจ้งข้อมูลที่จ าเป็นเกี่ยวกับสารมลพิษหรือสารเคมีในการประกอบกิจการโรงงาน เพื่อประโยชน์ในการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและก ากับดูแลและติดตามผลการด าเนินการที่เกี่ยวข้อง ของโรงงานให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงจ าเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้ ้หนา ๑๖ ่เลม ๑๓๗ ตอนที่ ๒๒ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๓
train
143
1747.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1747.pdf
'1>@0ค>11/@1คBO/ค1อOอ/Cล2N/%&Bคคล N1APอ /@!1@1''้อ#?PNห/@>2/N*APอคBO/ค1อ2>#$>Oล>N21?.@*อNO@อOอ/Cล2N/%&Bคคล 2ํ@ห1?&@1NO&1/&1//Oอ/Cล2N/%&BคคลN*APอQหO&11ลB/?!"B'1>2ค์#?PN?P0/?&@1? #ํ@Nอ2@1 '1>/?!>0@2!1์ห1Aอ ห/@0Nห!BN*APอ'1>P0%์2@$@1> *.0. `cdd P 0#?PN'็%@12/ค/1 ํ@ห% /@!1@1'' ้อ#?PNห/@>2/N* APอคBO/ค1อ2>#$>Oล>N21?.@* อNO@อOอ/Cล2N/%&Bคคล 2ํ@ห1?&@1NO&1/&1// Oอ/Cล2N/%&BคคลN*APอQหO&11ลB/?!"B'1>2ค์ #?PN?P0/?&@1? #ํ@Nอ2@1'1>/?!>0@2!1์ห1Aอ ห/@0Nห!BN*APอ'1>P0%์2@$@1> อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ _d (b) '1>อ&/@!1@ `b (_) OหN*1>1@&??!> คBO/ค1อOอ/Cล2N/%&Bคคล *.0. `cd` ค>11/@1คBO/ค1อOอ/Cล2N/%&Bคคล @ออ'1>@0R/O ?!NอR'%?Q Oอ _ '1>@0%?QN1?0/N@ “'1>@0ค>11/@1คBO/ค1อOอ/Cล2N/%&Bคคล N1APอ /@!1@1 ''้อ#?PNห/@>2/N*APอคBO/ค1อ2>#$>Oล>N21?.@*อNO@อOอ/Cล2N/%&Bคคล 2ํ@ห1?&@1NO&1/&1// Oอ/Cล2N/%&BคคลN*APอQหO&11ลB/?!"B'1>2ค์#?PN?P0/?&@1? #ํ@Nอ2@1'1>/?!>0@2!1์ห1Aอ ห/@0Nห!B N*APอ'1>P0%์2@$@1> *.0. `cdd” Oอ ` '1>@0%?QQหOQO&?ค?&N/APอ*O%ํ@ห% NO@2>&/?%%?&O!N/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@ N'็%!O%R' Oอ a Q%'1>@0%?Q “/?!"B'1>2ค์#?PN?P0/?&@1? #ํ@Nอ2@1'1>/?!>0@2!1์ห1Aอ ห/@0Nห!BN*APอ'1>P0%์2@$@1>” ห/@0ค/@//N@ @1 ํ@N%>%@1N*APอ1?1@ค/@//?อ0CNอ&?%#@Nห!B@1์ N1APอ1@/ Nอ2@1 หล?ฐ@% ห1AอOอ/Cล 2ํ@ห1?&/?!"B'1>2ค์Q%'ัB&?%ห1Aอ/?!"B'1>2ค์#?Pอ@N'็%R'R OQ%อ%@ค! #?Q%?Q P 0N'็%R' N*APอ'1>P0% ์2@$@1> Oล>QหOห/@0ค/@/1//" @@1 ํ@N%>%@1N ?P0/?&Nอ2@1 ห/@0Nห! B !@/ห/@0/N@ O/0 ห/@0Nห!BOหN@!> O/0 Oอ b Q%@1NO&1/&1//Oอ/Cล2N/%&BคคลP 0R/NR O1?&ค/@/0>%0อ/@NO@อOอ/Cล2N/%&Bคคล N*APอQหO&11ลB/?!"B'1>2ค์#?PN?P0/?&@1? #ํ@Nอ2@1'1>/ ?!>0@2!1์ห1Aอ ห/@0Nห! BN*APอ'1>P0% ์ 2@$@1> !@//@!1@ `b (_) OหN*1>1@&??!>คBO/ค1อOอ/Cล2N/%&Bคคล *.0. `cd` (COค/&คB/ Oอ/Cล2N/%&Bคคล>!Oอ? QหO/?/@!1@1''้อ#?PNห/@>2/N*APอคBO/ค1อ2>#$>Oล>N21?.@*อNO@อ Oอ/Cล2N/%&Bคคล ?!NอR'%?Q (_) (COค/&คB/Oอ/Cล2N/%&Bคคล>!Oอ? QหO/?/@!1@1N>อค์1 (organizational measures) Oล>/@!1@1N>N#ค%>ค (technical measures) #?PNห/@>2/ @Pอ@1//"@/@!1@1#@@0.@* หนา ๗๙ เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๓๐๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ (physical measures) #?Pํ@N'็% O/0 N*APอค/&คB/QหO@1NO&1/&1//Oอ/Cล2N/%&Bคคล ?ลN@/ N'็%R'N#N@#?Pํ@N'็% .@0Q!O/?!"B'1>2ค์#?PN?P0/?&@1? #ํ@Nอ2@1'1>/?!>0@2!1์ห1Aอ ห/@0Nห!BN*APอ'1>P0%์2@$@1> (`) (COค/&คB/Oอ/Cล2N/%&Bคคล>!Oอ? QหO/?/@!1@11?1@ค/@//?P%ค'ลอ .?0QหONห/@>2/ ?&ค/@/N2?P0#?P/?!Nอ2>#$>Oล>N21?.@*อ&Bคคล @P>!OอN'็%R'!@//@!1ฐ@%?Q%!Pํ@#?Pค>11/@1 คBO/ค1อOอ/Cล2N/%&Bคคล'1>@0ํ@ห% !@//@!1@ ae (_) Q%@1 ํ@N%>%@1!@/ (_) Oล> (`) (COค/&คB/Oอ/Cล2N/%&Bคคลอ@*>@1@ ํ@N%>%@1#ํ@QหO Oอ/Cล2N/%&BคคลN'็%Oอ/Cล#?PR/N2@/@1"1>&B!?/&Bคคล#?PN'็%NO@อOอ/Cล2N/%&BคคลR O ห1Aอ#ํ@@1O)Oอ/Cล (pseudonymization) N*APอล ค/@/N2 ?P0Q%@11>& B!?/&Bคคล#?PN'็%NO@อOอ/Cล2N/%&Bคคล ห1Aอ #ํ@@1NO@1ห?2Oอ/Cล (encryption) ห1AอQO/@!1@1อAP%Q%ล?1>N ?0/?% อ0N@Nห/@>2/!@/1> ?& ค/@/N2?P0R O P 0คํ@%@"@'ั?0#@N#คP%Pล0 ? &1>&# 2.@*O/ ลOอ/ /@!1ฐ@%#?PN'็%#?P0อ/1?& 2ํ@ห1?&ห%N/0@%ห1Aอ>@1Q%'1>N.#ห1Aอล?1>N ?0/?%ห1AอQลONค?0?% ล?1>Oล>/?!"B'1>2ค์ อ@1NO&1/&1// QO Oล>N'ิ N(0Oอ/Cล2N/%&Bคคล #1?*0@1#?P!OอQO Oล>ค/@/N'็%R'R OQ%@1 ํ@N%>%@1'1>อ&?% ห@2@/@1"#ํ@QหO&11ลB/?!"B'1>2ค์#?PN?P0/?&@1? #ํ@Nอ2@1'1>/?!>0@2!1์ ห1Aอ ห/@0Nห!BN*APอ'1>P0%์2@$@1>R O Oอ c QหO'1>$@%11/@1คBO/ค1อOอ/Cล2N/%&BคคลN'็%(CO1?1@@1!@/'1>@0%?Q '1>@0  /?%#?P 1 $?%/@ค/ *.0. `cd6 N$?01?0  %ค1 '1>$@%11/@1คBO/ค1อOอ/Cล2N/%&Bคคล หนา ๘๐ เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๓๐๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
144
594.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/594.pdf
ประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์ และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคส าหรับประโยชน์ทดแทน ในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการท างาน พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ส าหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการท างาน เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ ให้แก่ผู้ประกันตน อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๕ (๒) และมาตรา ๖๓ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ คณะกรรมการการแพทย์โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคม จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒/๒ แห่งประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์ และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคส าหรับประโยชน์ทดแทน ในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการท างาน ลงวันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์ และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคส าหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย อันมิใช่เนื่องจากการท างาน พ.ศ. ๒๕๖๓ ลงวันที่ ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๒/๒ ผู้ประกันตนที่มีอายุตั้งแต่ ๕๐ ปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับบริการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค กรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ณ สถานพยาบาลที่ส านักงานประกันสังคมก าหนด ดังนี้ (๑) ผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในปี ๒๕๖๓ ให้มีสิทธิได้รับบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๔ (๒) ในปี ๒๕๖๔ มีสิทธิได้รับบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (๓) ตั้งแต่ปี ๒๕๖๕ เป็นต้นไป มีสิทธิได้รับบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กรณีวัคซีน ไข้หวัดใหญ่ ปีละ ๑ ครั้ง ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ของทุกปี ้หนา ๕๘ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๓๐๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ เงินค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด ๓ สายพันธุ์หรือ ๔ สายพันธุ์ ส านักงานประกันสังคมจะจ่ายให้แก่สถานพยาบาลที่ส านักงานประกันสังคมก าหนดในอัตราอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (ก) ชนิด ๓ สายพันธุ์ ในอัตราครั้งละ ๒๕๐ บาท (ข) ชนิด ๔ สายพันธุ์ ในอัตราครั้งละ ๔๕๐ บาท” ประกาศ ณ วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖3 ชาตรี บานชื่น ประธานกรรมการการแพทย์ ้หนา ๕๙ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๓๐๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๓
train
145
727.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/727.pdf
ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การยื่นค าขอข้อมูลข่าวสารและการช าระค่าธรรมเนียมในการรับข้อมูลข่าวสารและการรับค าขอ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การก าหนดให้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายในการด าเนินงาน พ.ศ. ๒๕๖๔ อาศัยอ านาจตามความในข้อ 5 (3) และข้อ 6 (3) แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ดังกล่าว อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิก (1) ประกาศกรมการค้าต่างประเท ศ เรื่อง ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการช าระค่าธรรมเนียม พ.ศ. 2543 ลงวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2543 (2) ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นค าขอและการช าระ ค่าธรรมเนียม พ.ศ. 2544 ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2544 ข้อ 2 เมื่อคณะกรรมการได้รับค าขอตามแบบ ปร.1 ปร.2 ปร.2 ก ปร.3 ปร.3 ก ปร.4 ปร.5 ปร.6 ปร.7 หรือ ปร.8 ให้ผู้ยื่นค าขอช าระค่าธรรมเนียมตามอัตราที่ก าหนดภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากกรมการค้าต่างประเทศ โดยให้ยื่นช าระที่กองคลัง กรมการค้า ต่างประเทศ เป็นเงินสดหรือเช็คของธนาคาร ( Cashier’s Cheque) สั่งจ่ายในนามกรมการค้า ต่างประเทศ หรือวิธีการอื่นใดที่กรมการค้าต่างประเทศเห็นสมควร ข้อ 3 ให้ผู้ประสงค์ขอข้อมูลข่าวสารปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้ (1) ในกรณีการขอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการไต่สวน การทุ่มตลาดหรือการอุดหนุน การทบทวนมาตรการต่าง ๆ และการคืนอากร ให้ยื่นค าขอต่อกองปกป้องและตอบโต้ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ (2) ในกรณีการขอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการไต่สวนการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้ การทบทวนเพื่อยุติการขยายมาตรการตอบโต้ และการคืนอาก ร ให้ยื่นค าขอต่อกองบริหารการน าเข้า และรับรองถิ่นก าเนิด กรมการค้าต่างประเทศ (3) ให้ผู้ยื่นค าขอข้อมูลข่าวสารตาม (1) หรือ (2) ช าระค่าธรรมเนียมตามวิธีการในข้อ 2 เมื่อผู้ยื่นค าขอข้อมูลข่าวสารได้ช าระค่าธรรมเนียมแล้ว ให้น าใบเสร็จรับเงินมาแสดงเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร ตามที่ร้องขอแล้วแต่กรณี ข้อ 4 ในกรณีที่กรมการค้าต่างประเทศจัดให้มีการยื่นค าขอทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้ยื่นค าขอ สามารถยื่นค าขอทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ประกาศ ณ วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. ๒๕64 กีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ้หนา ๑๔ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑๐๐ งราชกิจจานุเบกษา ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔
train
146
1879.pdf
CONSUMER
ACTION
CONSUMER_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1879.pdf
'1>@01>#1/2@$@12B N1ANอ ํ@ห% /?!"B?%N2?0#?Nอ@QON'็%2N/%(2/Q%@1(3>!Nค1ANอ2ํ@อ@ (&?&#?N _) พ.0. `_`a อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ _ /11คห%@N O3>/@!1@ ` (`) O3> (a) OหNพ1>1@&?ญญ?!> Nค1ANอ2ํ@อ@ พ.0. `__b 1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/2@$@12 B P 0คํ@O%>%ํ@อค>11/@1 Nค1ANอ2ํ@อ@ Q%@1'1>B/ค1?O#?N a/`_`` /?%#?N b พ20>@0% `_`` ออ'1>@0R/O ?!NอR'%?O Oอ _ '1>@0%?OQหOQO&?ค?&!?OO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R' Oอ ` QหO0N3>ค/@/Q%3ํ@ ?&#?N 30 OหN&?ญ?O%&#O@0'1>@01>#1/2@$@12 B N1ANอ ํ@ห% /?!"B?%N2?0#?Nอ@QON'็%2N/%(2/Q%@1(3>!Nค1ANอ2ํ@อ@ พ.0. `_`_ 3/?%#?N _b ?%0@0% พ.0. `_`_ O3>QหOQOค/@/!NอR'%?OO#% ลํ@? ช?่อว? @?เสี0 คว@/เ้/้ สAงส@O เค1?่องสํ@อ@ง พ1้อ/Oช้ (w/w) เง?่อP Chemical Name/ Other Name Name of Common Ingredients Glossary CAS Number 30 1-(4-Chlorophenoxy)- 1-(imidazol-1-yl)-3,3- dimethylbutan-2- one Climbazole 38083-17-9 0.5% 1. สํ@ห1?&(ล>!.?ฑ์ #ํ @ค/@/ส>อ@ NสO%(/ ค>O/ ห%/ Nค1@ 0N/ O% %!@ #?NOชOOลO/ลO@ออ 2. สํ@ห1?&(ล>!.?ฑ์ &ํ@1@ NสO%(/ ค>O/ ห%/ Nค1@ 0N/O% %!@ #?NOชOOลO / ลO@ออ 3 . 1 ?#?N OชOส@1% ?O Nพ?Nอ/?!"@'1>สค ์อ?N% %อ@N'็%/?!"@?%Nส?0 OหO'ฏ>&?!>!@/N ?Nอ%P #?Nํ@ห% P/OO%'1>@0 1>#1/ส@$@1ส @ /N@ O/0N1?Nอ/?!"@#?Nอ@ OชON'็%สN/%(ส/O%@1 (ล>!Nค1?Nอสํ@อ@ หนา ๑๐ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๑๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ เมษายน ๒๕๖๗ ลํ@? ช?่อว? @?เสี0 คว@/เ้/้ สAงส@O เค1?่องสํ@อ@ง พ1้อ/Oช้ (w/w) เง?่อP Chemical Name/ Other Name Name of Common Ingredients Glossary CAS Number 0.2% 1. สํ@ห1?&(ล>!.?ฑ์ #@(>/ห%O@ #?NOชOOลO/ P/N!OอลO@ออ 2. สํ@ห1?&(ล>!.?ฑ์ &ํ@1@NสO%(/ ค>O/ ห%/ Nค1@ 0N/O% %!@ #?NOชOOลO/P/N!OอลO@ออ 3 . 1 ?#?N OชOส@1% ?O Nพ?Nอ/?!"@'1>สค ์อ?N% %อ@N'็%/?!"@?%Nส?0 OหO'ฏ>&?!>!@/N ?Nอ%P #?Nํ@ห% P/OO%'1>@0 1>#1/ส@$@1ส @ /N@ O/0N1?Nอ/?!"@#?Nอ@OชO N'็%สN/%(ส/O%@1(ล>! Nค1?Nอสํ@อ@ Oอ a QหO(CO(3>!NพANอ@0 (CO%ํ@NO@NพANอ@0 ห1Aอ(CO1?&O@(3>! #?NR O1?&Q&1?& O O Nค1ANอ2ํ@อ@#?N/?2N/%(2/อ/?!"B?%N2?0#?Nอ@QON'็%2N/%(2/Q%@1(3 >!Nค1ANอ2ํ@อ@3ํ@ ?&#?N 30 OหN&?ญ?O%&#O@0'1>@01>#1/2@$@12 B N1ANอ ํ@ห% /?!"B?%N2?0#?Nอ@QON'็%2N/%(2/ Q%@1(3>!Nค1ANอ2ํ@อ@ พ.0. `_`_ 3/?%#?N _b ?%0@0% พ.0. `_`_ อ0CNNอ%'1>@0%?OQO&?ค?& !Oอ ํ@N%>%@1QหON'็%R'!@/'1>@0%?O.@0Q%ห%@N1Oอ0O' 2>&/?%%?&O!N'1>@0%?OQO&?ค?& '1>@0  /?%#?N 7 /?%@ค/ พ.0. `_`a 3%N@% 01?OO/ 1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/2@$@12B หนา ๑๑ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๑๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ เมษายน ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
147
688.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/688.pdf
ค ำสั่งรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย ที่ 4/๒๕๖๔ เรื่อง กำรก ำหนดเงื่อนไขในกำรอนุญำตให้คนต่ำงด้ำวบำงจ ำพวกเข้ำมำในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว ตำมที่กระทรวงมหำดไทยมีค ำสั่งรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย ที่ ๑/๒๕๖๓ เรื่อง กำรก ำหนดเงื่อนไขในกำรอนุญำตให้คนต่ำงด้ำวบำงจ ำพวกเข้ำมำในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว ลงวันที่ ๑๒ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ค ำสั่งรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย ที่ ๒/๒๕๖๓ เรื่อง กำรก ำหนดเงื่อนไขในกำรอนุญำตให้คนต่ำงด้ำวบำงจ ำพวกเข้ำมำในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว ลงวันที่ ๒๓ กันยำยน พ.ศ. ๒๕๖๓ และค ำสั่งรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย ที่ ๓/๒๕๖๓ เรื่อง กำรก ำหนดเงื่อนไขในกำรอนุญำตให้คนต่ำงด้ำวบำงจ ำพวกเข้ำมำในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว ลงวันที่ ๒๕ ธันวำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อระงับกำรให้สิทธิขอรับกำรตรวจลงตรำ ณ ช่องทำงอนุญำต ของด่ำนตรวจคนเข้ำเมือง ตั้งแต่วันที่ ๑๓ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๑ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อให้สอดคล้องกับกำรบริหำรจัดกำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดขอ งโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (โควิด-19) ในปัจจุบันที่ต้องกำรลดควำมแออัดของคนต่ำงด้ำวที่ขอรับกำรตรวจลงตรำ ณ บริเวณช่องทำง อนุญำตของด่ำนตรวจคนเข้ำเมือง อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระรำชบัญญัติคนเข้ำเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกำศคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ ฉบับที่ ๘๗/๒๕๕๗ เรื่อง กำรแก้ไขเพิ่มเติม ผู้รักษำกำรตำมกฎหมำยที่เกี่ยวข้องกับอ ำนำจหน้ำที่ของเจ้ำพนักงำนต ำรวจ ลงวันที่ ๑๐ กรกฎำคม พุทธศักรำช ๒๕๕๗ และมำตรำ ๑๖ แห่งพระรำชบัญญัติคนเข้ำเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ นำยกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย จึงมีค ำสั่งก ำหนดเงื่อนไขในกำรอนุญำตให้คนต่ำงด้ำวบำงจ ำพวก เข้ำมำในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว โดยให้ระงับกำรก ำหนดรำยชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทำง หรือเอกสำรใช้แทนหนังสือเดินทำงซึ่งเข้ำมำในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำวจะขอรับกำรตรวจลงตรำ ณ ช่องทำงอนุญำตของด่ำนตรวจคนเข้ำเมือง ตำมประกำศกระทรวงมหำดไทย เรื่อง ก ำหนดรำยชื่อประเทศ ที่ผู้ถือหนังสือเดิน ทำงหรือเอกสำรใช้แทนหนังสือเดินทำงซึ่งเข้ำมำในรำชอำณำจักรเป็นกำรชั่วครำว จะขอรับกำรตรวจลงตรำ ณ ช่องทำงอนุญำตของด่ำนตรวจคนเข้ำเมือง ลงวันที่ ๔ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ค ำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ เมษำยน พ.ศ. ๒๕๖๔ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยำยน พ.ศ. ๒๕๖๔ สั่ง ณ วันที่ 19 มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖4 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชำ นำยกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่ำจินดำ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย ้หนา ๔๐ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๖๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๔
train
148
1695.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1695.pdf
1>N&?0&1/@1? ห@@% /N@ O/0หล?N์ />$?@1 Oล>อ?!1@@1N@0N>%ส>%&% N>%1@/?ล Oล>คN@QON@0Q%@1 ํ@N%>%@% !@/ห/@0/N@ O/0@1&1>ห@1? @1@1#ํ@@%อค%!N@ O@/ (&?&#?N `) พ.0. `cdd P 0#?NN'็%@1ส/ค/1OORNพ>N/N!>/1>N&?0&1/@1? ห@@%/N@ O/0หล?N์ />$?@1 Oล>อ?!1@ @1N@0N>%ส>%&% N>%1@/?ล Oล>คN@QON@0Q%@1 ํ@N%>%@%!@/ห/@0/N@ O/0@1&1>ห@1? @1 @1#ํ@@%อค%!N@ O@/ พ.0. `cda NพANอQหO@1N@0N>%ส>%&%Oล>N>%1@/?ลค1อ&คลB/"@1?#?N (CO/?ส>#$>R O1?&N>%"@ONค/@/!@0 อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ a` OหNพ1>1@&??!>1>N&?0&&1>ห@11@@1O( N% >% พ.0. `cab @NOORNพ>N/N!>/P 0พ1>1@& ??!>1>N&?0&&1>ห@11@@1O( N% >% (&?&#?N c) พ.0. `cbc '1>อ&?&Oอ b อ1>N&?0&1>#1/@1คล? /N@ O/0@1N@0N>%ส>%&% N>%1@/?ล Oล>คN@QON@0Q%@1 ํ@N%>%@%!@/พ1>1@ํ@ห% @1&1>@1? @1@1#ํ@@%อค%!N@ O@/ พ.0. `cd^ Oล>#?NOORNพ>N/N!>/ พ.0. `cda อ$>& ?1/@1? ห@@% @/@1>N&?0&R/O ?!NอR'%?O Oอ _ 1>N&?0&%?ON1?0/N@ “1>N&?0&1/@1? ห@@%/N@ O/0หล?N์ />$?@1 Oล>อ?!1@ @1N@0N>%ส>%&% N>%1@/?ล Oล>คN@QON@0Q%@1 ํ@N%>%@%!@/ห/@0/N@ O/0@1&1>ห@1? @1 @1#ํ@@%อค%!N@ O@/ (&?&#?N `) พ.0. `cdd” Oอ ` 1>N&?0&%?OQหOQO&?ค?&!?OO!N/?%'1>@0N'็%!O%R' Oอ a QหONพ>N/ค/@/!NอR'%?ON'็%Oอ _e/_ อ1>N&?0&1/@1? ห@@%/N@ O/0หล?N์ />$?@1 Oล>อ?!1@@1N@0N>%ส>%&% N>%1@/?ล Oล>คN@QON@0Q%@1 ํ@N%>%@%!@/ห/@0/N@ O/0 @1&1>ห@1? @1@1#ํ@@%อค%!N@ O@/ พ.0. `cda “Oอ _e/_ Q%1?#?N(CO/?ส>#$>R O1?&N>%ส>%&%"@ONค/@/!@0 QหO#@0@#P 0$11/ห1Aอ(CO? @1 /1 อ(CO%?O%N'็%(CO ํ@N%>%@1 OลO/O!N1? QหO#@0@#P 0$11/ห1Aอ(CO? @1/1 !@//11คห%@NO%&หล?@%@1N'็%#@0@#P 0$11/ห1Aอ (CO? @1/1  Oล>หล?@%Oส /N@(CO/?ส>#$>R O1?&N>%ส>%&%%?O%"@ONค/@/!@0 '1>อ&@10AN%คํ@อ O/0” Oอ b QหONพ>N/ค/@/!NอR'%?ON'็%Oอ _๙/_ อ1>N&?0&1/@1? ห@@%/N@ O/0หล?N์ />$?@1 Oล>อ?!1@@1N@0N>%ส>%&% N>%1@/?ล Oล>คN@QON@0Q%@1 ํ@N%>%@%!@/ห/@0/N@ O/0 @1&1>ห@1? @1@1#ํ@@%อค%!N@ O@/ พ.0. `cda “Oอ _๙/_ Q%1?#?N(CO/?ส> #$>R O1?&N>%1@/?ล"@ONค/@/!@0 QหO#@0@#P 0$11/ห1 Aอ (CO? @1/1 อ(CO%?O%N'็%(CO ํ@N%>%@1 OลO/O!N1? QหO#@0@#P 0$11/ห1Aอ(CO? @1/1 !@//11คห%@NO%&หล?@%@1N'็%#@0@#P 0$11/ห1Aอ (CO? @1/1  Oล>หล?@%Oส /N@(CO/?ส>#$>R O1?&N>%1@/?ล%?O%"@ONค/@/!@0 '1>อ&@10AN%คํ@อ O/0” หนา ๓ เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๖๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ Oอ c &11 @คํ@อ1?&N>%ส>%&%1@/?ล#?N#@0@#P 0$11/ห1Aอ(CO? @1/1 อ(CO/?ส>#$>R O1?& N>%ส>%&%ห1AอN>%1@/?ล#?N"@ONค/@/!@0 OลO/O!N1? R O0AN%R/ONอ%/?%#?N1>N&?0&%?OQO&?ค?&QหO"AอN'็%คํ@อ !@/1>N&?0&1/@1? ห@@%/N@ O/0หล?N์ />$?@1 Oล>อ?!1@@1N@0N>%ส>%&% N>%1@/?ล Oล> คN@QON@0Q%@1 ํ@N%>%@%!@/ห/@0/N@ O/0@1&1>ห@1? @1@1#ํ@@%อค%!N@ O@/ พ.0. `cda @NOORNพ>N/N!>/P 01>N&?0&%?O '1>@0  /?%#?N 29 ?%0@0% พ.0. `cd6 RพP1%์ P!>Nส"?01 อ$>& ?1/@1? ห@@% หนา ๔ เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๖๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
149
137.pdf
UST
NON
UST_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/137.pdf
ประกาศการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าบริการท่าเทียบเรือภายในประเทศของท่าเรือกรุงเทพ และค่าบริการส าหรับกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการขนส่งโดยเรือชายฝั่งและเรือล าเลียง (โรงพักสินค้า ๑ และ ๒) (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรื่อง การเรียกเก็บ ค่าบริการท่าเทียบเรือภายในประเทศของท่าเรือกรุงเทพ และค่าบริการส าหรับกิจกรรมส่งเสริมและ สนับสนุนการขนส่งโดยเรือชายฝั่งและเรือล าเลียง (โรงพักสินค้า ๑ และ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้มีความถูกต้อง และเหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๔ และข้อ ๑๓ ของระเบียบการท่าเรือแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการใช้ท่าเรือ บริการและความสะดวกต่าง ๆ พ.ศ. ๒๕๔๔ ผู้อ านวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับมอบอ านาจจากคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย จึงให้เพิ่มข้อความต่อไปนี้เป็นวรรคสอง ของข้อ ๒.๗ ของประกาศการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าบริการท่าเทียบเรือ ภายในประเทศของท่าเรือกรุงเทพ และค่าบริการส าหรับกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการขนส่งโดยเรือ ชายฝั่งและเรือล าเลียง (โรงพักสินค้า ๑ และ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ดังนี้ “ในกรณีที่มีการเก็บค่าบริการตามข้อ ๒.๗.๑ หรือข้อ ๒.๗.๒ แล้ว ให้ยกเว้น การเก็บค่าบริการในข้อ ๒.๔.๑ หรือข้อ ๒.๔.๒ เนื่องจากเป็นอัตราเหมาจ่าย” ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖1 เรือตรี ทรงธรรม จันทประสิทธิ์ รองผู้อ านวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายวิศวกรรม รักษาการแทน ผู้อ านวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ้หนา ๑๓ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๕๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ มีนาคม ๒๕๖๒
train
150
629.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/629.pdf
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง จ าแนกและก าหนดระดับความรู้ความสามารถ และก าหนดช่วงอัตราค่าจ้างที่เหมาะสม กับระดับความรู้ความสามารถของผู้ประกอบอาชีพ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓๙ (๓) และ (๕) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา ฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง จ าแนกและ ก าหนดระดับความรู้ความสามารถ และก าหนดช่วงอัตราค่าจ้างที่เหมาะสมกับระดับความรู้ความสามารถ ของผู้ประกอบอาชี พ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เฉพาะสาขาช่างไฟฟ้า ภายในอาคาร ลงวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ข้อ ๒ ในประกาศนี้ ผู้ประกอบอาชีพ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร หมายถึง ผู้ปฏิบัติงานติดตั้ ง รื้อถอน ย้าย เปลี่ยน ตรวจสอบ แก้ไขปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ตัดตอน เดินสายไฟฟ้าด้วยเข็มขัดรัดสาย เดินท่อร้อยสาย เดินรางเคเบิล การต่อตัวน า บ ารุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟฟ้า ประมาณราคา และ ร่างแผนภาพทางไฟฟ้า ส าหรับระบบไฟฟ้า ๑ เฟส หรือ 3 เฟส ซึ่งมีแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับไม่เกิน ๑,๐๐๐ โวลต์ หรือแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงไม่เกิน ๑,๕๐๐ โวลต์ ทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร ซึ่งต่อขยายจากหม้อแปลงไฟฟ้าแรงดันต่ า หรือมิเตอร์วัดไฟฟ้าถึงจุดจ่ายไฟฟ้าไม่ว่าจะติดตั้งถาวร หรือชั่วคราว ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการต่อวงจรไฟฟ้าภายในบริภัณฑ์ไฟฟ้า ข้อ ๓ จ าแนกและก าหนดระดับความรู้ความสามารถของผู้ประกอบอาชีพ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ออกเป็น ๒ ระดับ ดังนี้ (1) ระดับ ๑ หมายถึง ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ๑ เฟส ทั้งนี้ ระดับความรู้ ความสามารถให้เป็นไปตามที่ก าหนดไว้ในมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ (2) ระดับ ๒ หมายถึง ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับระบบไฟ ฟ้า ๑ เฟส หรือ ๓ เฟส ทั้งนี้ ระดับความรู้ความสามารถให้เป็นไปตามที่ก าหนดไว้ในมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๒ ข้อ ๔ ช่วงอัตราค่าจ้างที่เหมาะสมกับระดับความรู้ความสามารถของผู้ประกอบอาชีพ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร เป็นดังนี้ (๑) ระดับ ๑ วันละ ๔๕๐ บาท ถึง ๕๕๐ บาท (๒) ระดับ ๒ วันละ ๕๕๐ บาทขึ้นไป ้หนา ๓๖ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ มกราคม ๒๕๖๔ ทั้งนี้ ในการจ้างงานนายจ้างลูกจ้างสามารถตกลงให้ค่าจ้างสูงกว่าช่วงอัตราค่าจ้างตามที่ก าหนด ไว้ใน (๑) ได้ ข้อ ๕ หนังสือรับรองความรู้ความสามารถที่ออกให้แก่ผู้ผ่านการประเมินในสาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับให้ใช้ได้ต่อไป จนกว่าจะหมดอายุ และให้ถือว่าเป็นผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ ๑ หรือระดับ ๒ ตามประกาศนี้ แล้วแต่กรณี ประกาศ ณ วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖3 สุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ้หนา ๓๗ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ มกราคม ๒๕๖๔
train
151
335.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/335.pdf
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง คุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดนและข้ามแดน อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๒ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา ฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงก าหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับ การทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดน และข้ามแดน ไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้า ผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๑ (1) ผู้เข้ารับการทดสอบต้องมีอายุไม่ต่ ากว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์ นับถึงวันสมัครเข้ารับการทดสอบ และ (2) มีประสบการณ์ท างานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดนและ ข้ามแดนไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือ (3) ผ่านการฝึกฝีมือแรงงานหรือฝึกอาชีพในสาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดนและข้ามแดน ไม่น้อยกว่า ๔๐ ชั่วโมง และมีประสบการณ์จากการฝึกหรือปฏิบัติงานในงานพนักงานขนส่งสินค้า ผ่านแดนและข้ามแดน ไม่น้อยกว่า ๕๒๘ ชั่วโมง หรือ (4) เป็นผู้จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ อาชีพนี้ ข้อ ๒ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้า ผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๒ (1) มีประสบการณ์ท างานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาพนักงานข นส่งสินค้าผ่านแดนและ ข้ามแดนไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ ๑ หรือ (2) ได้คะแนนรวมในการทดสอบ ระดับ ๑ ไม่ต่ ากว่าร้อยละแปดสิบ ข้อ ๓ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้า ผ่านแดนและข้ามแดนระดับ ๓ (1) มีประสบการณ์ท างานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดนและ ข้ามแดนไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ ๒ หรือ ้หนา ๔๐ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ มกราคม ๒๕๖๓ (2) ได้คะแนนรวมในการทดสอบ ระดับ ๒ ไม่ต่ ากว่าร้อยละแปดสิบ ข้อ ๔ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้า ผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๔ (1) มีประสบการณ์ท างานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดนและ ข้ามแดนไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ ๓ หรือ (2) ได้คะแนนรวมในการทดสอบ ระดับ ๓ ไม่ต่ ากว่าร้อยละแปดสิบ ข้อ ๕ ภายในระยะเวลา ๓ ปี หลังจากวิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่ งสินค้าผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๒ ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา ให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบกิจการในระดับหรือต าแหน่งที่เทียบได้ ไม่ต่ ากว่าข้อก าหนดของมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่ง สินค้าผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๒ โดยมีใบรับรองการท างานจากสถานประกอบกิจการที่ปฏิบัติงาน อยู่ในขณะนั้น สามารถขอรับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๒ ได้ ข้อ ๖ ภายในระยะเวลา ๓ ปี หลังจากวิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน แห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๓ ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา ให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบกิจการในระดับหรือต าแหน่งที่เทียบได้ ไม่ต่ ากว่าข้อก าหนดของมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักง านขนส่ง สินค้าผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๓ โดยมีใบรับรองการท างานจากสถานประกอบกิจการที่ปฏิบัติงาน อยู่ในขณะนั้น สามารถขอรับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๓ ได้ ข้อ ๗ ภายในระยะเวลา ๓ ปี หลังจากวิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๔ ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา ให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบกิจการในระดับหรือต าแหน่งที่เทียบได้ ไม่ต่ ากว่าข้อก าหนดของมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่ง สินค้าผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๔ โดยมีใบรับรองการท างานจากสถานประกอบกิจการที่ปฏิบัติงาน อยู่ในขณะนั้น สามารถขอรับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานขนส่งสินค้าผ่านแดนและข้ามแดน ระดับ ๔ ได้ ประกาศ ณ วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖2 สุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ้หนา ๔๑ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ มกราคม ๒๕๖๓
train
152
1512.pdf
SSHE
ACTION
SSHE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1512.pdf
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับการจัดการสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. ๒๕๖๖ อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๑๘ แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความใน พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และข้อ ๗ (๑) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งเพิ่มโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๗ (พ.ศ. ๒๕๖๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการความปลอดภัย เกี่ยวกับการจัดการสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. ๒๕๖๖” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2566 ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 7 แห่งประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการความปลอดภัย เกี่ยวกับการจัดการสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๖5 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๗ ภายใต้บังคับข้อ ๔๒ ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องรายงานข้อมูลสารเคมีอันตราย ที่มีการเก็บหรือการใช้ในการประกอบกิจการโรงงาน ในปริมาณตั้งแต่หนึ่งตันต่อปีต่อสารเคมีอันตราย หนึ่งชนิด ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมทราบ ปีละหนึ่งครั้ง โดยให้รายงานภายในเดือนเมษายน ของปีถัดไป การรายงานตามวรร คหนึ่งให้ด าเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบการรายงาน ข้อมูลกลางของกระทรวงอุตสาหกรรม” ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 42 แห่งประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการความปลอดภัย เกี่ยวกับการจัดการสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๖5 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๔๒ ภายในวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ผู้ประกอบกิจการโรงงานตามบัญชี แนบท้ายประกาศฉบับนี้ต้องรายงานข้อมูลตามข้อ ๗ ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมทราบ ส่วนการรายงาน ข้อมูลครั้งต่อ ๆ ไปให้ด าเนินการตามข้อ ๗ ภายในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ผู้ประกอบกิจการโรงงานนอกเหนือจากวรรคหนึ่ง ต้องรายงานข้อมูลตามข้อ ๗ ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมทราบ ส่วนการรายงานครั้งต่อ ๆ ไป ให้ด าเนินการตามข้อ ๗” ้หนา ๒๙ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๐๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ข้อ 5 ให้ถือว่ารายงานตามข้อ 42 ของประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการ ความปลอดภัยเกี่ยวกับการจัดการส ารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๖5 ที่ได้รายงานให้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมทราบก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ เป็นรายงานตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับการจัดการสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๖5 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศฉบับนี้ ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. ๒๕66 อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจ าส านักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ้หนา ๓๐ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๐๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖
train
153
1834.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1834.pdf
'102010#1/21ค31 /N2 O/0.21?N>%R OO30.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N ๘๑๔) N1ANอ ํ2ห% อค์21 2"2%22$21B03 2"2%พ02&23 O302"2%0@12 !2//2!12 47 (7) () OหN'10//311121 O30/2!12 3 (4) () OหNพ101221?2 ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N 239) พ.0. 2534 @NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N 254) พ.0. 2535 อ2010อํ2%2!2/ค/2/Q%/2!12 47 (7) ( ) OหN'10//311121 @NOORNพ>N/N!>/ P 0พ1012&11!>OORNพ>N/N!>/'10//311121 (&1&#?N 19) พ.0. 2508 O30/2!12 3 (4) () OหNพ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N 239) พ.0. 2534 @NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O% .21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N 254) พ.0. 2535 11/%!1?/N22110#1/21ค31 @'1020 1!NอR'%?O Oอ ๑ QหO0N3>ค/2/Q% (30) อOอ 3 อ'102010#1/21ค31 /N2 O/0.21?N>%R O O30.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N 2) N1ANอ ํ2ห% อค์21 2"2%22$21B03 2"2%พ02&23 O302"2%0@12 !2//2!12 47 (7) ( ) OหN'10//311121 O30/2!12 3 (4) ( ) OหNพ101221 ?2 ออ!2/ค/2/Q%'10//31 1121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N 239) พ.0. 2534 @NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N 254) พ.0. 2535 3/1%#?N 12 !B32ค/ พ.0. 2535 O30QหOQOค/2/!NอR'%?OO#% “(30) /C3%>$>023N02/%O30ค1อ&ค11/1ห/1 N?0Qห/N” Oอ 2 '1020%?OQหON1>N/QO&1ค1&!1OO!N/1%#?N 12 !B32ค/ พ.0. 2535 N'็%!O%R' '1020  /1%#?N 21 B/.2พ1%$์ พ.0. 2567 B3พ1%$์ อ/1/>/1%์ 11/%!1?N/0/N221/ '>&1!>1221O#% 11/%!1?/N22110#1/21ค31 หนา ๓ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๗๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
154
1110.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1110.pdf
ประกาศส านักงานประกันสังคม เรื่อง ก าหนดผลประโยชน์ตอบแทนเงินบ าเหน็จชราภาพ ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 โดยที่เป็นการสมควรก าหนดอัตราผลประโยชน์ตอบแทนเงินบ าเหน็จชราภาพและวิธีการ ในการค านวณจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินบ าเหน็จชราภาพ อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๖ (๒) ของกฎกระทรวงก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พ.ศ. ๒๕๕๐ ส านักงานประกันสังคม จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ข้อ 2 เงินสมทบสุทธิ หมายถึง เงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ ายสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ ข้อ 3 การค านวณจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนเงินบ าเหน็จชราภาพให้แก่ผู้มีสิทธิ ให้ค านวณจ่ายถึงวันที่มีสิทธิ ตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7 แห่งกฎกระทรวงก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พ.ศ. 2550 ข้อ 4 ผลประโยชน์ตอบแทนเงินบ าเหน็จชราภาพ ให้ค านวณจ่ายในอัตราร้อยละ สองจุดแปดสามต่อปี ของเงินสมทบสุทธิและผลประโยชน์ตอบแทนสะสมรวมกัน ข้อ 5 อัตราผลประโยชน์ตอบแทนตามข้อ 4 ให้ใช้ในการค านวณจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน เงินบ าเหน็จชราภาพ จนกว่าส านักงานประกันสังคมจะออกประกาศเปลี่ยนแปลง ประกาศ ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖5 บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการส านักงานประกันสังคม ้หนา ๘ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๖๓ งราชกิจจานุเบกษา ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๕
train
155
1816.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1816.pdf
'1>@0ค>11/@13@/N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 &?&#?P c พ.0. `cde N1AP/ @1OOO3>@1O2 1@ค@(3>!.?์#?P/?O/3/0/3์N'็%2N/%'1>/& NพAP/2B/%@/?02ํ@ห1?&/A/ !@/#?Pค>11/@13@/N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 R O0N3>'1>@0ค>11/@13@ /N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 &?&#?P _ พ.0. `cdd N1AP/ @1ํ@ห% 2>%คO@ค/&คB/Nพ>P/N!>/ 3/?%#?P _g /1@ค/ พ.0. `cdd @#ํ@QหO'1>@0ค>11/@13@/N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 &?&#?P d พ.0. `cdd N1AP/ @1OOO3>@1O2 1@ค@(3>!.?์#?P/?O/3/0/3์N'็%2N/%'1>/& NพAP/2B/%@/?02ํ@ห1?&/A/ 3/?%#?P `b /1@ค/ พ.0. `cdd 2>Q%(3QO&?ค?& '1>/& ?& ค>11/@13@/ N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1R Oพ>@1@#&#/%@1Q O/ํ@%@ํ@ห% /@!1@1 ?3N@/O3O/ NหO%ค/1'1?&/@!1@1Qห O(CO(3>! (CO%ํ@NO@ (CO2N// !?/O#%ํ@ห%N@0 #?P/?'1>/@ @1ํ@ห%N@0!N/N A/%!?QO!Nห%@Pพ?%3>!1@Q%R' OOO//C3!O%#B% 1@ค@ O3>'1>/@ 1//#?Qค/@!1@1 @1O2 1@ค@(3 >!.?์#?P/?O/3/0/3 ์N'็%2N/%'1>/&Nพ AP/2B/%@/?02ํ@ห1?&/A/ NพAP/!> !@/ ค/@/Nค3 AP/%Rห//1@ค@O3>'1 >/@2>%คO@ QหON> ค/@/N' ็%$11/O3>' ้/?%@1/0P/@2 N/@1? N/@N'1?0&(CO&1>P.ค /@0?0/ํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ g (`) (a) (c) /@!1@ `c (a) (b) (c) /@!1@ `d /11คห% @P O3>/@!1@ `f OหNพ1>1@& ?ญญ?!>/N@ O/01@ค@2 >%คO@O3>&1 >@1 พ.0. `cb` ค>11/@13@/N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 @//'1>@0 ?!N/R'%?Q O/ _ '1>@0&?&%?QQหOQO&?ค?&Q%#B#O/#?P#?P/1@/@@?1 !?QO!N/?%"? @/?%'1>@0 N'็%!O%R' %"@/?%#?P a^ />"B%@0% พ.0. `cde N/O%O!N>/?@1//'1>@0Qห/N O/ ` QหO(CO(3>! (CO%ํ@NO@ (CO2N// !?/O#% ํ@ห%N@0(3 >!.?์#?P/? O/3/0/3 ์ N'็%2N/%'1>/&NพAP/2B/%@/?02ํ@ห1?&/A/ #?P/?'1>/@@1ํ@ห%N@0!N/N A/%!?QO!Nห%@Pพ?%3>!1@Q%R' OO!O%#B% 1@ค@AQ/ 1@ค@ํ@ห%N@0 '1>/@@1(3>! '1>/@@1%ํ@NO@ '1>/@@12N// '1>/@ @1ํ@ห%N@0 '1>/@คNห3A/  /?%2>Q%N A/%N'็%'1>ํ@#BN A/% .@0Q%/?%#?P2>&/N A/%"? R' P 0QหON1>P/OOO//C3/N A/%/1@ค/ `cde N'็%!O%R' (CO(3>! (CO%ํ@NO@ (CO2N// !?/O#%ํ@ห%N@0#?PR OOOO//C3!@//11คห%@PO3O/ !O/ ํ@N%>%@1 OOO//C3 ?3N@/!N/R'R/N/N@Q%N A/%%?Q%>ํ@ห%N@0!Pํ@/N@'1>/@#?Pํ@ห% ห1A/R/NO!@/ O/ a @1OO!@/O/ ` QหO0AP%!N/N3@$>@1!@/O&&#?PN3@$>@1ํ@ห%  2ํ@%?@% ค>11/@13@/N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 1/@1คO@.@0Q% 1>#1/พ@>0์ @1OO!@//11คห% @P >OOP 0#@ O//C3/>N3O#1/%>2์#@ ห/@0/ >N3O#1/%>2์ (/?N/3) #@P#12@1 ห1A/#@R'11?0์3#>N&?0%!/&1?&OR O Q%1?@1OO#@O//C3/>N3O#1/%>2์ หนา ๗๗ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ กุมภาพันธ ๒๕๖๗ QหO"A//?%#?PO//C3/>N3O#1/%>2์R ONO@2CN1>&&O//C3/2ํ@%?@%ค>11/@13@/N@ O/01@ค@2>%คO@ O3>&1>@1 1/@1คO@.@0Q% 1>#1/พ@>0์ N'็%/?%OO Q%1?#?POO#@ ห/@0/>N3O#1/%>2์ (/?N/3) QหO"A//?%#?PR O1?& ห/@0/>N3O#1/%>2์ (/?N/3) N'็%/?%O2 N!%@Q%@1OO Q%1?#?POO #@P#12@1Qห O"A//?%#?PR O1?&P#12@1 N'็%/?%O2 N!%@Q%@1O O Q%1?#?POO#@R'11 ?0์ 3#>N&?0%!/&1?&QหO"A//?%#?PR O'1>#?&!1@'1>ํ@/?%  #?P#ํ@@1R'11?0์!O%#@ N'็%/?%OO @1OO#@ ห/@0/ >N3O#1/%>2์ (/?N/3) ห1A/#@P#12@1!@//11ค2/ >2/&C1์ O!N/N/AP/(CO(3>! (CO%ํ@NO@ (CO2N// !?/O#%ํ@ห%N@0 R O2N!O%&?&QหON3@$>@1O3O/ QหO(CO(3>! (CO%ํ@NO@ (CO2N// !?/O#%ํ@ห%N@0 #?P'1>2ค์>OO#@O//C3/>N3O#1/%>2์ 3%@/Q%& ?%#@O2 ค/@/!3Q%@1O O#@O//C3/>N3O#1/%>2์ !@/ห3?N์O3>/>$?@1 #?PN3@$>@1ํ@ห% O/ b QหO(COํ@ห%N@0O2 1@ค@ ํ@ห%N@0'3?(3>!.?์#?P/?O/3/0/3์N'็%2N/%'1>/& NพAP/2B/%@/?02ํ@ห1?&/A/ ห1A/คN@QON@0/AP% N QหO? N%O3>ค1&"O/% P 0O2 R/Oค/&คCN?&@1O2  1@ค@(3>!.?์#?P/?O/3/0/3์N'็%2N/%'1>/&Nพ AP/2B/%@/?02ํ@ห1?&/A/Q%3?1>#?PNหO%R O? N% O3>N'ิ N(0 2@/@1"/N@%R OP 0N@0 2ํ@ห1?&O/ค/@/ห1A/1@0@1#?PO2 ค/&คCN?&1@ค@!O/N'็%.@1@R#0 O!N>/?.@1@/AP% O/0OR O @1O2 1@ค@ ํ@ห%N@0'3?!@//11คห% @P QหO1>#ํ@P 0@1N?0% พ>/พ์ ห1A/1>#ํ@QหO '1@ O/0/>$?/AP%Q &%O(N%1> @1 O(N%R/O O(N%1> (%?ห1A//?!"B/AP% @1O2 1@ค@ํ@ห%N@0'3?QหOO2 1@ค@!N/ห%N/0 1@ค@%?Q%!O/N'็%!?/N3R#0ห1A//@1&>ค P 0O2 R/O#?P2>%คO@#?Pํ@ห%N@0ห1A/&1>N/Q3ONค?02>%คO@%?Q% O/ c QหO(COํ@ห%N@0 ํ@ห%N@0R/N2C/N@1@ค@#?PO2 R/O!@/O/ b O/ d N/AP/(CO(3>! (CO%ํ@NO@ (CO2N// !?/O#%ํ@ห%N@0 1O//!N/N3@$>@1 NพAP/0@0 1>0>N/3@!@/# ?Pํ@ห% R/OQ%'1>@0& ?&%?Q ห1A/N/AP/N3@$>@1NหO%2/ค/1 N3@$>@1/@/?คํ@2?P 0@01>0>N/3@!@/# ?Pํ@ห% R/ON/%2>Q%1>0>N/3@%?Q%R O O!N@10@01>0>N/3@N N%/N@%?QQหOพ@#ํ@R O !N/N/AP//?พ2!>@1์พ>N01ห1A//?Nห!Bํ@N'็% O3>(CO(3>! (CO%ํ@NO@ (CO2N// !?/O#%ํ@ห%N@0 R O/?คํ@1O// ห1A/N3@$>@1R O/?คํ@2?PN/%2>Q%1>0>N/3@%?Q% N/O%O!NQ%1?#?P/?Nห!B2B />2?0 '1>@0  /?%#?P 23 /1@ค/ พ.0. `cd7 .C/>$11/ N/0?0 1?/%!1?/N@@11>#1/พ@>0์ '1>$@%ค>11/@13@/N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 หนา ๗๘ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ กุมภาพันธ ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
156
1821.pdf
AAW
NON
AAW_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1821.pdf
#1>@01/?P >! N1APอ ํ@ห! QหO2ํ@!?@!?P >!?ห/? Oล>2ํ@!?@!?P >!2@@ Q!พAQ!?P?ห/? ล"B1?N#็!2ํ@!?@!?P >!อ>NลO1อ!>2์ อ@0?0อํ@!@!@/ค/@/Q!/@!1@ e_ /11ค2อ OหN#1>//ลห/@0?P >! @POORNพ>P/N!>/ P 0พ1>1@" ??!>OORNพ>P/N!>/#1>//ลห/@0 ?P >! ("?"?P _^) พ.0. `cc^ #1>อ"?" /@!1@ a` OหNพ1>1@"??!>1>N"?0""1>ห@11@@1O$N! >! พ.0. `cab @POORNพ>P/N!>/P 0 พ1>1@" ??!>1>N"?0""1>ห@11@@1O$ N! >! ("?"?P c) พ.0. `cbc Oล>Oอ ` (_) ( b) Oอ _g OหN1>1/O"N2N/!1@@11/?P >! 1>1//ห@ R0 พ.0. `cce #1>อ"?" Oอ f OหN1>N"?0"1/?P >! /N@ O/0หล?Nฑ์Oล>/> ?@1 >N"?0!2> >Oล>!>!>11/Q!2ํ@!?@!?P >! อ>NลO1อ! >2์ 2ํ@!?@! ?P >!อ>NลO1อ! >2์!N@2ํ@!?@!O""ออ!Rล! ์ Oล>2ํ@!?@! ?P >! อ>NลO1อ!>2์?Q1>"" พ.0. `cdb @#1>@0QหO2ํ@!?@!?P >! ?!NอR#!?Q N#็!2ํ@!?@!?P >! อ>NลO1อ!>2์Nพ@>@1 >N"?0!2> >Oล>!>!>11/Q!ห!?2AอO2 2> >Q!?P >!#1>N.P! ?P >! _. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? ล"B1? `. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? ล"B1? 2@@"@ล>/B a. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? ล"B1? 2@@"O@!"@ b. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? ล"B1? 2@@พ!?2!>ค/ c. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? ล"B1? 2@@01?1@@ d. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? ล"B1? 2@@2?!ห?" ?Q!?Q !?QO!N/?!?P c B/.@พ?! ์ พ.0. `cde N#็!!O!R# #1>@0  /?!?P 5 B/.@พ?! ์ พ.0. `cd7 พ1พ!์ NพOพ@2 1อ#ล? 1>1//ห@ R0 1?1@@1Q!!ํ@Oห!N อ >" ?1/?P >! หนา ๑๗ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ กุมภาพันธ ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
157
711.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/711.pdf
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ขยายกําหนดเวลาการยื่นรายการและชําระภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 4) เพื่อเป็นการบรรเทาภาระแก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งได้รับผลกระทบจากการ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว จึงอาศัยอํานาจตามมาตรา ๓ อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ขยายกําหนดเวลาการยื่นรายการและชําระภาษี และการยื่นรายงานตามประมวล รัษฎากร ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ขยายกําหนดเวลาการยื่นรายการและชําระภาษี และการยื่นรายงาน ตามมาตรา 68 มาตรา 69 และมาตรา 71 ตรี วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร สําหรับกรณีที่จะต้องยื่นรายการ และชําระภาษี และยื่นรายงานผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การขยายกําหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖3 ภายในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564 และภายใน เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 ออกไปเป็นภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ข้อ 2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามประกาศนี้ หมายถึงบริษัทที่มีหลักทรัพย์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพ ย์และตลาดหลักทรัพย์ ก่อนหรือในวันสุดท้ายแห่งกําหนดเวลาการยื่นรายการและชําระภาษี ตามมาตรา 68 และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งต้องเลื่อนการประชุมสามัญประจําปีเพื่ออนุมัติงบดุลและบัญชีกําไรขาดทุน ที่ได้กําหนดการจัดประชุมไว้ในระหว่างวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2564 ออกไปอีกไม่เกิน 1 เดือนนับจากที่กําหนดไว้เดิม เนื่องจากการประกาศมาตรการควบคุม การจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ข้อ 3 ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามข้อ 2 แจ้งกําหนดการประชุมสามัญประจําปี ที่ได้กําหนดไว้เดิม และกําหนดการจัดประชุมครั้งใหม่ต่ออธิบดีกรมสรรพากร ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ข้อ 4 แบบแสดงรายการภาษีหรือแบบรายงานที่ผู้มีหน้าที่เสียภา ษีได้รับการขยาย กําหนดเวลามีดังนี้ ้หนา ๕ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๙๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ เมษายน ๒๕๖๔ (1) ภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามแบบ ภ.ง.ด. ๕๐ และบัญชีงบดุล บัญชีทําการ และบัญชี กําไรขาดทุน บัญชีรายรับ รายจ่าย หรือบัญชีรายรับก่อนหักรายจ่ายที่มีบุคคลตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร ตรวจสอบและรับรองในรอบระยะเวลาบัญชี แล้วแต่กรณี (2) แบบรายงานประจําปีสําหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน ตามมาตรา 71 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร (Disclosure Form) ประกาศ ณ วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. ๒๕๖4 อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ้หนา ๖ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๙๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ เมษายน ๒๕๖๔
train
158
1040.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1040.pdf
กฎกระทรวง ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต และเขตปลอดอากร และผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากร ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ (๓) แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีตามข้อ ๑ (๒) (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) และ (ฉ) แห่งกฎกระทรวง ก าหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร พ.ศ. ๒๕๖๐ ประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต และเขตปลอดอากร และผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากร ให้ไว้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖4 อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ้หนา ๙ ่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๗ มกราคม ๒๕๖๕ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นค่าธรรมเนียม รายปี ประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต และเขตปลอดอากร และผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากร ซึ่งได้รับ ผลกระทบทางเศรษฐกิจในการปร ะกอบกิจการจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เนื่องจาก ไม่สามารถน าเข้าวัตถุดิบและส่งออกสินค้าได้ตามปกติ ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการ ดังกล่าว จึงจ าเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้ ้หนา ๑๐ ่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๗ มกราคม ๒๕๖๕
train
159
1339.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1339.pdf
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเพิ่มระยะเวลาการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจ าพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ โดยที่เป็นการสมควรเพิ่มระยะเวลาการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจ าพวกอยู่ในราชอาณาจักร เป็นกรณีพิเศษ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและเพิ่มค่าใช้จ่าย ของนักท่องเที่ยวระหว่างที่พ านักในราชอาณาจักร อันจะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและ เยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด - 19 อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๘๗/๒๕๕๗ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติม ผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอ านาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานต ารวจ ลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวตามข้อ ๖ วรรคสอง แห่งกฎกระทรวงก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น และการเปลี่ยน ประเภทการตรวจลงตรา พ.ศ. ๒๕๔๕ ให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่เดินทาง เข้ามาในราชอาณาจักร ข้อ ๒ คนต่างด้าวผู้ถือหนังสือเดินทางของประเทศที่รัฐบาลของประเทศนั้นได้ท าความตกลง ไว้กับรัฐบาลไทย กรณีการยกเว้นการตรวจลงตรา ระยะเวลาพ านักไม่เกินสามสิบวัน ตามข้อ ๑๓ (๑) แห่งกฎกระทรวงก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น และการเปลี่ยนประเภท การตรวจลงตรา พ.ศ. ๒๕๔๕ ให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกินสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่เดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักร ข้อ ๓ คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวซึ่งได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา ตามข้อ ๑๓ (๓) (ก) แห่งกฎกระทรวงก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น และการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา พ.ศ. ๒๕๔๕ ให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน สี่สิบห้าวันนับแต่วันที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ข้อ ๔ ในกรณีที่คนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรก่อนวันที่ประกาศนี้สิ้นผลใช้บังคับ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาอนุญาตให้คนต่างด้าวได้รับระยะเวลาการพ านัก ในราชอาณาจักรตามที่ก าหนดไว้ในประกาศนี้ ้หนา ๒๓ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๓๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ข้อ ๕ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ จนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ประกาศ ณ วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖5 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน นายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ้หนา ๒๔ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๓๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕
train
160
1477.pdf
UST
ACTION
UST_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1477.pdf
ประกาศกรมเจ้าท่า เรื่อง วิธีการแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยที่มาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติว่าในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้ผู้รับอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผย ให้เป็นสิทธิของ ผู้รับอนุญาตที่จะแสดงใบอนุญาตนั้นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการที่ผู้อนุญาตประกาศก าหนดก็ได้ โดยให้ถือว่าการแสดงเช่นว่านั้นเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว สมค วรก าหนดวิธีการแสดง ใบอนุญาต ตามกฎหมายในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่า โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็น การอ านวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕ อธิบดีกรมเจ้าท่า ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๒ ในประกาศนี้ “ใบอนุญาต” หมายความว่า เอกสารหลักฐานที่กฎหมายก าหนดให้ต้องแสดงไว้ในที่เปิดเผย ดังต่อไปนี้ (๑) ใบทะเบียนผู้ประกอบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ตามพระราชบัญญัติการขนส่ง ต่อเนื่องหลายรูปแบบ พ.ศ. ๒๕๔๘ (๒) ใบอนุญาตตั้งสาขาในการประกอบกิจการของผู้ประกอบการขนส่งต่อเนื่อง ตามพระราชบัญญัติ การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ พ.ศ. ๒๕๔๘ (๓) ใบทะเบียนการตั้งตัวแทน ตามพระราชบัญญัติการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ พ.ศ. ๒๕๔๘ (๔) ใบจดแจ้งเป็นผู้ประกอบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ตามพระราชบัญญัติการขนส่ง ต่อเนื่องหลายรูปแบบ พ.ศ. ๒๕๔๘ (๕) ใบแทนใบทะเบียน ตาม (๑) - (๔) ข้อ ๓ ผู้รับอนุญาตสามารถแสดงใบอนุญาตตามข้อ ๒ โดยแสดงเป็นภาพผ่านอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ข้อ ๔ การแสดงใบอนุญาตตามข้อ ๓ ต้องมีขนาดของภาพและความละเอียดที่ชัดเจน เพียงพอ รวมทั้งสามารถแสดงให้เห็นข้อมูลอันเป็นสาระส าคัญของใบอนุญาตได้ครบถ้วน ผู้รับอนุญาตอาจเลือกแสดงภาพใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ สถานที่ประกอบ กิจการมากกว่าหนึ่งใบหรือภาพผ่านหน้าจอเดียวกันก็ได้ แต่ต้องมีระยะเวลาแสดงภาพใบอนุญาต แต่ละใบไม่น้อยกว่าห้าวินาที ้หนา ๒ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๖๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๖ ข้อ ๕ เมื่อผู้รับอนุญาตเลือกแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามข้อ ๓ แล้ว ผู้รับอนุญาตไม่ต้องแสดงใบอนุ ญาตไว้โดยเปิดเผยตลอดเวลา ณ สถานที่ประกอบ กิจการอีกต่อไป แต่ต้องสามารถแสดงต่อเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา เมื่อมีการตรวจสอบ หรือต่อประชาชนที่ขอตรวจดู ประกาศ ณ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. ๒๕66 สรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทน อธิบดีกรมเจ้าท่า ้หนา ๓ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๖๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๖
train
161
2313.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2313.pdf
'#020#0##/2#ค%1 /N2 O/" 21?N>%R OO%0 21?!C%คN2N>P! (&1&#?P faf) N#APอ ํ2ห% อค์2# 2"2%22$2#B0% 2"2%"2&2% O%02"2%0@12 !2!!2!#2 be (e) () OหN'#0!/%#112# O%0!2!#2 a (b) () OหN#0#2$1?2 ออ!2!ค/2!Q%'#0!/%#112# /N2 O/"2#"N/O% 21?!C%คN2N>P! (&1&#?P `ag) .0. `cab @POORN>P!N!>!P "#0#2$1?2ออ!2!ค/2!Q%'#0!/%#112# /N2 O/"2#"N/O% 21?!C%คN2N>P! (&1&#?P `cb) .0. `cac อ201"อํ2%2!2!ค/2!Q%!2!#2 be (e) () OหN'#0!/%#112# @POORN>P!N!>!P " #0#2&11!>OORN>P!N!>!'#0!/%#112# (&1&#?P _g) .0. `c^f O%0!2!#2 a (b) () OหN#0#2$1?2ออ!2!ค/2!Q%'#0!/%#112# /N2 O/"2#"N/O% 21?!C%คN2N>P! (&1&#?P `ag) .0. `cab @POORN>P!N!>!P "#0#2$1?2ออ!2!ค/2!Q%'#0!/%#112# /N2 O/"2#"N/O% 21?!C%คN2N>P! (&1&#?P `cb) .0. `cac #1!%!#?/N22##0##/2#ค%1 @'#020 1!NอR'%?Q Oอ _ QหO"N%>ค/2!Q% (a_f) อOอ a อ'#020#0##/2#ค%1 /N2 O/" 21?N>%R O O%0 21 ?!C%คN2N>P! ( &1&#?P `) N#APอ ํ2ห% อค ์2# 2"2%22$2# B0% 2"2%"2&2% O%02"2%0@12 !2!!2!#2 be (e) () OหN'#0!/%#112# O%0!2!#2 a (b) () OหN#0#2$1?2 ออ!2!ค/2!Q%'#0!/%# 112# /N2 O/"2#"N/O% 21?!C%คN2N>P! (&1&#?P `ag) .0. `cab @POORN>P!N!>!P "#0#2$1?2ออ!2!ค/2!Q%'#0!/%#112# /N2 O/"2#"N/O% 21?!C%คN2N>P! (&1&#?P `cb) .0. `cac %/1%#?P _` !B%2ค! .0. `cac @POORN>P!N!>!P "'#020 #0##/2#ค%1 /N2 O/" 21?N>%R OO%0 21?!C%คN2N>P! (&1&#?P e`) N#APอ ํ2ห% อค์2# 2"2%22$2#B0% 2"2%"2&2% O%02"2%0@12 !2!!2!#2 be (e) () OหN'#0!/%#112# O%0!2!#2 a (b) () OหN#0#2$1?2ออ!2!ค/2!Q%'#0!/%#112# /N2 O/"2#"N/O% 21?!C%คN2N>P! (&1&#?P `ag) .0. `cab @POORN>P!N!>!P "#0#2$1?2ออ!2!ค/2!Q%'#0!/%#112# /N2 O/"2#"N/O% 21?!C%คN2N>P! (&1&#?P `cb) .0. `cac %/1%#?P `b #2ค! .0. `cb^ O%0QหOQOค/2! !NอR'%?QO#% “(a_f) !C%%>$>P#"2&2%N%> 2>% Q%#0อB'"1! ์2!N O#0NO2?P%2N$อ NO2้21%"2>/1%2 #!ห%/%#2$>/22#2%ค#>%##์” Oอ ` '#020%?QQหON#>P!QO&1ค1&!1QO!N/1%#?P a^ #2ค! .0. `cd` N'็%!O%R' '#020  /1%#?P _g B! 21%$์ .0. `cdf B%1%$์ อ!#/>/1%์ #1!%!#?N/"/N22#/ '>&1!>#22#O#% #1!%!#?/N22##0##/2#ค%1 หนา ๘ เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๑๑๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๗ มีนาคม ๒๕๖๘ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
162
1113.pdf
SSHE
ACTION
SSHE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1113.pdf
ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ก าหนดคุณสมบัติ คุณลักษณะ และก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การรับรองแบบที่นั่ง จุดยึดที่นั่งและพนักพิงศีรษะของรถยนต์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้มีประกาศ เรื่อง ก าหนดคุณสมบัติ คุณลักษณะ และก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองแบบที่นั่ง จุดยึดที่นั่งและพนักพิงศีรษะ ของรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ไว้แล้ว นั้น โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) และภัยธรรมชาติ ได้ส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เซมิคอนดักเตอร์ ท าให้เกิดการขาดแคลน ชิ้นส่วนดังกล่าว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส าคัญในชิ้นส่วนต่าง ๆ ของระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ อันท าให้ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เกิดความล่าช้าทั้งในส่วนการผลิตรถตัวอย่างและการส่งรถไปท าการทดสอบ เพื่อน าผลมาใช้ในการรับรองแบบ ประกอบกับทิศทางการพัฒนาข้อก าหนดทางเทคนิคด้านความปลอดภัย ในระดับสากล มีแนวโน้มที่จะยอมรับการใช้ข้อก าหนดทางเทคนิคเดิมกับรถรุ่นปัจจุบัน (Existing Model) ที่มีอยู่ก่อนการออกข้อก าหนดทางเทคนิคดังกล่าว ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติเกี่ยวกับการรับรองแบบที่นั่ง จุดยึดที่นั่งและพนักพิงศีรษะสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ สมควรผ่อนคลายมาตรการ ตามประกาศดังกล่าวส าหรับรถยนต์ที่ผลิตไว้ก่อนวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ อาศัยอ านาจ ตามความในข้อ ๑๑ และข้อ ๑๒ แห่งกฎกระทรวงก าหนดส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ส าหรับรถ พ.ศ. ๒๕๕๑ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความ ในข้อ ๓๐ ของประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ก าหนด คุณสมบัติ คุณลักษณะ และก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองแบบที่นั่ง จุดยึดที่นั่ง และพนักพิงศีรษะของรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๓๐ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับกับผู้ผลิตรถยนต์นั่ง (M๑) และรถบรรทุก (N๑) แบบใหม่ที่ผลิต ประกอบ น าเข้าตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖4 จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ้หนา ๓๐ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๖๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๕
train
163
466.pdf
UST
ACTION
UST_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/466.pdf
ประกาศการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษการใช้น้้ามันเชื้อเพลิง ของการให้บริการตู้สินค้า ณ ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง ตามประกาศการท่าเรือแห่งประเทศไทย ก้าหนดให้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษการใช้ น้้ามันเชื้อเพลิงของการให้บริการตู้สินค้า นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อาศัยอ้านาจ ตามความในข้อ ๔ และข้อ ๑๓ ของระเบียบการท่าเรือแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการใช้ท่าเรือ บริการ และความสะดวกต่าง ๆ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ จึงให้ด้าเนินการ ดังนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษ การใช้น้้ามันเชื้อเพลิงข องการให้บริการตู้สินค้า ณ ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๓ ข้อ ๒ ก้าหนดอัตราค่าธรรมเนียมพิเศษการใช้น้้ามันเชื้อเพลิงของการให้บริการตู้สินค้า ณ ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ดังนี้ บาท / ตู้ ขนาด ๒๐' ๔๐' >๔๐' ตู้มีสินค้า ๔๒ ๘๔ ๙๔ ตู้สินค้าเปล่า ๒๕ ๔๙ ๕๖ ข้อ ๓ การท่าเรือแห่งประเทศไทยจะทบทวนอัตราค่าธรรมเนียมตามข้อ ๒ ทุกวันที่ ๑ มกราคม ๑ เมษายน ๑ กรกฎาคม และ ๑ ตุลาคมของทุกปี ซึ่งใช้ผลต่างของราคาน้้ามันดีเซล ของบริษัท ปตท. จ้ากัด (มหาชน) ระหว่างราคาเฉลี่ยในระยะเวลา ๓ เดือนที่ผ่านมาเปรียบเทียบกับ ราคาเฉลี่ยทั้งปีของปี พ.ศ. ๒๕๔๗ และจะปรับปรุงในกรณีที่ผลการค้านวณอัตราค่าธรรมเนียม มีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่าร้อยละ ๕ ประกาศ ณ วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. ๒๕๖3 เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อ้านวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ้หนา ๓๓ ่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๒๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๓
train
164
2222.pdf
BIOCHEM
ACTION
BIOCHEM_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2222.pdf
'#>@0#>##/@>"์ N#APอ @#%ํ@O@/P #?PQON'็%/?!"B >&อ@ห@#2?!/์NO@!@Q%#@อ@@?# !@!ค/@!!ล @"Q!ON!@#คO@N2#?อ@N?"% 2ํ@ห#?&'ี .0. `cdf .0. `cde P "#?PN'็%@#2!ค/# ํ@ห% !@!#@#Oล>อ ?!#@คN@$##!N% ?"!>N01 NAPอ'#>P"% ์ Q%@#? #>N&?"&@#%ํ@O@/P #?PQON'็%/?!"B >&อ@ห@#2?!/์NO@!@Q%#@อ@@ ?#!@!ค/@!!ล @"Q!ON!@#คO@N2#?อ@N?"% (ASEAN Free Trade Area: AFTA) 2ํ@ห#?&'ี .0. `cdf อ@0?"อํ@%@!@!ค/@!Q%!@!#@ c ( b) ( c) Oล> ( d) Oล>!@!#@ d /##คห%@P OหN#>#@& ??!>@#2NออR'%อOล>@#% ํ@NO@!@Q%#@อ@@ ?#@P2>%คO@ .0. `c`` #?!%!#?/N@@##>##/@ >"์P "อ%B!?!>อค>#?!%!#?N!APอ/?%#?P _e $?%/@ค! .0. `cde ออ'#>@0R/O ?!NอR'%?Q Oอ _ '#>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%#?P _ !#@ค! .0. `cdf %"@/?%#?P a_ $?%/@ค! .0. `cdf Oอ ` Q%'#>@0%?Q “O@/P #?PQON'็%/?!"B >&อ@ห@#2?!/์” ห!@"ค/@!/N@ O@/P #?PNห!@>2ํ@ห#?&#ํ@อ@ห@#2?!/์ !@!>? อ?!#@0Bล@# '#>N #"Nอ" _^^c.g^.gg #ห?22">!> ^^_ @P!?">P%ํ@N%> Oล>2N!#!@@ '#>N#02!@>2!@ค!'#>@@!>OหNNอN?"!>/?%ออN?"Q!O Oอ a QหOO@/P #?PQON'็%/?!"B >&อ@ห@#2?!/์N'็%2>%คO@#?P!Oอ!?ห%?2Aอ#?&#อ ?!NอR'%?Q O2 !Nอ#!0Bล@#Q%@#%ํ@NO@!@Q%#@อ@@?# NAPอ'#>อ&@#QO2>#$>>N01#@ O@% @1?0Bล@# !@!ค/@!!ล @"Q!ON!@#คO@N2#?อ@N?"% (_) ห%?2Aอ#?&#อ!@!ค/@!!ล@#ค O@2>%คO@ออ@N?"% (ASEAN Trade in Goods Agreement: ATIGA) อ"N@Q อ"N@ห%@P ?%?Q ( ) ห%?2Aอ#?&#อ">P%ํ@N%> 2>%คO@ (Form D) ห#Aอห%?2Aอ#?&#อ">P%ํ@N%> 2>%คO@ O&&อ>NลO##อ%>2์ (e-Form D) ( ) Nอ2@##?P'#@คํ@#?&#อ">P%ํ@N%> 2>%คO@ (Origin Declaration) @P? #ํ@P " (CO2Nออ#?PR O#?&@##?&#อ (Certified Exporter) R OON Q&ํ@?&2>%คO@ (Commercial Invoice) ห#AอQ&N# ?"NO&N>%คN@2>%คO@ (Billing Statement) Q&2?P'ลNอ"2>%คO@ (Delivery Order) ห#AอQ&#@"@#ห?&หNอ2>%คO@ (Packing List) #?P"AP%#Oอ!Q&ํ@?&2>%คO@ (`) ห%?2Aอ#?&#อ Q&#?&#อ ห#AอNอ2@#หล ?@%อAP%Q @PO2 /N@2>%คO@#?P%ํ@NO@!@ Q%#@อ@@?#N'็%2>%คO@#?P!?ค/@!'ลอ ?"!Nอ?/>!ห#Aอ2B @อ!%B1"์ 2?!/์ ห#AอA #?PออP "ห%N/"@% อ#?ห#Aอห%N/"@%อAP%#?P!?อํ@%@ออห%?2Aอ#?&#อ ?ลN@/อ'#>N#0(CO2Nออ หนา ๙ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๕๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๗ @#%ํ@NO@2>%คO@!@!/##คห%@P#?P!?!CลคN@!@!#@ค@ Nอ Pอ &? R!NN>%2อ#Oอ" อลล@#์2ห#? R!N!OอO2 ห%?2Aอ#?&#อ!@! (_) !Nอ#!0Bล@# Oอ b @#%ํ@O@/P # ?PQON'็%/?!"B >&อ@ห@#2 ?!/์NO@!@Q%#@อ@@ ?#!Oอ'>&?!> !@!หล?N์ />$?@# Oล>NAPอ%R ?!NอR'%?Q (_) #?อค์@#คล?2>%คO@N'็%(CO%ํ@NO@ !Oอ%ํ@NO@#>ห/N@/?%#?P _ !#@ค! .0. `cdf "@/?%#?P a_ $?%/@ค! .0. `cdf (`) #?(CO%ํ@NO@#?P/R' !Oอ%ํ@NO@#>ห/N@/?%#?P _ B! @?%$์ .0. `cdf "@/?%#?P a_ 2>ห@ค! .0. `cdf Oล>!Oอ'>&?!>!@!Oอํ@ห% !@!#@%ค/&คB!@#%ํ@NO@!@!ห!@" /N@ O/"@#ค/&คB!คB @อ@ห@#2?!/์ (a) !Oอ%ํ@NO@#@ N@%0Bล@##?P!? N@%!#/AOล> N@%?2?!/์ ห#Aอ!?NO@ห%O@#?P#?P!?อํ@%@ อ N@% ?ลN@/'>&?!>ห%O@#?P Oอ c QหOO@/P # ?PQON'็%/?!"B >&อ@ห@#2 ?!/์N'็%2>%คO@#?P!OอN2?"คN@$##!N% ?"!>N01 Q%@#%ํ@NO@!@Q%#@อ@@?#Q%อ?!#@N!!#>!?%ล>0C%"์&@# '#>@0  /?%#?P `d $?%/@ค! .0. `cde >?" %#>#>?%$B์ #?!%!#?/N@@##>##/@>"์ หนา ๑๐ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๕๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
165
2488.pdf
TIS
ACTION
TIS_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2488.pdf
'1>@01>#1/อB!2@ห11/ N1ANอ ํ@ห% /@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/ Nค1% - คCN/Aอ@1QONค1% NลN/ 2 Nค1%O&&NคลANอ%#?N พ.0. 2568 P 0#?NN'็%@12/ค/1ํ@ห% /@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/ Nค1% - คCN/Aอ@1QONค1% NลN/ 2 Nค1%O&&NคลANอ%#?N อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ 15 OหNพ1>1@&?ญญ?!>/@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/ พ.0. 2511 @NOORNพ>N/N!>/P 0พ1>1@& ?ญญ?!>/@!1@%(ล >!.?์อB!2@ห11/ ( &?&#?N 7) พ.0. 2558 1?/%!1?/N@@11>#1/อB!2@ห11/ @ออ'1>@0!@/ OอN2%ออค>11/@1 /@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/R/O ?%?O Oอ 1 '1>@0% ?ON1?0/N@ “ '1>@01>#1/อ B!2@ห11/ N1ANอ ํ@ห% /@!1@% (ล>!.?์อB!2@ห11/ Nค1% - คCN/Aอ@1QONค1% NลN/ 2 Nค1%O&&NคลANอ%#?N พ.0. 2568” Oอ 2 '1>@0%?OQหO/?(ล%?&O!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R' Oอ 3 QหOํ@ห% /@!1@%(ล >!.?์อB!2@ห11/ Nค1% - คCN/Aอ@1QONค1% NลN/ 2 Nค1%O&&NคลANอ%#?N /@!1@%Nล#?N มอก. 4134 เลNม 2 - 2567 ไวO ?/?1@0ล>Nอ?0 #O@0'1>@0%?O '1>@0  /?%#?N 28 B/.@พ?%$์ พ.0. ๒_`๘ Nอ%? พ1Oอ/พ?%$B์ 1?/%!1?/N@@11>#1/อB!2@ห11/ หนา ๙ เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๔๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ขอมูลมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม แนบทายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ชื่อมาตรฐาน : เครน - คูมือการใชเครน เลม 2 เครนแบบเคลื่อนที่ CRANES - CRANE OPERATING MANUAL PART 2: MOBILE CRANES มาตรฐานเลขที่ : มอก. 4134 เลม 2-2567 ผูจัดทํา : สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม กรรมการวิชาการ : - ขอบขาย : มาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนี้ - กําหนดขึ้นโดยรับ ISO 9928-2:2014 Cranes — Crane operating manual — Part 2: Mobile cranes มาใชโดยวิธีพิมพซ้ํา (reprinting) ในระดับเหมือนกันทุกประการ (identical) โดยใช ISO ฉบับภาษาอังกฤษ เปนหลัก - ระบุเนื้อหาของคูมือสําหรับผูปฏิบัติงานเครนแบบเคลื่อนที่ตามที่กําหนดไวใน มอก. 4126 เลม 2 เนื้อหาประกอบดวย : รายละเอียดใหเปนไปตาม ISO 9928-2:2014 จํานวนหนา : 12 หนา ISBN (e-book) : 978-616-617-871-5 ICS : 53.020.20 สถานที่จัดเก็บ : หองสมุดสํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท 02 430 6834 ตอ 02 440-2441 สถานที่จําหนาย : สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400 https://www.tisi.go.th Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
166
1890.pdf
ETHANOL
ACTION
ETHANOL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1890.pdf
#1>@01/?P >! N1APอ ํ@ห! QหO2ํ@!?@!?P >!?ห/? Oล>2ํ@!?@!?P >!2@@ Q!พAQ!?P?ห/? 1@"B1?N#็!2ํ@!?@!?P >!อ>NลO1อ!>2์ อ@0?0อํ@!@!@/ค/@/Q!/@!1@ e_ /11ค2อ OหN#1>//ลห/@0?P >! @POORNพ>P/N!>/ P 0พ1>1@"??!>OORNพ>P/N!>/#1>//ลห/@0 ?P >! ("?"?P _^) พ.0. `cc^ #1>อ"?" /@!1@ a` OหNพ1>1@"??!>1>N"?0""1>ห@11@@1O$N! >! พ.0. `cab @POORNพ>P/N!>/P 0 พ1>1@"??!>1>N"?0""1>ห@11@@1O$N! >! ("?"?P c) พ.0. `cbc Oล>Oอ ` (_) (b) Oอ _g OหN1>1/O" N2N/!1@@11/ ?P >! 1>1//ห@ R0 พ.0. `cce #1>อ"?"Oอ f OหN1>N"?0"1/?P >! /N@ O/0หล?Nฑ์Oล>/> ?@1 >N"?0!2> >Oล>!>!>11/Q!2ํ@!?@!?P >! อ>NลO1อ! >2์ 2ํ@!?@!?P >!อ>NลO1อ! >2์!N@2ํ@!?@!O""ออ!Rล! ์ Oล>2ํ@!?@!?P >! อ>NลO1อ!>2์?Q1>"" พ.0. `cdb @#1>@0QหO2ํ@!?@!?P >! ?!NอR#!?Q N#็!2ํ@!?@!?P >! อ>NลO1อ!>2์Nพ@>@1 >N"?0!2> >Oล>!>!>11/Q!ห!?2AอO2 2> >Q!?P >!#1>N.P! ?P >! _. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? 1@"B1? `. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? 1@"B1? 2@@อ/"@ a. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? 1@"B1? 2@@"O@!P#่ b. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? 1@"B1? 2@@#@Nอ c. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? 1@"B1? 2@@Pพ @1@/ d. 2ํ@!?@!?P >!?ห/? 1@"B1? 2@@2/!$@Q ?Q!?Q !?QO!N/?!?P `g N/1@0! พ.0. `cde N#็!!O!R# #1>@0  /?!?P 5 N/1@0! พ.0. `cd7 พ1พ!์ NพOพ@2 อ >" ?1/?P >! หนา ๒๙ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ เมษายน ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
167
1105.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1105.pdf
ประกาศกรมสรรพากร เรื่อง การบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) (ฉบับที่ 2) เพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกแก่หน่วยรับบริจาคในการบันทึกข้อมูลการรับบริจาคโดยไม่ต้อง ออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาคให้ผู้บริจาค และผู้บริจาคสามารถน าเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาค ให้แก่หน่วยรับบริจาคไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ตามมาตรา 47 (7) แห่งประมวลรัษฎากร หรือ หักเป็นรายจ่ายของบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร หรือยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร หรือ กฎกระทรวงออกตามความในมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากรได้ โดยไม่ต้องมีเอกสารหลักฐาน การบริจาคให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กรมสรรพากรจึงออกประกาศเกี่ยวกับการบริจาคผ่านระบบ บริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 2 ของประกาศกรมสรรพากร เรื่อง การบริจาคผ่านระบบ บริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ 2 ให้หน่วยรับบริจาคมีและใช้เลขประจ าตัวหน่วยรับบริจาค ส าหรับการเปิดบัญชีเงินฝาก ธนาคารเพื่อรับบริจาค การลงทะเบียนเป็นผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th หรือการเชื่อมโยงระบบการรับบริจาคของ หน่วยรับบริจาคกับระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ดังนี้ (1) หน่วยรับบริจาคที่มีเลขประจ าตัวผู้เสียภาษีอากร ให้ใช้เลขประจ าตัวผู้เสียภาษีอากรนั้น เป็นเลขประจ าตัวหน่วยรับบริจาค (2) หน่วยรับบริจาคที่เป็นหน่วยงานในสังกัดของทางราชการ องค์การของรัฐบาล สภากาชาดไทย หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งมีและใช้เลขประจ าผู้เสียภาษีอากรหมายเลขเดียวกับหน่วยงานต้นสังกัด ให้หน่วย รับบริจาคดังกล่าวยื่นค าขอมีและใช้เลขประจ าตัวหน่วยรับบริจาค ณ ส านั กงานสรรพากรพื้นที่หรือ ส านักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่ (3) หน่วยรับบริจาคอื่นนอกจากที่ระบุไว้ใน (1) และ (2) ให้ยื่นค าขอมีและใช้เลขประจ าตัว หน่วยรับบริจาค ณ ส านักงานสรรพากรพื้นที่หรือส านักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้อง ที่ ที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่ เลขประจ าตัวหน่วยรับบริจาคตาม (2) และ (3) มิใช่เลขประจ าตัวผู้เสียภาษีอากร” ข้อ 2 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (7) ของข้อ 4 ของประกาศกรมสรรพากร เรื่อง การบริจาค ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 “(7) กรณีหน่วยรับบริจาคที่ได้ยื่นค าขอและได้รับอนุมัติจากกรมสรรพากรให้เชื่อมโยงระบบ การรับบริจาคของหน่วยรับบริจาคกับระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Donation) เพื่อน าส่งข้อมูล การรับบริจาคให้แก่กรมสรรพากร หน่วยรับบริจาคจะไม่ด าเนินการตาม (1) ถึง (6) ก็ได้ โดยหน่วยรับบริจาค ้หนา ๙๖ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๕๗ งราชกิจจานุเบกษา ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๕ จะต้องท าการบันทึกและส่งข้อมูลการรับบริจาคตามรูปแบบและวิธีการส่งข้อมูลการรับบริจาคผ่านระบบ บริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Donation) ที่หน่วยรับบริจาคนั้นได้ตกลงไว้กับกรมสรรพากร ในวันที่ รับบริจาคหรือภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป โดยไม่ต้องออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาคให้ผู้รับบริจาค เว้นแต่ผู้บริจาคจะร้องขอให้ออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาค” ข้อ 3 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 5 ของประกาศกรมสรรพากร เรื่อง การบริจาค ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความ ต่อไปนี้แทน “(2) กรณีบริจาคให้หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคโดยวิธีอื่นตามข้อ 4 ให้ผู้บริจาคแจ้ง หน่วยรับบริจาคท าการบันทึก ชื่อ เลขประจ าตัวผู้เสียภาษีอากร จ านวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค และวันเดือนปีที่บริจาค บนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Donation) ทางเว็บไซต์ ( Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th หรือบนระบบการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาคที่ได้เชื่อมโยงกับ ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)” ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ที่ลงในประกาศฉบับนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕6๕ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ้หนา ๙๗ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๕๗ งราชกิจจานุเบกษา ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๕
train
168
2311.pdf
TIS
NON
TIS_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2311.pdf
'1>@02ํ@%?@%/@!1@%(3>!.?์อB!2@ห11/ N1APอ 0N3>@1O!N!?Q(CO!1/2อ&(3>!.?์อB!2@ห11/ (&?&#?P b) พ.0. `cdf !@/#?PR O/?'1>@0O! N!?Q(CO!1/2อ&(3 >!.?์อB!2@ห11/ NพAPอ ํ@N%>%@1!1/2อ& (3>!.?์อB!2@ห11/ %?Q% อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ c OหNพ1>1@&?ญญ?!>/@!1@%(3>!.?์อB!2@ห11/ พ.0. `c__ @POORNพ>P/N!>/P 0พ1>1@&?ญญ?!>/@!1@%(3>!.?์อB!2@ห11/ (&?&#?P f) พ.0. `cd` N3@$>@12ํ@%?@%/@!1@%(3>!.?์อB!2@ห11/ P 0ค/@/NหO%อ&อค>11/@1/@!1@% (3>!.?์อB!2@ห11/ @QหO0N3>@1O!N!?Q(CO!1/2อ&(3>!.?์อB!2@ห11/ ?!NอR'%?Q Oอ _ '1>@0%?QN1?0/N@ “'1>@02ํ@%?@%/@!1@%(3 >!.?์อB!2@ห11/ N1APอ 0N3>@1O!N!?Q(CO!1/2อ&(3>!.?์อB!2@ห11/ (&?&#?P b) พ.0. `cdf” Oอ ` '1>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R' Oอ a QหO0N3>@1O!N!?Q(CO!1/2อ&(3>!.?์อB!2@ห11/ ?!NอR'%?Q (_) !@/'1>@01>#1/อ B!2@ห11/ &?&#?P e ( พ.0. `ca`) ออ!@/ค/@/ Q%พ1>1@& ?ญญ?!>/@!1@%(3 >!.?์อB!2@ห11/ พ.0. `c__ N1APอ O!N!?Q(CO!1/2อ& (3>!.?์อB!2@ห11/ 3/?%#?P a^ />"B%@0% `ca` ?/?1@03>Nอ?0 O%&#O@0'1>@0%?Q (`) !@/'1>@01>#1/อ B!2@ห11/ &?&#?P b ( พ.0. `cag) ออ!@/ค/@/ Q%พ1>1@& ?ญญ?!>/@!1@%(3 >!.?์อB!2@ห11/ พ.0. `c__ N1APอ O!N!?Q(CO!1/2อ& (3>!.?์อB!2@ห11/ 3/?%#?P `d N/1@0% `cag ?/?1@03>Nอ?0 O%&#O@0'1>@0%?Q (a) !@/'1>@01>#1/อ B!2@ห11/ &?&#?P __ ( พ.0. `cb`) ออ!@/ค/@/ Q%พ1>1@& ?ญญ?!>/@!1@%(3 >!.?์อB!2@ห11/ พ.0. `c__ N1APอ O!N!?Q(CO!1/2อ& (3>!.?์อB!2@ห11/ 3/?%#?P `a ?%0@0% `cb` ?/?1@03>Nอ?0 O%&#O@0'1>@0%?Q (b) !@/'1>@01>#1/อ B!2@ห11/ &?&#?P _a ( พ.0. `cb`) ออ!@/ค/@/ Q%พ1>1@& ?ญญ?!>/@!1@%(3 >!.?์อB!2@ห11/ พ.0. `c__ N1APอ O!N!?Q(CO!1/2อ& (3>!.?์อB!2@ห11/ 3/?%#?P _d พ20>@0% `cb` ?/?1@03>Nอ?0 O%&#O@0'1>@0%?Q (c) !@/'1>@01>#1/อ B!2@ห11/ &?&#?P c ( พ.0. `cbc) ออ!@/ค/@/ Q%พ1>1@& ?ญญ?!>/@!1@%(3 >!.?์อB!2@ห11/ พ.0. `c__ N1APอ O!N!?Q(CO!1/2อ& (3>!.?์อB!2@ห11/ 3/?%#?P `a 2>ห@ค/ `cbc ?/?1@03>Nอ?0 O%&#O@0'1>@0%?Q '1>@0  /?%#?P a B/.@พ?%$์ พ.0. `cdf /?%?0 พ%/?0 N3@$>@12ํ@%?@%/@!1@%(3>!.?์อB!2@ห11/ หนา ๒๔ เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๑๑๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ มีนาคม ๒๕๖๘ 1@0ล>Nอ?0 ทO@0!1>ก@0สํ@?ก@/@!1@"ล>!.?์อ@!ส@หก11/ N1?Nอ 0กNล>กก@1O!N!?O"AO!1/สอ "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ ( ? ท?N 4) พ.0. 2568 1. 1@0APอ"CO!1/2อ "3>!.?์อB!2@หก11/@PQหO0กN3>ก@ก!1>ก@0ก1>#1/อB!2@หก11/  ? #?P 7 (พ.0. 2532) ออก!@/ค/@/Qพ1>1@ ?ญญ?!>/@!1@"3>!.?์อB!2@หก11/ พ.0. 2511 N1APอ O!N!?Q"CO!1/2อ "3>!.?์อB!2@หก11/ 3/?#?P 30 />"B@0 2532 ?!NอR!?Q ลํ@ ? ท?N "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ "AO!1/สอ "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ ห/@0Nห!@ 265. Qํ@/?Nค1APอ (/อก. 356) 2. ก1/#>N ?0ก@1คO@ 2. 1@0APอ"CO!1/2อ "3>!.?์อB!2@หก11/@PQหO0กN3>ก@ก!1>ก@0ก1>#1/อB!2@หก11/  ? #?P 4 ( พ.0. 2539) ออก!@/ค/@/Qพ1>1@ ?ญญ?!>/@!1@"3>!.?์อB!2@หก11/ พ.0. 2511 N1APอ O!N!?Q"CO!1/2อ "3>!.?์อB!2@หก11/ 3/?#?P 26 N/1@0 2539 ?!NอR!?Q ลํ@ ? ท?N "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ "AO!1/สอ "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ ห/@0Nห!@ 6. Qํ@/?N!@ (/อก. 1313) 2. ก1/#>N ?0ก@1คO@ 3. 1@0APอ"CO!1/2อ "3>!.?์อB!2@หก11/@PQหO0กN3>ก@ก!1>ก@0ก1>#1/อB!2@หก11/  ? #?P 11 ( พ.0. 2542) ออก!@/ค/@/Qพ1>1@ ?ญญ?!>/@!1@"3>!.?์อB!2@หก11/ พ.0. 2511 N1APอ O!N!?Q"CO!1/2อ "3>!.?์อB!2@หก11/ 3/?#?P 23 ก?0@0 2542 ?!NอR!?Q ลํ@ ? ท?N "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ "AO!1/สอ "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ ห/@0Nห!@ 3. R/O 11#? P3ห> (/อก. 1399) 2. ก1/#>N ?0ก@1คO@ 4. R/O 11#? พ3@2!>ก (/อก. 1400) 2. ก1/#>N ?0ก@1คO@ 5. R/O@ก2@/Nห3 ?P0/พ3@2! >ก (/อก. 1401) 2. ก1/#>N ?0ก@1คO@ 4. 1@0APอ ... -2- 4. 1@0APอ"CO!1/2อ "3>!.?์อB!2@หก11/@PQหO0กN3>ก@ก!1>ก@0ก1>#1/อB!2@หก11/  ? #?P 13 ( พ.0. 2542) ออก!@/ค/@/Qพ1>1@ ?ญญ?!>/@!1@"3>!.?์อB!2@หก11/ พ.0. 2511 N1APอ O!N!?Q"CO!1/2อ "3>!.?์อB!2@หก11/ 3/?#?P 16 พ20>ก@0 2542 ?!NอR!?Q ลํ@ ? ท?N "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ "AO!1/สอ "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ ห/@0Nห!@ 5. O" Nห3Oก/? ค/@/0@/ > /O/ก3? อ?!P/?!> (/อก. 1369) 2. ก1/#>N ?0ก@1คO@ 5. 1@0APอ"CO!1/2อ "3>!.?์อB!2@หก11/@PQหO0กN3>ก@ก!1>ก@0ก1>#1/อB!2@หก11/  ? #?P 5 ( พ.0. 2545) ออก!@/ค/@/Qพ1>1@ ?ญญ?!>/@!1@"3>!.?์อB!2@หก11/ พ.0. 2511 N1APอ O!N!?Q"CO!1/2อ "3>!.?์อB!2@หก11/ 3/?#?P 23 2>ห@ค/ 2545 ?!NอR!?Q ลํ@ ? ท?N "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ "AO!1/สอ "ล>!.?์อ@!ส@หก11/ ห/@0Nห!@ 5. Qํ@/?N >R1O2@1!>ก?P/ (/อก. 1269) 1. ก1/#>N ?0ก@1คO@ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
169
2036.pdf
RGS
ACTION
RGS_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2036.pdf
'1>@0ค>11/@13@/N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 &?&#?P `๙ *.0. `cde N1APอ @1OO1@ค@ '1>/@ 2"@%#?PNO& O3>? #O@&??คB/2>%คO@/?%N2O% P 0#?P'1>@0ค>11/@13@/ N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 &?&#?P ๙ *.0. `cdd N1APอ @1O@ห% 2>%คO@O3>&1>@1ค/&คB/ 3/?%#?P `๙ />"B%@0% *.0. `cdd 2>Q%(3QO&?ค?& @#O@QหO'1>@0ค>11/@13@/ N@ O/01@ค@2 >%คO@O3>&1 >@1 &?&#?P `e *.0. `cdd N1APอ @1OO1@ค@ '1>/@ 2"@%#?PNO& O3>? #O@&??คB/2>%คO@/?%N2O% 3/?%#?P _ 1@ค/ *.0. `cdd 2>Q%(3Q O&?ค?& '1>อ& ?&ค>11/@13@/ N@ O/01@ค@2 >%คO@O3>&1 >@1 R O*>@1@#&#/%@1QOอO@%@O@ห% /@!1@1 ?3N@/O3O/ NหO%ค/1ค/@!1@1QหO(CO'1>อ&$B1> OO1@ค@ '1>/@ 2"@%#?PNO& O3>? #O@&??คB/2>%คO@/?%N2O%!NอR' N*APอQหO'1>/@2>%คO@O3>1@ค@ อ0CNQ%1> ?&#?PNห/@>2/ O3>N'็%$11/!Nอ#B)่@0P 0N*@>N1!11 อ@0?0อO@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ ๙ (`) (a) /@!1@ `c (a) (b) (c) O3>/@!1@ `d /11คห%@P OหN*1>1@&??!>/N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 *.0. `cb` ค>11/@13@/N@ O/0 1@ค@2>%คO@O3>&1>@1 @ออ'1>@0 ?!NอR'%?Q Oอ _ '1>@0& ?&%?QQหOQO&?ค?&Q%#B#Oอ#?P#?P/1@อ@@ ?1N'็%1>0>N/3@ห% @P'ี !?QO!N/?%"? @/?%'1>@0N'็%!O%R' N/O%O!N>/?@1ออ'1>@0Qห/N Oอ ` QหO(CO'1>อ&@11 ?&AQอห1AอO@ห%N@0/?%N2O% (COค1อ&ค1อ/ ?%N2O%R/N/N@>/?R/O ค1อ&ค1อQ%@%>( CO/?11/2>#$>Nห1Aอค1อ&ค1อO#%( COอAP% #?P/?'1>/@@11 ?&AQอ ห1Aอ'1>/@ @1O@ห%N@0 ห1Aอ'1>/@@1ค1อ&ค1อ !?QO!NN Aอ%3>2>&หO@N/!1>!?%@Q%R' OOAPอ %> 1@ค@AQอ 1@ค@O@ห%N@0 '1>/@#?P/?อ0CN '1>/@@1AQอ '1>/@@1R O/@ '1>/@@1O@ห%N@0 '1>/@@1QO '1>/@คNห3Aอ 2"@%#?PNO&  /?%2>Q%N Aอ%N'็%'1>O@#BN Aอ% .@0Q%/?%#?P2>&อN Aอ%"? R' P 0QหON1>P/OOOอ/C3อN Aอ%/>"B%@0% `cde N'็%!O%R' Q%1?/?@11?&AQอห1AอO@ห%N@0 ห1Aอ/?@1ค1อ&ค1อ .@0ห3?/?%#?P'1>@0&?&%?QQO&?ค?& QหOOOAPอ %> 1@ค@AQอ 1@ค@O@ห%N@0 '1>/@#?P/?อ0CN '1>/@@1AQอ '1>/@@1R O/@ '1>/@ @1O@ห%N@0 '1>/@@1QO '1>/@คNห3Aอ 2"@%#?PNO& .@0Q%2>&/?%!?QO!N/?%#?P/?@11?&AQอห1Aอ @1O@ห%N@0 ห1Aอ/?@1ค1อ&ค1อN>%'1>/@#?PO@ห% R/OQ%/11คห%@P (CO'1>อ&@11?&AQอห1AอO@ห%N@0/?%N2O% (COค1อ&ค1อ/?%N2O% #?PR OOOOอ/C3!@//11คห%@P ห1Aอ/11ค2อO3O/ !Oอ O@N%>%@1OOOอ/C3 ?3N@/!NอR'R/N/N@>1?&AQอห1AอO@ห%N@0ห1Aอค1อ&ค1อ N>%'1>/@#?PO@ห% ห1AอR/NO!@/ Oอ a QหO(CO'1>อ&@11 ?&AQอห1AอO@ห%N@0/?%N2O% (COค1อ&ค1อ/ ?%N2O%!@/Oอ ` ? #O@&??คB/2>%คO@ O2 APอ 1@ค@AQอ 1@ค@O@ห%N@0 '1>/@#?P/?อ0CN '1>/@@1AQอ '1>/@#?PR O/@ '1>/@@1O@ห%N@0 '1>/@@1QO '1>/@คNห3Aอ 2"@%#?PNO& N'็%1@0/?% P 0!Oอ31@0@1 Q%&?? ?3N@/QหOO3O/N21O.@0Q%2@//?% !?QO!N/?%#?PR OAQอ/@ 1?&NO@/@ QOR' O@ห%N@0R'O!N3>ค1?Q หนา ๒๔๐ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๗ O3>!OอNO&&??*1Oอ/ห3?@%@1R O/@O3>@1O@ห%N@0R/O  2"@%#?PNO& N*APอQหO*%?@%NO@ห%O@#?P !1/2อ&R O#BN/3@ Oอ b 1?#?P/?@1N'3?P0%O'32"@%#?PNO&#?PR OOOR/O!@/Oอ ` QหOOO@1N'3?P0%O'3 QหO#1@&.@0Q%NO /?% !?QO!N/?%#?P/?@1N'3?P0%O'3 Oอ c @1OO!@/Oอ ` QหOOO!Nอ*%?@%NO@ห%O@#?P!@/O&&# ?PN3@$>@1O@ห%  2"@%#?P1@@1 ?!NอR'%?Q (_) (CO#?P/?.C/>3O@N%@อ0CNQ%N!1BN#*/ห@%ค1 %%#&B1? QหOOO  2O@%?@%ค>11/@13@ /N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 1/@1คO@.@0Q% 1>#1/*@>0์ (`) (CO#?P/?.C/>3O@N%@อ0CNQ%?ห/? อAP%%อ@ (_) QหOOO  2O@%?@%*@>0์?ห/? OหN#Oอ#?P%?Q% @1OO!@//11คห%@P >OOP 0#@R'11?0์3#>N&?0%!อ&1?& #@P#12@1 #@ ห/@0 อ>N3O#1อ%>2์ (อ?N/3) ห1Aอ#@Oอ/C3อ>N3O#1อ%>2์OR O P 0QหO"Aอ/?%#?PR O'1>#?&!1@'1>O@/?%  #?P#O@@1R'11 ?0์!O%#@N'็%/?%OO Q%1?#?POO#@P#12@1Qห O"Aอ/?%#?PR O1?&P#12@1N' ็%/?% O2 N!%@Q%@1O O Q%1?#?POO#@ ห/@0อ>N3O#1อ%>2์ (อ?N/3) QหO"Aอ/?%#?PR O1?& ห/@0 อ>N3O#1อ%>2์ (อ?N/3) N'็%/?%O2 N!%@Q%@1O O O3>Q%1?@1OO#@Oอ/C3อ>N3O#1อ%>2์ QหO"Aอ/?%#?POอ/C3อ>N3O#1อ%>2์R ONO@2CN1>&&Oอ/C3อ2O@%?@%ค>11/@13@/ N@ O/01@ค@ 2>%คO@O3>&1>@1 1/@1คO@.@0Q% 1>#1/*@>0์ N'็%/?%OO @1OO#@P#12@1ห1 Aอ#@ ห/@0อ >N3O#1อ%>2์ (อ?N/3) !@//11ค2อ>2/& C1์ O!NอN/APอ(CO'1>อ&@11?&AQอห1AอO@ห%N@0/?%N2O% (COค1อ&ค1อ/?%N2O% R O2N!O%&?&QหON3@$>@1O3O/ 1?N'็%@1OO!@/ (_) ห1AอR O2N!O%&?&QหO*@>0์?ห/? OหN#Oอ#?P%?Q%O3O/ 1?N'็%@1OO !@/ (`) QหO(CO'1>อ&@11?&AQอห1AอO@ห%N@0/?%N2O%O3>(COค1อ&ค1อ/?%N2O%!@/Oอ ` #?P'1>2ค์ >OO#@Oอ/C3อ>N3O#1อ%>2์3%@/Q%&?%#@O2 ค/@/!3Q%@1O O#@Oอ/C3อ>N3O#1อ%>2์ !@/ห3?N์O3>/>$?@1#?PN3@$>@1O@ห% Oอ d N/APอ(CO'1>อ&@11?&AQอห1AอO@ห%N@0 (COค1อ&ค1อ 1Oออ!NอN3@$>@1N*APอ0@0 1>0>N/3@!@/# ?PO@ห% R/OQ%'1>@0& ?&%?Q ห1AอN/APอN3@$>@1NหO%2/ค/1 N3@$>@1อ@/?คO@2?P 0@01>0>N/3@!@/# ?PO@ห% R/ONอ%2>Q%1>0>N/3@%?Q%R O O!N@10@01>0>N/3@N N%/N@%?QQหO*@#O@R O !NอN/APอ/?*2!>@1์*>N01ห1Aอ/?Nห!BO@N'็% O3>(CO'1>อ&@11 ?&AQอห1AอO@ห%N@0 (COค1อ&ค1อ R O/?คO@1Oออห1AอN3@$>@1R O/?คO@2?PNอ%2>Q%1>0>N/3@%?Q% N/O%O!NQ%1?#?P/?Nห!B2B />2?0 '1>@0  /?%#?P _ 1@ค/ *.0. `cde .C/>$11/ N/0?0 1?/%!1?/N@@11>#1/*@>0์ '1>$@%ค>11/@13@/N@ O/01@ค@2>%คO@O3>&1>@1 หนา ๒๔๑ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
170
1557.pdf
SSHE
NON
SSHE_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1557.pdf
ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการก าหนดค่าจดทะเบียนสมาชิกค่าบ ารุง และค่าธรรมเนียม ที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขอัตราค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือบุคคคลภายนอก ตลอดจนการเรียกเก็บอัตราค่าธรรมเนียม การยื่นค าขอ การรับรองหลักสูตรโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออ านวยความสะดวกในการให้บริการแก่สถาบันการศึกษา รวมถึงการก าหนดอัตราค่าธรรมเนียม การยื่นค าขอรับรองมาตรฐานการให้บริการวิชาชีพและมาตรฐานการปฏิบัติวิชาชีพ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ข) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวิศวกรโดยมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๕ และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแห่งสภาวิศวกร ออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการก าหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบ ารุง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือบุคคคลภายนอก (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๖” ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความล าดับที่ ๗ ของ ค. ในบัญชีท้ายข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วย การก าหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบ ารุง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการก าหนดค่าจดทะเบียนสมาชิกค่าบ ารุง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ความ ต่อไปนี้แทน “๗. ค่ายื่นค าขอรับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในการประกอบวิ ชาชีพ วิศวกรรมควบคุมหลักสูตรละ ๑๕,๐๐๐ บาท” ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความล าดับที่ ๘ ของ ค. ในบัญชีท้ายข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วย การก าหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบ ารุง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการก าหนดค่าจดทะเบียนสมาชิกค่าบ ารุง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ความ ต่อไปนี้แทน “๘. ค่าใช้จ่ายในการตรวจประเมินหลักสูตรเพื่อรับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร ในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ณ สถาบันการศึกษาในอัตรา ดังนี้ ๘.๑ ภายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ครั้งละ ๒๕,๐๐๐ บาท ๘.๒ ภาคกลาง ยกเว้นจังหวัดตาม ๘.๑ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก ครั้งละ ๓๕,๐๐๐ บาท ้หนา ๖๖ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๔๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๖ ๘.๓ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งละ ๕๐,๐๐๐ บาท ๘.๔ ภาคเหนือ ครั้งละ ๕๕,๐๐๐ บาท ๘.๕ ภาคใต้ ครั้งละ ๕๕,๐๐๐ บาท” ข้อ ๕ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นล าดับที่ ๘/๑ ของ ค. ในบัญชีท้ายข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการก าหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบ ารุง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือ บุคคลภายนอก พ.ศ. ๒๕๕๑ “๘/๑ ค่าใช้จ่ายตรวจประเมินหลักสูตรเพื่อรับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร ในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หลักสูตรละ ๒๕,๐๐๐ บาท” ข้อ ๖ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น ล าดับที่ ๒๒ ของ ค. ในบัญชีท้ายข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการก าหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบ ารุง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสมาชิกหรือ บุคคลภายนอก พ.ศ. ๒๕๕๑ “๒๒. ค่าค าขอรับรองมาตรฐานการให้บริการวิชาชีพและมาตรฐานการปฏิบัติวิชาชีพอัตรา ๑๐๐ ,๐๐๐ บาทต่อมาตรฐาน ทั้งนี้ กรณีมีเหตุอันควรคณะกรรมการสภาวิศวกรอาจปรับลดได้ ตามความเหมาะสมแก่กรณี” ประกาศ ณ วันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕66 รองศาสตราจารย์ปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์ นายกสภาวิศวกร ้หนา ๖๗ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๔๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๖
train
171
2106.pdf
PNP
ACTION
PNP_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2106.pdf
'#>@0#!0B%@# N#APอ ํ@ห% #@ค@0B%@#2ํ@ห#?&2>%คO@R!ON'็%N์'#>N!>%N>%อ@#@ออ อ@0?"อํ@%@!@!ค/@!Q%!@!#@ g OหN#>#@ํ@ห% >? อ?!#@0B%@# .0. `ca^ @POORN>P!N!>!P "#>#@& ?ญญ?!>OORN>P!N!>!#>#@ํ@ห% >? อ?!#@0B%@# .0. `ca^ (&?&#?P b) .0. `cba อ$>& ?#!0B%@#NหO%ค/#ํ@ห% #@ค@0B%@#2ํ@ห#?&2>%คO@R!O ?!NอR'%?Q O%>QหO"Aอ#@ค@#?P'#>@0%?QN'็%N์'#>N!>%N>%อ@#@ออ !?QO!N/?%#?P _ $0>@"% .0. `cde N'็%!O%R' R!O2? _) R!OB _. "@/ f B!@Q%R' %C&@0์N!!#%> ``,_ff.^^ &@# `. "@/ d B! "@!Pํ@/N@ f B! %C&@0์N!!#%> g,`e^.^^ &@# a. "@/!Pํ@/N@ d B! %C&@0์N!!#%> _d,`a^.^^ &@# #@ค@!@! _, ` O%> a O@!O%!>QหOQO?&R!O2?2/%'N@#?PN'็%R!OB#?P#ํ@ออ@2/%'N@ #?Qอ#?O%>Nอ% P "!?ห%?2Aอ#?&#อ@#!'N@R!O ห#Aอ(CO#?P#!'N@R!O!อ&ห!@" O%>R!ON2APอ!คB @ !@!#?Pค>#?!%!#?QหO2NออR ON'็%#?>N01 O%>#>##/@>"์อ%Bญ@!P "!?ห%?2Aอ#?&#อคB @ @#!'N@R!O @P#!0B%@#>'#>N!>%#@ค@O!N%>#@"R' `) R!ONห%?P"! _. %@ /O@ _^ %>Q/2?PNห%?P"!@Q%R' %C&@0์N!!#%> a`,cf^.^^ &@# "@/ _^ B!@Q%R' `. %@ /O@ _^ %>Q/2?PNห%?P"!@Q%R' %C&@0์N!!#%> a_,`c^.^^ &@# "@/ d B! "@!Pํ@/N@ _^ B! a. %@ /O@ d %>Q/2?PNห%?P"! %C&@0์N!!#%> `c,^f^.^^ &@# "@!Pํ@/N@ _^ %>Q/2?PNห%?P"! "@/ d B!@Q%R' b. %@ /O@ d %>Q/2?PNห%?P"!@Q%R' %C&@0์N!!#%> ``,`c^.^^ &@# "@/ a B! "@!Pํ@/N@ d B! a) R!O!?& _. "@/ d B!@Q%R' %C&@0์N!!#%> cc,fa^.^^ &@# `. "@/ a B! "@!Pํ@/N@ d B! %C&@0์N!!#%> be,`c^.^^ &@# b) R!O#> @% _. "@/ d B!@Q%R' %C&@0์N!!#%> cb,ec^.^^ &@# `. "@/ a B! "@!Pํ@/N@ d B! %C&@0์N!!#%> bb,_a^.^^ &@# หนา ๒ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ c) R!O @ O@N#Aอ _. "@/ _c B!@Q%R' %C&@0์N!!#%> e_,cc^.^^ &@# `. "@/ _^ B! "@!Pํ@/N@ _c B! %C&@0์N!!#%> da,_c^.^^ &@# d) R!O&@/?N%?"#์ _. %@ /O@!?QO!N b %>Q/@Q%R' %C&@0์N!!#%> abg,ec^.^^ &@# `. %@ /O@!Pํ@/N@ b %>Q/ %C&@0์N!!#%> e`,fc^.^^ &@# #@ค@!@! _ O%> ` !>QหOQO?&N01R!O&@/?N%?"#์#?P%@ /O@!Pํ@/N@!@!#@% P "!?ห%?2Aอ #?&#อคB @@#!'N@R!O @P#!0B%@#>'#>N!>%#@ค@O!N%>#@"R' e) R!OO'##C'อ"N@อAP% _. "@/ d B!@Q%R' %C&@0์N!!#%> b^,_e^.^^ &@# `. "@/ a B! "@!Pํ@/N@ d B! %C&@0์N!!#%> aa,`b^.^^ &@# f) ห?/R!OO'##C'%> !N@ N _. "@/ _ _/` B! "@!Pํ@/N@ a B! %C&@0์N!!#%> a`,cc^.^^ &@# `. "@/ d %>Q/ "@!Pํ@/N@ _ _/` B! %C&@0์N!!#%> a_,`^^.^^ &@# a. "@/!Pํ@/N@ d %>Q/ %C&@0์N!!#%> _a,g^^.^^ &@# R!O%> อAP% N _) R!OB _. R!O!>N%Aอ, R!O>"Cห#Aอ"B %C&@0์N!!#%> _e,ba^.^^ &@# `. R!O>?% %C&@0์N!!#%> `^,da^.^^ &@# a. R!O'#> CN, R!O!>คN@P!, R!OO , %C&@0์N!!#%> _f,bae.^^ &@# R!O!>Nค?"%#อ, R!ON!O, R!OB , R!O#?, R!Oห%B!อ b. R!O>?QN@ค/@"ห#AอNO ํ@, R!O2@$#, %C&@0์N!!#%> _`,`^^.^^ &@# R!O#O@, R!O?QNห%O'N@, R!ON%O c. R!O!>O&, R!OB!O#, R!O?%, R!O!@N2Aอ, %C&@0์N!!#%> __,cd^.^^ &@# R!O"!หอ!, R!O"!ห>%, R!Oํ@'@, R!OOอP, R!O%อห#AอNค?P"!ค%อ, R!O!>คN@O!O, R!O!?%%, R!O!>Nค?"%อAP% N, R!ON!O , R!O!>ค#Oอ, R!OO %Qํ@, R!O?"$1์ หนา ๓ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ d. R!O"@, R!ON/O@ห#AอN/O@, %C&@0์N!!#%> _^,gce.^^ &@# R!O"/%ห#Aอ#อ&@Q, R!O2"@, R!O>#Oอ%, R!OO@%Nห%Aอ, R!O!?!@%, R!O>&@, R!ORNN?"/, R!O%/, R!ONห?", R!ON2?" Nอ, R!O#BN#?"%% e. R!O2!ห#Aอ>, R!O2อ2%@, R!O'อ, %C&@0์N!!#%> `,bc^.^^ &@# R!O%BN%, R!O>Q/, R!O@!B#?, R!O"@@#@ `) R!O&@/?N%?"#์ _. R!O>?% %C&@0์N!!#%> bb`,`c^.^^ &@# `. R!O'#> CN, R!O2>N @ ห#Aอ"!หอ!, R!O"B %C&@0์N!!#%> `^^,ec^.^^ &@# a. R!O!อ>, R!Oํ@'@'N@, R!OB!O#, %C&@0์N!!#%> db,a^^.^^ &@# R!O!>#B!'N@ b. R!O#?, R!O!>Q% ํ@ห#AอPคOห%!, R!O>&@, %C&@0์N!!#%> bc,cc^.^^ &@# R!O2"@, R!O"@, R!O!>Nค?"%##@" #@ค@!@! _, `, a O%> b !>QหOQO?&R!O&@/?N%?"#์ํ@#B R!NR O!@!#@% P "!?ห%?2Aอ #?&#อคB @ @#!'N@R!O @P#!0B%@#>'#>N!>%#@ค@O!N%>#@"R' a) R!OO'##C' _. R!O!>N%Aอ, R!O>"Cห#Aอ"B %C&@0์N!!#%> _b^,aed.^^ &@# `. R!O>?% %C&@0์N!!#%> be,ea^.^^ &@# a. R!O'#> CN, R!O!>คN@P!, R!OO , R!O!>Nค?"%#อ, %C&@0์N!!#%> gc,c^a.^^ &@# R!ON!O, R!OB , R!O#?, R!Oห%B!อ b. R!O>?QN@ค/@"ห#AอNO ํ@, R!O2@$#, %C&@0์N!!#%> _`c,f^g.^^ &@# R!O#O@, R!O?QNห%O'N@, R!ON%O c. R!O!>O&, R!OB!O#, R!O?%, R!O!@N2Aอ, %C&@0์N!!#%> af,b^c.^^ &@# R!O"!หอ!, R!O"!ห>%, R!Oํ@'@, R!OOอP, R!O%อห#AอNค?P"!ค%อ, R!O!>คN@O!O, R!O!?%%, R!O!>Nค?"%อAP% N, R!ON!O , R!O!>ค#Oอ, R!OO %Qํ@, R!O?"$1์ d. R!O"@, R!ON/O@ห#AอN/O@, R!O"/%ห#Aอ#อ&@Q, %C&@0์N!!#%> `_,ged.^^ &@# R!O2"@, R!O>#Oอ%, R!OO@%Nห%Aอ, R!O!?!@%, R!O>&@, R!ORNN?"/, R!O%/, R!ONห?", R!ON2?" Nอ, R!O#BN#?"%% หนา ๔ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ e. R!O2!ห#Aอ>, R!O2อ2%@, R!O'อ, %C&@0์N!!#%> _a,e^^.^^ &@# R!O%BN%, R!O>Q/, R!O@!B#?, R!O"@@#@ f. R!Oห!อ%#"R#B%> %อ@R!O2? %C&@0์N!!#%> _a,b^^.^^ &@# O%>R!O#?P#>&BR/OO@!O% g. 'BN!R!O!>คN@P! %C&@0์N!!#%> bd,ec^.^^ &@# _^. "Cค@%>'!?2 %C&@0์N!!#%> __,a^_.^^ &@# '#>@0  /?%#?P `` !B%@ค! .0. `cde ?$ อBN#%2B! (COอํ@%/"@#อ!@!#@%>$?@#O%>#@ค@0B%@# '>&?!>#@@#O#% อ$>& ?#!0B%@# หนา ๕ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
172
1304.pdf
BIOCHEM
NON
BIOCHEM_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1304.pdf
ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 21 พ.ศ. 2565 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายข้าวสาลีที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ซึ่งน าเข้าจากต่างประเทศ โดยที่ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2564 เรื่อง การก าหนดสินค้าและบริการควบคุม ลงวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕64 สิ้นผลใช้บังคับ จึงท าให้ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 16 พ.ศ. 2564 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายข้าวสาลีที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ซึ่งน าเข้าจากต่างประเทศ ลงวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2565 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายสินค้าเกษตร เพิ่มเติม ลงวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2565 สิ้นผลใช้บังคับ ประกอบกับคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้พิจารณาทบทวน การใช้อ านาจก าหนดมาตรการดังกล่าวแล้ว เห็นควรคงมาตรการควบคุมการขนย้ายข้าวสาลีที่ใช้เป็น วัตถุดิบอาหารสัตว์ซึ่งน าเข้าจากต่างประเทศ โดยยกเว้น กรณีถ่ ายล าสินค้าดังกล่าว เพื่อรักษา เสถียรภาพระบบตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ และเกิดความเป็นธรรมในด้านราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่เกษตรกรจะได้รับ รวมทั้งอ านวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในการถ่ายล า อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๙ (๒) และมาตรา ๒๕ (๔) (๗) แห่งพระราชบัญญัติ ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จึงออกประกาศ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาหนึ่งปี ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป เว้นแต่จะมีการออกประกาศใหม่ ข้อ 2 ในประกาศนี้ “ข้าวสาลี ” หมายความว่า ข้าวสาลีที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ซึ่งน าเข้าจากต่างประเทศ ตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภทย่อย 1001.99.99 ข้อ 3 ห้ามมิให้บุคคลใดขนย้ายข้าวสาลี ซึ่งมีปริมาณครั้งละตั้งแต่หนึ่งหมื่ นกิโลกรัมขึ้นไป เข้ามาหรือออกจากท้องที่ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ เว้นแต่จะได้รับหนังสืออนุญาตจากเลขาธิการ หรือ ผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย หรือประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ ผู้ซึ่งประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการมอบหมาย หรือพาณิชย์จังหวัด ส าหรับท้องที่ที่ท าการขนย้ายเข้ามาหรือออกจากท้องที่นั้น ๆ (1) เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร (2) อ าเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการขนย้ายข้าวสาลี โดยถ่ายสินค้าดังกล่าว จากยานพาหนะหนึ่ง ที่ขนส่งเข้ามาในราชอาณาจักรในท้องที่ตามวรรคหนึ่งไปยังอีกยานพาหนะหนึ่งที่ขนส่งออกไป ้หนา ๑๘๖ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๑๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ กันยายน ๒๕๖๕ นอกราชอาณาจักร ภายใต้การควบคุมของศุลกากรในด่านศุลกากรเดียวกัน โดยมีจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดของการขนส่งอยู่นอกราชอาณาจักร ข้อ 4 กรณีที่บุคคลใดได้รับหนังสืออนุญาตให้ขนย้ายเข้ามาหรือออกจากท้องที่ ตามข้อ 3 แล้ว ได้รับยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตขนย้ายเข้ามาหรือออกจากท้องที่อื่นตามข้อ 3 อีก ข้อ 5 การขออนุญาตตามข้อ 3 ให้ยื่นค าขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่ราชการ ดังต่อไปนี้ (1) ส านักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กรณีท าการขนย้ายเข้ามาหรือออกจากท้องที่กรุงเทพมหานคร (2) ส านักงานพาณิชย์จังหวัดแห่งท้องที่ซึ่งท าการขนย้ายเข้ามาหรือออกจากท้องที่นั้น ๆ (3) ที่ท าการปกครองอ าเภอแห่งท้องที่ ซึ่งท าการขนย้ายเข้ามาหรือออกจากท้องที่นั้น ๆ ส าหรับกรณีที่ประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการมอบหมายให้นายอ าเภอ เป็นผู้อนุญาตขนย้าย การยื่นค าขอตามวรรคหนึ่ง จะยื่นค าขอผ่านทางระบบการขออนุญาตขนย้ายสินค้าควบคุม ทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ โดยให้ ถือวันที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้เข้าสู่ระบบการขออนุญาตขนย้าย สินค้าควบคุมทางอิเล็กทรอนิกส์ของส านักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นวันยื่นค าขอ บุคคลที่ประสงค์จะยื่นค าขอผ่านทางระบบการขออนุญาตขนย้ายสินค้าควบคุม ทางอิเล็กทรอนิกส์ ต้องลงนามในบันทึกแสดงความตกลงกับส านักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ก่อน ตามระเบียบที่เลขาธิการก าหนด หลักเกณฑ์และวิธีการในการขออนุญาต การอนุญาต แบบหนังสืออนุญาต และวิธีการขนย้าย ให้เป็นไปตามที่เลขาธิการก าหนด ข้อ 6 ให้ผู้ได้รับหนังสืออนุญาตขนย้ายข้าวสาลี ต้องขนย้ายให้ตรงตามชนิด ปริมาณ ระยะเวลา สถานที่และใช้ยานพาหนะที่มีหมายเลขทะเบียนตามที่ระบุไว้ในหนังสืออนุญาตขนย้าย รวมทั้งจะต้องน าหนังสืออนุญาตก ากับการขนย้ายไปด้วยทุกครั้ง หนังสืออนุญาตให้ใช้เฉพาะการขนย้ายครั้งเดียวเท่านั้น การขนย้ายที่ไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง และหลักเกณฑ์และวิธีการตามข้อ 5 วรรคสี่ ให้ถือว่า เป็นการขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามประกาศฉบับนี้ ข้อ 7 กรณีบุคคลใดได้รับหนังสืออนุญาตขนย้ายข้าวสาลีเข้ามาหรือออกจากท้ องที่ ที่ก าหนดตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 16 พ.ศ. 2564 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายข้าวสาลีที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ซึ่งน าเข้าจากต่างประเทศ ลงวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และระยะเวลาที่ระบุไว้ในหนังสืออนุญาตขนย้ายยังไม่สิ้นสุดลงในวันที่ ้หนา ๑๘๗ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๑๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ กันยายน ๒๕๖๕ ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าบุคคลนั้นได้รับอนุญาตขนย้ายข้าวสาลีตามประกาศฉบับนี้และให้ใช้ได้ จนกว่าระยะเวลาตามหนังสืออนุญาตขนย้ายดังกล่าวสิ้นสุดลง ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖5 จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ้หนา ๑๘๘ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๑๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ กันยายน ๒๕๖๕
train
173
2049.pdf
SSHE
ACTION
SSHE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2049.pdf
'1>@01>#1/#1?พ0@1$11/@!>O3>2>NO/ 3Oอ/ N1ANอ ํ@ห% '1>N.#อ@ค@1N'็%Oห3Nํ@N%> /3พ>1#?N>!Oอ"Cค/&คB/ @1'3Nอ0%Oํ@N2?032CNOห3N%Oํ@2@$@1>ห1Aอออ2CN2>NO/ 3Oอ/ พ.0. `cde P 0#?NN'็%@12/ค/1 ํ@ห% QหOอ@ค@1&@'1>N.#O3>&@%@ N'็%Oห3Nํ@N%> /3พ>1 #?N>!Oอ"Cค/&คB/@1'3Nอ0%Oํ@N2?032CNOห3N%Oํ@2@$@1>ห1Aอออ2CN2>NO/ 3Oอ/ NพANอN'็%/>$?@1ค/&คB//3พ>1 #?NN> @อ@ค@1&@'1>N.#O3>&@%@ O3>'Oอ?%(31>#&#?Nอ@N> !NอOห3N%Oํ@2@$@1>ห1Aอ 2>NO/ 3Oอ/ อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ dg OหNพ1>1@& ??!>2NN21>/O3>1?1@คB.@พ 2>NO/ 3Oอ/OหN@!> พ.0. `cac 1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/#1 ?พ0@1$11/@! >O3>2>NO/ 3Oอ/ P 0คํ@O%>%ํ@อค>11/@1ค/&คB//3พ>1 @ออ'1>@0R/O ?%?O Oอ _ QหO0N3> (_) '1>@01>#1/#1?พ0@1$11/@!>O3>2>NO/ 3Oอ/ N1ANอ ํ@ห% '1>N.#ออ@ค@1 N'็%Oห3Nํ@N%> /3พ>1#?N>!Oอ"Cค/&คB/@1'3Nอ0%Oํ@N2?032CNOห3N%Oํ@2@$@1>ห1Aอออ2CN2>NO/ 3Oอ/ &?&3/?%#?N e พ20>@0% พ.0. `cbf (`) '1>@01>#1/#1?พ0@1$11/@!>O3>2>NO/ 3Oอ/ N1ANอ ํ@ห% '1>N.#ออ@ค@1 N'็%Oห3Nํ@N%> /3พ>1#?N>!Oอ"Cค/&คB/@1'3Nอ0%Oํ@N2?032CNOห3N%Oํ@2@$@1>ห1Aอออ2CN2>NO/ 3Oอ/ (&?&#?N `) &?&3/?%#?N a พ20>@0% พ.0. `ccb (a) '1>@01>#1/#1?พ0@1$11/@!>O3>2>NO/ 3Oอ/ N1ANอ ํ@ห% อ@ค@1'1>N.# ค. N'็%Oห3Nํ@N%> /3พ>1#?N>!Oอ"Cค/&คB/@1'3Nอ0%Oํ@N2?032CNOห3N%Oํ@2@$@1>ห1Aอออ2CN2>NO/ 3Oอ/ พ.0. `cdb &?&3/?%#?N `g !B3@ค/ พ.0. `cdb Oอ ` Q%'1>@0%?O “อ@ค@1” ห/@0ค/@//N@ อ@ค@1'1>N.# . . O3> ค. !@/'1>@01>#1/#1?พ0@1$11/@!> O3>2>NO/ 3Oอ/ N1ANอ ํ@ห% /@!1ฐ@%ค/&คB/@11>&@0%Oํ@#>O@อ@ค@1&@'1>N.#O3>&@%@ พ.0. `cde ?%?O อ@ค@1'1>N.# . (_) อ@ค@1B #?N/?ํ@%/%หOอ2ํ@ห1?&QON'็%#?Nอ0CNอ@0?01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1 !?OO!N c^^ หOอB @O%R' (`) P1O1/#?N/?ํ@%/%หOอ2ํ@ห1?&QON'็%หOอพ?1//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1 !?OO!N `^^ หOอ@O%R' หนา ๑๒ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๓๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๗ (a) P1พ0@&@3อ#@1@@1 1?ฐ/>2@ห> ห1Aอ2"@%พ0@&@3!@/ห/@0/ N@ O/0 2"@%พ0@&@3#?N/?N!?02ํ@ห1?&1?&(CO'N/0R/OคO@คA%1//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N a^ N!?0@O%R' (b) อ@ค@1P1N1 ?0%Nอ% P1N1?0%อ#@1@@1 2"@&?%อB /0@1@อNอ%ห1 Aอ 2"@&?%อB /0@1@อ#@1@@1# ?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N `c,^^^ !@1@N/!1@O%R' (c) อ@ค@1#?N#ํ@@1อ#@1@@1 1?ฐ/>2@ห> อค์@11>ห/N@'1>N#0 ห1AออNอ% #?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N cc,^^^ !@1@N/!1@O%R' (d) อ@ค@1อ0C%0์@1คO@ห1AอหO@211พ2>%คO@#?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ 3BN/ออ@ค@1!?OO!N `c,^^^ !@1@N/!1@O%R' (e) !3@ #?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N `,c^^ !@1@N/!1 @O%R' (f) .?!!@ค@1ห1Aอ1O@%อ@ห@1#?N/?พAO%#?NQO&1>@11//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1 !?OO!N `,c^^ !@1@N/!1@O%R' อ@ค@1'1>N.# . (_) อ@ค@1B #?N/?ํ@%/%หOอ2ํ@ห1?&QON'็%#?Nอ0CNอ@0?01//?%#B?O%ออ@ค@1ห1Aอ3BN/ออ@ค@1 !?OO!N _^^ หOอB O!NR/N"@ c^^ หOอB (`) P1O1/#?N/?ํ@%/%หOอ2ํ@ห1?&QON'็%หOอพ?1//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1 !?OO!N d^ หOอ O!NR/N"@ `^^ หOอ (a) หอพ? หOอNN@ หOอO&NNN@ ห1Aอ>@1อAN%Q%#ํ@%อN ?0/?% #?N/?ํ@%/%หOอ2ํ@ห1?& QON'็%#?Nอ0CNอ@0?01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N `c^ หOอ@O%R' (b) 2"@%&1>@1#?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N c,^^^ !@1@N/!1@O%R' (c) P1พ0@&@3อ#@1@@1 1?ฐ/>2@ห> ห1Aอ2"@%พ0@&@3 !@/ห/@0/ N@ O/0 2"@%พ0@&@3#?N/?N!?02ํ@ห1?&(CO'N/0R/OคO@คA%1//?%#B?O%ออ@ค@1ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N _^ N!?0 O!NR/N"@ a^ N!?0 (d) อ@ค@1P1N1?0%Nอ% P1N1?0%อ#@1@@1 2"@&?%อB /0@1@อNอ% ห1Aอ 2"@&?%อB /0@1@อ#@1@@1# ?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N c,^^^ !@1@N/!1 O!NR/N"@ `c,^^^ !@1@N/!1 (e) อ@ค@1#?N#ํ@@1อ#@1@@1 1?ฐ/>2@ห> อค์@11>ห/N@'1>N#0 ห1AออNอ% #?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1ห1 Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N _^,^^^ !@1@N/!1 O!NR/N"@ cc,^^^ !@1@N/!1 หนา ๑๓ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๓๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๗ (f) อ@ค@1อ0 C%0์@1คO@ห1AอหO@211พ2 >%คO@#?N/?พAO%#?NQO2อ01// ?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N c,^^^ !@1@N/!1 O!NR/N"@ `c,^^^ !@1@N/!1 (g) !3@ #?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N _,c^^ !@1@N/!1 O!NR/N"@ `,c^^ !@1@N/!1 (_^) .?!!@ค@1ห1Aอ1O@%อ@ห@1#?N/?พAO%#?NQหO&1>@11//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1 !?OO!N c^^ !@1@N/!1 O!NR/N"@ `,c^^ !@1@N/!1 อ@ค@1'1>N.# ค. (_) อ@ค@1B #?N/?ํ@%/%หOอ2ํ@ห1?&QON'็%#?Nอ0CNอ@0?01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1 R/N"@ _^^ หOอB (`) P1O1/#?N/?ํ@%/%หOอ2ํ@ห1?&QON'็%หOอพ?1//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1 R/N"@ d^ หOอ (a) หอพ? หOอNN@ หOอO&NNN@ ห1Aอ>@1อAN%Q%#ํ@%อN ?0/?% #?N/?ํ@%/%หOอ2ํ@ห1?& QON'็%#?Nอ0CNอ@0?01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N c^ หOอ O!NR/N"@ `c^ หOอ (b) 2"@%&1>@1#?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N _,^^^ !@1@N/!1 O!NR/N"@ c,^^^ !@1@N/!1 (c) อ@ค@1#?N#ํ@@1อ#@1@@1 1?ฐ/>2@ห> อค์@11>ห/N@'1>N#0 ห1AออNอ% #?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1ห1 Aอ3BN/ออ@ค@1! ?OO!N c,^^^ !@1@N/!1 O!NR/N"@ _^,^^^ !@1@N/!1 (d) !3@ #?N/?พAO%#?NQO2อ01//?%#B?O%ออ@ค@1ห1Aอ3BN/ออ@ค@1!?OO!N _,^^^ !@1@N/!1 O!NR/N"@ _,c^^ !@1@N/!1 (e) .?!!@ค@1ห1Aอ1O@%อ@ห@1#?N/?พAO%#?NQหO&1>@11//?%#B?O%ออ@ค@1 ห1Aอ3BN/ออ@ค@1 !?OO!N `c^ !@1@N/!1 O!NR/N"@ c^^ !@1@N/!1 Oอ a QหOอ@ค@1!@/Oอ ` N'็%Oห3Nํ@N%> /3พ>1#?N>!Oอ"C!Oอค/&คB/@1'3Nอ0%Oํ@N2?0 32CNOห3N%Oํ@2@$@1>ห1Aอออ2CN2>NO/ 3Oอ/ Oอ b หO@//>QหONO@อห1Aอ(COค1อ&ค1ออ@ค@1!@/Oอ ` '3Nอ0%Oํ@N2?032CNOห3N%Oํ@2@$@1> ห1Aอออ2CN2>NO/ 3Oอ/ N/O%O!N>R O#ํ@@1&ํ@&? %Oํ@N2?0QหON'็%R'!@//@!1ฐ@%ค/&คB/@11>&@0%Oํ@#>O #?Nํ@ห% R/OQ%'1>@01>#1/#1 ?พ0@1$11/@!>O3>2>NO/ 3Oอ/ N1ANอ ํ@ห% /@!1ฐ@%ค/&ค B/ @11>&@0%Oํ@#>O@อ@ค@1&@'1>N.#O3>&@%@ พ.0. `cde O!N#?O%?OหO@//>QหOQO/>$?@1#ํ@QหONAอ@ (Dilution) Oอ c '1>@0%?OQหOQO&?ค?&!?OO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R' '1>@0  /?%#?N `f />"B%@0% พ.0. `cde พ3!ํ@1/Nอ พ?1/@# /1์2B/11 1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/#1?พ0@1$11/@!>O3>2>NO/ 3Oอ/ หนา ๑๔ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๓๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
174
2113.pdf
TIS
ACTION
TIS_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2113.pdf
!1>@01>#1/อB!2@ห11/ N1ANอ ํ@ห /@!1@"ล>!.?์อB!2@ห11/ "Bพล@2!>2ํ@ห1? 11Bอ@ห@1 พ.0. `cde P 0#?NN!็@12/ค/1!1? !1B/@!1@"ล>!.?์อB!2@ห11/ "Bพล@2!>2ํ@ห1? 11Bอ@ห@1 /@!1@Nล#?N /อ. 1027 - 2564 อ@0?0อํ@@!@/ค/@/Q/@!1@ _c OหNพ1>1@ ?ญญ?!>/@!1@"ล>!.?์อB!2@ห11/ พ.0. `c__ @NOORNพ>N/N!>/P 0พ1>1@ ?ญญ?!>/@!1@"ล >!.?์อB!2@ห11/ ( ? #?N e) พ.0. `ccf 1?/!1?/N@@11>#1/อB!2@ห11/ @ออ!1>@0!@/OอN2ออค>11/@1 /@!1@"ล>!.?์อB!2@ห11/R/O ??O Oอ _ !1>@0?ON1?0/N@ “!1>@01>#1/อB!2@ห11/ N1ANอ ํ@ห /@!1@"ล>!.?์ อB!2@ห11/ "Bพล@2!>2ํ@ห1? 11Bอ@ห@1 พ.0. `cde” Oอ ` !1>@0?OQหO/?"ลN/ANอพOํ@ห ห@N1Oอ00?N2> /?? O!N/?!1>@0Q1@>@BN 1@ N!็!OR! Oอ a QหO0Nล>!1>@01>#1/อB!2@ห11/ N1ANอ ํ@ห /@!1@"ล>!.?์อB!2@ห11/ "Bพล@2!>2ํ@ห1? 11Bอ@ห@1 พ.0. `cde ล/?#?N `g /?@ค/ พ.0. `cde Oอ b QหOํ@ห /@!1@"ล >!.?์อB!2@ห11/ "Bพล@2! >2ํ@ห1? 11Bอ@ห@1 /@!1@Nล#?N /อ. 1027 - 2567 @OQห/N ?/?1@0ล>Nอ?0 #O@0!1>@0?O !1>@0  /?#?N a ?0@0 พ.0. `cde พ>/พ์.?#1@ />?0Bล 1?/!1?/N@@11>#1/อB!2@ห11/ หนา ๑๔ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๙๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ Oอ!Gล!@!#@%(ลB! ?์อF!.@ห##! O%&#O@"'#>@0#>##/อF!.@ห##! ENอ!@!#@% : "Fล@.!B.Aห#?&&##Fอ@ห@# PLASTIC BAGS FOR FOOD !@!#@%Nล#CN : /อ. 1027-2567 "AO? #A : 2A?@/@!1@"ลB!.?์อ@!2@ห11/ ##!@#/B@@# : ค>##!@#/B@@##@".@@ ค>#CN 31 ล@.!B อ N@0 : /@!1@"ลB!.?์อ@!2@ห11/CQ - ค#อ&คลF!N@>"Fล@.!B#CN#A@N#B%&#B.F#$B์ (virgin resin) ห#Eอ N#B%O'#OOOห!NO&&!!B" G!B N'็%ิล์!ล@.!B?O%N C"/NENอOO.Aห#?& &##Fอ@ห@# DN!NอP'O%!@!#@%%CO>N#C"/N@ <"Fล@.!B= N?Qอห@!1>อ O/0 : อ N@0 #B0@/ !1>N.# O Oล>B /?2 @ 1A!1N@Oล>/B!B ค@ล?1> #CP!Oอ@1 @1 11@ Nค1?Pอห/@0Oล>ล@ @1?!?/อ0N@Oล>N์!? 2B @1# 2อ .@ค"/ . .@ค"/ . Oล>.@ค"/ ค. A/หO@ : 26 หO@ ISBN : 978-616-617-178-5 ICS : 55.080 ; 67.250 ; 83.140.99 ."@%#CN? NO : หOอ2/@ 2A?@/@!1@"ลB!.?์อ@!2@ห11/ "พ1>1@/#CP 6 1@N#พ/ห@ค1 10400 P#10?พ#์ 02 430 6834 !Nอ 02 440-2441 2"@#CPAหN@0 : 2A?@/@!1@"ลB!.?์อ@!2@ห11/ "พ1>1@/#CP 6 1@N#พ/ห@ค1 10400 https://www.tisi.go.th Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
175
817.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/817.pdf
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ความเห็นชอบหลักสูตร รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง และรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ (ฉบับที่ 2) โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ความเห็นชอบ หลักสูตร รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง และรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน และการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๐ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา ฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานจึงออกประกาศไว้ ดังนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง ก าหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ความเห็นชอบหลักสูตร รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง และรายการ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559 ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 2 ของประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ความเห็นชอบหลักสูตร รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง และรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ ลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ 2 ให้ผู้ประกอบกิจการซึ่งเป็นนายจ้างที่จัดให้มีการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานหรือการฝึก เปลี่ยนสาขาอาชีพจัดส่งหลักสูตร รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง และรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกเสนอต่อ นายทะเบียนเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยให้ยื่นค าขอตามแบบที่นายทะเบียนก าหนด การยื่นค าขอตามวรรคหนึ่ง ให้ยื่นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นหลัก ในกรณีที่ไม่สามารถยื่นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ให้ยื่นต่อ หน่วยงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในจังหวัดที่ผู้ประ กอบกิจการซึ่งเป็นนายจ้างมีส านักงานใหญ่ หรือส านักงานสาขาที่จะด าเนินการฝึกอบรมฝีมือแรงงานตั้งอยู่ ดังต่อไปนี้ (๑) ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 13 กรุงเทพมหานคร หรือส านักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ (๒) ในจังหวัดอื่น ให้ยื่น ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานหรือส านักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนั้น” ข้อ 3 ให้ยกเลิกความใน (4) ของ ก. ของข้อ 3 ของประกาศคณะกรรมการส่งเสริม การพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ความเห็นชอบหลักสูตร ้หนา ๗๓ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง และรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยน สาขาอาชีพ ลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “(4) จ านวนผู้รับการฝึกอบรมให้เป็น ดังนี้ กรณีการฝึกอบรมโดยการบรรยาย ส าหรับการฝึกอบรมในห้องฝึกอบรม ให้มีจ านวนผู้รับ การฝึกอบรมรุ่นละไม่เกินหนึ่งร้อยคน ส าหรับการฝึกอบรมทางไกลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้มีจ านวน ผู้รับการฝึกอบรมรุ่นละไม่เกินสามสิบคน กรณีการฝึกอบรมโดยการจัดกิจกรรมกลุ่ม ให้มีจ านวนผู้รับการฝึกอบรมกลุ่มละไม่เกิน ห้าสิบคนต่อวิทยากรหนึ่งคน กรณีการฝึกอบรมทักษะฝีมือซึ่งต้องมีภาคปฏิบัติ ให้มีจ านวนผู้รับการฝึกอบรมกลุ่มละ ไม่เกินยี่สิบห้าคนต่อวิทยากรหนึ่งคน” ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (3) ของ ค. ของข้อ 3 ของประกาศคณะกรรมการ ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ความเห็นชอบหลักสูตร รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง และรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยน สาขาอาชีพ ลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551 “(3) กรณีการฝึกอบรมโดยการบรรยายด้วยวิธีการฝึกอบรมทางไกลผ่า นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผู้ประกอบกิจการซึ่งเป็นนายจ้างต้องจัดให้ผู้เข้ารับการฝึกทุกคนแสดงตนก่อนเข้ารับการฝึกอบรม โดยผู้เข้ารับการฝึกและครูฝึกหรือวิทยากรไม่จ าเป็นต้องอยู่ในสถานที่เดียวกัน แต่ต้องสามารถสื่อสารกัน ได้ทั้งภาพและเสียงตลอดระยะเวลาการฝึกอบรม ทั้งนี้ ต้องจัดให้มีการบันทึกภาพและเสียงของผู้เข้ารับ การฝึกทุกคนตลอดระยะเวลาที่มีการฝึกอบรมและเก็บไว้เพื่อให้นายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันเสร็จสิ้นการฝึก” ข้อ ๕ ให้ผู้ซึ่งจัดให้มีการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนส าขาอาชีพซึ่งได้รับ ชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านในการยืนยันตัวตนของผู้ขอใช้บริการตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนา ฝีมือแรงงาน เรื่อง ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ความเห็นชอบหลักสูตร รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง และรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยน สาขาอาชีพด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕59 สามารถใช้ชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่านนั้นส าหรับใช้ยื่นค าขอรับความเห็นชอบหลักสูตร รายละเอียดเกี่ยวข้อง และรายการ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามข้อ 2 วรรคสอง ของประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ความเห็นชอบหลักสูตร รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง และรายการค่าใช้จ่าย ที่ใช้ในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ ลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศนี้ ้หนา ๗๔ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ ข้อ 6 บรรดาค าขอและการพิจารณาค าขอตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนา ฝีมือแรงงาน เรื่อง ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ความเห็นชอบหลักสูตร รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง และรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานและการฝึกเปลี่ยน สาขาอาชีพด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕59 ให้ด าเนินการ ตามประกาศดังกล่าวจนเสร็จสิ้น ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖4 สุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ้หนา ๗๕ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔
train
176
1068.pdf
SSHE
ACTION
SSHE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1068.pdf
ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดท ารายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่ก าหนดไว้ในรายงาน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งผู้ด าเนินการ หรือผู้ขออนุญาต จะต้องจัดท าเมื่อได้รับอนุญาตให้ด าเนินโครงการหรือกิจการแล้ว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมการก าหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการจัดท ารายงานผล การปฏิบัติตามมาตรการที่ก าหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดท ารายงานผล การปฏิบัติตามมาตรการที่ก าหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งผู้ด าเนินการ หรือผู้ขออนุญาตจะต้องจัดท าเมื่อได้รับอนุญาตให้ด าเนินโครงการหรือกิจการแล้ว พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕๑/๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและ รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมและ รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑ ของประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดท ารายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่ก าหนดไว้ในรายงานการประเมิน ผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งผู้ด าเนินการ หรือผู้ขออนุญาตจะต้องจัดท าเมื่อได้รับอนุญาตให้ด าเนินโครงการ หรือกิจการแล้ว พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๑ ในประกาศนี้ “โครงการหรือกิจการ ” หมายความว่า โครงการ กิจการ หรือการด าเนินการใดของรัฐ หรือที่รัฐจะอนุญาตซึ่งต้องจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามที่ก าหนดไว้ในประกาศ ของรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ “คณะกรรมการผู้ ช านาญการ” หมายความว่า คณะกรรมการผู้ช านาญการที่คณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติแต่งตั้งเพื่อท าหน้าที่พิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ “การอนุมัติ หรืออนุญาตให้ด าเนินโครงการหรือกิจการ ” หมายความว่า การที่เจ้าหน้าที่ ซึ่งมีอ านาจตามกฎหมาย หัวหน้า หรือผู้รักษาการแทนหัวหน้าหน่วยงานของรัฐซึ่งรั บผิดชอบโครงการ หรือกิจการ หรือการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ด าเนินโครงการหรือกิจการระบุวันที่ไว้ในหนังสืออนุญาตให้ ผู้ด าเนินการ ผู้ขออนุญาต ด าเนินการก่อสร้าง ประกอบกิจการโครงการหรือกิจการที่ต้องมีการจัดท า ้หนา ๔ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ มกราคม ๒๕๖๕ รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือวันที่หัวหน้ า หรือผู้รักษาการแทนหัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐซึ่งรับผิดชอบโครงการหรือกิจการ หรือคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ด าเนินโครงการหรือกิจการนั้น ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงวันที่ได้รับอนุมัติ หรืออนุญาตให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงโครงการหรือกิจการด้วย “มาตรการ” หมายความว่า มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการ ติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ก าหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่คณะกรรมการผู้ช านาญการหรือคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ความเห็นชอบ หรือให้ความเห็น หรือข้อเสนอแนะ “รายงานผลการปฏิบัติตามมาต รการ” หมายความว่า รายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการ ที่ก าหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ กิจการ หรือการด าเนินการใด ของรัฐ หรือที่รัฐจะอนุญาตซึ่งต้องจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและได้รับอนุญาต ให้ด าเนินโครงการหรือกิจการแล้ว” ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๓ ของประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดท ารายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่ก าหนดไว้ในรายงานการประเมิน ผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งผู้ด าเนินการ หรือผู้ขออนุญาตจะต้องจัดท าเมื่อได้รับอนุญาตให้ด าเ นินโครงการ หรือกิจการแล้ว พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๓ ความถี่ และข้อยกเว้นในการเสนอรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการตามข้อ ๒ ให้เป็นไป ดังนี้ (๑) กรณีมาตรการที่ก าหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่ได้ก าหนด ระยะเวลาในการปฏิบัติตามมาตรการ หรือก าหนดระยะเวลาไว้ปีละ 1 ครั้ง ให้เสนอรายงานผลการปฏิบัติ ตามมาตรการช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม ภายในเดือนมกราคมของปีถัดไป (๒) กรณีมาตรการที่ก าหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมก าหนดระยะเวลา ในการปฏิบัติตามมาตรการไว้ปีละ ๒ ครั้ง หรือมากกว่านั้น ให้เสนอรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการ ของช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน ภายในเดือนกรกฎาคม และเสนอรายงานผลการปฏิบัติ ตามมาตรการของช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม ภายในเดือนมกราคมของปีถัดไป (๓) กรณีโครงการหรือกิจการเริ่มต้นด าเนินการในช่วงระยะก่อสร้าง หรือช่วงระยะด าเนินการ หรือช่วงเวลาตามมาตรการที่ก าหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ภายใน ๒ เดือน ก่อนครบก าหนด การรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการแต่ละรอบตาม (๑) หรือ (๒) แล้วแต่กรณี ให้เลื่อนการเสนอรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการครั้งนั้นออกไปและให้น าผลการปฏิบัติตามมาตรการ ที่เลื่อนการเสนอไปรวมไว้ในรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการในรอบถัดไป โดยให้แยกส่วนให้ชัดเจน พร้อมกับให้ระบุเหตุผลของการด าเนินการดังกล่าวประกอบไว้ในรายงานด้วย ทั้งนี้ ให้มีหนังสือแจ้ง การเลื่อนการเสนอรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว ต่อหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอ านาจอนุญาต ตามกฎหมายหรือส านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้วแต่กรณีด้วยทุกครั้ง ้หนา ๕ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ มกราคม ๒๕๖๕ (๔) กรณีโครงการหรือกิจการหยุดการด าเนินการหรือไม่ด าเนินการตามรอบการรายงาน ผลการปฏิบัติตามมาตรการตาม (๑) หรือ (๒) แล้วแต่กรณี ให้มีหนังสือแจ้งหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีอ านาจอนุญาตตามกฎหมาย หัวหน้าหรือผู้รักษาการแทนหัวหน้าหน่วยงานของรัฐซึ่งรับผิดชอบ โครงการหรือกิจการ แล้วแต่กรณี โดยไม่ต้องเสนอรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการในรอบนั้น (๕) กรณีไม่สามารถเสนอรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการได้ภายในระยะเวลาที่ก าหนดไว้ ใน (๑) หรือ (๒) ให้มีหนังสือแจ้งหน่วยงานของรัฐตามข้อ ๒ แล้วแต่กรณี ภายในวันสุดท้ายของรอบที่ ครบก าหนดเสนอรายงานแต่ละครั้ง พร้อมกับให้ระบุเหตุผลความจ าเป็นที่ไม่สามารถเสนอรายงานได้ ภายในก าหนดซึ่งเป็นปัญหาหรืออุปสรรคที่เกิดจากการจัดท ารายงาน โดยให้ถือว่าเป็นค าร้องฝ่ายเดียว ในการขอขยายระยะเวลาการเสนอรายงาน และเมื่อหน่วยงานของรัฐตามข้อ ๒ ประทับตราลงรับ หนังสือไว้ถูกต้องครบถ้วนภายในก าหนดเวลาแล้วให้ขยายระยะเวลาการเสนอรายงานดังกล่าวออกไปอีก เพียง ๓๐ วัน นับแต่วันถัดจากวันสุดท้ายของรอบที่ครบก าหนดเสนอรายงานแต่ละครั้ง (๖) กรณีโครงการหรือกิจการใดที่รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แห่งชาติประกาศก าหนดให้ต้องจัดท ารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ต่อมารัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมิได้ประกาศก าหนดให้โครงการหรือกิจการนั้น ต้องจัดท ารายงานการปร ะเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ให้ถือว่าโครงการหรือกิจการนั้นไม่เข้าข่ายตาม หลักเกณฑ์และวิธีการที่ต้องจัดท ารายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่ก าหนดไว้ในรายงานการประเมิน ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฉบับนี้” ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๔ (๒) ๒.๑) ของประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดท ารายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่ก าหนดไว้ ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งผู้ด าเนินการ หรือผู้ขออนุญาตจะต้องจัดท าเมื่อได้รับ อนุญาตให้ด าเนินโครงการหรือกิจการแล้ว พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ และให้ใช้ ความต่อไปนี้แทน “๒.๑) โครงการประเภทอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ ามันและพลังงาน ภายในเดือนกรกฎาคมและเดือนมกราคมของปีถัดไป แล้วแต่กรณี หากมีการขอขยายเวลาการจัดส่งรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการตามข้อ ๓ (๕) แล้ว ให้ระยะเวลาการเสนอรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิคส์ขยายออกไป เท่ากับระยะเวลาตามข้อ ๓ (๕) ด้วย” ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๕ (๑) และ (๔) ของประกาศกระทรวงท รัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดท ารายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่ก าหนดไว้ ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งผู้ด าเนินการ หรือผู้ขออนุญาตจะต้องจัดท าเมื่อได้รับ อนุญาตให้ด าเนินโครงการหรือกิจการแล้ว พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ และให้ใช้ ความต่อไปนี้แทน ้หนา ๖ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ มกราคม ๒๕๖๕ “(๑) กรณีผู้ด าเนินการ ผู้ขออนุญาต หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งรับผิดชอบโครงการหรือกิจการใด ที่มีความสามารถเพียงพอจะจัดท ารายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการของตนเองก็ได้ หรือจะว่าจ้าง ให้บุคคลอื่นด าเนินการแทนก็ได้ แต่ส าหรับการวิเคราะห์ตัวอย่างคุณภาพสิ่งแวดล้อมจะต้องด าเนินการ ตรวจวิเคราะห์โดยห้องปฏิบัติการที่ไม่ใช่ห้องปฏิบัติการของผู้ด าเนินการ หรือผู้ขออนุญาต ยกเว้น หน่วยงานของรัฐที่เป็ นผู้รับผิดชอบโครงการหรือกิจการ และเป็นห้องปฏิบัติการที่ขึ้นทะเบียนกับ หน่วยงานของ รัฐที่มีอ านาจหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเป็นห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐาน จากหน่วยงานของรัฐหรือจากองค์กร/สถาบัน อันเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล หรือมีวิธีการ ตรวจวัดที่เป็นไปตามที่กฎหมายเฉพาะก าหนดไว้ (๔) รูปแบบและลักษณะของการจัดท า รวมทั้งการอธิบายเกี่ยวกับรายงานผลการปฏิบัติ ตามมาตรการจะต้องเป็นไปตามที่ก าหนดไว้ ตามแบบ ตต.๓” ข้อ ๕ ให้ยกเลิกเอกสารท้ายประกาศ แบบ ตต.๔ ถึงแบบ ตต.๑๙ ข้อ ๖ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖4 วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ้หนา ๗ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ มกราคม ๒๕๖๕
train
177
275.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/275.pdf
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง คุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงคุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๒ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา ฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานจึงออกประกาศไว้ ดังนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกา ศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่อง คุณสมบัติ ของผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเชื่อมอาร์ก โลหะด้วยมือ ลงวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อ ๒ ก าหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพ ช่างอุตสาหการ สาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ไว้ดังต่อไปนี้ ๒.๑ ผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ระดับ ๑ ต้องมีอายุไม่ต่ ากว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์นับถึงวันสมัครเข้ารับ การทดสอบ และต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) มีประสบการณ์การท างาน การปฏิบัติงาน หรือการประกอบอาชีพ ในสาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ไม่น้อยกว่า ๖ เดือน (๒) ผ่านการฝึกอบรมเตรียมเข้าท างาน ( Pre-Employment) สาขาช่างเชื่อม ไม่น้อยกว่า ๒๔๐ ชั่วโมง หรือการฝึกอบรมยกระดับ (Up-Grade Training) สาขาช่างเชื่อมอาร์ก โลหะด้วยมือ ไม่น้อยกว่า ๓๐ ชั่วโมง หรือการฝึกอบรมตามหลักสูตรช่างเชื่อมสากล (International Welder Course) ไม่น้อยกว่า ๙๐ ชั่วโมง หรือฝึกอาชีพหลักสูตรอื่น ๆ ในสาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ไม่น้อยกว่า ๑๒๐ ชั่วโมง (๓) จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ในสาขาที่เกี่ยวข้อง กับอาชีพนี้ ๒.๒ ผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ระดับ ๒ ต้องมีอายุไม่ต่ ากว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์นับถึงวันสมัครเข้ารับ การทดสอบ และต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) มีประสบการณ์การท างาน การปฏิบัติงาน หรือการประกอบอาชีพ เกี่ยวกับสาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ไม่น้อยกว่า ๑ ปี ้หนา ๒๐ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ (๒) ผ่านการฝึกอบรมเตรียมเข้าท างาน (Pre-Employment) สาขาช่างเชื่อม ไม่น้อยกว่า ๒๔๐ ชั่วโมง หรือการฝึกอบรมยกระดับ (Up-Grade Training) สาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะ ด้วยมือ ไม่น้อยกว่า ๓๐ ชั่วโมง หรือการฝึกอบรมตามหลักสูตรช่างเชื่อมสากล (International Welder Course) ไม่น้อยกว่า ๙๐ ชั่วโมง หรือฝึกอาชีพหลักสูตรอื่น ๆ ในสาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ไม่น้อยกว่า ๑๒๐ ชั่วโมง (๓) จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ในสาขาที่เกี่ยวข้อง กับอาชีพนี้ ๒.๓ ผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ระดับ ๓ ต้องมีอายุไม่ต่ ากว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์นับถึงวันสมัครเข้ารับ การทดสอบ และต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (๑) มีประสบการณ์การท างาน การปฏิบัติงาน หรือการประกอบอาชีพ เกี่ยวกับสาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ไม่น้อยกว่า ๑ ปี ๖ เดือน (๒) ผ่านการฝึกอบรมเตรียมเข้าท างาน ( Pre-Employment) สาขาช่างเชื่อม ไม่น้อยกว่า ๒๔๐ ชั่วโมง หรือการฝึกอบร มยกระดับ (Up-Grade Training) สาขาช่างเชื่อมอาร์ก โลหะด้วยมือ ไม่น้อยกว่า ๓๐ ชั่วโมง หรือการฝึกอบรมตามหลักสูตรช่างเชื่อมสากล (International Welder Course) ไม่น้อยกว่า ๙๐ ชั่วโมง หรือฝึกอาชีพหลักสูตรอื่น ๆ ในสาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะ ด้วยมือ ไม่น้อยกว่า ๑๒๐ ชั่วโมง (๓) จบการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ในสาขาที่เกี่ยวข้อง กับอาชีพนี้ ประกาศ ณ วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖2 สุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ้หนา ๒๑ ่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
train
178
1736.pdf
GENERAL
NON
GENERAL_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1736.pdf
'1>@01/#?P >% N1APอ ํ@ห% QหOสํ@%?@%#?P >%?ห/? สํ@%?@%#?P >%ส@@ O3>สํ@%?@%#?P >%สN/%O0 Q%*AQ%#?P?ห/? อ%ON%N'็%สํ@%?@%#?P >%อ>N3O#1อ%>ส์!N@สํ@%?@%O&&ออ%R3%์ !@/#?P1/#?P >%R O'1>@0ํ@ห% QหOสํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON%/ส@@/สN/%O0 1// _c OหN N'็%สํ@%?@%#?P >%อ>N3O#1อ%>ส์ N*@>@1 #>N&?0%ส>#$>O3>%>!>11/Q%ห%?สAอOส ส>#$>Q%#?P >% '1>N.#P% #?P >% !?QO!N/?%#?P __ ?%0@0% `cdd R'O3O/ %?Q% N*APอQหO'1>@%# ?P/?#?P >%อ0CNQ%N!*AQ%#?P?ห/? อ%ON% O3>/?ห%?สAอOส ส>#$>Q%#?P >% '1>N.#P% #?P >% ส@/@1"0AP%คํ@อ #>N&?0%ส>#$>O3>#ํ@%>!>11/N?P0/?&#?P >%  สํ@%?@%#?P >% OหNQ OหNห%@Pอ?ห/? #?Pอ$>& ?1/#?P >%R O'1>@0ํ@ห% QหON'็%สํ@%?@%#?P >%อ>N3O#1อ%>ส์ !N@สํ@%?@%O&&ออ%R3%์ 0N/O%@1 #>N&?0%ส>#$>O3>%>!>11/#?P!Oอ/?@1'1>@0ห1Aอ!Oอ/?@11?/? P 00AP%คํ@อ(N@%1>&&% ?  #>N& ?0%3N/ห%O@ (1>&& e-QLands) O3>(COอ!OอR' ํ@N%>%@1 #?Pสํ@%?@%#?P >%#?P!Oอ@1#ํ@%>!>11/ O/0!%Nอ (R/Nส@/@1"/อ&อํ@%@R O) อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ e_ /11คสอ OหN'1>//3ห/@0#?P >% @POORN*>P/N!>/ P 0*1>1@&??!>OORN*>P/N!>/'1>//3ห/@0# ?P >% (&?&#?P _^) *.0. `cc^ '1>อ&?& /@!1@ a` OหN*1>1@& ??!>1>N&?0&&1>ห@11@@1O( N% >% *.0. `cab @POORN*>P/N!>/ P 0*1>1@&??!>1>N&?0&&1>ห@11@@1O(N% >% (&?&#?P c) *.0. `cbc O3>Oอ ` (_) (b) Oอ _g OหN1>#1/O&NสN/%1@@11/#?P >% 1>#1//ห@ R#0 *.0. `cce '1>อ&?& Oอ _d 1>N&?0&1/#?P >% /N@ O/0ห3?Nฑ์ O3>/>$?@1 #>N&?0%ส>#$>O3>%>!>11/Q%สํ@%?@%#?P >% อ>N3O#1อ%>ส์ สํ@%?@%#?P >%อ>N3O#1อ%>ส์!N@สํ@%?@%O&&ออ%R3%์ O3>สํ@%?@%#?P >%อ>N3O#1อ%>ส์ #?Q1>&& *.0. `cdb @'1>@0QหOสํ@%?@%#?P >%อ>N3O#1อ%>ส์ ?!NอR'%?Q _. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% `. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@1>%/% a. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@B/O* b. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@ส?/*C c. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@%Qํ@*อ d. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@&O@%R(N e. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@&O@%)@ f. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@*1>0A% g. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@*3 _^. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@.CN/?0 __. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@/?@ค?1? หนา ๕๒ เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๙๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ _`. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@O/%Oอ0 _a. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@ห%อN1Aอ _b. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@ห%อสอหOอ _c. สํ@%?@%#?P >%?ห/? อ%ON% ส@@%Qํ@*อ สN/%O0อB&31?!%์ N'็%สํ@%?@%#?P >%อ>N3O#1อ%>ส์!N@สํ@%?@%O&&ออ%R3% ์N*@>@1 #>N& ?0%ส>#$>O3>%>!>11/ Q%ห%?สAอOส ส>#$>Q%#?P >%'1>N.#P% #?P >%#?PR/N/?@1'1>@0ห1Aอ@11?/? #?Q%?Q !?QO!N/?%#?P g *20>@0% *.0. `cdd N'็%!O%R' '1>@0  /?%#?P 27 !B3@ค/ *.0. `c66 0@/B$ ?%#1 อ$>& ?1/#?P >% หนา ๕๓ เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๙๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
179
866.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/866.pdf
ข้อก ำหนด ออกตำมควำมในมำตรำ ๙ แห่งพระรำชก ำหนด กำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓3) ตำมที่ได้มีประกำศสถำนกำรณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วรำชอำณำจักรตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และต่อมำได้ขยำยระยะเวลำกำรบังคับใช้ประกำศสถำนกำรณ์ฉุกเฉินดังกล่ำวออกไป เป็นครำวที่ ๑๓ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยำยน พ.ศ. ๒๕๖๔ นั้น เพื่อเป็นกำรบังคับใช้บรรดำมำตรกำรตำมข้อก ำหนดที่ได้ประกำศไว้แล้วต่อเนื่องไปให้เหมำะสม กับสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 ที่รัฐบำลและพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ทุกภำคส่วนสำมำรถเข้ำควบคุมและบริหำรจัดกำรสถำนกำรณ์ฉุกเฉินให้คลี่คลำยไปในทำงที่ดีขึ้น ฝ่ำยสำธำรณสุขและหน่ว ยงำนที่รับผิดชอบจึงได้ประเมินผลและควำมเหมำะสมของมำตรกำรต่ำง ๆ เสนอต่อศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (โควิด - 19) (ศบค.) เพื่อพิจำรณำ โดยพนักงำนเจ้ำหน้ำที่คงจ ำเป็นต้องติดตำมก ำกับดูแลทั้งบุคคล สถำนที่ กำรด ำเนินกิจกำร และกิจกรรมต่ำง ๆ ให้อยู่ภำยใต้เงื่อนไขของกำรปฏิบัติตำมมำตรกำรป้องกันโรคที่ทำงรำชกำรก ำหนด อย่ำงเคร่งครัด กำรด ำเนินกำรเพื่อให้เป็นไปตำมแผนบริกำรวัคซีน รวมทั้งกำรสร้ำงควำมรับรู้ และควำมเข้ำใจให้ประชำชน ผู้ประกอบกำร และหน่วยงำนที่รับผิดชอบเตรียมควำมพร้อม เพื่อกำรปฏิบัติตนส ำหรับกำรด ำเนินกำรตำมมำตรกำรควบคุมและป้องกันโรคในระยะยำว เช่น มำตรกำร ควบคุมโรคโควิด - 19 แนวใหม่เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่ำงปลอดภัย (Smart Control and Living with COVID - 19) มำตรกำรป้องกันกำรติดเชื้อแบบครอบจักรวำล (Universal Prevention for COVID - 19) หรือมำตรกำรปลอดภัยส ำหรับองค์กร (COVID-Free Setting) ที่จะบังคับใช้ในอนำคต อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๙ แห่งพระรำชก ำหนดกำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และมำตรำ ๑๑ แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ นำยกรัฐมนตรีจึงออกข้อก ำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนรำชกำรทั้งหลำยตำมค ำแนะน ำของ ศบค. ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ การก าหนดพื้นที่สถานการณ์จ าแนกตามเขตพื้นที่จังหวัด ให้กำรก ำหนดระดับ ของพื้นที่สถำนกำรณ์เพื่อกำรบังคับใช้มำตรกำรควบคุมแบบบูรณำกำร จ ำแนกเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ควบคุม ตำมบัญชีรำยชื่อจังหวัดแนบท้ำยค ำสั่งศูนย์บริหำร สถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (โควิด - 19) ที่ ๑๑/๒๕๖๔ ลงวันที่ ๑ สิงหำคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ยังคงบังคับใช้ต่อไป ้หนา ๓๖ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๑๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ กันยายน ๒๕๖๔ ข้อ ๒ การขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการส าหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อกำรควบคุมสถำนกำรณ์ของกำรระบำดให้อยู่ในวงจ ำกัดตำมกำรประเมินของฝ่ำยสำธำรณสุข จึงให้ บรรดำมำตรกำร ข้อห้ำม ข้อยกเว้น และข้อปฏิบัติส ำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตำมที่ก ำหนด ที่ได้ประกำศไว้ก่อนหน้ำ ได้แก่ กำรห้ำมออกนอกเคหสถำนในระหว่ำงเวลำ ๒๑.๐๐ นำฬิกำ ถึง ๐๔.๐๐ นำฬิกำ ของวันรุ่งขึ้น กำรห้ำมจัดกิจกรรมที่มีควำมเสี่ยงต่อกำรแพร่โรค มำตรกำรควบคุม แบบบูรณำกำรส ำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กำรใช้เส้นทำงคมนำคมเพื่อกำรเดินทำง ข้ำมจังหวัด กำรขนส่งสำธำรณะ และกำรปฏิบัติงำนนอกสถำนที่ท ำกำรของส่วนรำชกำร หน่วยงำน ของรัฐและเอกชนอย่ำงเต็มควำมสำมำรถที่จะท ำได้ รวมถึงบรรดำมำตรกำร หลักเกณฑ์ หรือ แนวปฏิบั ติส ำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่หรือหน่วยงำนที่รับผิดชอบ ได้ก ำหนดขึ้นภำยใต้ข้อก ำหนดดังกล่ำวยังคงใช้บังคับต่อไป จนถึงวันที่ ๓๐ กันยำยน พ.ศ. ๒๕๖๔ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยำยน พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ประกำศ ณ วันที่ 10 กันยำยน พ.ศ. ๒๕๖๔ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชำ นำยกรัฐมนตรี ้หนา ๓๗ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๑๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ กันยายน ๒๕๖๔
train
180
102.pdf
QM
NON
QM_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/102.pdf
แก้ไขข้อความคลาดเคลื่อน ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ ๓๘๙ พ.ศ. ๒๕๖๑ เรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ ๕) ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศและงานทั่วไป เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๗๘ ง วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑ เอกสารแนบท้าย บัญชีหมายเลข ๒ หน้า ๖๒๐ เงื่อนไข ๓๓๑ จาก “ใช้ส าหรับ ผลิตภัณฑ์อาหารที่มิได้ก าหนดคุณภาพหรือมาตรฐานไว้เฉพาะ: ใช้ส าหรับปลาบด, กุ้งบด (shrimps และ prawns) เท่านั้น” ให้แก้เป็น “ใช้ส าหรับผลิตภัณฑ์อาหารที่มิได้ก าหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน ไว้เฉพาะ: ใช้ส าหรับปลาบด, กุ้ง (shrimps และ prawns) เท่านั้น” ้หนา ๔๔ ่เลม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๓๐๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
train
181
1573.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1573.pdf
ระเบียบกรมวิชาการเกษตร ว่าด้วยการรับรองผลิตพืชตามมาตรฐาน ระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขระเบียบกรมวิชาการเกษตรว่าด้วยการรับรองผลิตพืชตามมาตรฐานระบบ การจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช พ.ศ. ๒๕๕๕ ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๕ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช และมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น นั้น อาศัยอ านาจตามมาตรา 32 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกับข้อ ๒ ของกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. ๒๕๕๗ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร จึงออกระเบียบกรมวิชาการเกษตร ว่าด้วยการรับรองผลิตพืช ตามมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช พ.ศ. ๒๕๖๖ ไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมวิชาการเกษตร ว่าด้วยการรับรองผลิตพืชตามมาตรฐาน ระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช พ.ศ. ๒๕๖๖” ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิก (๑) ระเบียบกรมวิชาการเกษตร ว่าด้วยการรับรองผลิตพืชตามมาตรฐานระบบการจัดการ คุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช พ.ศ. ๒๕๕๕ ลงวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ (๒) ระเบียบกรมวิชาการเกษตร ว่าด้วยการรับรองผลิตพืชตามมาตรฐานระบบการจัดการ คุณภาพการปฏิบัติทางกา รเกษตรที่ดีส าหรับพืช (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๔ ในระเบียบนี้ “การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช” (Good Agricultural Practice : GAP) หมายความว่า แนวทางการปฏิบัติในไร่นา เพื่อผลิตพืชเพื่อให้ได้สินค้าปลอดภัย ปลอดศัตรูพืชและมีคุณภาพ เน้นวิธีการควบคุมและป้องกันการเกิดปัญหาในกระบวนการผลิต “ระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช ” หมายความว่า ระบบ การจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืชไร่นา “คณะกรรมการรับรอง” หมายความว่า คณะกรรมการรับรองมาตรฐานการผลิตพืช ที่ได้รับ การแต่งตั้งจากประธานคณะอนุกรรมการบริหารระบบคุณภาพด้านการรับรองมาตรฐานการผลิตพืช เพื่อท าหน้าที่พิจารณาให้การรับรอง คงไว้ พักใช้ เพิกถอน เปลี่ยนแปลงขอบข่าย เพิ่ม/ลดขอบข่าย และยกเลิกการรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช ้หนา ๑ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๖ “คณะพิจารณาอุทธรณ์” หมายความว่า คณะบุคคลที่แต่งตั้งโดยประธานคณะอนุกรรมการบริหาร เพื่อพิจารณาการอุทธรณ์ “คณะอนุกรรมการบริหาร” หมายความว่า คณะอนุกรรมการบริหารระบบคุณภาพด้านการรับรอง มาตรฐานการผลิตพืช ที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานกรรมการบริหารระบบคุณภาพและรับรองมาตรฐาน การผลิตพืช เพื่อท าหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย “คณะกรรมการบริหาร” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารระบบคุณภาพและรับรองมาตรฐาน การผลิตพืชที่ได้รับการแต่งตั้งจากปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อท าหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย “ผู้ตรวจประเมิน” (Auditor) หมายความว่า บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจากกรมวิซาการเกษตร ให้ท าหน้าที่ตรวจประเมิน “คณะผู้ตรวจประเมิน ” หมายความว่า คณะบุคคลที่กรมวิชาการเกษตรแต่งตั้งเพื่อท าหน้าที่ ตรวจประเมินซึ่งประกอบด้วย หัวหน้าผู้ตรวจประเมิน ผู้ตรวจประเมิน ผู้ตรวจประเมินฝึกหัด (ถ้ามี) และผู้เชี่ยวชาญ (ถ้ามี) “ผู้ยื่นค าขอ ” หมายความว่า เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร นิติบุคคล หรือกลุ่มองค์กรอื่นใด ที่ประสงค์ขอรับการรับรอง “อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมวิชาการเกษตร “ใบรับรอง” หมายความว่า ใบรับรองแหล่งผลิตพืชตามมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช หมวด ๑ ขอบข่าย พื้นที่ และภาษาที่ใช้ในการตรวจประเมิน ข้อ ๕ กรมวิชาการเกษตรจะให้การรับรองขอบข่ายพืชตามบัญชีรายชื่อพืชให้เป็นไปตามที่ ประกาศในเว็บไซต์ของกรมวิชาการเกษตร (www.doa.go.th) การตรวจประเมินจะด าเนินการตรวจประเมิน ส าหรับพื้นที่ในประเทศไทย และใช้ภาษาไทยเป็นหลัก ในการตรวจประเมิน หมวด ๒ คุณสมบัติของผู้ยื่นค าขอการรับรองแหล่งผลิตพืชตามมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช ข้อ ๖ ผู้ยื่นค าขอการรับรองแหล่งผลิตพืชตามมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติ ของการเกษตรที่ดีส าหรับพืช ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ ๖.๑ กรณีเป็นเกษตรกร (ก) เป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ้หนา ๒ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๖ (ข) ไม่เป็นผู้ถูกเพิกถอนใบรับรอง จากกรมวิชาการเกษตร หรือหน่วยรับรองใด ๆ ที่มีมาตรฐานเทียบเท่าของกรมวิชาการเกษตร เว้นแต่พ้นระยะเวลา ๑ ปี นับจากวันที่ถูกเพิกถอนใบรับรอง ๖.๒ กรณีเป็นนิติบุคคล (ก) เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย (ข) ไม่เป็นผู้ถูกเพิกถอนใบรับรอง จากกรมวิชาการเกษตร หรือหน่วยรับรองใด ๆ ที่มีมาตรฐานเทียบเท่าของกรมวิชาการเกษตร เว้นแต่พ้นระยะเวลา ๑ ปี นับจากวันที่ถูกเพิกถอนใบรับรอง ๖.๓ กรณีเป็นกลุ่มเกษตรกรหรือองค์กร (ก) ได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หรือหากไม่ได้ขึ้นทะเบียน กับหน่วยงานภาครัฐ ต้องมีสมาชิกที่ขอยื่นรับรอง ตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไป (ข) ไม่เป็นกลุ่มหรือองค์กรที่ถูกเพิกถอนใบรับรองจากกรมวิชาการเกษตร หรือหน่วยรับรองใด ๆ ที่มีมาตรฐานเทียบเท่าของกรมวิชาการเกษตร เว้นแต่พ้นระยะเวลา ๑ ปี นับจากวันที่ถูกเพิกถอนใบรับรอง หมวด ๓ การยื่นค าขอการรับรองการผลิตพืชตามมาตรฐาน ระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช ข้อ ๗ ผู้ใดประสงค์จะขอการรับรองการผลิตพืช ตามมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช ให้ยื่นค าขอต่อกรมวิชาการเกษตรหรือหน่วยงานที่กรมวิชาการเกษตร มอบหมายพร้อมหลักฐานและเอกสารต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในแบบค าขอใบรับรอง ข้อ ๘ เมื่อได้รับค าขอดังกล่าวแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบค าขอและคุณสมบัติของผู้ขอ ตามข้อ ๖ และข้อ ๗ หากเห็นว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนก็ให้เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ยื่นค าขอทราบ หากเอกสารครบถ้วนแล้วก็ส่งคณะผู้ตรวจประเมินด าเนินการต่อไป ข้อ ๙ ผู้ยื่นค าขอต้องยินยอมให้ผู้ตรวจประเมินด าเนินการตรวจประเมิน ณ แหล่งผลิตของ ผู้ยื่นค าขอ รวมทั้งยินยอมให้ผู้แทนจากหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการรับรองเข้าร่วมสังเกตการณ์ การตรวจประเมินของผู้ตรวจประเมิน ณ แหล่งผลิตของผู้ยื่นค าขอ หมวด ๔ การตรวจประเมินแหล่งผลิตพืชตามมาตรฐาน ระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช ข้อ ๑๐ คณะผู้ตรวจประเมินด าเนินการตรวจประเมินตามคู่มือมาตรฐานสินค้าเกษตร (มกษ.) คู่มือวิธีการปฏิบัติงาน (WI) คู่มือการปฏิบัติงาน (SOP) หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการตรวจประเมิน แหล่งผลิต GAP พืช (RE-๒) และพิจารณาพื้นที่การผลิตตามแนวทางที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก าหนด ้หนา ๓ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๖ หมวด ๕ การออกใบรับรองแหล่งผลิตพืชตามมาตรฐาน ระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีส าหรับพืช ข้อ ๑๑ หากคณะผู้ตรวจประเมิน ตรวจประเมินเรียบร้อยแล้วให้น าเสนอต่อคณะกรรมการ รับรองเพื่อพิจารณา หากคณะกรรมการรับรองพิจารณาแล้วเห็นชอบให้น าเสนออธิบดี หรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายเพื่อออกใบรับรอง ข้อ ๑๒ ใบรับรองส าหรับพืชล้มลุก (annual crop) มีอายุ ๒ ปี และใบรับรองส าหรับ พืชยืนต้น (perennial crop) มีอายุ ๓ ปี นับแต่วันที่ออกใบรับรอง หมวด ๖ การต่ออายุใบรับรองแหล่งผลิต GAP พืช ข้อ ๑๓ ผู้ได้รับใบรับรอง ถ้าประสงค์จะขอต่ออายุใบรับรอง ให้ยื่นขอต่ออายุใบรับรอง ต่อกรมวิชาการเกษตร ก่อนใบรับรองฉบับเดิมหมดอายุ เมื่อได้ยื่นค าขอดังกล่าวแล้วให้ถือว่ามีฐานะ เสมือนผู้ได้รับใบรับรองและให้ด าเนินการผลิตต่อไปได้จนกว่าอธิบดีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะสั่ง ไม่ต่ออายุใบรับรอง ข้อ ๑๔ การตรวจประเมินเพื่อต่ออายุใบรับรอง กรมวิชาการเกษตรจะตรวจประเมินระบบทั้งหมด เพื่อออกใบรับรองฉบับใหม่ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดไว้ในหมวด ๔ ข้อ ๑๕ การตรวจประเมินเพื่อต่ออายุการรับรองจะท าการตรวจประเมินไม่เกิน ๒ ครั้ง หากการตรวจประเมินไม่สามารถเสร็จสิ้นได้ภายใน ๒ ครั้ง กรมวิชาการเกษตร จะพิจารณายกเลิก การต่ออายุ หมวด ๗ การลดขอบข่าย การพักใช้ และการเพิกถอนการรับรอง ข้อ ๑๖ การลดขอบข่ายการรับรอง เมื่อปรากฏว่าผู้ได้รับใบรับรองไม่สามารถรักษาระบบการจัดการคุณภาพ GAP ของพืชชนิดใด ชนิดหนึ่ง ให้อธิบดีหรือผู้ได้รับมอบหมายลดขอบข่ายการรับรองและออกใบรับรองฉบับใหม่แทนฉบับเดิม ตามขอบข่ายที่เหลือ และใบรับรองฉบับใหม่ให้มีอายุเท่ากับใบรับรองฉบับเดิมที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับ การรับรองต้องส่งคืนใบรับรองฉบับเดิม ให้กรมวิชาการเกษตร ้หนา ๔ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๖ ข้อ ๑๗ การสั่งพักใช้ใบรับรอง เมื่อปรากฏว่าผู้ได้รับการรับรองไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ก าหนดไว้ในระเบียบนี้ อธิบดีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายมีอ านาจสั่งพักใช้ใบรับรอง โดยมีก าหนดครั้งละไม่น้อยกว่า ๖0 วัน แต่ไม่เกิน ๑๘๐ วัน ผู้ได้รับการรับรองซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบรับรอง ต้องหยุดการอ้างถึงใบรับรอง เครื่องหมายรับรอง เครื่องหมายรับรองระบบงานในระหว่างที่ถูกสั่งพักใช้ จนกว่าอธิบดีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะสั่งถอน การสั่งพักใช้ ข้อ ๑๘ การสั่งเพิกถอนใบรับรอง กรณีที่ผู้ได้รับใบรับรองไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ก าหนดไว้ใน ระเบียบนี้ กรณีใดกรณีหนึ่งหรือหลายกรณี ดังนี้ (๑) ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในระเบียบนี้และการไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการรับรอง (๒) ไม่ปฏิบัติตามระบบที่ได้รับการรับรองในสาระส าคัญ เช่น พบว่ามีการใช้ หรือมีไว้ ในครอบครอง หรือผลการวิเคราะห์พบวัตถุอันตรายชนิดที่ ๔ (๓) ถูกสั่งพักใช้ใบรับรองเกิน ๒ ครั้ง ภายในระยะเวลา ๒ หรือ ๓ ปี แล้วแต่ประเภท ใบรับรอง (๔) มีข้อร้องเรียนที่คณะกรรมการรับรอง พิจารณาแล้วเห็นว่าส่งผลกระทบร้ายแรง ต่อการรับรอง ให้คณะกรรมการรับรองพิจารณาเสนออธิบดี หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเพื่อสั่งเพิกถอนใบรับรอง และให้กรมวิชาการเกษตรน ารายชื่อผู้ถูกเพิกถอนการรับรองเผยแพร่แก่สาธารณชนทราบ ทั้งนี้ ผู้ได้รับการรับรองซึ่งถูกสั่งเพิกถอนใบรับรองต้องส่งใบรับรองคืนให้แก่กรมวิชาการเกษตร ผู้ถูกเพิกถอนใบรับรองต้องหยุดการ ใช้ หรืออ้างอิง ใบรับรอง เครื่องหมายรับรอง และเครื่องหมายรับรองระบบงานบนเอกสารอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง เช่น แผ่นพับ ใบปลิว บรรจุภัณฑ์ ป้ายโฆษณา เป็นต้น นับตั้งแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอนใบรับรอง หมวด ๘ การยกเลิกการรับรอง ข้อ ๑๙ ใบรับรองจะถูกยกเลิกในกรณี ดังต่อไปนี้ (๑) ผู้ได้รับการรับรอง เลิกประกอบกิจการที่ได้รับการรับรอง (๒) ผู้ได้รับการรับรอง เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเป็นคนไร้ความสามารถ (๓) ผู้ได้รับการรับรอง เสียชีวิต (๔) ผู้ได้รับการรับรอง โอนกิจการให้บุคคลอื่น ้หนา ๕ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๖ (๕) ผู้ได้รับการรับรอง แจ้งขอยกเลิกการรับรองเป็นลายลักษณ์อักษร (๖) ผู้ได้รับการรับรอง ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อก าหนดใหม่ได้ ภายในระยะเวลาที่ก าหนด เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการรับรอง หมวด ๙ การอุทธรณ์ ข้อ ๒๐ การอุทธรณ์ (๑) ผู้ยื่นค าขอรับการรับรองถูกปฏิเสธการขอออกใบรับรองหรือผู้ได้รับใบรับรองที่ถูกลด ขอบข่าย ถูกสั่งพักใช้ หรือถูกเพิกถอนใบรับรอง สามารถยื่นอุทธรณ์ ได้ภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่ ได้รับแจ้งค าสั่งจากกรมวิชาการเกษตร โดยการยื่นอุทธรณ์ต้องท าเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อคณะ พิจารณาอุทธรณ์ (๒) คณะพิจารณาอุทธรณ์จะพิจารณาค าอุทธรณ์ และแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบภายใน ๖๐ วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับค าอุทธรณ์ (๓) ผลการพิจารณาของคณะพิจารณาอุทธรณ์ให้ถือเป็นที่สิ้นสุด ประกาศ ณ วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖6 ระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ้หนา ๖ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๖
train
182
108.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/108.pdf
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๓๓๓) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินไดเทาที่ไดจายเปนคาซื้อสินคาหรือคาบริการ อาศัยอํานาจตามความในขอ ๑ แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๔๑ (พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตามความ ในประมวลรัษฎากรวาดวยการยกเวนรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินไดเทาที่ไดจายเปนคาซื้อสินคาหรือคาบริการ ดังตอไปนี้ ขอ ๑ การยกเวนภาษีเงินไดสําหรับเงินไดเทาที่ไดจาย เปนคาซื้อสินคาหรือคาบริการ สําหรับการซื้อสินคาหรือรับบริการในราชอาณาจักร ตั้งแตวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ตองเปนไปตามหลักเกณฑ ดังตอไปนี้ (๑) ผูมีเงินไดซึ่งมีหนาที่เสียภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา ตองมิใ ชหางหุนสวนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใชนิติบุคคล โดยใหไดรับยกเวนภาษีเงินไดตามจํานวนที่จายจริงแตไมเกิน ๑๕,๐๐๐ บาท (๒) กรณีสามีหรือภริยามีเงินไดฝายเดียว ใหยกเวนภาษีเงินไดใหแกสามีหรือภริยา ซึ่งเปนผูมีเงินไดตามจํานวนที่จายจริงแตไมเกิน ๑๕,๐๐๐ บาท (๓) กรณีสามีภริยาตางฝายตางมีเงินได (ก) ถาตางฝายตางยื่นรายการเกี่ยวกับเงินไดพึงประเมินที่ตนไดรับ หรือแยกยื่นรายการ และเสียภาษีเฉพาะสวนที่เปนเงินไดพึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๑) แหงประมวลรัษฎากร โดยไมถือเปนเงินได ของอีกฝายหนึ่ งตามมาตรา ๕๗ ฉ แหงประมวลรัษฎากร ใหตางฝายตางไดรับยกเวนภาษีเงินได ตามจํานวนที่จายจริงแตไมเกิน ๑๕,๐๐๐ บาท (ข) ถาสามีภริยาตกลงยื่นรายการและเสียภาษีรวมกัน โดยถือเอาเงินได พึงประเมินของตนเปนเงินไดของสามีหรือภริยาอีกฝายหนึ่งตามมาตรา ๕๗ ฉ แหงประมวลรัษฎากร ใหผูมีเงินไดไดรับยกเวนภาษีเงินไดตามจํานวนที่จายจริง เฉพาะสวนที่ไมเกิน ๑๕,๐๐๐ บาท และใหไดรับยกเวนภาษีเงินไดสวนของสามีหรือภริยาไดตามจํานวนที่จายจริงแตไมเกิน ๑๕,๐๐๐ บาท ้หนา ๔๐ ่เลม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ขอ ๒ ผูมีเงินไดที่ใชสิทธิยกเวนภาษีเงินไดตามประกาศนี้ ตองซื้อสินคาหรือรับบริการ และชําระราคาคาสินคาหรือคาบริการ ตั้งแตวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒ และตองเปนไปตามหลักเกณฑ ดังตอไปนี้ (๑) กรณีการจายคาซื้อยางรถยนต ยางรถจักรยานยนต หรือยาง รถจักรยาน ตองเปนการจายใหแกผูขายซึ่งเปนผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม และไดรับใบกํากับภาษี ตามมาตรา ๘๖/๔ แหงประมวลรัษฎากร พรอมทั้งหลักฐานคูปองที่แสดงประเภทของยางที่ซื้อ จากผูขาย ซึ่งเปนหลักฐานที่การยางแหงประเทศไทยรับรองวา ยางดังกล าวผลิตโดยผูผลิตที่ซื้อวัตถุดิบ จากการยางแหงประเทศไทย ยางรถยนต ยางรถจักรยานยนต หรือยางรถจักรยานตามวรรคหนึ่ง ตองไมเคยผาน การใชงานมากอน หลักฐานคูปองจากผูขายตามวรรคหนึ่งตองปรากฏชื่อหรือตราประทับของผูขาย และผูมีเงินไดตองมีจํานวนคูปองมาแสดงเทากับจํานวนยางที่ซื้อ (๒) กรณีการจายคาซื้อหนังสือแตไมรวมถึงหนังสือพิมพและนิตยสาร ตองเปนการจาย ใหแกผูขายที่เปนบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคล และไดรับใบกํากับภาษีตามมาตรา ๘๖/๔ แหงประมวลรัษฎากร ในกรณีที่ผูขายเปนผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมู ลคาเพิ่ม หรือไดรับใบรับ ซึ่งมีรายการอยางนอยตามมาตรา ๑๐๕ ทวิ แหงประมวลรัษฎากร พรอมระบุชื่อ และนามสกุล ของผูมีเงินได ในกรณีที่ผูขายมิไดเปนผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม (๓) กรณีการจายคาบริการหนังสือที่อยูในรูปของขอมูลอิเล็กทรอนิกสผานระบบอินเทอรเน็ต แตไมรวมถึงหนังสือพิมพและนิตยสารตองเปนการจายใหแกผูใหบริการที่เปนบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคล และไดรับใบรับซึ่งมีรายการอยางนอยตามมาตรา ๑๐๕ ทวิ แหงประมวลรัษ ฎากร พรอมระบุชื่อ และนามสกุลของผูมีเงินได (๔) กรณีการจายคาซื้อสินคาหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ สินคาดังกลาวตองเปนสินคา ที่ไดลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแลว และไดรับใบกํากับภาษีตามมาตรา ๘๖/๔ แหงประมวลรัษฎากร จากผูขาย ในกรณีที่ผูขายเปน ผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม หรือไดรับใบรับซึ่งมีรายการ ้หนา ๔๑ ่เลม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ อยางนอยตามมาตรา ๑๐๕ ทวิ แหงประมวลรัษฎากร พรอมระบุชื่อ และนามสกุลของผูมีเงินได ในกรณีที่ผูขายมิไดเปนผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม โดยในการจัดทํารายการชื่อ ชนิด และประเภทของสินคาในใบกํากับภาษีตามมาตรา ๘๖/๔ (๕) แหงประมวลรัษฎากร หรือในใบรับนั้น ผูขายตองปฏิบัติ ดังนี้ (ก) ตองระบุขอความที่แสดงวาสินคานั้น เปนสินคาหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ ในแตละรายการสินคา หรือจัดทําเครื่องหมายแสดงในแตละรายการสินคาที่เป นสินคาหนึ่งตําบล หนึ่งผลิตภัณฑ และมีขอความที่แสดงวาเครื่องหมายนั้นหมายถึงสินคาหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ ไวในใบกํากับภาษีหรือใบรับ เชน “OTOP” “โอทอป” หรือ “One Tambon One Product” เปนตน (ข) กรณีที่สินคาทุกร ายการในใบกํากับภาษีหรือใบรับนั้น เปนสินคา หนึ่งตําบล หนึ่งผลิตภัณฑทั้งหมด จะไมระบุขอความหรือเครื่องหมายที่แสดงวา สินคาแตละรายการเปนสินคา หนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑตาม (ก) ก็ได โดยให ผูขายสินคาซึ่งเปนผูออกใบกํากับภาษีหรือใบรับ ประทับดวยตรายางที่มีชื่อการคา หรือเครื่องหม ายการคาของผูขายสินคานั้น และใหระบุขอความวา “สินคาทุกรายการเปนสินคาหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ” หรือขอความอื่นในลักษณะทํานองเดียวกัน ในใบกํากับภาษีหรือใบรับฉบับนั้นดวย การออกใบกํากับภาษีหรือใบรับตามวรรคหนึ่งที่ผูขายหรือผูใหบริการออกดวยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส ผูขายหรือผูใหบริการตองปฏิบัติตามระเบียบกรมสรรพากรวาดวยการจัดทํา สงมอบ และเก็บรักษาใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส และใบรับอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๖๐ หรือระเบียบ กรมสรรพากรวาดวยการจัดทํา สงมอบ และเก็บรักษาใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกสผาน ระบบ e-Tax Invoice by Email พ.ศ. ๒๕๖๐ ขอ ๓ กรณีที่ผูมีเงินไดเปนผูประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาเพิ่ม ไดนําภาษีมูลคาเพิ่ม ตามใบกํากับภาษีไปหักจากภาษีขายในการคํานวณภาษีมูลคาเพิ่มตามมาตรา ๘๒/๓ แหงประมวลรัษฎากรแลว ผูมีเงินไดไมมีสิทธินําคาซื้ อสินคาหรือคาบริการตามใบกํากับภาษีนั้นมาใชสิทธิยกเวนภาษีเงินได ตามประกาศนี้ ้หนา ๔๒ ่เลม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ขอ ๔ การไดรั บยกเวนภาษีเงินไดตามประกาศนี้ ใหผูมีเงินไดมีสิทธินําเงินไดที่ไดรับยกเวน ภาษีไปคํานวณหักจากเงินไดพึงประเมินตามมาตรา ๔๐ แหงประมวลรัษฎากร หลังจากหักคาใช จาย ตามมาตรา ๔๒ ทวิ ถึงมาตรา ๔๖ แหงประมวลรัษฎากรแลว ขอ ๕ ประกาศนี้ใหใชบังคับตั้งแตวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เปนตนไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เอกนิติ นิติทัณฑประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ้หนา ๔๓ ่เลม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
train
183
2505.pdf
TIS
NON
TIS_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2505.pdf
'1>@01>#1/อF!2@ห11/ N1ENอ Aห% /@!1@%(ลB!.?์อF!2@ห11/ 1"O#1N!อ1์Oล>Nค1ENอ?1ลNพENอ@1N1!1Oล>@1'่@R/O - @1ค/&คF/อ%F1/Oล>Nค1EอN@0Oอ/Gล@12ENอ2@1 NลN/ ` ?O%#@@0.@พ พ.0. `_`b P 0#CNN'็%@12/ค/1Aห% /@!1@%(ลB!.?์อF!2@ห11/ 1"O#1N!อ1์Oล>Nค1ENอ ?1ล NพENอ@1N1!1Oล>@1'่@R/O - @1ค/&คF/อ%F1/Oล>Nค1EอN@0Oอ/Gล@12ENอ2@1 NลN/ ` ?O%#@@0.@พ อ@0?0อA%@!@/ค/@/Q%/@!1@ __ OหNพ1>1@&?ญญ?!B/@!1@%(ลB!.?์อF!2@ห11/ พ.0. `___ DNOORNพBN/N!B/P 0พ1>1@&?ญญ?!B/@!1@%(ลB!.?์อ F!2@ห11/ (&?&#CN a) พ.0. `__b 1?/%!1C/N@@11>#1/อF!2@ห11/ Dออ'1>@0!@/Oอ N2%ออค>11/@1 /@!1@%(ลB!.?์อF!2@ห11/R/O ?%CO Oอ _ '1>@0%CON1C0/N@ <'1>@01>#1/อF!2@ห11/ N1ENอ Aห% /@!1@%(ลB!.?์ อF!2@ห11/ 1"O#1N!อ1์Oล>Nค1ENอ?1ลNพENอ@1N1! 1Oล>@1'่@R/O - @1ค/&คF/อ%F1/Oล> Nค1EอN@0Oอ/Gล@12ENอ2@1 NลN/ ` ?O%#@@0.@พ พ.0. `_`b= Oอ ` '1>@0%COQหO/C(ล%?&O!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@B@%FN&1@N'็%!O%R' Oอ a QหOAห% /@!1@%(ลB!.?์อF!2@ห11/ 1"O#1N!อ1์Oล>N ค1ENอ?1ลNพENอ @1N1!1Oล>@1'่@R/O - @1ค/&คF/อ%F1/Oล>Nค1EอN@0Oอ /Gล@12ENอ2@1 NลN/ ` ?O%#@@0.@พ /@!1@%Nล#CN /อ. 4209 NลN/ 2 - 2567 R/O ?/C1@0ล>NอC0 #O@0'1>@0%CO '1>@0  /?%#CN `b F/.@พ?%$์ พ.0. `_`b Nอ%? พ1Oอ/พ?%$F์ 1?/%!1C/N@@11>#1/อF!2@ห11/ หนา ๒๒ เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๕๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ขอมูลมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม แนบทายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ชื่อมาตรฐาน : รถแทรกเตอรและเครื่องจักรกลเพื่อการเกษตรและการปาไม - การควบคุมอนุกรมและเครือขายขอมูลการสื่อสาร เลม 2 ชั้นทางกายภาพ TRACTORS AND MACHINERY FOR AGRICULTURE AND FORESTRY - SERIAL CONTROL AND COMMUNICATIONS DATA NETWORK - PART 2: PHYSICAL LAYER มาตรฐานเลขที่ : มอก. 4209 เลม 2-2567 ผูจัดทํา : สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม กรรมการวิชาการ : - ขอบขาย : มาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนี้ - กําหนดขึ้นโดยรับ ISO 11783-2:2019 Tractors and machinery for agriculture and forestry — Serial control and communications data network — Part 2: Physical layer มาใชโดยวิธีพิมพซ้ํา (reprinting) ในระดับเหมือนกันทุกประการ (identical) โดยใช ISO ฉบับภาษาอังกฤษเปนหลัก - ระบุเครือขายขอมูลอนุกรมสําหรับการควบคุมและการสื่อสารเกี่ยวกับปาไม หรือรถแทรกเตอรเพื่อการเกษตร วัตถุประสงคของมาตรฐานผลิตภัณฑ อุตสาหกรรมนี้คือการสรางมาตรฐานวิธีการและรูปแบบของการถายโอน ขอมูลระหวางเซ็นเซอรแอคทูเอเตอรองคประกอบควบคุมและหนวยเก็บ ขอมูลและหนวยงานที่ติดตั้งไมวาจะติดตั้งหรือสวนหนึ่งของรถแทรกเตอรหรือ การนําไปใช ISO 11783 ยังมีระบบการเชื่อมตอระหวางกันแบบเปดสําหรับ ระบบอิเล็กทรอนิกสออนบอรดที่ใชโดยอุปกรณการเกษตรและการปาไม มาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนี้มีจุดประสงคเพื่อใหหนวยควบคุม อิเล็กทรอนิกส (ECUs) สื่อสารซึ่งกันและกันโดยใชระบบมาตรฐานมาตรฐาน ผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนี้กําหนดและอธิบายถึงเครือขาย 250 kbit/s บิดเกลียว ไมไดรับการปองกัน ชั้นทางกายภาพเคเบิลสี่สาย และสายเคเบิล สํารอง และสถาปตยกรรมที่ชื่อวา Twisted Pair Layer (TPPL) พื้นฐาน บน 250 kbit/s ไมไดรับการปองกัน เครือขายสายเคเบิลแบบคูบิดเกลียว จับคูชั้นเครือขายเคเบิลคูซึ่งเขากันไดกับเครื่องจักรและอุปกรณที่ใช twisted quad อยางสมบูรณหมายเหตุ ในกรณีที่ไมไดระบุความตองการที่แตกตาง กันขอกําหนดสําหรับทั้ง twisted quad และ TPPL เนื้อหาประกอบดวย : รายละเอียดใหเปนไปตาม ISO 11783-2:2019 จํานวนหนา : 76 หนา ISBN (e-book) : 978-616-617-755-8 ICS : 65.060.01, 35.240.99 สถานที่จัดเก็บ : หองสมุดสํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท 02 430 6834 ตอ 02 440-2441 สถานที่จําหนาย : สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400 https://www.tisi.go.th Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
184
1515.pdf
GENERAL
NON
GENERAL_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1515.pdf
ประกาศส านักงานประกันสังคม เรื่อง การรับสมัครและขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๙ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยที่เป็นการสมควรเพิ่มช่องทางการด าเนินการสมัครและการแสดงความจ านงเข้าเป็น ผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๙ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้มีความสอดคล้องกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ และเป็นไปตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการท าธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ ออกตามความในมาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบี ยบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ และข้อ ๕ (๓) แห่งระเบียบส านักงานประกันสังคมว่าด้วยการเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ พ.ศ. ๒๕๖๖ เลขาธิการส านักงาน ประกันสังคม จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้อ ๒ การรับสมัครและขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติ ประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ผู้ประสงค์จะสมัครเป็นผู้ประกันตนสามารถแสดงความจ านง เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๙ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้ (๑) แสดงความจ านงผ่านทางเว็บไซต์ส านักงานประกันสังคม https://www.sso.go.th โดยการกรอกข้อมูลของผู้ประสงค์จะสมัครเป็นผู้ประกันตน ตามที่ส านักงานประกันสังคมก าหนด (๒) แสดงความจ านงผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดบริการของหน่วยบริการที่ท าความตกลง กับส านักงานประกันสังคม โดยใช้บัตรประจ าตัวประชาชนของผู้ประสงค์จะสมัครเป็นผู้ประกันตน ด้วยการกรอกข้อมูลระบุตัวตนและข้อมูลอื่น ๆ ตามที่ส านักงานประกันสังคมก าหนด ข้อ ๓ หากภายหลังส านักงานประกันสังคมตรวจสอบพบว่าการแสดงความจ านงเข้าเป็น ผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๙ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว กระท าโดยมิใช่ผู้มีอ านาจ หรือผู้ประสงค์จะสมัครเป็นผู้ประกันตนให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือกรณีที่ส านักงานประกันสังคมตรวจพบ ข้อเท็จจริงภา ยหลังแล้วพบว่าบุคคลที่ได้รับการอนุมัติเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๙ ผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์นั้น มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามที่ก าหนดในมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส านักงานประกันสังคมสามารถยกเลิกการอนุมัติให้เป็นผู้ ประกันตน ตามมาตรา ๓๙ ได้ ประกาศ ณ วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. ๒๕66 บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการส านักงานประกันสังคม ้หนา ๑๗ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๑๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖
train
185
1653.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1653.pdf
ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง การจัดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา ๔๑ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยที่เป็นการสมควรก าหนดผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของตน ในกรณีที่การด าเนินกิจกรรมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย จ าเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลหรือระบบอย่างสม่ าเสมอ โดยเหตุที่มีข้อมูล ส่วนบุคคลเป็นจ านวนมาก อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๖ (๔) ประกอบมาตรา ๔๑ (๒) แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง การจัดให้มี เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา ๔๑ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. ๒๕๖๖” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ข้อ ๓ ในประกาศนี้ “การด าเนินกิจกรรม” หมายความว่า การด าเนินการใด ๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเกี่ยวกับ กิจกรรมหลัก (core activities) หรือกิจกรรมเสริมก็ตาม “กิจกรรมหลัก (core activities)” หมายความว่า การด าเนินการที่จ าเป็นและมีความส าคัญ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายหลักในการด าเนินงานในกิจการหรือภารกิจของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อการให้บริการแก่ลูกค้าและการบันทึกข้อมูลการรับบริการของลูกค้า ซึ่งเป็นการด าเนินการที่จ าเป็นและ มีความส าคัญส าหรับการให้บริการรับจ้างขนส่งสินค้า หรือการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นการด าเนินการที่จ าเป็นและมีความส าคัญส าหรับการรับจ้างรักษาความปลอดภัย ให้กับสถานที่ต่าง ๆ แต่ไม่รวมถึงกิจกรรมเสริมที่เป็นเพียงงานสนับสนุนในการด าเนินงานของผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งไม่ใช่การด าเนินการที่จ าเป็นและมีความส าคัญ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายหลักในการด าเนินงานในกิจการหรือภารกิจของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น งานสนับสนุนด้านบุคลากรและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นเพียง งานสนับสนุนส าหรับการให้บริการรับจ้างขนส่งสินค้าหรือการรับจ้างรักษาความปลอดภัยให้กับสถานที่ต่าง ๆ ้หนา ๑๒ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ กันยายน ๒๕๖๖ “สื่อสังคมออนไลน์ (social media)” หมายความว่า สื่อหรือช่องทางในการติดต่อสื่อสาร หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ( Internet intermediary) ที่เน้นการสร้างหรือเผยแพร่เนื้อหาระหว่างผู้ใช้งานด้วยกัน (creation and exchange of user-generated content) หรือสนับสนุนการสื่อสารสองทาง หรือการน าเสนอและเผยแพร่เนื้อหา ในวงกว้างได้ด้วยตนเอง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จ ากัดเฉพาะ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน กระดานข่าว เครือข่ายสังคมออนไลน์ สื่อส าหรับการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนเนื้อหาที่เป็นข้อมูล คอมพิวเตอร์ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ภาพนิ่ง เสียง วีดิทัศน์ หรือแฟ้มข้อมูล หรือให้บริการเนื้อที่ เก็บข้อมูล บนอินเทอร์เน็ต บล็อก (blogs) เว็บไชต์ส าหรับการสร้างและแก้ไขเนื้อหาร่วมกัน เกมออนไลน์ หรือโลกเสมือนที่มีผู้ใช้งานหลายคน หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อออนไลน์อื่นในลักษณะเดียวกันหรือ คล้ายคลึงกันที่เปิดให้ใช้งาน เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารระหว่างบุคคล ระหว่างกลุ่มบุคคล หรือกับสาธารณะ “ส านักงาน” หมายความว่า ส านักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ ๔ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่การด าเนินกิจกรรมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมหลัก (core activities) จ าเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลหรือระบบ อย่างสม่ าเสมอ โดยเหตุที่มีข้อมูลส่วนบุคคลเป็นจ านวนมาก (on a large scale) ตามข้อ ๕ และข้อ ๖ ของประกาศนี้ ต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของตน ข้อ ๕ การด าเนินกิจกรรมของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมหลัก (core activities) ที่มีการติดตาม (track) เฝ้าสังเกต (monitor) วิเคราะห์ หรือท านายพฤติกรรม ทัศนคติ หรือลักษณะเฉพาะของบุคคล (profile) ซึ่งโดยทั่วไปจะมี การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเป็นระบบ (systematic) และเกิดขึ้นเป็นประจ า หรือเป็นปกติธุระ (regular) ให้ถือว่าการด าเนินกิจกรรมนั้นมีความจ าเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล หรือระบบอย่างสม่ าเสมอ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ถือเป็นกรณี ที่มีความจ าเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลหรือระบบอย่างสม่ าเสมอตามวรรคหนึ่งด้วย (๑) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการใช้งานของผู้ถือบัตรสมาชิก บัตรโดยสารสาธารณะ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรอื่นใดในลักษณะเดียวกันซึ่งผู้ให้บริการบัตรหรือบุคคลอื่นใด สามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลการใช้งานบัตรได้ (๒) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือผู้รับบริการซึ่งเกิดขึ้น เป็นประจ าหรือเป็นปกติธุระ ที่มีการตรวจสอบสถานะ ประวัติ หรือคุณสมบัติของลูกค้าหรือผู้รับบริการ ก่อนเข้าท าสัญญาหรือให้บริการในลักษณะเดียวกันเพื่อประเมินความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การให้คะแนนเครดิต (credit scoring) การพิจารณาเบี้ยประกัน การป้องกันการโกงหรือฉ้อฉล (fraud prevention) ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการด าเนินการกับข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิตและสมาชิก ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต ้หนา ๑๓ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ กันยายน ๒๕๖๖ (๓) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการโฆษณา ตามพฤติกรรม (behavioral advertising) (๔) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือผู้รับบริการโดยผู้ให้บริการ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์หรือผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม (๕) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัย ตามสถานที่ต่าง ๆ (๖) กรณีอื่นตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก าหนด ข้อ ๖ การด าเนินกิจกรรมของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมหลัก (core activities) ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลเป็นจ านวนมาก (on a large scale) ให้พิจารณาจากปัจจัย ดังต่อไปนี้ (๑) จ านวนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือสัดส่วนของจ านวนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เมื่อเทียบกับจ านวนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่อาจเป็นไปได้ (๒) ปริมาณ ประเภท หรือลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (๓) ระยะเวลา (duration) หรือความคงอยู่ (permanence) ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการด าเนินกิจกรรมหลัก (core activities) ของผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (๔) ขอบเขตการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กร หรือตามขนาดพื้นที่หรือจ านวนประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ถือเป็นกรณีที่มีข้อมูล ส่วนบุคคลเป็นจ านวนมาก (on a large scale) ตามวรรคหนึ่งด้วย (๑) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมหลัก (core activities) โดยมีจ านวนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคล ตั้งแต่ ๑๐๐,๐๐๐ รายขึ้นไป (๒) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการโฆษณา ตามพฤติกรรม (behavioral advertising) ผ่านโปรแกรมค้นหา (search engine) หรือสื่อสังคมออนไลน์ (social media) ที่มีผู้ใช้งานอย่างกว้างขวาง (๓) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือผู้รับบริก าร ตามการด าเนินงานปกติโดยบริษัทตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต บริษัทตามกฎหมายว่าด้วยประกันวินาศภัย ผู้ประกอบธุรกิจสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการด าเนินการกับข้อมูล ของบริษัทข้อมูลเครดิตและสมาชิกตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต (๔) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือผู้รับบริการโดยผู้รับใบอนุญาต ประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคม ้หนา ๑๔ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ กันยายน ๒๕๖๖ (๕) กรณีอื่นตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก าหนด ข้อ ๗ ในการพิจารณาหลักเกณฑ์ตามข้อ ๕ และข้อ ๖ ให้ค านึงถึงมาตรฐานและแนวปฏิบัติ ของธุรกิจหรือกิจการนั้น ๆ ตลอดจนความเสี่ยงและผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ข้อ ๘ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศนี้อาจปฏิบัติหน้าที่หรือภารกิจอื่นได้ แต่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศนี้ต้องรับรองกับส านักงานว่าหน้าที่หรือภารกิจดังกล่าวต้องไม่ขัด หรือแย้งต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ ๙ ให้ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖6 เธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ้หนา ๑๕ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ กันยายน ๒๕๖๖
train
186
1282.pdf
UST
ACTION
UST_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1282.pdf
ประกาศการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรื่อง ผ่อนปรนให้เรือชายฝั่งสามารถบรรทุกเฉพาะตู้สินค้าเปล่าลงเรือ (Loading Empty Container) ที่ท่าเทียบเรือระหว่างประเทศ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นการชั่วคราว ด้วยคณะกรรมการฝ่ายบริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 เห็นชอบให้ผ่อนปรนให้เรือชายฝั่งสามารถรับตู้สินค้าเปล่าได้โดยตรง ที่ท่าเทียบเรือระหว่างประเทศชั่วคราว ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการส่งออก รวมทั้ง แก้ไขปัญหาขาดแคลนตู้สินค้าเปล่าเพื่อการบรรจุส่งออก อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 32 (2) แห่งพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ประกอบข้อ 13 ของระเบียบการท่าเรือ แห่งประเทศไทย ว่าด้วยการใช้ท่าเรือ บริการ และความสะดวกต่าง ๆ พ.ศ. 2544 ผู้อ านวยการการท่าเรือ แห่งประเทศไทย จึงให้ด าเนินการ ดังนี้ ผ่อนผันให้เรือชายฝั่งที่มีความประสงค์จะด าเนินการบรรทุกตู้สินค้าเปล่าลงเรือ (Loading Empty Container) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง สามารถบรรทุกเฉพาะตู้สินค้าเปล่าลงเรือได้ที่ท่าเทียบเรือระหว่างประเทศ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ประกาศ ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕65 เกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อ านวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ้หนา ๕๒ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๘๕ งราชกิจจานุเบกษา ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๕
train
187
1400.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1400.pdf
ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๕ อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๖ (๔) ประกอบมาตรา ๓๗ (๔) แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๕” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ในประกาศนี้ “การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า การละเมิดมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ที่ท าให้เกิดการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจาก อ านาจหรือโดยมิชอบ ไม่ว่าจะเกิดจากเจตนา ความจงใจ ความประมาทเลินเล่อ การกระท าโดย ปราศจากอ านาจหรือโดยมิชอบ การกระท าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ข้อผิดพลาดบกพร่องหรืออุบัติเหตุ หรือเหตุอื่นใด “ส านักงาน” หมายความว่า ส านักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ ๔ เหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ต้องแจ้งแก่ ส านักงานหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยก ารคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย เหตุที่เกิดจากการละเมิดมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ที่ท าให้เกิดการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอ านาจหรือโดยมิชอบ ไม่ว่าจะเกิดจาก เจตนา ความจงใจ ความประมาทเลินเล่อ การกระท าโดยปราศจากอ านาจหรือโดยมิชอบ การกระท า ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ข้อผิดพลาดบกพร่องหรืออุบัติเหตุ หรือเหตุอื่นใด ซึ่งอาจเกิดจากการกระท าของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเอง ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ด าเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามค าสั่งหรือในนามของผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ตลอดจนพนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือ บุคคลอื่น หรือเหตุปัจจัยอื่น โดยเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละเหตุอาจเกี่ยวข้องกับการละเมิดประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือหลายประเภท ดังต่อไปนี้ (๑) การละเมิดความลับของข้อมูลส่วนบุคคล (Confidentiality Breach) ซึ่งมีการเข้าถึง หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากอ านาจหรือโดยมิชอบ หรือเกิดจากข้อผิดพลาดบกพร่อง หรืออุบัติเหตุ ้หนา ๗ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๕ (๒) การละเมิดความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลส่วนบุคคล (Integrity Breach) ซึ่งมีการ เปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ หรือไม่ครบถ้วน โดยปราศจากอ านาจ หรือโดยมิชอบ หรือเกิดจากข้อผิดพลาดบกพร่องหรืออุบัติเหตุ (๓) การละเมิดความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล (Availability Breach) ซึ่งท าให้ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือมีการท าลายข้อมูลส่วนบุคคล ท าให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่อยู่ใน สภาพที่พร้อมใช้งานได้ตามปกติ ข้อ ๕ เมื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้รับแจ้งข้อมูลในเบื้องต้นจากผู้ใด ไม่ว่าโดยทางวาจา เป็นหนังสือ หรือวิธีการอื่นทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทราบเอง ว่ามีหรือน่าจะมี เหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องด าเนินการ ดังต่อไปนี้ (๑) ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิด ข้อมูลส่วนบุคคลในเบื้องต้นโดยไม่ชักช้าเท่าที่จะสามารถกระท าได้ ว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการละเมิด ข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ โดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลพึงด าเนิน การตรวจสอบมาตรการรักษา ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งมาตรการเชิงองค์กร ( organizational measures) และ มาตรการเชิงเทคนิค (technical measures) ซึ่งอาจรวมถึงมาตรการทางกายภาพ (physical measures) ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล นั้นเอง ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ด าเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามค าสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ตลอดจนพนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสามารถยืนยันได้ว่ามีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องพิจารณารายละเอียดจากข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประเมินความเสี่ยง ที่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล (๒) หากระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตาม (๑) พบว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลด าเนินการ ด้วยตนเองหรือสั่งการให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้เกี่ยวข้องด าเนินการป้องกัน ระงับ หรือแก้ไข เพื่อให้การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลสิ้นสุดหรือไม่ให้การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลส่งผลกระทบเพิ่มเติม โดยทันทีเท่าที่จะสามารถกระท าได้ ทั้งนี้ อาจใช้มาตรการทางบุคลากร กระบวนการ หรือเทคโนโลยี ที่จ าเป็นและเหมาะสม (๓) เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงตาม (๑) แล้วเห็นว่า มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีการละเมิดข้อมูล ส่วนบุคคลจริง ให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลแจ้งเหตุการละเมิดแก่ส านักงานโดยไม่ชักช้าภายใน เจ็ดสิบสองชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุเท่าที่จะสามารถกระท าได้ เว้นแต่การละเมิดดังกล่าวไม่มีความเสี่ยง ที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ้หนา ๘ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๕ (๔) ในกรณีที่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลแจ้งเหตุการละเมิดให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ พร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าด้วย (๕) ด าเนินการตามมาตรการที่จ าเป็นและเหมาะสมเพื่อระงับ ตอบสนอง แก้ไข หรือฟื้นฟู สภาพจากเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมทั้งป้องกันและลดผลกระทบจากการเกิด เหตุ การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะเดียวกันในอนาคต ซึ่งรวมถึงการทบทวนมาตรการรักษาความมั่นคง ปลอดภัยเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม โดยค านึงถึงระดับ ความเสี่ยงตามปัจจัยทางเทคโนโลยี บริบท สภาพแวดล้อม มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับส าหรับหน่วยงานหรือ กิจการในประเภทหรือลักษณะเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ลักษณะและวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพยากรที่ต้องใช้ และความเป็นไปได้ในการด าเนินการประกอบกัน ข้อ ๖ ในการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่ส านักงาน ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ต้องด าเนินการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเป็นลายลักษณ์อักษร หรือแจ้งผ่านโดยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใดตามที่ส านักงานก าหนด โดยในการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูล ส่วนบุคคลต้องระบุสาระส าคัญดังต่อไปนี้เท่าที่จะสามารถกระท าได้ (๑) ข้อมูลโดยสังเขปเท่าที่จะสามารถระบุได้เกี่ยวกับลักษณะและประเภทของการละเมิด ข้อมูลส่วนบุคคล โดยอาจบรรยายถึงลักษณะและจ านวนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือลักษณะและ จ านวนรายการ (records) ของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการละเมิด (๒) ชื่อ สถานที่ติดต่อ และวิธีการติดต่อของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณี ที่มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือชื่อ สถานที่ติดต่อ และวิธีการติดต่อของบุคคลที่ผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลมอบหมายให้ท าหน้าที่ประสานงานและให้ข้อมูลเพิ่มเติม (๓) ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (๔) ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลใช้หรือจะใช้เพื่อป้องกัน ระงับ หรือ แก้ไขเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือเยียวยาความเสียหาย โดยอาจใช้มาตรการทางบุคลากร กระบวนการ หรือเทคโนโลยี หรือมาตรการอื่นใดที่จ าเป็นและเหมาะสม ข้อ ๗ ในกรณีที่มีเหตุจ าเป็นที่ท าให้แจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลล่าช้ากว่าเจ็ดสิบสอง ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น การด าเนินการป้องกัน ระงับ หรือแก้ไขเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่จ าเป็น หรือมีเหตุจ าเป็นอื่นอันไม่อาจก้าวล่วงได้ ผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลอาจขอให้ส านักงานพิจารณายกเว้นความผิดจากการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ล่าช้าได้ โดยให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลชี้แจงเหตุผลความจ าเป็นและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดง ให้เห็นว่ามีเหตุจ า เป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ที่ท าให้แจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลล่าช้า โดยจะต้อง แจ้งแก่ส านักงานโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินสิบห้าวันนับแต่ทราบเหตุ ้หนา ๙ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๕ ส านักงานอาจแจ้งให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลชี้แจงเหตุผลหรือข้อเท็จจริงเพิ่มเติมภายหลังได้ และหากส านักงาน พิจารณาแล้วเห็นควรให้ยกเว้นความผิดจากการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ล่าช้า เนื่องจากมีเหตุจ าเป็น ให้ถือว่าผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้รับยกเว้นการด าเนินการแจ้งเหตุ การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่ส านักงานตามก าหนดเวลาในมาตรา ๓๗ (๔) การแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่ส านักงานไม่เป็นเหตุยกเว้นหน้าที่หรือความรับผิด ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกิจการนั้นหรือกฎหมายอื่น ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อตกลงกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อควบคุมการด าเนินงานตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วย การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือมอบหมายหรือสั่งการให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด าเนินการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามค าสั่งหรือในนามของตนเอง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วน บุคคล จะต้องระบุไว้ในข้อตกลงหรือในสัญญาที่เกี่ยวข้องให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่แจ้งเหตุ การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้าภายในเจ็ดสิบสองชั่วโมงนับแต่ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทราบเหตุเท่าที่จะสามารถกระท าได้เช่นกัน ข้อ ๙ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจยกข้อยกเว้นการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล แก่ส านักงานเพื่อประกอบการพิจารณาได้ หากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลพิสูจน์ได้ว่าเหตุการละเมิดข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น ไม่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งรวมถึงกรณีที่ข้อมูล ส่วนบุคคลตามเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้เนื่องจากมีมาตรการทางเทคโนโลยี ที่เพียงพอ หรือเหตุอื่นใดที่เชื่อถือได้ ในการยกข้อยกเว้นดังกล่าว ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ให้ข้อมูลหรือส่งเอกสารหรือ หลักฐานเกี่ยวกับเหตุที่ควรได้รับการยกเว้น ซึ่งรวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอื่นใด ให้ส านักงานพิจารณา ข้อ ๑๐ เมื่อมีเ หตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้แจ้งเหตุ การละเมิดแก่ส านักงานแล้วหรืออยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อแจ้งส านักงาน หากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระท บ ต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลพร้อม สาระส าคัญดังต่อไปนี้ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับผลกระทบทราบเท่าที่จะสามารถกระท าได้ โดยไม่ชักช้า (๑) ข้อมูลโดยสังเขปเกี่ยวกับลักษณะของการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (๒) ชื่อ สถานที่ติดต่อ และวิธีการติดต่อของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคล ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมอบหมายให้ท าหน้าที่ประสานงาน ้หนา ๑๐ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๕ (๓) ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากเหตุการละเมิดข้อมูล ส่วนบุคคล (๔) แนวทางการเยียวยาความเสียหายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลโดยสังเขป เกี่ยวกับมาตรการที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลใช้หรือจะใช้เพื่อป้องกัน ระงับ หรือแก้ไขเหตุการละเมิด ข้อมูลส่วนบุคคล โดยอาจใช้มาตรการทางบุคลากร กระบวนการ หรือเทคโนโลยี หรือมาตรการอื่นใด ที่จ าเป็นและเหมาะสม รวมถึงข้อแนะน าเกี่ยวกับมาตรการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจด าเนินการ เพิ่มเติมเพื่อป้องกัน ระงับ หรือแก้ไขเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือเยียวยาความเสียหาย ข้อ ๑๑ ในการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ รับ ผลกระทบทราบ หากโดยสภาพไม่สามารถด าเนินการแจ้งเป็นรายบุคคลเป็นหนังสือหรือโดยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เนื่องจากไม่มีวิธีการติดต่อ หรือโดยเหตุจ าเป็นอื่นใด ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจแจ้ง เหตุการละเมิดแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นกลุ่ม หรือแจ้งเป็นการทั่วไปผ่านสื่อสาธารณะ สื่อสังคม ออนไลน์ หรือโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับผลกระทบ หรือบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงการแจ้งดังกล่าวได้ การแจ้งเหตุการละเมิดแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นกลุ่ม หรือแจ้งเป็นการทั่วไป จะต้อง ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ ๑๒ ในการประเมินความเสี่ยงส าหรับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ว่ามีความเสี่ยงที่จะมี ผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลเพียงใด ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจพิจารณาจากปัจจัย ดังต่อไปนี้ (๑) ลักษณะและประเภทของการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (๒) ลักษณะหรือประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการละเมิด (๓) ปริมาณของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการละเมิด ซึ่งอาจพิจารณาจากจ านวนเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลหรือจ านวนรายการ (records) ของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการละเมิด (๔) ลักษณะ ประเภท หรือสถานะของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับผลกระทบ รวมถึง ข้อเท็จจริงว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วยผู้เยาว์ ผู้พิการ ผู้ไร้ความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลเปราะบาง (vulnerable persons) ที่ขาดความสามารถในการ ปกป้องสิทธิและประโยชน์ของตนเนื่องจากข้อจ ากัดต่าง ๆ ด้วยหรือไม่ เพียงใด (๕) ความร้ายแรงของผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นกับเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และประสิทธิผลของมาตรการที่ผู้คว บคุมข้อมูลส่วนบุคคลใช้ หรือจะใช้เพื่อป้องกัน ระงับ หรือแก้ไขเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือเยียวยาความเสียหาย ต่อการบรรเทาผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (๖) ผลกระทบในวงกว้างต่อธุรกิจหรือการด าเนินการของผู้ควบคุ มข้อมูลส่วนบุคคลหรือ ต่อสาธารณะจากเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ้หนา ๑๑ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๕ (๗) ลักษณะของระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการละเมิด และมาตรการ รักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เกี่ยวข้องของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งที่เป็นมาตรการเ ชิงองค์กร (organizational measures) และมาตรการเชิงเทคนิค (technical measures) รวมถึงมาตรการทางกายภาพ (physical measures) (๘) สถานะทางกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลว่าเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล รวมทั้งขนาดและลักษณะของกิจการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ข้อ ๑๓ ให้ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖5 เธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ้หนา ๑๒ ่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๕
train
188
1750.pdf
GENERAL
NON
GENERAL_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1750.pdf
'/>@0/-$B/>*1?@% N/APอ ห1?N์O1>/>$?@/"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/@"?%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/R'.? /"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ค?%อAP% /?/"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/Aอ/"R+%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ '/>2&อB&?!>Nห!Bห/AอR-N2@-@/"Nค1APอ%#?PR O *.0. `cdd อ@0?.อํ@%@!@-ค/@-Q%Oอ `g ///ค2อ OหN/>#//@/%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ P ."?%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ *.0. `cdb อ$>& ?/-$B/>*1?@% ออ'/>@0R/O ?!NอR'%?Q Oอ _ '/>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'/>@0Q%/@>@%BN&1@N'็%!O%R' Oอ ` /?!NอR'%?QQหO"Aอ/N@N'็%ค/@-ํ@N'็%#?PQหO#ํ@@/"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/@"?%2N P@'ิP!/N1?.-Nห1/#?P!> !/@?&/"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/ Aอ/"R+%2 NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ #?P'/>2&อB&?!>Nห!B ห/AอR-N2@-@/"Nค1APอ%#?PR O R'.?/"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ค?%อAP%R O (_) /"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/ Aอ/"R+%2 NP@'ิP!/N1?.-Nห1/# ?P'/>2&อB&?!>Nห!B %R-Nอ@Nค1APอ%.O@..@%*@ห%>%?Q%R O NN% /?#?PN> Nห!B*1>ค/Pํ@ห/Aอ!>Oค N'็%!O% (`) /"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/Aอ/"R+%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/#?P'/>2&อB&?!>Nห!BO1> #ํ@QหOอB'/์!N@ N ํ@/B NN% "?%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1//O@/ @%"?%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ํ@/B อB'/์.@ "?%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ ?&Pค//"%2 NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/ AอOค/N/"R+%2 N P@'ิP!/N1?.-Nห1/ํ@/B N'็%!O% ห@#ํ@@/Nค1APอ%[email protected]/>#ํ@QหON> อ?%!/@.R O (a) /"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/Aอ/"R+%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/#?PR-N2@-@/"Nค1APอ%#?PR O ํ@N'็%!OอNอ-O- O/./>$?#?Pอ@NอQหON> N'1/R+ห/Aอ'/>@.R+ (b) /"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/Aอ/"R+%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/#?P"CNO@*%?@%!ํ@// ห/Aอ*%?@%NO@#?P.@ ห/Aออ@.? R/O O1>NO@*%?@%!ํ@//ห/Aอ*%?@%NO@#?Pอ%B@!QหONO@อ/"%2N P@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/Aอ/"R+%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/%ํ@Nอ@P@'ิP!/N1?.-Nห1/ออ@" ?%2N P@'ิP!/N1?.-Nห1/R O (c) /?ํ@N'็%อAP%Q QหOอ.CNQ% B1*>%>ออ$>& ?/-$B/>*1?@% ห/Aอ(CO#?Pอ$>& ?/-$B/> *1?@%-อ&ห-@. Oอ a /?!@-Oอ ` (_) (`) (a) O1> (b) >QหO#ํ@@/"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/R O O!NอN-APอ/"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/Aอ/"R+%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/อ.CNหN@@Oห1N#?P-?N'1/R+ ห/Aอ'/>@.R+อ.N@%Oอ. `^.^^ N-!/ Oอ b (CO#?P>#ํ@@/"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/R O!OอN'็%(CO'>&?!>@%2"@%?&//BP@'ิP!/N1?.-Nห1/ !@-/>#///N@ O/.คB2-&?!>O1>@/)ึอ&/-(CO'>&?!>@%N?P./?&@/ค/&คB-%Qํ@-?%NAQอN*1> หนา ๒๓ เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๓๑๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๖ Oอ c /"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/#?P>-@/?&P@'ิP!/N1?.-Nห1/!OอR O/?&อ%B@!"?%2N P@'ิP!/N1?.-Nห1/!@-/>#///N@ O/.@/ํ@ห% ห1?N์ />$?@/ O1>NAPอ%RN?P./?&@/OO @/อ%B@! O1>อ?!/@คN@$//-N%?.-N?P./?&@/'/>อ&>@/%Qํ@-?%NAQอN*1> Oอ d Nอ%#ํ@@/"N@.P@'ิP!/N1 ?.-Nห1/ (CO'>&?!>@%!Oอ'>&?!>!@-ห1 ?N์ O1>/>$?@/ ?!NอR'%?Q (_) !Oอ'้อ?%R-NQหO/"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/Aอ/"R+%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/Aอ "?%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/Nค1APอ%#?P (`) @/!> !?Q/>&&R++้@QหON'็%R'!@-/>#/// N@ O/./>&&R++ ้@O1>/>&&' ้อ?% อ?%!/@.@+้@(N@อ2"@%#?P'/>อ&>@/P@'ิP!/N1?.-Nห1/ (a) !Oอ? N!/?.-Nค/APอ ?&N*1>%> (Nค-?OหO ห/Aอ%Qํ@.@ ?&N*1> ห/AอNค/APอ ?&N*1> %> อAP%#?P->QNNค/APอ ?&N*1>%> +อP@ @P2@-@/"QO ?&N*1>อ?%N> @P@ห/Aอ%Qํ@-?%NAQอN*1>R O -?%@ &//B(ห/Aอ%Qํ@.@ห/Aอ2@/อ.N@อAP%R-N%Oอ./N@ d.f >P1/?-!NอNค/APอ ํ@%/%อ.N@%Oอ. ` Nค/APอ !Nอ/"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ _ ค?% Nค/APอ ?&N*1> ?1N@/!Oออ.CNQ%2,@**/Oอ-#?P>QO@%R O#B> O1>อ.CNQ%!ํ@Oห%N#?P2@-@/"%ํ@-@QOR O2> / (b) !Oอ? QหO-?'้@.N!Aอ%#?P-?Oอค/@- “อ?%!/@. ํ@1?"[email protected]#P@O@ห%O@” !> !?QR/O#?Q O@%ห%O@ O1> O@%ห1?/"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ !@-!?/อ.N@O%&#O@.'/>@0% ?Q */Oอ-#?Q? QหO-?O1> O2 Nค/APอห-@.ห/Aอ2?@N*APอOON!Aอ%!@-#?Pํ@ห% R/OQ%ห-@./N@ O/.@/%2N#@& (c) !Nอ2@. >%@/"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/Aอ/"R+%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/QหO1 >% O1>QหO!NอR/O!1อ N/1@%/N@>"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/N2/ON/?.&/Oอ. Oอ e > ํ@N%>%@/"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/ หO@-/>#ํ@@/Q N #?Pอ@NอQหON> N'1/R+ ห/Aอ'/>@.R+ O1>หO@-&Bคค1#?PR-N-?2N/%N?P./OอNO@Q1O&/>N/#?P-?@/"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/ Oอ f ห1?@#?P ํ@N%>%@/"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/N2/ ON/?.&/Oอ.O1O/ QหO"อ Oอ!Nอ #?PQO2ํ@ห/?&@/"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/ออNอ% O1O/@"อ 2@. >%อ/"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ ห/Aอ/"R+%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ Oอ g N-APอ ํ@N%>%@/"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/N2/ON/?.&/Oอ.O1O/ !Oอ!//2อ&QหOO%NQ/N@ 2@-@/"Nค1APอ%#?P/"%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/ห/Aอ/"R+%2NP@'ิP!/N1?.-Nห1/R OP .'1อ ,?. Oอ _^ หO@-"N@.P@'ิP!/N1?.-Nห1/Q%N/1@1@คA% %อ@-?O22/N@N*?.*อ '/>@0  /?%#?P 30 *00>@.% *.0. `cd6 %?%$>@ #?2B*@%> อ$>& ?/-$B/>*1?@% หนา ๒๔ เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๓๑๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๖ ปายเตือน ขนาดและลักษณะของปายเตือน ๑. ทําดวยแผนโลหะสี่เหลี่ยมผืนผา ติดดวยแถบสะทอน แสง พื้นสีขาว ตัวอักษรสีแดง มีระยะและขนาดตามแนบขางตนพรอมขาตั้ง ๒. ปายเตือน มีเครื่องหมายสามเหลี่ยมดานเทา ยาวไม ต่ํากวาดานละ ๕๐ เซนติเมตร ติดดวยแถบสะทอนแสง พื้นสีขาวของสีแดงกวาง ๕ เซนติเมตร ม ีรูปสี่เหลี่ยมผืนผาสีดํา กวาง ๘ เซนติเมตร ยาว ๒๕ เซนติเมตร หัวทายมน ๓. มุมบนทั้งสองของปายเตือนติดไฟสัญญาณวับวาบ โดยใชแสงสีเหลือง Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
189
1615.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1615.pdf
พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 778) พ.ศ. ๒๕๖๖ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖6 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ในบางกรณี อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล รัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๗๘) พ.ศ. ๒๕๖๖” มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ้หนา ๓๘ ่เลม ๑๔๐ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ มาตรา ๓ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร ส าหรับเงินได้เป็นจ านวนร้อยละหนึ่งร้อยห้าสิบของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งลูกจ้าง ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมหรือในการจัดฝึกอบรมให้แก่ลูกจ้าง ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ในหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่อธิบดีประกาศก าหนด ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศก าหนด มาตรา ๔ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกานี้ ต้องไม่น ารายจ่ายดังกล่าวไปใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความ ในประมวลรัษฎ ากรฉบับอื่น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน และต้องไม่น ารายจ่ายดังกล่าวไปใช้ในกิจการ ที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน กฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีด ความสามารถในการแข่งขันของประเทศส าหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ้หนา ๓๙ ่เลม ๑๔๐ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริม การพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะสูงตามที่ก าหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๔๐) พ.ศ. ๒๕๖๔ ใช้บังคับถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เพื่อให้การส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะสูงโดยพัฒนาทักษะเดิมและเพิ่มเติมทักษะใหม่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สมควรยกเว้นภาษีเงินได้ส าหรับเงินได้ ที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมหรือค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรมให้แก่ลูกจ้าง ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในกรณีดังกล่าวต่อไป ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ จึงจ าเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ้หนา ๔๐ ่เลม ๑๔๐ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๖
train
190
1531.pdf
SUGAR
ACTION
SUGAR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1531.pdf
ระเบียบส ำนักงำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำ ว่ำด้วยหลักเกณฑ์กำรเปรียบเทียบตำมพระรำชบัญญัติอำหำร พ.ศ. ๒๕๒๒ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยที่เป็นกำรสมควรปรับปรุงอัตรำค่ำปรับตำมบัญชีก ำหนดอัตรำค่ำปรับส ำหรับกำรเปรียบเทียบ ท้ำยระเบียบส ำนักงำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำว่ำด้วยหลักเกณฑ์กำรเปรียบเทียบตำมพระรำชบัญญัติอำหำร พ.ศ. ๒๕๒๒ พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้มีควำมเหมำะสมยิ่งขึ้น อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๗๕ แห่งพระรำชบัญญัติอำหำร พ.ศ. ๒๕๒๒ เลขำธิกำร คณะกรรมกำรอำหำรและยำ จึงก ำหนดหลักเกณฑ์กำรเปรียบเทียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบส ำนักงำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำว่ำด้วยหลักเกณฑ์ กำรเปรียบเทียบตำมพระรำชบัญญัติอำหำร พ.ศ. ๒๕๒๒ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๖” ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกควำมใน ล ำดับที่ ๕ ล ำดับที่ ๑๐ ล ำดับที่ ๑๑ และล ำดับที่ ๑๘ ของบัญชีก ำหนดอัตรำค่ำปรับส ำหรับกำรเปรียบเทียบท้ำยระเบียบส ำนักงำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำ ว่ำด้วยหลักเกณฑ์กำรเปรียบเทียบตำมพระรำชบัญญัติอำหำร พ.ศ. ๒๕๒๒ พ.ศ. ๒๕๖๓ และให้ใช้ควำม ต่อไปนี้แทน ล ำดับที่ ควำมผิด (มำตรำ) อัตรำโทษ (มำตรำ) อัตรำค่ำปรับที่ก ำหนดให้เปรียบเทียบ (บำท) ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓ และ ครั้งต่อไป ๕ ๖ (๑๐) ๕๑ ปรับไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บำท ๓,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๓๐,๐๐๐ ๑๐ ๒๒ วรรค ๑ ๕๖ ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บำท ๑๐๐ ๓๐๐ ๑,๐๐๐ ๑๑ ๒๓ ๕๖ ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บำท ๑๐๐ ๓๐๐ ๑,๐๐๐ ๑๘ ๗๔ ๗๔ ปรับเป็นรำยวัน วันละไม่น้อยกว่ำ ๕๐๐ บำท แต่ไม่เกิน ๑,๐๐๐ บำท ตลอดเวลำที่ใบอนุญำตขำดอำยุ ปรับวันละ ๕๐๐ ปรับวันละ ๗๐๐ ปรับวันละ ๑,๐๐๐ ประกำศ ณ วันที่ 16 พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕๖6 ไพศำล ดั่นคุ้ม เลขำธิกำรคณะกรรมกำรอำหำรและยำ ้หนา ๑ ่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๒๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖
train
191
713.pdf
SUGAR
ACTION
SUGAR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/713.pdf
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดการอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการ จัดการอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหาร พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อให้การขับเคลื่อนการจัดการอบรม ผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารของหน่วยงานจัดการอบรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๒๑ (๒) แห่งกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จ าหน่ายอาหาร พ.ศ. ๒๕๖๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยค าแนะน าของคณะกรรมการสาธารณสุข จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการ จัดการอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 8 แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดการอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหาร พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ ความต่อไปนี้แทน “(2) มีวิทยากรซึ่งมีคุณสมบัติตามข้อ 17 (1) หรือ (2)” ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 23 แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดการอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหาร พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ 23 ในกรณีที่ปรากฏภายหลังว่าหน่วยงานที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมอนามัย ให้เป็น หน่วยงานจัดการอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารไว้ตามข้อ ๑๐ มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้ง สถานภาพของหน่วยงาน ผู้ท าหน้าที่บริหารจัดการอบรม วิทยากรการอบรม หรือมีการเปลี่ยนแปลงอื่นใด จากที่ได้ยื่นค าขอรับการเห็นชอบจากกรมอนามัย ให้หน่วยงานจัดการอบรมนั้นยื่นหรือจัดส่งเอกสาร แสดงการเปลี่ยนแปลงต่ออธิบดีกรมอนามัยหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมอนามัยมอบหมาย ณ ส านักสุขาภิบาล อาหารและน้ า กรมอนามัย หรือหน่วยงานที่กรมอนามัยมอบหมาย ทั้งนี้ ให้ด าเนินการก่อนจัดการอบรม” ประกาศ ณ วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. ๒๕๖4 สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ้หนา ๗ ่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๙๓ งราชกิจจานุเบกษา๓๐ เมษายน ๒๕๖๔
train
192
73.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/73.pdf
ประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการพิจารณากําหนดขอบเขตตลาดและส่วนแบ่งตลาด พ.ศ. 2561 โดยที่มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 กําหนดคําจํากัดความ ของคําว่าตลาดไว้ และในการพิจารณาสถานะของผ ู้ประกอบธุรกิจและพฤติกรรมความผิดอื่นภายใต้ กฎหมายการแข่งขันทางการค้า จําเป็นต้องมีการกําหนดขอบเขตตลาดท ี่เกี่ยวเนื่องในการพิจารณา ในแต่ละกรณี ดังนั้น เพื่อให้ขั้นตอนการกําหนดขอบเขตตลาดดังกล่าวภายใต้พระราชบัญญัติการแข่งขัน ทางการค้า พ.ศ. 2560 มีความชัดเจนและเป็นไปในแนวทางที่เป็นสากล อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 17 (3) แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า จึงออกประกาศ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางปฏิบัติ ในการพิจารณากําหนดขอบเขตตลาดและส่วนแบ่งตลาด พ.ศ. 2561” ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ในประกาศนี้ “ตลาดที่เกี่ยวเนื่อง (Relevant Market)” หมายความว่า ตลาดสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่อง และตลาดภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่อง “ตลาดสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่อง (Relevant Product Market)” หมายความว ่า ตลาดที่ประกอบด้วยสินค้าหรือบริการที่สามารถใช้ทดแทนกันได้โดยผู้บริโภค เมื่อพิจารณาจากคุณลักษณะ ราคา หรือวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าหรือบริการนั้น “ตลาดภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่อง (Relevant Geographic Market)” หมายความว่า ตลาดที่ ประกอบด้วยพื้นที่ที่จําหน่ายสินค้าหรือบริการซึ่งสามารถใช้ทดแทนกันได้โดยผู้บริโภคและมีเงื่อนไข การแข่งขันในลักษณะเดียวกัน “การกําหนดขอบเขตตลาด (Market Definition)” หมายความว่า การวิเคราะห์ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่ใช้ทดแทนกันได้ โดยพิจารณาตลาดสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่องและตลาด ภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปของขอบเขตตลาดในการบังคับใช้ภายใต้พระราชบัญญัติ การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ข้อ ๔ ให้ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้ารักษาการตามประกาศนี้ ้หนา ๑๗ ่เลม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๗๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ หมวด 1 หลักการในการกําหนดขอบเขตตลาด ข้อ ๕ ในการกําหนดขอบเขตตลาดจะพิจารณาเงื่อนไขที่เป็นการจํากัดการแข่งขันของสินค้า หรือบริการในด้านการทดแทนกันด้านอุปสงค์ (Demand Substitutability) การทดแทนกันด้านอุปทาน (Supply Substitutability) และการแข่งขันกับสินค้าหรือบริการที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต (Potential Competition) มาประกอบกัน ข้อ ๖ การทดแทนก ันด้านอุปสงค์ของสินค้าหรือบริการ เป็นการพิจารณาความเห ็น และมุมมองของผ ู้บริโภคถึงขอบเขตของการใช ้สินค้าหรือบริการที่ทดแทนกันได้ ทั้งจากเหต ุผล คุณลักษณะ ราคา หรือวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าหรือบริการนั้น และเหตุผลทางด้านภูมิศาสตร์ ข้อ ๗ การทดแทนกันด้านอุปทานของสินค้าหรือบริการ เป็นการพิจารณาความสามารถ ของผู้ผลิตหรือผู้จําหน่ายสินค้าหรือบริการหนึ่งในการเปลี่ยนไปผลิตและทําการตลาดสินค้าหรือบริการ ที่เกี่ยวเนื่องได้โดยไม่ต้องแบกรับภาระต้นทุนหรือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ อันเนื่องมาจาก การเปลี่ยนแปลงของราคา ข้อ ๘ การแข่งขันกับสินค้าหรือบริการที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เป็นการพิจารณาปัจจัย และสถานการณ ์ในแต่ละกรณีที่อาจส่งผลกระทบต ่อเงื่อนไขการเข ้าสู่ตลาดของส ินค้าหรือบริการ ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อระดับการแข่งขันในตลาดนั้น ๆ ได้ ข้อ ๙ ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่าการกําหนดขอบเขตตลาดในกรณีใดมีความยุ่งยากซับซ้อน คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ขึ้นมาคณะหนึ่งเพื่อพิจารณากําหนดขอบเขตตลาดก็ได้ ประกอบด้วยผู้แทนจากภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องจํานวนห้าถึงแปดคน โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ของสํานักงานเป็นอนุกรรมการและเลขานุการ และให้พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวัน สามารถ ขยายเวลาได้อีกไม่เกินสามสิบวัน หมวด 2 การพิจารณาการทดแทนกันด้านอุปสงค์ ข้อ ๑๐ การพิจารณาการทดแทนกันด้านอุปสงค์ในการกําหนดขอบเขตตลาดตามหลักตลาดสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวเนื่องนั้น ให้พิจารณาข้อมูลอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างประกอบกัน ดังต่อไปนี้ (1) ข้อมูลย้อนหลังในช่วงระยะเวลาไม ่เกินห้าปีที่แสดงถึงการทดแทนก ันได้ของสินค้า หรือบริการ อาทิ เหตุการณ์สําคัญทางเศรษฐก ิจที่แสดงถึงการเปลี่ยนไปบริโภคสินค้าหรือบริการ ที่ทดแทนกันได้ เนื่องจากเหตุผลด้านคุณลักษณะ ราคา หรือวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าหรือบริการ ้หนา ๑๘ ่เลม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๗๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (2) การวิเคราะห์เชิงปริมาณและคุณภาพ (Quantitative and Qualitative Tests) ในด้านต่าง ๆ เช่น ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา (Price Elasticity of Demand) ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อ ราคาสินค้าแบบไขว้ (Cross Elasticity of Demand) การวิเคราะห์อนุกรมราคา (Price Series) ระดับราคา (Price Levels) หรือทิศทางของราคา (Price Convergence) เป็นต้น (3) การเก็บข้อมูลหรือการสัมภาษณ์คู่ค้า ผู้บริโภค และคู่แข่งขัน เกี่ยวกับความเห ็น และมุมมองเกี่ยวกับคุณลักษณะ ราคา หรือวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าหรือบริการ โดยสุ่มตัวอย่าง ตามหลักการทางสถิติหรือทางเศรษฐศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับทางสากล (4) ข้อมูลหรือเอกสารของผู้ประกอบธุรกิจ สถาบันการศึกษา ผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้วิเคราะห์ ความชอบและรสน ิยมของผู้บริโภค (Consumer Preferences) เช่น ข้อมูลการวิเคราะห์ตลาด (Market Studies) แบบสอบถามผ ู้บริโภค ข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการเล ือกซื้อสินค้าหรือบริการ ความเห็นของผู้จําหน่ายปลีก เป็นต้น (5) กฎเกณฑ์หรือกฎระเบียบของรัฐที่เป็นข้อจํากัดในการทดแทนกันได้ของสินค้าหรือบริการ ที่เกี่ยวกับคุณลักษณะ ราคา หรือวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าหรือบริการ (6) อุปสรรคหรือข้อจํากัดอื่น ๆ ในการเปลี่ยนไปใช้สินค้าหรือบริการที่ทดแทนกันได้ในด้าน คุณลักษณะ ราคา หรือวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าหรือบริการ เช่น ข้อจํากัดจากตลาดสินค้า หรือบริการปลายน้ํา (Downstream Markets) ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับคุณภาพและชื่อเสียงของผู้ผลิต หรือผู้จําหน่ายรายอื่น เป็นต้น (7) กลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ข้อ ๑๑ การพิจารณาการทดแทนกันด้านอุปสงค์ในการกําหนดขอบเขตตลาดตามหล ักตลาด ภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่อง ให้พิจารณาข้อมูลอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างประกอบกัน ดังต่อไปนี้ (1) ข้อมูลย้อนหลังในช่วงระยะเวลาไม่เกินห้าปีที่แสดงการเปลี่ยนแปลงการซื้อหรือสั่งซื้อสินค้า หรือบริการของคู่ค้าหรือผู้บริโภคจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่ เนื่องจากการขึ้นราคาสินค้าหรือบริการ ในพื้นที่นั้น (2) ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะด้านอุปสงค์ของสินค้าหรือบริการชนิดนั้น เช่น ความนิยมของผู้บริโภค ในสินค้าหรือบริการที่เป็นยี่ห้อหรือผลิตในประเทศ หรือสินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศ ภาษาที่สื่อสาร วัฒนธรรมและวิถีการดําเนินชีวิตของผู้บริโภค เป็นต้น (3) การเก็บข้อมูลหรือการสัมภาษณ์คู่ค้า ผู้บริโภค และคู่แข่งขัน เกี่ยวกับความเห็นและมุมมอง เกี่ยวกับพื้นที่ในการจําหน่ายสินค้าหรือให้บริการ (4) รูปแบบการซื้อสินค้าหรือบริการของคู่ค้าหรือผู้บริโภคซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพทางภูมิศาสตร์ (Geographic Pattern) ของการซื้อสินค้าหรือบริการ (5) ทิศทางของการค้า (Trade Flow) ช่องทางการจัดจําหน่าย หรือรูปแบบของการส่งมอบ สินค้าหรือบริการ (Pattern of Shipments) ้หนา ๑๙ ่เลม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๗๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (6) กฎเกณฑ์หรือกฎระเบียบของรัฐที่เป็นข้อจํากัดในการทดแทนกันได้ของสินค้าหรือบริการ ที่เกี่ยวกับเหตุผลด้านพื้นที่ที่จําหน่ายสินค้าหรือให้บริการ (7) อุปสรรคหร ือข้อจํากัดอื่น ๆ ในการเปล ี่ยนไปใช้สินค้าหรือบริการที่ทดแทนกันได้ ในที่เกี่ยวกับพื้นที่ในการจําหน่ายสินค้าหรือให้บริการ เช่น ข้อจํากัดจากตลาดสินค้าหรือบริการปลายน้ํา (Downstream Markets) สถานที่ตั้งของลูกค้า เป็นต้น ข้อ ๑๒ หากไม่สามารถพิจารณาการทดแทนกันด้านอุปสงค์เพื่อกําหนดขอบเขตตลาดได้อย่างชัดเจน โดยใช้ข้อมูลตามข้อ 10 หรือข้อ 11 ให้ทําการวิเคราะห์การทดแทนกันด้านอุปสงค์ตามหลักเศรษฐศาสตร์ เรื่องการทดสอบการเปลี่ยนไปซื้อสินค้าหรือบริการอื่นเมื่อสินค้าหรือบริการชนิดหนึ่งมีการขึ้นราคาเพียงเล็กน้อย แต่มีนัยสําคัญในช่วงระยะเวลาหนึ่ง (SSNIP Test : Small but Significant and Non-transitory Increase in Price) ตามขั้นตอน ดังนี้ (1) ให้เริ่มการพิจารณาจากประเภทของส ินค้าหรือบริการชนิดเดียวกัน และพื้นที่ที่บรรดา ผู้ประกอบธุรกิจจําหน่ายสินค้าหรือบริการเดียวกัน (2) จากนั้นให้ขยายขอบเขตประเภทของสินค้าหรือบริการและพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ให้กว้างขึ้น และให้พิจารณาว่าหากเพิ่มราคาของสินค้าหรือบริการในขอบเขตที่ขยายให้กว้างขึ้นแล้วประมาณร้อยละ 10 ของราคาปัจจุบัน ผู้บริโภคในจํานวนที่เป็นนัยสําคัญจะเปลี่ยนไปใช้สินค้าหรือบริการในขอบเขตที่ได้ ขยายให้กว้างขึ้นแล้วหรือไม่ (3) ให้ดําเนินการขยายขอบเขตของสินค้าหรือบริการทั้งในด้านประเภทของสินค้าหรือบริการ และพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ต่อไปจนกว่าจะพบว่าผู้บริโภคจะไม่เปลี่ยนไปใช้สินค้าหรือบริการในการขยาย ขอบเขตครั้งนั้น หมวด 3 การพิจารณาการทดแทนกันด้านอุปทาน ข้อ ๑๓ การทดแทนกันด้านอุปทานของสินค้าหรือบริการเป็นการพิจารณาความสามารถ ของผู้ผลิตหรือผู้จําหน่ายสินค้าหรือบริการหนึ่ง ในการเปลี่ยนไปผลิตและทําการตลาดสินค้าหรือบริการ ที่เกี่ยวเนื่องได้ โดยไม่ต้องแบกรับภาระต้นทุนหรือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ อันเนื่องมาจาก การเปลี่ยนแปลงของราคา ทั้งนี้ ให้นําปัจจัยในการพิจารณาการทดแทนทางด้านอุปสงค์ที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณา ้หนา ๒๐ ่เลม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๗๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ หมวด 4 การพิจารณาการแข่งขันที่อาจเกิดขึ้น ข้อ ๑๔ การพิจารณาการแข่งขันกับสินค้าหรือบริการที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตในการก ําหนด ขอบเขตตลาดตามหลักตลาดสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่องนั้น ให้พิจารณาจากปัจจัยและสถานการณ์เฉพาะ ในแต่ละกรณีที่อาจส่งผลกระทบต่อเงื่อนไขการเข้าสู่ตลาดของสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อ ระดับการแข่งขันในตลาดนั้น ๆ ได้ หมวด 5 ส่วนแบ่งตลาด ข้อ ๑๕ การพิจารณาส่วนแบ่งตลาดของผู้ประกอบธุรกิจแต่ละรายในตลาดสินค้าหรือบริการนั้น ให้พิจารณาเป็นร้อยละจากปริมาณจําหน่าย ยอดเงินขาย ปริมาณการผลิต หรือกําลังการผลิตของสินค้า หรือบริการในตลาด ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่ ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า ้หนา ๒๑ ่เลม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๗๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
train
193
1835.pdf
FINANCE
ACTION
FINANCE_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1835.pdf
'#020#0##/2#คล1 N#APอ 2#"2"ํ2ห% N/ล22#"AP%O&&O2 #2"2# Oล0ํ2#0 21?(N2%#0&&Nค#AอN2"อ>%N#อ#์N%O! (&1&#?P b) NAPอN'็%2#2NN2#>!Oล02%1&2%B%OหO(CO!?ห%O2#?PN2?" 21?ห#Aอ%ํ22N 21?"AP%O&&O2 #2"2# 21? !2!'#0!/ล#112#(N2%#0&&Nค#AอN2"อ>%N#อ#์N%O! #1!%!#?/N22##0##/2#คล1>2#2OลO/ @อ201"อํ2%2!2!ค/2!O%!2!#2 a อ1 /##ค2อ OหN'#0!/ล# 112# อ%B!1!>OหO"2" ํ2ห% N/ล22#" AP%O&&O2 #2"2# 21 ? 2#ํ2#0 21? Oล02#%ํ22N 21?N>%P O&Bคคล$##! 2 21?N>%P O%>!>&Bคคล 21?N>%P Oห1  #?PN2" 21?!CลคN2N>P! Oล0 21?$B#>N20 &1?& Bล &1?#ํ22# Oล0&1?ํ2P#2 #B% &1?#2"#1& #2"N2" ห#Aอ&1?#2"#1&Nอ%ห1#2"N2"#?P!?&Bคคล !2!!2!#2 a 21!! OหN'#0!/ล#112# !#/2อ&Oล0#1&#อO%#อ&#0"0N/ล2&1? OลO/O!N#? O&&#2"2% Oอ!CลN?P"/1&&#>11#ห#AอหO2หBO%2N/%%>!>&Bคคล#?P!?ค/2!21!1%$์1%Oล0!CลคN2#/! อ$B###!#0ห/N21%O%O!Nล0#อ&#0"0N/ล2& 1? Oล0&1?>N01ออ>NลO##อ%>2์Oล!อ#์! !2!'#0!/ล#112# (N2%#0&&Nค#AอN2"อ>%N#อ#์N%O! ออP'อ? b /1% %1&O!N/1%O%ํ2ห% N/ล2 !2!#?Pห!2"ํ2ห% 1!NอP'%?Q Oอ _ OหO"Nล>ค/2!O%/##คห%@PอOอ _ อ'#020#0##/2#คล1 N#APอ 2#"2" ํ2ห% N/ล22#" AP%O&&O2 #2"2#Oล0 ํ2#0 21?(N2%#0&&Nค# AอN2"อ>%N#อ#์N%O! (&1&#?P a) ล/1%#?P _` !#2ค! .0. `_`a Oล0OหOOOค/2!!NอP'%?QO#% “Oอ _ OหO"2"ํ2ห% N/ล22#" AP%O&&O2 #2"2# 21 ? &1?& Bล &1?#ํ22# Oล0&1?ํ2P#2 #B% &1?#2"#1& #2"N2" ห#Aอ&1?#2"#1&Nอ%ห1#2"N2"#?P!?&Bคคล!2!!2!#2 a 21!! OหN'#0!/ล#112# !#/2อ&Oล0#1&#อO%#อ&#0"0N/ล2& 1? OลO/O!N#? O&&#2"2%Oอ!Cล N?P"/1&&#>11#ห#AอหO2หBO%2N/%%>!>&Bคคล#?P!?ค/2!21!1%$์1%Oล0!CลคN2#/!อ$B###!#0ห/ N21% O%O!Nล0#อ&#0"0N/ล2& 1? Oล0&1?>N01ออ>NลO##อ%>2์Oล!อ#์! !2!'#0!/ล#112# (N2%#0&&Nค#AอN2"อ>%N#อ#์N%O! #?P&#&11!>OหN'#0!/ล#112#ํ2ห% OหO"AP%#2"2#O%#0ห/N2/1%#?P _ B! 21%$์ .0. `_`a "@/1%#?P a_ !#2ค! .0. `_a^ 1%?Q” Oอ ` OหON>P!ค/2!! NอP'%?QN'็% _.c อOอ _ อ'#020#0##/2#คล 1 N#APอ 2#"2"ํ2ห% N/ล22#"AP%O&&O2 #2"2#Oล0 ํ2#0 21?(N2%#0&&Nค#AอN2"อ>%N#อ#์N%O! (&1&#?P a) ล/1%#?P _` !#2ค! .0. `_`a หนา ๔ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๗๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๗ “_.c &1?>N01ออ>NลO##อ%>2์Oล!อ#์! @P!Oอ"AP% 2"O% __^ /1% %1&O!N/1%2B #O2" อ#อ&#0"0N/ล2&1? OหO"2"ํ2ห% N/ล2 1ลN2/ออP'N'็% 2"O% __b /1% %1&O!N/1%2B #O2" อ#อ&#0"0N/ล2&1?” Oอ a '#020%?QOหOOO&1ค1&!1QO!N/1%"1 2/1%#?P'#020O%#2>2%BN&12N'็%!O%P' '#020  /1%#?P 1 !?%2ค! .0. 2567 Bล1%$์ อ!#/>/1%์ #1!%!#?N/"/N22#/ '>&1!>#22#O#% #1!%!#?/N22##0##/2#คล1 หนา ๕ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๗๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
194
2419.pdf
QM
ACTION
QM_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/2419.pdf
1>ท1/ง @1ออ@@ตO3>@1อ@@ตN!็"AO"3>ต "AO2Nงออ ห1?อ"AOํ@NO@2>คO@N1ต1ต@//@ต1ฐ@ ?งค? ( ? ท?N ๒) พ.0. ๒_`b อ@0?"อํ@%@!@!ค/@!Q%!@!#@ c /##คห%@P Oล>!@!#@ `^ /##ค2อOล>/##ค2@! OหN#>#@&??!>!@!#@%2>%คO@N1!# .0. `cc_ #?!%!#?/N@@##>##/N1!#Oล>2ห#์ ออ#>##/R/O ?!NอR'%?Q Oอ _ QหO"Nล>ค/@!Q%Oอ a OหN#>##/@#ออ%B@!Oล>@#อ%B@!N'็%(CO(ล>! (CO2Nออ ห#Aอ(CO%ํ@NO@2>%คO@N1!#!@!!@!#@%&?ค?& .0. `cda Oล>QหOQOค/@!!NอR'%?QO#% “Oอ a (COQ '#>2ค์>อ#?&Q&อ%B@!N'็%(CO(ล>! (CO2Nออ ห#Aอ(CO%ํ@NO@2>%คO@N1!# #?P!?#>##/ ํ@ห% !@!#@%& ?ค?& QหO"AP%คํ@อ#?&Q&อ%B@!!Nอ(COอ%B@! #Oอ! O/"Oอ!Cล Nอ2@# ห#Aอหล?@% ?!NอR'%?Q (_) @#อ#?&Q&อ%B@!N'็%(CO(ล>!2>%คO@N1!# ( ) @"N@" Oล>O(%#?Pห#Aอ>? O2 #?P!?Q2ํ@%?@%Oล>2"@%#?P(ล>! ( ) Oอ!Cล##!/>$?@#(ล>!Oล>@#ค/&คB!!#/2อ&คB @ ( ค) @"N@"#Oอ!คํ@&##"@"O2 ล?1>อ2>%คO@N1!# (`) @#อ#?&Q&อ%B@!N'็%(CO2Nออห#Aอ(CO%ํ@NO@2>%คO@N1!# ( ) @"N@" Oล>O(%#?Pห#Aอ>? O2 #?P!?Q2ํ@%?@%Oล>2"@%#?PNO& ( ) Oอ!Cล/>$?@#NO&#?1@ ( ค) @"N@"#Oอ!คํ@&##"@"O2 ล?1>อ2>%คO@N1!# Q%#?#?P(COอ#?&Q&อ%B@!!@!/##คห%@PN'็%&Bคคล$##! @@PR!N!?2?@!>R#" QหO"AP%Nล#?P Q&อ%B@!#ํ@@%!@!ห!@"/N@ O/"@#&#>ห@#? @#@##ํ@@%อค%!N@ O@/ Oล>ห%?2Aอ">%"อ! QหO(COอ%B@!NO@"@Oอ!Cล%?Q% !@#Oอ!?&คํ@อ#?&Q&อ%B@! O/" หนา ๓ เลม ๑๔๒ ตอนที่ ๓๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘ Q%#?(COอ#?&Q&อ%B@!!@!/##คห% @PN'็%%>!>&Bคคล@P #>N&?"%Q%'#>N#0R#"Qห O"AP% Nล#>N&?"%%>!>&Bคคล Oล>ห%?2Aอ">%"อ!QหO(COอ%B@!NO@"@Oอ!Cล%?Q% !@#Oอ!?&คํ@อ#?&Q&อ%B@! O/" Q%#?#?PN'็%%>!>&Bคคล@PR!NR O #>N&?"%Q%'#>N#0R#" QหO"AP%Nล#?PQ&อ%B@!ห#AอNล#?Pห%?2Aอ#?&#อ !@!ห!@"/N@ O/"@#'#>อ&$B#>อค%!N@ O@/Oล>ห%?2Aอ">%"อ!QหO(COอ%B@!NO@"@Oอ!Cล%?Q% !@#Oอ!?&คํ@อ#?&Q&อ%B@! O/"” Oอ ` QหON>P!ค/@!!NอR'%?QN'็%Oอ a/_ OหN#>##/@#ออ%B@!Oล>@#อ%B@! N'็%(CO(ล>! (CO2Nออ ห#Aอ(CO%ํ@NO@2>%คO@N1!#!@!!@!#@%&?ค?& .0. `cda “Oอ a/_ (CO(ล>!2>%คO@N1!##?P!?#>##/ํ@ห% !@!#@%&?ค?& Oล>!?%@ ห#Aอล?1> อ>@# ?!NอR'%?Q R O#?&"N/O%R!N!OอR O#?&Q&อ%B@! (_) (CO(ล>!!@!!@!#@%& ?ค?& N#APอ @#'>&?!>#@@#N1!## ?P ?2ํ@ห#?&@#์!RNRN (!1. d๙^๙ - `cd`) 2ํ@ห#?&@#์!RNRN#?PNล?Q"RNRN ํ@%/%!?QO!N _,^^^ "@ ๙,๙๙๙ !?/ (`) (CO(ล>!!@!!@!#@%&?ค?& N#APอ @#'>&?!>#?P ?2ํ@ห#?&'@O@ (!1. db_a - `cdb) 2ํ@ห#?&(CO#?PR O#?&Q&อ%B@!? !?QOล>'#>อ&>@#2/%2?!/์!@!ห!@"/N@ O/"@#2/%Oล>คBO!ค#อ2?!/์'่@ Oล>2/%2?!/์#?P ํ@N%>%>@#P "อค์@#2/%2?!/์OหN'#>N#0R#"” QหOR/O  /?ท?N a พ21.@ค/ พ.0. ๒_`b 2/3 .>P2>/?์ 1?ฐ/ต1?/N@@11>ท1/งN1ต1O3>2ห1์ หนา ๔ เลม ๑๔๒ ตอนที่ ๓๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ห/@0Nหต@ :- Nหต@"3Q@1!1>@0QO1>ท1/ง ? ?O ค?อ P "#?PN'็%@#2!ค/#OORN>P!N!>!@#"AP%Oอ!Cล Nอ2@# ห#Aอหล?@%'#>อ&@#" AP%คํ@อ#?&Q&อ%B@!N'็%(CO(ล>! (CO2Nออ ห#Aอ(CO%ํ@NO@2>%คO@N1!# #?P!?#>##/ ํ@ห% !@!#@%& ?ค?& Q%#?อ&Bคคล$##! @ @PR!N!?2?@!>R#" Oล>%>!>&Bคคล @PR!NR O #>N&?"%Q%'#>N#0R#" Oล>ํ@ห% %@ ห# Aอล?1>อ >@#อ( CO(ล>!2>%คO@N1!# #?P!?#>##/ํ@ห% !@!#@%&?ค?&QหOR O#?&"N/O%R!N!OอR O#?&Q&อ%B@!N'็%(CO(ล>! Q%#?อ@#์!RNRN Oล>'@O@ NAPอล @#>อ(CO(ล>!#@""Nอ"Q%@#N2?"คN@$##!N%?"!Q&อ%B@! Oล>คN@&#>@#!#/2อ&Oล>#?&#อ Oล>NAPอR!NQหON> ค/@!Qํ@Oอ%Q%@#&?ค?&QOห!@" @ํ@N'็%!Oอออ#>##/%?Q หนา ๕ เลม ๑๔๒ ตอนที่ ๓๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
195
482.pdf
GENERAL
ACTION
GENERAL_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/482.pdf
กฎกระทรวง ก ำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมแบตเตอรี่ส ำรองไฟฟ้ำส ำหรับกำรใช้งำนแบบพกพำ : คุณลักษณะที่ต้องกำรด้ำนควำมปลอดภัย ต้องเป็นไปตำมมำตรฐำน พ.ศ. 2563 อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ 17 วรรคหนึ่ง แห่งพระรำชบัญญัติมำตรฐำนผลิตภัณฑ์ อุตสำหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. ๒๕ 62 และมำตรำ 58 วรรคหนึ่ง แห่งพระรำชบัญญัติมำตรฐำน ผลิตภัณฑ์อุตสำหก รรม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติมำตรฐำน ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม (ฉบับที่ 7) พ.ศ. ๒๕ 58 รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรม ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 กฎกระทรวงฉบับนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก ำหนดหนึ่งร้อยห้ำสิบวันนับแต่วันประกำศ ในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป ข้อ 2 ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมแบตเตอรี่ส ำรองไฟฟ้ำส ำหรับกำรใช้งำนแบบพกพำ : คุณลักษณะที่ต้องกำรด้ำนควำมปลอดภัย ต้องเป็นไปตำมมำตรฐำนเลขที่ มอก. ๒๘๗๙ - 256๐ ตำมประกำศกระทรวงอุตสำหกรรม ฉบับที่ ๕๐๙๑ (พ.ศ. ๒๕6๑) ออกตำมควำมในพระรำชบัญญั ติ มำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง ก ำหนดมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม แบตเตอรี่ส ำรองไฟฟ้ำส ำหรับกำรใช้งำนแบบพกพำ - คุณลักษณะที่ต้องกำรด้ำนควำมปลอดภัย ลงวันที่ ๑๒ พฤศจิกำยน พ.ศ. 256๑ ให้ไว้ ณ วันที่ 2 มิถุนำยน พ.ศ. ๒๕๖3 สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรม ้หนา ๑๖ ่เลม ๑๓๗ ตอนที่ ๔๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มีควำมจ ำเป็นต้องควบคุมผลิตภัณฑ์ อุตสำหกรรมแบตเตอรี่ส ำรองไฟฟ้ำส ำหรับกำรใช้งำนแบบพกพำ : คุณลักษณะที่ต้องกำรด้ำนควำมปลอดภัย ให้มีคุณภำพและควำมปลอดภัย เพื่อป้องกันควำมเสียหำยอันอำจจะเกิดแก่ประชำชน กิจกำรอุตสำหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศ ในกำรนี้ ได้มีประกำศกระทรวงอุตสำหกรรม ฉบับที่ ๕๐๙๑ (พ.ศ. ๒๕6๑) ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง ก ำหนดมำตรฐำน ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมแบตเตอรี่ส ำรองไฟฟ้ำส ำหรับกำรใช้งำนแบบพกพำ – คุณลักษณะที่ต้องกำร ด้ำนควำมปลอดภัย ลงวันที่ ๑๒ พฤศจิกำยน พ.ศ. ๒๕๖๑ และได้มีกำรด ำเนินกำรจัดให้มีกำรรับฟังควำมคิดเห็น ของตัวแทนของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องครบถ้วนตำมควำมในมำตรำ ๑๘ แห่งพระรำชบัญญัติมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติ มำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๒ แล้ว สมควรก ำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม แบตเตอรี่ส ำรองไฟฟ้ำส ำหรับกำรใช้งำนแบบพกพำ : คุณลักษณะที่ต้องกำรด้ำนควำมปลอดภัย ต้องเป็นไป ตำมมำตรฐำน จึงจ ำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้ ้หนา ๑๗ ่เลม ๑๓๗ ตอนที่ ๔๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๓
train
196
1966.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1966.pdf
1>@0ค>11/@12NN21>/@1?@ี/A/O1@ N1AP/ />?@12//@1@ี/A/O1@OหN@> O3>@1//ห?2A/1?1//N@N็CON@@12/ /@1@ี/A/O1@OหN@> 2@@/@?N@/B2@ห@1 2@@N@NAP///> 1>? _ /@0?0/ํ@@@/ค/@/Q/@1@ `` /11ค2@/ OหN1>1@?ญญ?>2NN21>/@1?@ี/A/O1@ .0. `cbc O3>/@1@ aa (a) OหN1>1@?ญญ?>2NN21>/@1?@ี/A/O1@ .0. `cbc @POORN >P/N>/P01>1@ ?ญญ?>2N N21 >/@1 ?@ ี/A/O1@ ( ??P `) .0. `cc_ ค>11/@12 NN21>/@1?@ี/A/O1@ ํ@ห/>?@12//@1@ ี/A/O1@Oห N@> O3>@1//ห?2A/1?1//N@N็CON@@12//@1@ี/A/O1@OหN@> 2@@/@?N@/B2@ห@1 2@@N@NAP///> 1>? _ R/O ??Q O/ _ />?@12//@1@ี/A/O1@OหN@> 2@@/@?N@/B2@ห@1 2@@N@NAP///> 1>? _ QหON็ ?N/R?Q (_) @12/ค/@/1CO N็@12/ค/@/1CO?Pํ@N็>O/ํ@/@QOQ@1>?>@RO/0N@CO/@/ห3?/>@@1 3?1>O/2/N็O1?0> b ?/N3A/ ํ@/ c^ O/ QON/3@Q@12/ _ ?P/P/ ค>ONO/ `^ ค>O ค>N็1O/03>0?P2>/ค>O?Qห/ P0CONO@1?@12/O/ROค>O R/NO/0/N@1O/03>NO2>/ค>O.@คค/@/1CO @/?2>>NO@1?@12/.@คค/@/2@/@1 (`) @12/ค/@/2@/@1 N็@12/ค/@/2@/@1@PN>@@12?P2/1>2@1์N>ค/@/ํ@@ญN?0/ ?P>>?>@RO/0N@/?คB.@@/ O/ํ@ห C?Q/ O3>N21 O@/N/3@ ?Pํ@ห3 ?1> O2/N ็@12/ >?> @N AP//?ค/@/2@/@1Q@1N AP// >Q@/>3 C/> N?0/ ห1A//>3C/>N?0/2/ O/01>/@1N AP//O/@1์ P0QO3//>N3OP1O3>QOOP2NAP/0ค3B/ OP2NAP/0?PQOคA/OP2/@1 ์/ OP20?N3?0/ ห1A/OP2/@1 ์/2/O P20?N3?0/ 1/0 N/1C?/? (T-Joint) Q3?1>@1NAP//ON/>3C/>N?0/?ON/>3C/>N?0/ O3>ON/>3C/>N?0/?N//>3C/>N?0/ Qํ@OหNN@NAP//@//@1@ ISO 9606-2 QหO/?คB.@O/N AP//@//@1@ ISO 10042 ค>ONO/ `^ ค>O ค>N็1O/03>O2>/ค>O?Qห/ P0CONO@1?@12/O/ROค>O @12/B>Q@R/NO/0/N@1O/03>NO2> P0QหOCONO@1?@12/N3A/2/OQOห@P ?N/R?Q O2/?P _ @1NAP///>3C/>N?0/ห1A//>3C/>N?0/2/ (ISO / TR 15608) ค/@/ห@ON/>3C/>N?0/?QON a />33>N/1@QR 1/0N/1C?/? (T-Joint) QON/3@Q@12/ ` ?P/P/ R/N1//@1N1?0/>Q@ P0/?>Q@2/ ` >Q ??Q >Q@?P _ ISO 9606-2 131 P FW… S t… PD… >Q@?P ` ISO 9606-2 131 P FW… S t… D… PH… หนา ๔๔ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๖๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ O2/?P ` @1NAP///>3C/>N?0/ห1A//>3C/>N?0/2/ (ISO / TR 15608) ค/@/ห@O N/>3C/>N?0/O/0/N@ a />33>N/1 1/0N/1C?/? (T-Joint) QON/3@Q@12/ _ ?P/P/ R/N1//@1N1?0/>Q@ P0/?>Q@2/ ` >Q ??Q >Q@?P _ ISO 9606-2 131 P FW… S t… PD… >Q@?P ` ISO 9606-2 131 P FW… S t… D… PJ... (a) 1@03>N/?0/>?@12/QหON็R@/?Pค>11/@1ํ@ห O/ ` @1//ห ?2A/1?1// N@N็CON@@12//@1@ ี/A/O1@Oห N@> 2@@/@?N@/B2@ห@1 2@@N@NAP///> 1>? _ >//QหOONCON@@12/ P0/?N์ ??Q (_) CONO@1?@12/O/2/?Q.@คค/@/1COO3>.@คค/@/2@/@1 O3>O/ROค>O R/NO/0/N@1O/03>NO2>/ค>O ?Qห/ @A//N@N@@12//@1@ ี/A/O1@OหN@> 2@@/@?N@/B2@ห@1 2@@N@NAP///> 1>? _ (`) ห?2A/1?1//N@N็CON@@12//@1@ี/A/O1@OหN@> 2@@/@?N@/B2@ห@1 2@@N@NAP///> 1>? _ QหO/?/@0B2@/ี??QON/??P//ห?2A/1?1/ 1>@0  /??P 24 21.@ค/ .0. `c67 RP1์ P>N2?01 3?1>1/O1@ 1>@11/@12NN21>/@1?@ี/A/O1@ หนา ๔๕ เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๖๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
train
197
1451.pdf
FINANCE
NON
FINANCE_NON
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1451.pdf
หน้า ๔ เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๙๕ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ กันยายน ๒๕๖๐ กฎกระทรวง กําหนดอัตราค่าทําการของผู้ปฏิบัติงาน พ.ศ. ๒๕๖๐ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติ ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ข้อ ๒ ค่าทําการที่ต้องเสียให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานสรรพสามิตซึ่งปฏิบัติงาน ในวันหยุดราชการ นอกเวลาราชการ และนอกสถานที่ทําการโดยปกติไม่ว่าในหรือนอกเวลาราชการ ให้เรียกเก็บตามอัตรา ดังต่อไปนี้ (๑) กรณีปฏิบัติงานในสถานที่ทําการโดยปกติ ( ก) นอกเวลาราชการในวันทําการ ๑) ระหว่างเวลา ๑๖.๓๐ นาฬิกา ถึง ๒๔.๐๐ นาฬิกา คนละ ๒๕๐ บาท ต่อคาบต่อวัน ๒) ระหว่างเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ถึง ๐๘.๓๐ นาฬิกา คนละ ๒๕๐ บาท ต่อคาบต่อวัน ( ข) ในวันหยุดราชการ ๑) ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ นาฬิกา ถึง ๑๖.๓๐ นาฬิกา คนละ ๒๕๐ บาท ต่อคาบต่อวัน ๒) ระหว่างเวลา ๑๖.๓๐ นาฬิกา ถึง ๒๔.๐๐ นาฬิกา คนละ ๕๐๐ บาท ต่อคาบต่อวัน ๓) ระหว่างเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ถึง ๐๘.๓๐ นาฬิกา คนละ ๕๐๐ บาท ต่อคาบต่อวัน (๒) กรณีปฏิบัติงานนอกสถานที่ทําการโดยปกติ หน้า ๕ เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๙๕ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ กันยายน ๒๕๖๐ ( ก) ในวันทําการ ๑) ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ นาฬิกา ถึง ๑๖.๓๐ นาฬิกา คนละ ๒๕๐ บาท ต่อคาบต่อวัน ๒) ระหว่างเวลา ๑๖.๓๐ นาฬิกา ถึง ๒๔.๐๐ นาฬิกา คนละ ๓๐๐ บาท ต่อคาบต่อวัน ๓) ระหว่างเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ถึง ๐๘.๓๐ นาฬิกา คนละ ๓๐๐ บาท ต่อคาบต่อวัน ( ข) ในวันหยุดราชการ ๑) ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐ นาฬิกา ถึง ๑๖.๓๐ นาฬิกา คนละ ๕๐๐ บาท ต่อคาบต่อวัน ๒) ระหว่างเวลา ๑๖.๓๐ นาฬิกา ถึง ๒๔.๐๐ นาฬิกา คนละ ๖๐๐ บาท ต่อคาบต่อวัน ๓) ระหว่างเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ถึง ๐๘.๓๐ นาฬิกา คนละ ๖๐๐ บาท ต่อคาบต่อวัน ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐ อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หน้า ๖ เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๙๕ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ กันยายน ๒๕๖๐ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช ้กฎกระทรวงฉบ ับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติ ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ บัญญัติให้บุคคลที่ประสงค์จะให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานสรรพสามิต ปฏิบัติงานในวันหยุดราชการหรือนอกเวลาราชการหรือนอกสถานที่ทําการโดยปกติไม่ว่าในหรือนอกเวลาราชการ จะต้องเสียค่าทําการให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานสรรพสาม ิตผู้ปฏิบัติงานดังกล่าวตามอัตรา ที่กําหนดในกฎกระทรวง จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
train
198
1172.pdf
HR
ACTION
HR_ACTION
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/train_docs/1172.pdf
กฎกระทรวง ก ำหนดอัตรำเงินสมทบที่รัฐบำลจ่ำยเข้ำกองทุนประกันสังคม ส ำหรับบุคคลซึ่งสมัครเข้ำเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. 2565 อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๗ วรรคหนึ่ง แห่งพระรำชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ และมำตรำ ๔๐ วรรคสำม แห่งพระรำชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงแรงงำน ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ให้ยกเลิกกฎกร ะทรวงก ำหนดอัตรำเงินสมทบที่รัฐบำลจ่ำยเข้ำกองทุนประกันสังคม ส ำหรับบุคคลซึ่งสมัครเข้ำเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. ๒๕๖๔ ข้อ ๒ ให้รัฐบำลจ่ำยเงินสมทบเข้ำกองทุนส ำหรับผู้ประกันตนซึ่งจ่ำยเงินสมทบเพื่อรับ ประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรำยหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภำพ และกรณีตำย ให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งจ่ำยเงินสมทบในแต่ละเดือนในอัตรำ ดังต่อไปนี้ (๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เดือนละยี่สิบเอ็ดบำท (๒) ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหำคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป เดือนละสำมสิบบำท ข้อ ๓ ให้รัฐบำลจ่ำยเงินสมทบเข้ำกองทุนส ำหรับผู้ประกันตนซึ่งจ่ำยเงินสมทบเพื่อรับ ประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรำยหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภำพ กรณีตำย และกรณีชรำภำพ ให้แก่ผู้ประกันตนซึ่งจ่ำยเงินสมทบในแต่ละเดือนในอัตรำ ดังต่อไปนี้ (๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เดือนละสำมสิบบำท (๒) ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหำคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป เดือนละห้ำสิบบำท ข้อ ๔ ให้รัฐบำลจ่ำยเงินสมทบเข้ำกองทุนส ำหรับผู้ประกันตนซึ่งจ่ำยเงินสมทบเพื่อรับ ประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรำยหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภำพ กรณีตำย กรณีชรำภำพ และกรณีสงเครำะห์บุตร ให้แก่ผู้ประกันตนซึ่งจ่ำยเงินสมทบในแต่ละเดือนในอัตรำ ดังต่อไปนี้ ้หนา ๑ ่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๒๙ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕ (๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เดือนละเก้ำสิบบำท (๒) ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหำคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป เดือนละหนึ่งร้อยห้ำสิบบำท ให้ไว้ ณ วันที่ 18 มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖5 สุชำติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงแรงงำน ้หนา ๒ ่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๒๙ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕ หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นกำรสมควรลดอัตรำเงินสมทบ ที่รัฐบำลจ่ำยเข้ำกองทุนประกันสังคม ส ำหรับผู้ประกันตนตำมมำตรำ ๔๐ เพื่อให้สอดคล้องกับกำรลดอัตรำ กำรจ่ำยเงินสมทบของผู้ประกันตนตำมมำตรำ ๔๐ เป็นระยะเวลำหกเดือน เพื่อบรรเทำควำมเดือดร้อน ของผู้ประกันตนให้เหมำะสมและสอดคล้องกับสภำวะเศรษฐกิจและสภำพกำรณ์ทำงสังคม ในปัจจุบันที่ได้รับ ผลกระทบจำกกำรระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ จึงจ ำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้ ้หนา ๓ ่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๒๙ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕
train
199