pdf_name
stringlengths 5
8
| bu_categories
stringclasses 18
values | action_non
stringclasses 2
values | result
stringclasses 32
values | pdf_name_path
stringlengths 44
48
| text
stringlengths 517
26.8k
| type
stringclasses 2
values | __index_level_0__
int64 0
1.51k
|
|---|---|---|---|---|---|---|---|
1710.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1710.pdf
|
#>@0#>#/O#@
N#APอ @#อB@QหOคN@O@/ํ@@Q#@อ@@?#N็#?>N01
2ํ@ห#?คN@O@/2?@>?!C@ %@/ O%>N!?"!@ @PRO#?อB@
QหONO@!@ํ@@Q#@อ@@?#@!ห!@"/N@O/"คNO@N!Aอ
@"QO?@ค/@!%ห#Aอ?@ค/@!NO@Q?P#?@%R"ํ@R/O?#?@%N@#>N0
@!!>ค>#?!#?N!APอ/??P a B%@ค! `cdd
@!?P#?@%R O!?!@#@# Nอ?QหOคN@O@/2?@>?!C@ %@/ O%>N!?"!@
@PRO#?อB@QหOํ@@Q#@อ@@ ?#@!ห%?@#Q?@ค/@!%ห# Aอ?@ค/@!NO@Q
/N@O/"ค/@!#N/!!AอO@O#@?PROอ"CNQ#@อ@@?#ค#ํ@ห#>">N/%@ b ี Q#>ห/N@/??P
1 $0>@" `cda @/??P a_ #@ค! `cdd 2@!@#ํ@@Q#@อ@@?#RON็#?>N01
NAPอOORัห@@#R!N2@!@#N>@%?#>N0O@NAPอQหON็R@!ห%?@#Q?@ค/@!%
ห#Aอ?@ค/@!NO@Q/N@O/"ค/@!#N/!!AอO@O#@ Q#>ห/N@?PN>2@@#์@#O#N#>@
อP#ค>NAQอR/#?2PคP#@ 2019 ?Q NAPอ@QัB?คN@O@/?%N@/ O%>คN@O@/
2?@>?!C@ %@/ O%>N!?"!@ @PRO#?อB@QหOํ@@Q#@อ@@?#@!ห%?@#Q?@
ค/@!%ห#Aอ?@ค/@!NO@Q/N@O/"ค/@!#N/!!AอO@O#@?PROอ"CNQ#@อ@@?#ค#ํ@ห
#>">N/%@ b ี Q#>ห/ N@/??P _ 2>ห@ค! `cdd @/??P a_ ?/@ค! `cdd
"?คR!N2@!@#N>@%?#>N0O@NAPอQหON็R@!ห%?@#Q?@ค/@!%ห#Aอ?@
ค/@!NO@Q/N@O/"ค/@!#N/!!AอO@O#@RO #>อ?N็หO/N/%@อ@#ื้C#>N0 @"ห%?
@#O#N#>@อP#ค>NAQอR/#?2PคP#@ 2019 O#@@N็ั?"2ํ@ค?Q@#?Nค%APอ @ค@#%>
@คอB2@ห##! O%> @ค# >@# ??Q NAPอQหO@#ื้CN0#1>N็Rอ"N@!?#>2>> @
O%>N็@#้อ?R!NQหOัห@@#@Oค%O#@ @"Q#>N0/ ?ค/@!#BO#!@ @Q
@!?ค/@!ํ@N็Oอ"N/OQหOคN@O@/?%N@/2@!@#ํ@@Q#@อ@@?#NอRRON็#?>N01
Q#>ห/N@?P#อN>@%?R"?#>N0O@NAPออ%?NO@!@ํ@@Q#@อ@@?#@!?@
ค/@!%ห#Aอ?@ค/@!NO@Q
อ@0?"อํ@@@!ค/@!Q!@#@ d /##คห@P OหN#>#@ ํ@ห@## >ห@#?@#
@#ํ@@อคN@O@/ .0. `cd^ O%>!@#@ _b O%>!@#@ da/` OหN#>#@ํ@ห
@##>ห@#?@#@#ํ@@อค N@O@/ .0. `cd^ @POORN>P!N>!P"#>#@ ํ@ห
@##>ห@#?@#@#ํ@@อคN@O@/ (??P `) .0. `cd_ #?!#?/N@@##>#/O#@
P"ค/@!NหOออค>#?!#?N!APอ/??P a B%@ค! `cdd @ออ#>@0R/O ?NอR?Q
หนา ๓๗
เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๘๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
Oอ _ Q#>@0?Q
คN@O@/ ห!@"ค/@!/N@ คN@O@/?PRO#?อB@QหOอ"CNQ#@อ@@?#N็#?>N01
@!#>@0#>#/!ห@R" N#APอ @#อB@QหOคN@O@/อ"CNQ#@อ@@?#N็#?>N01
2ํ@ห#?คN@O@/2?@>?!C@ %@/ O%>N!?"!@ @PRO#?อB@QหONO@!@ํ@@Q#@อ@@?#
@!ห!@"/ N@O/"คNO@N!Aอ @"QO?@ค/@!%ห# Aอ?@ค/@!NO@Q?P#?@%R"ํ@R/O
?#?@%N@#>N0 @!!>ค>#?!#?N!APอ/??P a B%@ค! `cdd
Oอ ` Q@##>ห@#?@#@#ํ@@อค N@O@/อ@?Pํ@หR/OQ#>@0?Q
QหON็R@!ห!@"/N@O/"@##>ห@#?@#@#ํ@@อคN@O@/
Oอ a Q#??PคN@O@/#>2ค์>ํ@@Q#@อ@@ ?#R%@NอP"R!NOอ!?
QอB@ํ@@ QหO@"O@"AP??#@"APอค/@!Oอ@#O@O#@N@O@/ #Oอ!?QNอ2@#ห%?@
@!?Pอ>?ํ@ห N@#>อ>N%O#อ>2์อ#!@# ?ห@@ ห#Aอ"AP?POอ?Pอ?N็?P?Q
อ2@?Pํ@@อ@"O@ ?NอR?Q
(_) QN#BN!ห@ค# QหO"AP?P2ํ@?@?ห@@#BN!ห@ค#AQ?P #!@#?ห@@
#>#/O#@
(`) Q?ห/?อAP QหO"AP?P2ํ@?@?ห@@?ห/?
(a) 2@?PอAP@!?Pอ>?ํ@ห
Oอ b N!APอ@"O@RO"AP??#@"APอค/@!Oอ@#O@O#@N@O@/@!Oอ a O%O/
QหOคN@O@/!?2>>ํ@@Q#@อ@@ ?#R%@ NอROP"R!NOอ!?QอB@ํ@@ @/??P
a^ N!1@" `cde O%>QหOQOห%?@@#"AP??#@"APอ?%N@/NAPอN็ห%?@O2/N@คN@O@/
RO#?อB@QหOํ@@Q#@อ@@?#R%@NอROP"R!NOอ!?QอB@ํ@@ #/!@N็ห%?@
Q@#O2#>N @?PคN@O@/!?2>>>ํ@RO
Oอ c Q#??PคN@O@/@PRO#?อB@QหOํ@@@! Oอ b #>2ค์>ํ@@
Q#@อ@@ ?#NอR QหO@"O@ํ@N>@#ํ@คN@O@/%?NO@!@ํ@@Q#@อ@@ ?#
@!?@ค/@!%ห#Aอ?@ค/@!NO@Q?P#?@%R"ํ@R/O?#?@%N@#>N0 ?Q?Q Q@#ํ@คN@O@/
%?NO@!@ํ@@Q#@อ@@?#QหO>?>@!ห%?N์O%>/>?@#?Pอ>?ํ@หR/O
Oอ d QหOคN@O@/@PRO#?อB@QหOํ@@@!#>@0 ?Q !?2>>ํ@@?@"O@
ROB#>N @?P!>RO!?#>@0หO@!คN@O@/ํ@@!!@#@ e /##คห@P NNN?"/?คN@O@/
@PRO#?อB@QหONO@!@ํ@@Q#@อ@@?#@!ห!@"/N@O/"คNO@N!Aอ @"QO?@ค/@!%
ห#Aอ?@ค/@!NO@Q?P#?@%R"ํ@R/O?#?@%N@#>N0 P"QหOํ@#>@0#>#/O#@
/N@O/"@#ํ@ห@?PหO@!คN@O@/ํ@O%>#>@0#!@#?ห@@/N@O/"NAPอR@##?คN@O@/
NO@ํ@@##!#O%>@@"อหO@#O@?@"O@ !@QO?ค?O/"P"อBP%!
หนา ๓๘
เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๘๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
Oอ e QหO@#อB@QหOคN@O@/ํ@@@!#>@0?QN็อ?2>Q2B% N!APอ
(_) คN@O@/R!Nํ@N>@#@!#>@0?Q
(`) @#อB@QหOํ@@2>Q2B%@!ห!@"/N@O/"@##>ห@#?@#@#ํ@@อคN@O@/
(a) @#อB@QหOอ"CNQ#@อ@@?#อคN@O@/N็อ?2>Q2B%@!#>@0#>#/!ห@R"
N#APอ @#อB@QหOคN@O@/อ"CNQ#@อ@@?#N็#?>N01 2ํ@ห#?คN@O@/2?@>?!C@
%@/ O%>N!?"!@ @PRO#?อB@QหONO@!@ํ@@Q#@อ@@?#@!ห!@"/N@O/"คNO@N!Aอ
@"QO?@ค/@!%ห#Aอ?@ค/@!NO@Q?P#?@%R"ํ@R/O?#?@%N@#>N0 @!!>ค>#?!#?
N!APอ/??P a B%@ค! `cdd
?Q?Q ?QON/??@#>@0Q#@>@BN1@N็OR
#>@0 /??P 27 B%@ค! .0. `c66
>?์ #?>#>@#
#?!#?/N@@##>#/O#@
หนา ๓๙
เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๘๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 891
|
21.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/21.pdf
|
หน้า ๒
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๖๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๑
ประกาศกรมศุลกากร
ที่ 32/2561
เรื่อง การส่งของออกไปนอกราชอาณาจักรตามทางอื่นนอกจากทางอนุมัติ
เพื่อให้การปฏิบัติพิธีการศุลกากรสําหรับการส่งของออกไปนอกราชอาณาจ ักรตามทางอ ื่น
นอกจากทางอนุมัติ เป็นไปอย่างถูกต้อง รัดกุม เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบันและเพื่อเป็นการส่งเสริม
สนับสนุนการค้าชายแดน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 86 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560
อธิบดีกรมศุลกากรจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ผู้ส่งของออกหรือผู้ขนส่งที่มีเหตุจําเป็นจะต้องขนส่งของออกไปนอกราชอาณาจ ักร
ตามทางอื่นนอกจากทางอนุมัติ ให้ยื่นคําร้องแสดงความจํานงล่วงหน้าว่าจะส่งของออกไปนอกราชอาณาจักร
ผ่านเขตแดนใด ๆ ทางบกหรือตอนใดแห่งเขตแดนนั้นต่อด่านศุลกากรในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่ออนุญาต
เป็นหนังสือให้ส่งของออกไปนอกราชอาณาจักรหรือขนส่งตามเส้นทางที่ร้องขอนั้น
ข้อ 2 ของที่ได้รับยกเว้นอากร เนื่องจากการนําออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บนตามมาตรา 111
หรือเขตปลอดอากร หรือเขตประกอบการเสรีที่มิได้ผ่านกรรมวิธีการผลิต และของนําเข้าที่ส่งกลับออกไป
โดยขอคืนอากรขาเข้า (Re-Export) ซึ่งจะส่งกลับออกไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐ
ประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา และมาเลเซีย ผ่านเขตแดนทางบก ห้ามมิให้ส่งของ
ออกไปนอกราชอาณาจักรตามทางอื่นนอกจากทางอนุมัติ
กรณีมีปัญหาในการพ ิจารณาว่าของใดได้ผ่านกรรมวิธีการผลิตในเขตประกอบการเสร ีและ
จะอนุญาตให้ส่งของออกไปนอกราชอาณาจักรตามทางอื่นนอกจากทางอนุมัติได้หรือไม่ ให้อยู่ในอํานาจ
ของผู้อํานวยการสํานักงานศุลกากรภาคพิจารณาสั่งการเป็นการเฉพาะราย
ข้อ 3 การส่งของออกหรือการขนส่งของตามข้อ 1 ให้กระทําได้เฉพาะระหว่างเวลา 06.00 นาฬิกา
ถึง 18.00 นาฬิกา เท่านั้น
ข้อ 4 ผู้ส่งของออกหร ือผู้ขนส่งจะต้องยื่นคําร้องขอรับพนักงานศุลกากรไปประจ ําการ
นอกเขตที่ทําการศุลกากร โดยเสียค่าธรรมเนียมตามที่กําหนดในกฎกระทรวง และต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
และระเบียบข้อบังคับอันเกี่ยวกับของนั้นเช่นเดียวกับการส่งของออกตามปกติทุกประการ
ข้อ 5 หนังสืออนุญาตตามข้อ 1 ให้ทําเป็นสองฉบับ โดยระบุชื่อและตําแหน่งของพนักงานศุลกากร
ที่จะไปดําเนินการควบคุมของตามที่ได้รับอนุญาตนั้นให้ชัดเจน ทั้งในต้นฉบับและสําเนาให้ถูกต้องตรงกัน
แล้วมอบต้นฉบับให้พนักงานศุลกากรถือไปดําเนินการ ส่วนสําเนาเก็บไว้ที่ด่านศุลกากร และลงทะเบียน
ไว้ให้ครบถ้วน
หน้า ๓
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๖๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๑
ข้อ 6 พนักงานศุลกากรผู้ไปปฏิบัติหน้าที่ควบคุมของตามที่ได้รับอนุญาตต้องแต่งเครื่องแบบ
และมีบัตรประจําตัวพนักงานศุลกากรหรือบัตรประจําตัวข้าราชการติดตัวไปด้วยทุกครั้ง
ข้อ 7 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑
กุลิศ สมบัติศิริ
อธิบดีกรมศุลกากร
|
test
| 892
|
1436.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1436.pdf
|
ประกาศส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
เรื่อง วิธีการแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. 2565
โดยที่มาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕
บัญญัติว่าในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้ผู้รับอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผย ให้เป็นสิทธิของ
ผู้รับอนุญาตที่จะแสดงใบอนุญาตนั้นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการที่ผู้อนุญาตประกาศก าหนดก็ได้
โดยให้ถือว่าการแสดงเช่นว่านั้นเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว สมควรก าหนดวิธีการแสดงใบอนุญาต
ตามกฎหมายในความรับผิดชอบของส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติโดยวิธีการ
ทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๕ เลขาธิการส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ ในประกาศนี้
“ใบอนุญาต” หมายความว่า เอกสารหลักฐานที่กฎหมายก าหนดให้ต้องแสดงไว้ในที่เปิดเผย
ดังต่อไปนี้
(๑) ใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้น าเข้า ตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานสินค้าเกษตร
(๒) ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน ตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานสินค้าเกษตร
ข้อ ๓ ผู้รับอนุญาตสามารถเลือกแสดงใบอนุญาตตามข้อ ๒ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(๑) แสดงเป็นภาพผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
(๒) แสดงเป็นคิวอาร์โคดที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถสแกนเพื่อเข้าถึงใบอนุญาตที่เป็น
เอกสารอิเล็กทรอนิกส์หรือภาพทางอิเล็กทรอนิกส์ของใบอนุญาต หรือ
(๓) แสดงข้อมูลผ่านระบบยื่นค าขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้น าเข้า
และ การแจ้งการน าเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ ( TAS-License) ที่เว็บไซต์
https://tas.acfs.go.th หรือ Mobile Application ของระบบ TAS-License หรือระบบการออกใบอนุญาต
เป็นผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานของระบบ CAB Services ที่เว็บไซต์ https://cabservices.acfs.go.th
แล้วแต่กรณี
้หนา ๑๙
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ มกราคม ๒๕๖๖
ข้อ ๔ การแสดงใบอนุญาตตามข้อ ๓ ต้องมีขนาดของภาพและความละเอียดที่ชัดเจนเพียงพอ
รวมทั้งสามารถแสดงให้เห็นข้อมูลอันเป็นสาระส าคัญของใบอนุญาตได้ครบถ้วน
ผู้รับอนุญาตอาจเลือกแสดงภาพใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ สถานที่ประกอบกิจการ
มากกว่าหนึ่งใบหรือภาพผ่านหน้าจอเดียวกันก็ได้ แต่ต้องมีระยะเวลาแสดงภาพใบอนุญาตแต่ละใบไม่น้อยกว่า
ห้าวินาที
ข้อ ๕ เมื่อผู้รับอนุญาตเลือกแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างใดอย่างหนึ่ง
ตามข้อ ๓ แล้ว ผู้รับอนุญาตไม่ต้องแสดงใบอนุญาตไว้โดยเปิดเผยตลอดเวลา ณ สถานที่ประกอบกิจการ
อีกต่อไป แต่ต้องสามารถแสดงต่อเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตลอด เวลาเมื่อมีการตรวจสอบ
หรือต่อประชาชนที่ขอตรวจดู
ประกาศ ณ วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖5
พิศาล พงศาพิชณ์
เลขาธิการส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
้หนา ๒๐
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ มกราคม ๒๕๖๖
|
test
| 893
|
440.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/440.pdf
|
ประกาศส านักงานปรมาณูเพื่อสันติ
เรื่อง หลักเกณฑ์การน าวัสดุกัมมันตรังสีกลับไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น
หรือโอนวัสดุกัมมันตรังสีให้ผู้อื่นไปใช้ประโยชน์
พ.ศ. ๒๕๖๓
อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๓ วรรคสองแห่งกฎกระทรวงการจัดการกากกัมมันตรังสี
พ.ศ. ๒๕๖๑ เลขาธิการส านักงานปรมาณูเพื่อสันติออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศส านักงานปรมาณูเพื่อสันติ เรื่อง หลักเกณฑ์การน าวัสดุ
กัมมันตรังสีกลับไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นหรือโอนวัสดุกัมมันตรังสีให้ผู้อื่นไปใช้ประโยชน์ พ.ศ. ๒๕๖๓”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ เมื่อไม่ประสงค์จะใช้งานวัสดุกัมมันตรังสีในลักษณะเดิมอี กต่อไป ผู้รับใบอนุญาต
ตามมาตรา ๑๙ (๑) และผู้มีไว้ในครอบครองหรือใช้วัสดุกัมมันตรังสีตามมาตรา ๒๐ ต้องพิจารณา
วิธีการใช้วัสดุกัมมันตรังสีโดยการน ากลับไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นหรือโอนให้ผู้อื่นไปใช้ประโยชน์
ตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
(๑) วัสดุกัมมันตรังสีนั้นต้องเป็นวัสดุกัมมันตรังสีชนิดปิดผนึก
(๒) ผู้รับโอนวัสดุกัมมันตรังสีนั้นต้องเป็นผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๙ (๑) หรือผู้มีไว้ใน
ครอบครองหรือใช้วัสดุกัมมันตรังสีตามมาตรา ๒๐ แล้วแต่กรณี
(๓) ผู้ที่น าวัสดุกัมมันตรังสีกลับไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นและผู้รับโอนวัสดุกัมมันตรังสีต้องไม่ถอด
ท าลาย หรือเปลี่ยนแปลงการปิดผนึกวัสดุกัมมันตรังสีให้ต่างไปจากเดิม เว้นแต่ผู้นั้นเป็นผู้ได้รับ
ใบอนุญาตผลิตวัสดุกัมมันตรังสี
ข้อ ๔ หากไม่สามารถน าวัสดุกัมมันตรังสีกลับไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นหรือโอนวัสดุกัมมันตรังสี
ให้ผู้อื่นไปใช้ประโยชน์ได้ ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๙ (๑) และผู้มีไว้ในครอบครองหรือใช้วัสดุ
กัมมันตรังสีตามมาตรา ๒๐ ต้องจัดการวัสดุกัมมันตรังสีที่ไม่ประสงค์จะใช้งานในลักษณะเดิมอีกต่อไปนั้น
เช่นเดียวกับการจัดการกากกัมมันตรังสี
ประกาศ ณ วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖3
วิไลวรรณ ตันจ้อย
เลขาธิการส านักงานปรมาณูเพื่อสันติ
้หนา ๑๙
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๑๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๓
|
test
| 894
|
1114.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1114.pdf
|
ประกาศกรมการขนส่งทางบก
เรื่อง ก าหนดคุณสมบัติ คุณลักษณะ และการติดตั้งเข็มขัดนิรภัย และก าหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองแบบการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๔
ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้มีประกาศ เรื่อง ก าหนดคุณสมบัติ คุณลักษณะ และการติดตั้ง
เข็มขัดนิรภัย และก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองแบบการติดตั้งเข็มขัดนิรภัย
ของรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ไว้แล้ว นั้น
โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) และภัยธรรมชาติ
ได้ส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เซมิคอนดักเตอร์ ท าให้เกิดการขาดแคลน
ชิ้นส่วนดังกล่าว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส าคัญในชิ้นส่วนต่าง ๆ ของระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ อันท าให้
อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เกิดความล่าช้าทั้งในส่วนการผลิตรถตัวอย่างและการส่งรถไป
ท าการทดสอบเพื่อน าผลมาใช้ในการรับรองแบบ ประกอบกับทิศทางการพัฒนาข้อก าหนดทางเทคนิค
ด้านความปลอดภัยในระดับสากล มีแนวโน้มที่จะยอมรับการใช้ข้อก าหนดทางเทคนิคเดิมกับรถ
รุ่นปัจจุบัน (Existing Model) ที่มีอยู่ก่อนการออกข้อก าหนดทางเทคนิคดังกล่าว ดังนั้น เพื่อให้
การปฏิบัติเกี่ยวกับการรับรองแบบการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์
สมควรผ่อนคลายมาตรการ ตามประกาศดังกล่าวส าหรับรถยนต์ที่ผลิตไว้ก่อนวันที่ประกาศดังกล่าว
มีผลใช้บังคับ อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๑๑ และข้อ ๑๒ แห่งกฎกระทรวงก าหนดส่วนควบ
และเครื่องอุปกรณ์ส าหรับรถ พ.ศ. ๒๕๕๑ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒๑ ของประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ก าหนดคุณสมบัติ
คุณลักษณะ และการติดตั้งเข็มขัดนิรภัย และก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองแบบ
การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๒๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับกับผู้ผลิตรถยนต์นั่ง (M๑) และรถบรรทุก (N๑) แบบใหม่ที่ผลิต
ประกอบ น าเข้าตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖4
จิรุตม์ วิศาลจิตร
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
้หนา ๒๙
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๖๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๕
|
test
| 895
|
382.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/382.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย
เรื่อง ก้าหนดอัตราค่าบ้ารุงสถาบันชาวไร่อ้อยฤดูการผลิตปี ๒๕๖๒/๒๕๖๓
อาศัยอ้านาจตามความในมาตรา ๑๗ (๒๔) ประกอบกับมาตรา ๑๗ วรรคสามแห่งพระราชบัญญัติ
อ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗ คณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทรายโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี
จึงออกประกาศก้าหนดอัตราค่าบ้ารุงสถาบันชาวไร่อ้อยฤดูการผลิตปี ๒๕๖๒/๒๕๖๓ ไว้ดังต่อไปนี
ล้าดับที่ โรงงานน ้าตาล
อัตราค่าบ้ารุงสถาบัน
ชาวไร่อ้อย
(บาท/ตันอ้อย)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
บริษัท น ้าตาลทิพย์ก้าแพงเพชร จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลทิพย์สุโขทัย จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลไทยเอกลักษณ์ จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลทรายก้าแพงเพชร จ้ากัด
บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จ้ากัด (มหาชน)
รวมผล
บริษัท น ้าตาลนครเพชร จ้ากัด
บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จ้ากัด (มหาชน)
บริษัท น ้าตาลพิษณุโลก จ้ากัด
บริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จ้ากัด
บริษัท ไทยอุตสาหกรรมน ้าตาล จ้ากัด (บึงสามพัน)
บริษัท อุตสาหกรรมน ้าตาลสุพรรณบุรี จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลสิงห์บุรี จ้ากัด
บริษัท อุตสาหกรรมน ้าตาล ที.เอ็น.จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลสระบุรี จ้ากัด
บริษัท อุตสาหกรรมน ้าตาลปราณบุรี จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลราชบุรี จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลบ้านโป่ง จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลมิตรผล จ้ากัด
2
3
3
2
3
2
3
3
3
2.66
3
3
3
3
4
2
2
2
19
20
21
22
23
บริษัท อุตสาหกรรมมิตรเกษตร จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลไทยกาญจนบุรี จ้ากัด
บริษัท อุตสาหกรรมน ้าตาลบ้านไร่ จ้ากัด
บริษัท โรงงานน ้าตาลนิวกรุงไทย จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลท่ามะกา จ้ากัด
2
2
2
2
2
้หนา ๖๓
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๗๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๓
ล้าดับที่ โรงงานน ้าตาล
อัตราค่าบ้ารุงสถาบัน
ชาวไร่อ้อย
(บาท/ตันอ้อย)
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
บริษัท ประจวบอุตสาหกรรม จ้ากัด
บริษัท ไทยเพิ่มพูนอุตสาหกรรม จ้ากัด
บริษัท ไทยอุตสาหกรรมน ้าตาล จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลรีไฟน์ชัยมงคล จ้ากัด
บริษัท มิตรเกษตร อุทัยธานี จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลสระบุรี จ้ากัด (สระโบสถ์)
บริษัท น ้าตาลราชบุรี จ้ากัด (กาญจนบุรี)
บริษัท สหการน ้าตาลชลบุรี จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลนิวกว้างสุ้นหลี จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลและอ้อยตะวันออก จ้ากัด (มหาชน)
บริษัท น ้าตาลระยอง จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลและอ้อยตะวันออก จ้ากัด (มหาชน) (วังสมบูรณ์)
บริษัท อุตสาหกรรมน ้าตาลอีสาน จ้ากัด
บริษัท รวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จ้ากัด
บริษัท โรงงานน ้าตาลทรายขาวเริ่มอุดม จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลกุมภวาปี จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลขอนแก่น จ้ากัด (มหาชน)
บริษัท น ้าตาลเกษตรผล จ้ากัด
บริษัท โรงงานน ้าตาลบุรีรัมย์ จ้ากัด
บริษัท สหเรือง จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลมิตรกาฬสินธุ์ จ้ากัด
บริษัท รวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จ้ากัด
บริษัท อุตสาหกรรมโคราช จ้ากัด
บริษัท อุตสาหกรรมอ่างเวียน จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลครบุรี จ้ากัด (มหาชน)
บริษัท น ้าตาลสุรินทร์ จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลวังขนาย จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลเอราวัณ จ้ากัด
บริษัท น ้าตาลไทยอุดรธานี จ้ากัด
บริษัท รวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จ้ากัด (มิตรภูหลวง)
บริษัท น ้าตาลขอนแก่น จ้ากัด (มหาชน) (สาขาวังสะพุง)
2
2
2
2
2
3
2
3
๒.66
3
3
2.66
3
3
3
2.50
2.50
2.50
3
3
3
3
3
3
3
3
3
3
3
3
3
้หนา ๖๔
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๗๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๓
ล้าดับที่ โรงงานน ้าตาล
อัตราค่าบ้ารุงสถาบัน
ชาวไร่อ้อย
(บาท/ตันอ้อย)
55
56
57
บริษัท น ้าตาลระยอง จ้ากัด
บริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จ้ากัด (สกลนคร)
บริษัท น ้าตาลมิตรกาฬสินธุ์ จ้ากัด (สาขาอ้านาจเจริญ)
3
๒.66
๒.66
ทั งนี ตั งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖3
กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ประธานกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย
้หนา ๖๕
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๗๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๓
|
test
| 896
|
1380.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1380.pdf
|
ประกาศกรมการขนส่งทางบก
เรื่อง การมอบหมายหน่วยงานท าการฝึกอบรมบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง
พ.ศ. 2565
โดยที่ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ก าหนดคุณสมบัติ หลักสูตร ระยะเวลาการฝึกอบรม
และหน้าที่ของบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. ๒๕๖๔ ก าหนดให้ผู้ที่จะได้รับ
การขึ้นทะเบียนเป็นบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งต้องเข้ารับการฝึกอบรมและทดสอบ
ตามที่กรมการขนส่งทางบกก าหนด โดยการฝึกอบรมในกรณีดังกล่าว กรมการขนส่งทางบก
จะด าเนินการเองหรือมอบหมายให้หน่วยงานอื่นด าเนินการแทนก็ได้ ดังนั้น เพื่อให้การขึ้นทะเบียน
เป็นบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งเป็นไปด้วยความเหมาะสม เรียบร้อย อาศัยอ านาจ
ตามความในข้อ 4 ของประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ก าหนดคุณสม บัติ หลักสูตร
ระยะเวลาการฝึกอบรม และหน้าที่ของบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. ๒๕๖๔
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้
“หน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย” หมายความว่า หน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกมอบหมายให้
ท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบกส าหรับการขึ้นทะเบียนเป็นบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัย
ในการขนส่ง
“หลักฐานการผ่านการฝึกอบรม ” หมายความว่า หลักฐานที่แสดงว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรม
จากหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายได้ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่กรมการขนส่งทางบกก าหนดเพื่อน าไปใช้
ในการขอเข้ารับการทดสอบเพื่อขอขึ้นทะเบียนหรือขอต่ออายุการขึ้นทะเบียนเป็นบุคลากรจัดการ
ด้านความปลอดภัยในการขนส่งกับกรมการขนส่งทางบก โดยบันทึกผ่านระบบงานที่กรมการขนส่งทางบก
ก าหนด
“การฝึกอบรม ” หมายความว่า การฝึกอบรมภาคทฤษฎีเพื่อน าไปใช้ในการขอเข้ารับ
การทดสอบเพื่อขอขึ้นทะเบียนหรือขอต่ออายุการขึ้นทะเบียนเป็นบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัย
ในการขนส่ง
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการพิจารณาการมอบหมายหน่วยงานให้ท าการ
ฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบกส าหรับการขึ้นทะเบี ยนเป็นบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัย
ในการขนส่ง
หมวด ๑
หลักเกณฑ์การพิจารณาหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย
้หนา ๒๒
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๖๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
ข้อ 2 หน่วยงานที่ประสงค์จะเป็นผู้ท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบก ต้องมีคุณสมบัติ
ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมาย
(๒) มีความพร้อมในการจัดการฝึกอบรม โดยต้องมีองค์ประกอบ วิทยากร และอัตราค่าใช้จ่าย
ในการฝึกอบรมเป็นไปตามข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5
(๓) มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 5 ปี
ข้อ 3 หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายต้องมีความพร้อมในการจัดการฝึกอบรม โดยมีองค์ประกอบ
อย่างน้อย ดังต่อไปนี้
(1) อาคารสถานที่ฝึกอบรมภาคทฤษฎี ซึ่งมีสภาพเหมาะสมแก่การจัดฝึกอบรม ประกอบด้วย
อาคารส านักงาน ห้องสุขา พื้นที่จอดรถ ห้องฝึกอบรมภาคทฤษฎีที่มีแสงสว่างและการระบายอากาศที่ดี
ไม่เป็นอุปสรรคต่อการฝึกอบรม
(2) อุปกรณ์ ส าหรับควบคุมก ากับดูแลการฝึกอบรม เพื่อให้สามารถด าเนินการฝึกอบรม
ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(ก) เครื่องอ่านข้อมูลบัตรประจ าตัวประชาชนที่สามารถใช้งานกับระบบงานที่กรมการขนส่ง
ทางบกก าหนดได้
(ข) เครื่องสแกนลายนิ้วมือที่สามารถใช้งานกับระบบงานที่กรมการขนส่งทางบกก าหนดได้
(ค) กล้องวงจรปิดในห้องฝึกอบรมภาคทฤษฎีที่สามารถมองเห็นได้อย่างทั่วถึง และสามารถ
เก็บข้อมูลไว้ส าหรับการตรวจสอบได้อย่างน้อย ๑ ปี
(3) เอกสารพร้อมสื่อประกอบส าหรับการฝึกอบรม
ข้อ 4 หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายต้องมีวิทยากรในการฝึกอบรมประจ าส าหรับการฝึกอบรม
ของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย
วิทยากรตามวรรคหนึ่งต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบก
ข้อ 5 หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายต้องสามารถจัดเก็บค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมในอัตรา
ที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบ
หมวด ๒
วิทยากรในการฝึกอบรม
ข้อ 6 ผู้ที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) มีสัญชาติไทย
(2) เป็นผู้มีคุณสมบัติข้อหนึ่งข้อใด ดังต่อไปนี้
(ก) เป็นผู้ส าเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ขึ้นไป และมีประสบการณ์ในด้านการบริหาร
จัดการด้านการขนส่งทางถนนหรือด้านความปลอดภัยในการท างานไม่น้อยกว่า 3 ปี
้หนา ๒๓
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๖๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
(ข) เป็นผู้มีประสบการณ์ในด้านการบริหารจัดการด้านการขนส่งทางถนนหรือ
ด้านความปลอดภัยในการท างานไม่น้อยกว่า 5 ปี
(ค) เป็นผู้มีประสบการณ์ในการสอนหรือการฝึกอบรมในด้านการบริหารจัดการด้านการขนส่ง
ทางถนนหรือด้านความปลอดภัยในการท างานไม่น้อยกว่า 3 ปี
(3) เป็นผู้ผ่านการทดสอบความรู้เกี่ยวกับการฝึกอบรมการเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมบุคลากร
จัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งจากกรมการขนส่งทางบก โดยต้องได้คะแนนในการทดสอบตามที่
กรมการขนส่งทางบกก าหนดไม่น้อยกว่าร้อยละ 9๐
(4) เป็นผู้ผ่านการทดสอบการประเมินความสามารถในการถ่ายทอดความรู้จากกรมการขนส่งทางบก
ข้อ 7 ผู้ที่ประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นวิทยากรในการ ฝึกอบรม ให้ยื่นความประสงค์
ณ ส านักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ส านักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่
1, 2, 3, 4 หรือส านักงานขนส่งจังหวัด พร้อมด้วยเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(๑) บัตรประจ าตัวประชาชน
(๒) รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว จ านวน 1 รูป ซึ่งถ่ายก่อนวันที่ยื่นขอขึ้นทะเบียนไม่เกิน 6 เดือน
(๓) เอกสารหลักฐานการเป็นผู้มีคุณสมบัติตามข้อ 6 (2) แล้วแต่กรณี
ข้อ 8 เมื่อกรมการขนส่งทางบกเห็นว่าผู้ยื่นความประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นวิทยากรในการ
ฝึกอบรมเป็นผู้มีคุณสมบัติและมีเอกสารหลักฐานครบถ้วน ถูกต้องตามที่ก าหนดในข้อ 6 และข้อ 7
ให้กรมการขนส่งทางบกขึ้นทะเบียนการเป็นวิทยากรให้กับบุคคลนั้น
การขึ้นทะเบียนเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมให้มีอายุ ๓ ปีนับแต่วันขึ้นทะเบียน
ข้อ 9 วิทยากรในการฝึกอบรมที่ประสงค์จะขอต่ออายุการขึ้นทะเบียน ให้ยื่นความประสงค์
ณ ส านักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ส านักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่
1, 2, 3, 4 หรือส านักงานขนส่งจังหวัด ก่อนวันสิ้นอายุการขึ้นทะเบียนไม่น้อยกว่า 90 วัน โดยต้อง
ผ่านการทดสอบความรู้เกี่ยวกับการฝึกอบรมการเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมบุคลากรจัดการ
ด้านความปลอดภัยในการขนส่งจากกรมการขนส่งทางบก และต้องได้คะแนนในการทดสอบตามที่
กรมการขนส่งทางบกก าหนดไม่น้อยกว่าร้อยละ 9๐
ข้อ 10 การต่ออายุการขึ้นทะเบียนเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมให้มีอายุ ๓ ปีนับแต่วันสิ้นอายุ
ข้อ ๑1 วิทยากรในการฝึกอบรมผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อก าหนดดังต่อไปนี้ กรมการขนส่งทางบก
จะพิจารณายกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นวิทยากร
(๑) ด าเนินการฝึกอบรมในหน่วยงานที่ตนมิได้สังกัด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก
(๒) ท าการฝึกอบรมไม่ตรงตามหลักสูตรที่กรมการขนส่งทางบกก าหนด
(3) ไม่ท าการฝึกอบรมด้วยตนเอง
(4) ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมการขนส่งทางบก
้หนา ๒๔
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๖๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
วิทยากรผู้ถูกยกเลิกการขึ้นทะเบียนตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นวิทยากร
ภายใน ๓ ปีนับแต่วันที่ถูกยกเลิกการขึ้นทะเบียน
ข้อ ๑2 ในกรณีวิทยากรในการฝึกอบรมที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกลาออก
จากหน่วยงานที่ตนสังกัด ให้วิทยากรผู้ลาออกแจ้งกรมการขนส่งทางบกทราบภายใน ๑๕ วัน
นับแต่วันที่ลาออก
หมวด ๓
คณะกรรมการพิจารณาการมอบหมายหน่วยงานให้ท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบก
ส าหรับการขึ้นทะเบียนเป็นบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง
ข้อ ๑3 ให้มีคณะกรรมการพิจารณาการมอบหมายหน่วยงานให้ท าการฝึกอบรมแทน
กรมการขนส่งทางบกส าหรับการขึ้นทะเบียนเป็นบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งคณะหนึ่ง
ประกอบด้วย ผู้อ านวยการส านักสวัสดิภาพการขนส่งทางบกเป็นประธาน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ
ด้านความปลอดภัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการขนส่งผู้โดยสาร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการขนส่งสินค้า
หัวหน้ากลุ่มกฎหมายและระเบียบ 2 เป็นกรรมการ โ ดยมีหัวหน้ากลุ่มส่งเสริมความปลอดภัย
เป็นกรรมการและเลขานุการ และนักวิชาการขนส่งระดับปฏิบัติการขึ้นไปในส านักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก
เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ข้อ ๑๔ ให้คณะกรรมการมีอ านาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พิจารณาการมอบหมายหน่วยงานให้ท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบกตามหลักเกณฑ์
ที่ก าหนดไว้ในหมวด ๑
(๒) น าเสนอหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการให้กรมการขนส่งทางบกออกประกาศ
มอบหมายหน่วยงานให้ท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบก
หมวด ๔
กระบวนการมอบหมายหน่วยงาน
ข้อ ๑๕ กรมการขนส่งทางบกจะออกประกาศเชิญชวนหน่วยงานให้ยื่นความประสงค์เป็นผู้ท า
การฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบก ตามวันเวลาที่กรมการขนส่งทางบกประกาศก าหนด
ข้อ ๑๖ หน่วยงานที่ประสงค์จะเป็นผู้ท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบก ให้ยื่น
ความประสงค์ขอเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ณ ส านักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก
ส านักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 , 2, 3, 4 หรือส านักงานขนส่งจังหวัด พร้อมด้วยเอกสาร
หลักฐาน ดังต่อไปนี้
้หนา ๒๕
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๖๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
(๑) หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล พร้อมด้ วยภาพถ่ายบัตรประจ าตัวประชาชน
ของผู้มีอ านาจลงนาม ในกรณีผู้มีอ านาจลงนามเป็นคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ให้ยื่นภาพถ่ายใบส าคัญประจ าตัวคนต่างด้าว พร้อมทั้งหลักฐานแสดงที่พักอาศัยในราชอาณาจักร
ที่ทางราชการหรือหน่วยงานรัฐบาลต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศออกให้
(๒) รายละเอียดข้อมูลที่ตั้งของอาคารสถานที่ฝึกอบรม พร้อมแผนที่ และภาพถ่ายอาคาร
สถานที่ฝึกอบรม
(๓) เอกสารแสดงสิทธิการใช้อาคารสถานที่ฝึกอบรม
(๔) เอกสารหลักฐานแสดงประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 5 ปี
(๕) รายชื่อของวิทยากรในการฝึกอบรมประจ าส าหรับการฝึกอบรมของหน่วยงาน
(๖) หนังสือยินยอมของวิทยากรในการประจ าหน่วยงานของตน
(7) รายละเอียดอุปกรณ์ส าหรับควบคุมก ากับดูแลการฝึกอบรม
(8) เอกสารพร้อมสื่อประกอบส าหรับการฝึกอบรม
(9) รายละเอียดเกี่ยวกับอัตราค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม
ข้อ ๑๗ เมื่อส านักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก เห็นว่าผู้ยื่นความประสงค์
จะเป็นผู้ท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบกมีคุณสมบัติและมีเอกสารหลักฐานครบถ้วนถูกต้อง
ตามที่ก าหนดในข้อ ๒ และข้อ ๑๖ ให้น าเสนอคณะกรรมการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดไว้
ในหมวด ๑ ในกรณีที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ กรมการขนส่งทางบกจะออกประกาศ
มอบหมายหน่วยงานท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบก
การมอบหมายหน่วยงานท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบกให้มีอายุ ๓ ปีนับแต่
วันออกประกาศมอบหมาย
หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายมีสิทธิออกหลักฐานการผ่านการฝึกอบรมให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม
เพื่อใช้ในการขอเข้ารับการทดสอบเพื่อขอขึ้นท ะเบียนหรือขอต่ออายุการขึ้นทะเบียนเป็นบุคลากรจัดการ
ด้านความปลอดภัยในการขนส่งกับกรมการขนส่งทางบก
หมวด ๕
การต่ออายุการมอบหมายหน่วยงาน
ข้อ ๑๘ หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายที่ประสงค์จะขอต่ออายุการมอบหมาย ให้ยื่นความประสงค์
ณ ส านักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรม การขนส่งทางบก ส านักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่
1, 2, 3, 4 หรือส านักงานขนส่งจังหวัด ก่อนวันสิ้นอายุประกาศมอบหมายไม่น้อยกว่า 9 ๐ วัน
พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานตามที่ก าหนดในข้อ ๑๖
้หนา ๒๖
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๖๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
ข้อ ๑๙ เมื่อส านักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ได้รับเอกสารหลักฐาน
ตามข้อ ๑๖ ครบถ้วนถูกต้องแล้ว ให้ด าเนินการตรวจสอบการจัดการฝึกอบรมของหน่วยงานที่ได้รับ
มอบหมายและประวัติการด าเนินการ โดยกรมการขนส่งทางบกจะออกประกาศต่ออายุการมอบหมาย
หน่วยงานได้ก็ต่อเมื่อ
(๑) เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ในหมวด ๑
(๒) ไม่มีการฝ่าฝืนข้อปฏิบัติตามที่ก าหนดไว้ในหมวด ๘ หรืออยู่ระหว่างถูกระงับการฝึกอบรม
เป็นการชั่วคราว เว้นแต่ได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องหรือพ้นก าหนดการถูกสั่งระงับการฝึกอบรมเป็นการ
ชั่วคราวแล้ว
ข้อ ๒๐ การต่ออายุการมอบหมายหน่วยงานท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบก
กรมการขนส่งทางบกจะออกประกาศต่ออายุการมอบหมายหน่วยงานท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบก
โดยให้มีอายุ ๓ ปี นับแต่วันสิ้นอายุ
หมวด ๖
การขอเลิกเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ ๒๑ หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายที่ประสงค์จะขอเลิกด าเนินการฝึกอบรมแทน
กรมการขนส่งทางบก ให้แจ้งความประสงค์ ณ ส านักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก
ไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ก่อนวันเลิกด าเนินการ
ให้ส านักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบก ากับดูแลการเลิกด าเนินการ
ของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย และสั่งการตามที่เห็นสมควรเพื่อไม่ ให้เกิดผลกระทบกับผู้เข้ารับ
การฝึกอบรม
หมวด ๗
การสิ้นสุดของการมอบหมายหน่วยงาน
ข้อ ๒๒ การมอบหมายหน่วยงานท าการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบกสิ้นสุดลงในกรณี
ดังต่อไปนี้
(๑) หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคล
(๒) หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายแจ้งเลิกด าเนินการและกรมการขนส่งทางบกให้เลิกด าเนินการ
(๓) กรมการขนส่งทางบกยกเลิกการมอบหมายหน่วยงาน
(๔) หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายไม่ได้รับการต่ออายุ
้หนา ๒๗
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๖๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
หมวด ๘
ข้อปฏิบัติของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ ๒๓ หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายต้องปฏิบัติ ดังนี้
(๑) จัดให้มีการฝึกอบรมตามที่ได้รับมอบหมายจากกรมการขนส่งทางบก
(๒) ใช้ระบบงานที่กรมการขนส่งทางบกก าหนดในทุกกระบวนการด าเนินงาน
(3) การจัดเก็บ การบันทึก หรือการน าไปใช้ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการด าเนินการฝึกอบรม
หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายต้องใช้ข้อมูลนั้นเพื่อประโยชน์ในการจัดการฝึกอบรมแทนกรมการขนส่งทางบก
เท่านั้นและต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(4) จัดให้มีวิทยากรที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบก ท าหน้าที่ฝึกอบรมภาคทฤษฎี
ตามที่ได้รับมอบหมายจากกรมการขนส่งทางบก
(5) ควบคุม ก ากับ ดูแล ให้วิทยากรฝึกอบรมตามที่ได้รับมอบหมายจากกรมการขนส่งทางบก
(6) สอดส่อง ดูแลวิทยากรมิให้กระท าการในลักษณะไม่สมควร หรือไม่เหมาะสมกับผู้เข้ารับ
การฝึกอบรมในขณะปฏิบัติหน้าที่
(7) ดูแลและปรับปรุงอาคารสถานที่และอุปกรณ์ในการฝึกอบรมให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้
การได้ดีอยู่เสมอ
(8) ไม่ใช้ถ้อยค าชวนเชื่อหรือโฆษณาอันมีลักษณะชักชวนหรือจูงใจจนเกินความเป็นจริง
(9) ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมการขนส่งทางบก
(10) อ านวยความสะดวกตามสมควรให้กับเจ้าหน้าที่ กรมการขนส่งทางบกในการเข้าตรวจสอบ
ก ากับ ติดตามการปฏิบัติงานภายในสถานที่ฝึกอบร ม หรือส่งมอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่จ าเป็นและ
เกี่ยวข้องกับการด าเนินการฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกตามที่ได้รับการร้องขอ
ข้อ ๒๔ ในกรณีที่หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายไม่สาม ารถจัดการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง
ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจนจบหลักสูตร หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการ
ฝึกอบรม (ถ้ามี) เพื่อจัดให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมนั้น เข้ารับการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องกับหน่วยงานอื่น
ที่ได้รับมอบหมายจากกรมการขนส่งทางบก โดยความยินยอมของผู้เข้ารับการฝึกอบรมภายใน ๑๕ วัน
นับแต่วันที่ไม่สามารถจัดการฝึกอบรมได้
ข้อ ๒๕ กรณีหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมวิทยากร ให้แจ้ง
กรมการขนส่งทางบกทราบภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
หมวด ๙
การตักเตือน การระงับการฝึกอบรม และการยกเลิกการมอบหมาย
้หนา ๒๘
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๖๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
ข้อ ๒๖ หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ ๒๓ (๒) (๓) (๗) (๘) (๙)
(๑๐) ข้อ ๒๔ และข้อ ๒๕ ให้กรมการขนส่งทางบกตักเตือน ในกรณีมีการตักเตือนครบ ๒ ครั้ง
ภายในระหว่างอายุการมอบหมาย ให้กรมการขนส่งทางบกระงับการฝึกอบรมเป็นการชั่วคราวไม่เกิน ๓ เดือน
และหากหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายกระท าการดังกล่าวซ้ าอีก ให้กรมการขนส่งทางบกยกเลิกการมอบหมาย
ข้อ ๒๗ หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ ๒๓ (๑) (๔) (๕) (๖)
ให้กรมการขนส่งทางบกระงับการฝึกอบรมเป็นการชั่วคราวไม่เกิน ๖ เดือน ในกรณีมีการระงับการฝึกอบรม
เป็นการชั่วคราว ครบ ๒ ครั้ง ภายในระหว่างอายุการมอบหมาย ให้กรมการขนส่งทางบกยกเลิก
การมอบหมาย
ข้อ ๒๘ หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจัดท าหลักฐานเกี่ยวกับการจัดการฝึกอบรมอันเป็นเท็จ
หรือกระท าความผิดร้ายแรงที่มีผลกระทบต่อชื่อเสียงหรือภาพพจน์และก่อให้เกิดความเสียหายแก่
กรมการขนส่งทางบก หรือสร้างความเสียหายแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ให้กรมการขนส่งทางบกยกเลิก
การมอบหมาย
ข้อ ๒๙ หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายหยุดด าเนินการฝึกอบรมเกินกว่า ๙๐ วัน โดยไม่แจ้ง
เลิกด าเนินการ ให้กรมการขนส่งทางบกยกเลิกการมอบหมาย
ข้อ ๓๐ หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจัดให้มีการฝึกอบรมในระหว่างถูกระงับการฝึกอบรม
เป็นการชั่วคราว ให้กรมการขนส่งทางบกยกเลิกการมอบหมาย
ข้อ ๓๑ หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจัดให้มีการฝึกอบรมในระหว่างที่สิ้นอายุการมอบหมาย
และมิได้อยู่ในระหว่างด าเนินการขอต่ออายุการมอบหมาย หรือถูกยกเลิกการมอบหมาย กรมการขนส่งทางบก
จะตัดสิทธิการขอเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายเป็น ระยะเวลา ๕ ปีนับแต่วันที่สิ้นอายุการมอบหมาย
หรือถูกยกเลิกการมอบหมาย แล้วแต่กรณี
ข้อ ๓๒ การตักเตือน การระงับการฝึกอบรม และการยกเลิกการมอบหมาย กรมการขนส่งทางบก
จะท าเป็นหนังสือแจ้งให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายทราบ
หมวด ๑๐
การบังคับใช้
ข้อ ๓๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖5
จิรุตม์ วิศาลจิตร
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
้หนา ๒๙
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๖๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
|
test
| 897
|
1291.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1291.pdf
|
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ การควบคุมคุณภาพและการจัดการ
สุขลักษณะของการจ าหน่ายอาหารประเภทปรุงส าเร็จ ในสถานที่จ าหน่ายอาหาร (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. ๒๕๖5
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ
การควบคุมคุณภาพและการจัดการสุขลักษณะของการจ าหน่ายอาหารประเภทปรุงส าเร็จที่เกี่ยวกับ
การน ากัญชา หรือกัญชง มาใช้เป็นส่วนประกอบในการท า ประกอบ หรือปรุงอาหารเพื่อการจ าหน่าย
ให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคจากการบริโภคอาหารจากสถานที่จ าหน่ายอาหารประเภท
ปรุงส าเร็จ
อาศัยอ านาจตามความในข้อ 11 (2) แห่งกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จ าหน่ายอาหาร
พ.ศ. 2561 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยค าแนะน าของคณะกรรมการสาธารณสุข
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ
การควบคุมคุณภาพและการจัดการสุขลักษณะของการจ าหน่ายอาหารประเภทปรุงส าเร็จ ในสถานที่
จ าหน่ายอาหาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ 6/1 แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์
วิธีการ การควบคุมคุณภาพและการจัดการสุขลักษณะของการจ าหน่ายอาหารประเภทปรุงส าเร็จ
ในสถานที่จ าหน่ายอาหาร พ.ศ. 2565
“ข้อ 6/1 อาหารประเภทปรุงส าเร็จ ตามข้อ 5 และข้อ 6 ที่มีการน ากัญชา หรือกัญชง
มาใช้เป็นส่วนประกอบในการท า ประกอบ หรือปรุงอาหาร ให้ด าเนินการเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
(1) แสดงข้อความหรือป้ายสัญลักษณ์ว่าเป็นสถานที่จ าหน่ายอาหาร ที่มีการใช้กัญชา หรือกัญชง
เป็นส่วนประกอบในอาหารประเภทปรุงส าเร็จ
(2) แสดงรายการอาหารที่มีการใช้กัญชา หรือกัญชง เป็นส่วนประกอบในอาหารประเภท
ปรุงส าเร็จ ทั้งหมด
(3) แสดงข้อแนะน าความปลอดภัยในการบริโภคอาหารที่มีกัญชา หรือกัญชง เป็นส่วนประกอบ
โดยแสดงข้อความ ดังต่อไปนี้
(ก) บุคคลที่มีอายุต่ ากว่ายี่สิบปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ควรงดเว้นรับประทาน
(ข) ถ้ามีอาการผิดปกติ ควรหยุดรับประทานทันที และถ้ามีอาการรุนแรงให้ปรึกษาหรือ
พบแพทย์โดยเร็ว
(ค) ผู้ที่แพ้กัญชา หรือกัญชง ควรงดเว้นรับประทาน
้หนา ๖
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๙๘ งราชกิจจานุเบกษา ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕
(ง) รับประทานแล้วเกิดอาการง่วง ซึม ให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือท างาน
เกี่ยวกับเครื่องจักรกล
(จ) ข้อความอื่นที่กฎหมาย หรือทางราชการก าหนด”
ประกาศ ณ วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖5
สาธิต ปิตุเตชะ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
้หนา ๗
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๙๘ งราชกิจจานุเบกษา ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕
|
test
| 898
|
539.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/539.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
ฉบับที่ 45 พ.ศ. 2563
เรื่อง การแจ้งราคา ปริมาณ สถานที่เก็บ และรายละเอียดเกี่ยวกับปุ๋ยเคมี
ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการกลาง
ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 53 พ.ศ. 2562 เรื่อง การก าหนดสินค้าและบริการควบคุม
ลงวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕62 จึงท าให้ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
ฉบับที่ 76 พ.ศ. 2562 เรื่อง การแจ้งราคา ปริมาณ สถานที่เก็บ และรายละเอียดเกี่ยวกับปุ๋ยเคมี
ลงวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕62 สิ้นผลใช้บังคับ ประกอบกับคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า
และบริการ ได้พิจารณาทบทวนการใช้อ านาจก าหนดมาตรการดังกล่าวแล้ว เห็นควรคงมาตรการ
ให้ผู้ประกอบธุรกิจแจ้งราคา ปริมาณ สถานที่เก็บ และรายละเอียดเกี่ยวกับปุ๋ยเคมีต่อไป เพื่อให้ราคา
เป็นธรรมและเหมาะสมกับคุณภาพ มาตรฐาน และมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการในราคา
ที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะเกษตรกร
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๙ (๒) (๓) มาตรา ๒๕ (3) (4) (5) และมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า
และบริการ จึงออกประกาศ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาหนึ่งปี
ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป เว้นแต่จะมีการออกประกาศใหม่
ข้อ 2 ในประกาศนี้
“ปุ๋ยเคมี” ไม่หมายความรวมถึงปุ๋ยชนิดน้ า
หมวด 1
การแจ้งราคา และรายละเอียดเกี่ยวกับปุ๋ยเคมี
ข้อ 3 ให้ผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้น าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจ าหน่าย ซึ่งปุ๋ยเคมี แจ้งชื่อ
ชื่อทางการค้า ปริมาณธาตุอาหารรับรองหรือสูตร ต้นทุน ราคาจ าหน่าย มาตรฐาน ขนาด ปริมาณ
น้ าหนักต่อหน่วยของปุ๋ยเคมีที่เป็นอยู่ในวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ โดยให้แจ้งภายในสามสิบวันตั้งแต่
วันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ
ให้ผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้น าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจ าหน่ายซึ่งปุ๋ยเคมีที่ด าเนินกิจการ
ภายหลังวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ หรือกรณีที่มีการผลิตหรือน าเข้าปุ๋ยเคมีสูตรใหม่เพื่อจ าหน่าย
ภายหลังวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ แจ้งข้อมูลตามวรรคหนึ่งล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
ก่อนน าสินค้าออกจ าหน่าย
้หนา ๑๖๓
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๑๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ กันยายน ๒๕๖๓
กรณีผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้น าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจ าหน่ายซึ่งปุ๋ยเคมี ได้แจ้งข้อมูล
ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 76 พ.ศ. 2562 เรื่อง
การแจ้งราคา ปริมาณ สถานที่เก็บ และรายละเอียดเกี่ยวกับปุ๋ยเคมี ลงวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕62 แล้ว
ให้ถือเป็นการแจ้งข้อมูลตามวรรคหนึ่งแห่งประกาศฉบับนี้
ข้อ 4 ห้ามผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้น าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจ าหน่าย จ าหน่ายปุ๋ยเคมี
ในลักษณะที่แตกต่างไปจากรายการตามที่ได้แจ้งไว้ หรือจ าหน่ายในราคาที่สูงกว่าที่แจ้งไว้ตามข้อ 3
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเลขาธิการ
การขออนุญาตและการอนุญาตตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการกลางว่าด้วย
ราคาสินค้าและบริการว่าด้วยการก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการพิจารณาการตั้งราคา
และการเปลี่ยนแปลงรายการหรือราคาที่แจ้งไว้ พ.ศ. ๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
กรณีผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้น าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจ าหน่ายได้ยื่นขออนุญาต
เปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือราคาแตกต่างไปจากที่ได้แจ้งไว้แล้วตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วย
ราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 76 พ.ศ. 2562 เรื่อง การแจ้งราคา ปริมาณ สถานที่เก็บ
และรายละเอียดเกี่ยวกับปุ๋ยเคมี ลงวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕62 ให้ถือว่าเป็นการยื่นขออนุญาต
ตามวรรคหนึ่งและวรรคสองของประกาศฉบับนี้ นับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ
หมวด 2
การแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และรายละเอียดเกี่ยวกับปุ๋ยเคมี
ข้อ 5 ให้ผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้น าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจ าหน่าย และผู้จ าหน่าย
ที่มีปริมาณการจ าหน่ายปุ๋ยเคมีเดือนละตั้งแต่หนึ่งร้อยเมตริกตันขึ้นไป แจ้งชื่อ ชื่อทางการค้า ปริมาณ
ธาตุอาหารรับรองหรือสูตร ปริมาณการซื้อ ปริมาณการผลิต ปริมาณการว่าจ้างผลิต ปริมาณการน าเข้า
ปริมาณการจ าหน่าย ปริมาณคงเหลือ และสถานที่เก็บปุ๋ยเคมี ณ วันสิ้นเดือนเป็นประจ าทุกเดือน
ภายในวันที่สิบของเดือนถัดไป โดยให้เริ่มแจ้งข้อมูลของเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป
กรณีผู้จ าหน่ายที่ได้แจ้งข้อมูลตามวรรคหนึ่งแล้ว ต้องด าเนินการแจ้ งข้อมูลดังกล่าวต่อไป
ไม่ว่าจะครอบครองเกินปริมาณที่ก าหนดหรือไม่ก็ตาม
หมวด 3
วิธีการแจ้ง
ข้อ 6 การแจ้งตามข้อ 3 หรือข้อ 5 หรือการขออนุญาตตามข้อ 4 ให้ยื่นต่อเลขาธิการ
ตามแบบที่เลขาธิการก าหนด ณ ส านักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
้หนา ๑๖๔
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๑๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ กันยายน ๒๕๖๓
การแจ้งตามวรรคหนึ่ง จะแจ้งโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ทางโทรสาร ทางจดหมาย
อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) หรือทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ โดยให้ถือวันที่ได้ประทับตราประจ าวัน
ณ ที่ท าการไปรษณีย์ต้นทางเป็นวันแจ้ง ในกรณีที่แจ้งทางโทรสารให้ถือวันที่ได้รับโทรสารเป็นวันแสดง
เจตนาในการแจ้ง ในกรณีที่แจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ให้ถือวันที่ได้รับจดหมาย
อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) เป็นวันแสดงเจตนาในการแจ้ง ในกรณีการแจ้งทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ให้ถือวันที่ข้อมูลอิเล็ กทรอนิกส์ได้เข้าสู่ระบบข้อมูลของส านักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า
และบริการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นวันแจ้ง
การแจ้งทางโทรสารหรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ตามวรรคสอง จะสมบูรณ์
ก็ต่อเมื่อผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้น าเข้ามาในราชอาณ าจักรเพื่อจ าหน่าย ผู้จ าหน่าย ได้ส่งต้นฉบับ
ให้เลขาธิการแล้ว
ให้ผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้น าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจ าหน่าย ผู้จ าหน่าย ที่ประสงค์จะแจ้ง
ทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ลงนามในบันทึกแสดงความตกลงในการแจ้งทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เลขาธิการก าหนด
ข้อ 7 เมื่อผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้น าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจ าหน่าย ผู้จ าหน่าย
ร้องขอต่อเลขาธิการเพื่อขยายระยะเวลาตามที่ก าหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อเลขาธิการ
เห็นสมควร เลขาธิการอาจมีค าสั่งขยายระยะเวลาตามที่ก าหนดไว้ก่อนสิ้นระยะเวลานั้นได้ แต่การขยาย
ระยะเวลาเช่นว่านี้ให้พึงท าได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษหรือมีเหตุจ าเป็น และผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต
ผู้น าเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจ าหน่าย ผู้จ าหน่าย มีค าร้องขอหรือเลขาธิการได้มีค าสั่งก่อนสิ้นระยะเวลานั้น
เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย
ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖3
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
้หนา ๑๖๕
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๑๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ กันยายน ๒๕๖๓
|
test
| 899
|
924.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/924.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
ฉบับที่ 57 พ.ศ. 2564
เรื่อง การก าหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ และการแสดงราคารับซื้อ
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
โดยที่ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 18 พ.ศ. 2563
เรื่อง การก าหนด สินค้าและบริการควบคุม ลงวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕63 สิ้นผลใช้บังคับ
จึงท าให้ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 67 พ.ศ. 2563
เรื่อง การก าหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ และการแสดงราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลงวันที่
1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 สิ้นผลใช้บังคับ ประกอบกับคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า
และบริการ ได้พิจารณาทบทวนการใช้อ านาจก าหนดมาตรการดังกล่าวแล้ว เห็นควรคงมาตรการ
ให้ผู้ประกอบการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แสดงราคารับซื้อตามมาตรฐานความชื้น อัตราการหักลด
น้ าหนักตามความชื้นต่อไป โดยเพิ่มเงื่อนไขการรับซื้อมิให้ผู้ประกอบการที่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
คิดค่าชั่งน้ าหนัก เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในด้านราคา
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 9 (2) (5) มาตรา 25 (3) (4) และมาตรา 28
แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า
และบริการ จึงออกประกาศ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาหนึ่งปี
ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป เว้นแต่จะมีการออกประกาศใหม่
ข้อ 2 การก าหนดราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของผู้ประกอบการที่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ต้องระบุราคารับซื้อตามมาตรฐานความชื้นที่รับซื้อให้ชัดเจน โดยก าหนดความชื้นไม่เกินร้อยละ 14.5
และความชื้นร้อยละ 30
กรณีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่รับซื้อมีความชื้นสูงกว่าที่ก าห นดตามวรรคหนึ่ง ให้แสดงอัตราการหัก
ลดน้ าหนักความชื้นทุก 0.5 เปอร์เซ็นต์
ข้อ 3 การแสดงราคารับซื้อ และอัตราการหักลดน้ าหนักความชื้นตามข้อ 2 ให้แสดงไว้
ณ บริเวณหน้าสถานที่รับซื้อและจุดรับซื้อ โดยราคาและอัตราที่แสดงไว้นั้นต้องเป็นราคาและอัตราเดียวกัน
และให้แสดงราคาต่อหน่วยกิโลกรัม
การแสดงรายการตามวรรคหนึ่ง จะมีตัวเลขภาษาใดก็ได้ แต่ต้องมีตัวเลขอารบิคอยู่ด้วย
ขนาดความสูงไม่ต่ ากว่าสิบเซนติเมตร ในลักษณะที่ชัดเจนและเปิดเผย สามารถอ่านได้ง่าย ส าหรับ
ข้อความหรือรายการที่แสดงควบคู่ต้องเป็นภาษาไทย แต่จะมีภาษาอื่นด้วยก็ได้
้หนา ๓๐๒
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๒ งราชกิจจานุเบกษา ๓ ตุลาคม ๒๕๖๔
ข้อ 4 ในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผู้ประกอบการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต้องรับซื้อ
ในราคาไม่ต่ ากว่าราคาที่แสดงไว้ การหักลดน้ าหนักความชื้นต้องปฏิบัติให้ตรงกับรายการที่ได้แสดงไว้
ตามข้อ 3 และห้ามมิให้คิดค่าชั่งน้ าหนักข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่รับซื้อ
ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖4
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
้หนา ๓๐๓
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๒ งราชกิจจานุเบกษา ๓ ตุลาคม ๒๕๖๔
|
test
| 900
|
2044.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2044.pdf
|
'1>@01/P1@%อB!2@ห11/
N1APอ 0Nล>@1N1?02ํ@N%@ห%?2Aอ1?&1อ%>!>&Bคคล
พ.0. 2567
!@/Oอ 17 อคํ@2?Pห?/ห%O@ค>1?1@ค/@/2&OหN@!> #?P 21/2560 N1APอ @1OOR
Nพ>P/N!>/ห/@0NพAPออํ@%/0ค/@/2> /Q%@1'1>อ&$ B1> ล/?%#?P 4 N/1@0% พ.0. 2560
ํ@ห% QหON'็%ห%O@#?Pอห%N/0@%1@@1#?P>!Oอ ํ@N%>%@1QหOR O/@@POอ/Cลอห%N/0@%1@@1
ห1Aอ2ํ@N%@Nอ2@1# ?P#@1@@1ออQห OON'1>@%ห1 Aอ? #ํ@2ํ@N%@Nอ2@1 ?ลN@/P 0/ >QหO
N1?0คN@QON@0NพAPอ'1>อ&@1พ>@1@ห1Aอ ํ@N%>%@1!@/ห/@0 '1>อ&?&/!>ค>1?/%!1?
N/APอ/?%#?P ` !Bล@ค/ `_`_ NหO%อ&/@!1@1QหOห%N/0@%.@ค1?อํ@%/0ค/@/2> / Oล>ล .@1>
ON'1>@% (@1R/NN1?02ํ@N%@Nอ2@1# ?P#@1@@1ออQห O@'1>@% ) !@/#?P2ํ@%?@%
ค>11/@1พ?%@1>&&1@@1 (.พ.1.) N2%อ %?Q%
NพAPอQหO@1'>&?!>!@/ห/@0# ?Pอ0CNQ%อํ@%@ห%O@#?Pอ1/P1@%อ B!2@ห11/Q%2 N/%
#?Pํ@ห% QหO@1อ1?&อ%B/?!> อ%B@! ห1AอQ&อ%B@! ห1Aอ@1อ #>N& ?0% ห1Aอ@Q%#>N&?0%
ห1Aอ OO#?P'1>@%!Oอ0AP%2ํ@N%@ห%?2Aอ1?&1อ%>!>&Bคคล N'็%R'!@/คํ@2?Pห?/ห%O@ค>1?1@
ค/@/2&OหN@!> #?P 21/2560 Oล>/!>ค>1?/%!1? N/APอ/?%#?P ` !Bล@ค/ `_`_ ?ลN@/
O@!O% อ?%N'็%@1อํ@%/0ค/@/2> /Oล>ล .@1>อ'1>@% อ$>& ?1/P1@%อB!2@ห11/
@ออ'1>@0R/O ?!NอR'%?Q
Oอ _ QหO0Nล>@1N1?02ํ@N%@ห%?2Aอ1?&1อ%>!>&Bคคล Q%@1'>&?!>@1!@/ห/@0
#?Pอ0CNQ%อํ@%@ห%O@#?Pอ1/P1@%อ B!2@ห11/ 1//"@'1>@0 1>N&?0& คํ@2?P Oอ&?ค?&
Oอํ@ห% ห1AอO%/#@'>&?!>!N@ N อ1/P1@%อB!2@ห11/ #?Pํ@ห% QหO&BคคลQ N !OอQO
2ํ@N%@ห%?2Aอ1?&1อ%>!>&Bคคล
Oอ ` 1?ํ@N'็%!OอQO2ํ@N%@ห%?2Aอ1?&1อ%>!>&Bคคล QหONO@ห%O@#?Pอ1/P1@%
อB!2@ห11/ ํ@N%>%@1N1?0Oอ/Cล ?ลN@/!@/Nอ#@#?Pห%N/0@%.@ค1 ?? R/OQหO ห@/?Nห!B
#?PR/N2@/@1"N1?0Oอ/Cล!@/Nอ#@ ?ลN@/R O QหOQO/>$?'1>2@%?&ห%N/0@%(COออNอ2@1P 0!1
NพAPอQหOR O/@@POอ/Cล ?ลN@/ P 0R/NN1?0NO&คN@QON@0@'1>@%
หนา ๔๐
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๗
Oอ a Q%@1 ํ@N%>%@1!@/Oอ 1 ห@%>!>&Bคคล/อ&อํ@%@QหO&BคคลอAP% ํ@N%>%@1O#%
QหO1>&BNล#>N&?0%%>!>&Bคคลอ%>!>&Bคคล%?Q% Q%ห%?2Aอ/อ&อํ@%@QหO? N% Oล>O%&2ํ@N%@&?!1
'1>ํ@!?/'1>@%อ( CO/อ&อํ@%@พ1Oอ/ล%@/1?&1อ2ํ@N%@"C!Oอ P 0(CO/อ&อํ@%@!OอN'็%
(COO#%%>!>&Bคคล(CO/?อํ@%@ล%@/อ%>!>&Bคคล%?Q%
'1>@0 /?%#?P 11 1@ค/ พ.0. `_`7
Bลพ1์ #/?01?
อ$>& ?1/P1@%อB!2@ห11/
หนา ๔๑
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 901
|
84.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/84.pdf
|
แก้ไขข้อความคลาดเคลื่อน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ฉบับที่ ๓๙๔ (พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. ๒๕๒๒ เรื่อง อาหาร
ที่ต้องแสดงฉลากโภชนาการ และค่าพลังงาน น ้าตาล ไขมัน และโซเดียม แบบจีดีเอ
ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศและงานทั่วไป
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๖๔ ง วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๑
บัญชีแนบท้าย หน้าที่ ๑ ข้อ ๒.๓ บรรทัดที่ ๕ ค้าว่า “ค่าโซเดียมคิดเป็น
๒,๐๐๐ มิลลิกรัม ” ให้แก้เป็น “ค่าโซเดียมคิดเป็นร้อยละ
ของโซเดียม ๒,๐๐๐ มิลลิกรัม”
้หนา ๑๘
่เลม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๘๐ งราชกิจจานุเบกษา๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
|
test
| 902
|
1090.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1090.pdf
|
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
(ฉบับที่ 39)
เรื่อง ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม
ส าหรับการบริจาคเพื่อการสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรส าหรับอุตสาหกรรม 4.0
ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 737) พ.ศ. 2564
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 4 และมาตรา 8 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความ
ในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 737) พ.ศ. 2564 อธิบดีกรมสรรพากร
ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม ส าหรับ
การบริจาคทรัพย์สินให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลา กรส าหรับอุตสาหกรรม 4.0 ที่จัดตั้งโดย
สถานศึกษา ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลส าหรับการบริจาค
ทรัพย์สินให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรส าหรับอุตสาหกรรม 4.0 ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา
ที่ได้กระท าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ตามมาตรา 4
แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 737)
พ.ศ. 2564 ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังนี้
(1) ทรัพย์สินที่บริจาคต้องเป็นทรัพย์สินที่เป็นเครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ
หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครื่องจักรเพื่อระบบอัตโนมัติส าหรับอุตสาหกรรม 4.0
ที่ได้รับการรับรองจากส านักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(2) ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรส าหรับอุตสาหกรรม 4.0 ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา
ต้องได้รับการรับรองจากส านักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ข้อ 2 การค านวณมูลค่าของทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน
นิติบุคคลตามข้อ 1 ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังนี้
(1) กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซื้อทรัพย์สินมาเพื่อบริจาค ต้องมีหลักฐาน
การได้มาซึ่งทรัพย์สินที่ระบุจ านวนและมูลค่าของทรัพย์สินนั้น โดยให้ถือว่ามูลค่าตามหลักฐานดังกล่าว
เป็นมูลค่าของรายจ่ายที่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
(๒) กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลน าทรัพย์สินที่ได้บันทึกบัญชีทรัพย์สินของบริษัท
หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นมาบริจาค ให้ถือเอามูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือจากการค านวณหักค่าสึกหรอ
และค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินเป็นมูลค่าของรายจ่ายที่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
้หนา ๕๖
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔๘ งราชกิจจานุเบกษา ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
(3) กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลน าทรัพย์สินมาบริจาคไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน
ที่ผลิตเองหรือซื้อมาเพื่อขาย ให้ถือเอามูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินดังกล่าวที่มีเอกสารหลักฐานสามารถ
พิสูจน์ได้เป็นมูลค่าของรายจ่ายที่มีสิ ทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้แต่มูลค่าดังกล่าวต้องไม่เกินราคาสินค้า
คงเหลือยกมาตามมาตรา 65 ทวิ (6) แห่งประมวลรัษฎากร
(4) มูลค่าของทรัพย์สินหรือสินค้าที่ซื้อมาบริจาคนั้น จะต้องมีจ านวนไม่เกินราคาที่พึงซื้อได้
โดยปกติ ทั้งนี้ ตามมาตรา 65 ตรี (15) แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อ 3 การยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม ส าหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน
หรือการขายสินค้า อันเนื่องมาจากการบริจาคทรัพย์สินให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรส าหรับ
อุตสาหกรรม 4.0 ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษาตามมาตรา 8 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความ
ในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 737) พ.ศ. 2564 ผู้ใช้สิทธิยกเว้นภาษี
ดังกล่าวต้องมีหลักฐานดังต่อไปนี้เก็บไว้ ณ สถานประกอบการพร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมิน
ตรวจสอบได้
(1) หลักฐานการรับบริจาคที่ออกโดยศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรส าหรับอุตสาหกรรม 4.0
ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา ซึ่งได้ระบุมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค เช่น หนังสือขอบคุณ ใบประกาศเกียรติคุณ
(2) หลักฐานการรับรองทรัพย์สินที่บริจาคตามข้อ 1 (1)
(3) หลักฐานการรับรองศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรส าหรับอุตสาหกรรม 4.0
ตามข้อ 1 (2)
ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖5
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
อธิบดีกรมสรรพากร
้หนา ๕๗
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔๘ งราชกิจจานุเบกษา ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
|
test
| 903
|
2134.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2134.pdf
|
'1>@01>#1/2@$@12B
N1ANอ O@ห% ANอ '1>/@ Oล>NANอ%Rอ/?!"B#?Nอ@QO N'็%2N/%(2/Q%@1(ล>!Nค1ANอ2O@อ@ (&?&#?N b)
พ.0. `_`a
อ@0?0อO@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ _ /11คห% @N Oล>/@!1@ ` ( `) Oล> ( a)
OหNพ1>1@&?ญญ?!>Nค1ANอ2O@อ@ พ.0. `__b 1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/2@$@12 B P 0คO@O%>%O@
อค>11/@1Nค1 ANอ2O@อ@ Q%@1'1>B/ค1?O#?N a/`_`a N/ANอ/?%#?N `_ />"B%@0% `_`a
ออ'1>@0R/O ?!NอR'%?O
Oอ _ '1>@0%?OQหOQO&?ค?&!?OO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R'
Oอ ` QหONพ>N/ค/@/!NอR'%?ON'็%ลO@ ?& 212a Oล> 212b อ&?ญ?O%&#O@0'1>@0
1>#1/2@$@12B N1ANอ O@ห% ANอ '1>/@ Oล>NANอ%Rอ/?!"B#?Nอ@QON'็%2N/%(2/Q%@1(ล>!
Nค1ANอ2O@อ@ พ.0. `_`_ ล/?%#?N `c N/1@0% พ.0. `_`_
ลํ@ ?& ช?Nอ/?!"@#?Nอ@QชO &1>N/#?NQชO
Oล>/ห1?อ
@1%ํ@R'QชO
ค/@/
NO/O%
สAส@ Q%
Nค1?Nอสํ@อ@
*1Oอ/QชO
(w/w)
N?Nอ%R
Chemical
Name/ Other
Name
Name of
Common
Ingredients
Glossary
CAS
Number
212a Titanium
dioxide in
powder form
containing
1% or more
of particles
with
aerodynamic
diameter ≤10
μm
Titanium
dioxide
13463-67-7/
1317-70-0/
1317-80-2
(ล>!.?ฑ์#?NQชO
&1>N/(>/ห%O@
1A'O&&(/)@N%
25% อ%@ญ@!QหOQชO
Titanium
dioxide #?N'1@ฏQ%
1A'O&& pigmentary
form N#N@%?O%
(ล>!.?ฑ์
สํ@ห1?&NสO%(/
1A'O&&สN'10์
อ? OPส
สํ@ห1?&(AO&1>P.ค
#?N/R'
1.4% อ%@ญ@!QหOQชOTitanium
dioxide #?N'1@ฏQ%
1A'O&& pigmentary
form N#N@%?O%
(ล>!.?ฑ์
สํ@ห1?&NสO%(/
1A'O&&สN'10์
1.1% อ%@ญ@!QหOQชO
Titanium dioxide
#?N'1@ฏQ%1A'O&&
หนา ๓๐
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๑๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
ลํ@ ?& ช?Nอ/?!"@#?Nอ@QชO &1>N/#?NQชO
Oล>/ห1?อ
@1%ํ@R'QชO
ค/@/
NO/O%
สAส@ Q%
Nค1?Nอสํ@อ@
*1Oอ/QชO
(w/w)
N?Nอ%R
Chemical
Name/ Other
Name
Name of
Common
Ingredients
Glossary
CAS
Number
อ? OPส #?NQชO
P 0ชN@#ํ@(/
pigmentary form
N#N@%?O%
(ล>!.?ฑ์อ?N% ๆ - หO@/Qช OQ%(ล >!.?ฑ์
#?Nอ0ANQ%1A'O&&ห1?อ@1
QชO#?N/?ค/@/Nส?N0#?Nส@/@1"
สA /NO@สAN'อ R O
212b Titanium
dioxide
#?N%อNห%?อ
@Oอ 212a
Titanium
dioxide
13463-67-7/
1317-70-0/
1317-80-2
(ล>!.?ฑ์
#@'1>N.#
- 1. 1?#?NQชOส@1%?ON'็%ส?
Q%Nค1?Nอสํ@อ@QหO'ฏ>&?!>
!@/N?Nอ%R#?Nํ@ห% R/O
Q%'1>@01>#1/
ส@$@1ส@/N@ O/0 N1?Nอ
ส?#?Nอ@QชON'็%สN/%(ส/Q%
@1(ล>!Nค1?Nอสํ@อ@
2. 1?#?NQชOส@1%?ON'็%
ส@1' Oอ?%OสO
Q%Nค1 ?N อส ํ @อ@
QหO'ฏ>&?!>!@/N ?Nอ%R
#?Nํ@ห% R/OQ%'1>@0
1>#1/ส@$@1ส @
/N@ O/0 N1?Nอํ@ห%
ส@1' Oอ?%OสO
#?Nอ@QชON'็%สN/%(ส/
Q%@1(ล>!Nค1?Nอสํ@อ@
หนา ๓๑
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๑๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
Oอ a QหO(CO(ล>!NพANอ@0 (CO%O@NO@NพANอ@0 (CO1?&O@(ล>! #?NR O1?&Q&1?& OONค1ANอ2O@อ@
#?N/?2N/%(2/อ/ ?!"B#?Nอ@Q ON'็%2N/%(2/Q%@1(ล >!Nค1ANอ2O@อ@ ลํ@ ?& 212a Oล> 212b
อ&?ญ?O%&#O@0'1>@01>#1/2@$@12 B N1ANอ O@ห% ANอ '1>/@Oล>N ANอ%Rอ/ ?!"B
#?Nอ@QON'็%2N/%(2/Q%@1(ล >!Nค1ANอ2O@อ@ พ.0. `_`_ ล/?%#?N `c N/1@0% พ.0. `_`_
อ0CNNอ%'1>@0% ?OQO&?ค?&!Oอ O@N%>%@1QหON'็%R'!@/'1>@0% ?O.@0Q%ห%@N1Oอ0O' 2>&/?%%?&O!N
/?%#?N'1>@0%?OQO&?ค?&
'1>@0 /?%#?N 8 !Bล@ค/ พ.0. `_`a
2/0? >N N#พ2B#>%
1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/2@$@12B
หนา ๓๒
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๑๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 904
|
1929.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1929.pdf
|
'1>@0ค>11/@1&1>ห@1อ#B%ค/@/'ลอ .?0 อ@ช?/อ%@/?0
Oล>2.@พO/ ลOอ/Q%@1#ํ@@%
N1APอ หล?Nฑ์ />$?@1 Oล>NAPอ%R@1? 211N>% อ#B%ค/@/'ลอ .?0 อ@ช?/อ%@/?0
Oล>2.@พO/ ลOอ/Q%@1#ํ@@%
อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%Oอ e /11ค2อ OหN1>N&?0&ค>11/@1&1>ห@1อ#B%ค/@/'ลอ .?0
อ@ช?/อ%@/?0 Oล>2.@พO/ ลOอ/Q%@1#ํ@@% /N@ O/0หล?Nฑ์ />$?@1 Oล>NAPอ%R@1QหON>%ชN/0NหลAอ
Oล>N>%อB ห%B% @1อN>%ชN/0NหลAอOล>N>%อB ห%B% @1อ%B/?!>N>%# 1อN@0 @1อN>%# 1อN@0
@1QหOCO0A/N>% Oล>@1ชํ@1>N>%คA%ONอ#B%ค/@/'ลอ .?0 อ@ช?/อ%@/?0 Oล>2.@พO/ ลOอ/Q%@1#ํ@@%
พ.0. `cde ค>11/@1&1>ห@1อ#B%ค/@/'ลอ .?0 อ@ช?/อ%@/?0 Oล>2.@พO/ ลOอ/Q%@1#ํ@@%
@ออ'1>@0R/O ?!NอR'%?Q
Oอ _ '1>@0%?QQหOQชO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@ช>@%BN&1@N'็%!O%R'
Oอ ` @1? 211N>%อ#B%QหON'็%R'!@/หล?Nฑ์ />$?@1 Oล>NAPอ%R ?!NอR'%?Q
(_) QหO? 211N>%@อ# B%NพAPอN@0N'็%N>%ชN/0NหลAอOล>N>%อB ห%B%!@/Oอ e (b)
N@0N'็%N>%QหOCO0A/!@/Oอ e (c) Oล>N@0N'็%N>%# 1อN@0!@/Oอ e (d) OหN1>N&?0&ค>11/@1
&1>ห@1อ#B%ค/@/'ลอ .?0 อ@ช?/อ%@/?0 Oล>2.@พO/ ลOอ/Q%@1#ํ@@% /N@ O/0หล?Nฑ์ />$?@1
Oล>NAPอ%R@1Qห ON>%ชN/0NหลAอOล>N>%อB ห%B% @1อN>%ชN/0NหลAอOล>N>%อB ห%B% @1อ%B/?!>
N>%# 1อN@0 @1อN>%# 1อN@0 @1QหOCO0A/N>% Oล>@1ชํ@1>N>%คA%ONอ#B%ค/@/'ลอ .?0
อ@ช?/อ%@/?0 Oล>2.@พO/ ลOอ/Q%@1#ํ@@% พ.0. `cde R OR/NN>%1Oอ0ล>O' 2>&อN>%อ#B%
Q%O!Nล>'ี
(`) QหO? 211N>% อ(ลออ#B%NพAPอN@0N'็%N>%ชN/0NหลAอOล>N>%อB ห%B%!@/Oอ e (_)
(`) Oล> (a) OหN1>N&?0&ค>11/@1&1>ห@1อ#B%ค/@/'ลอ .?0 อ@ช?/อ%@/?0 Oล>2.@พO/ ลOอ/
Q%@1#ํ@@% /N@ O/0หล?Nฑ์ />$?@1 Oล>NAPอ%R@1QหON>%ชN/0NหลAอOล>N>%อB ห%B% @1อN>%ชN/0NหลAอ
Oล>N>%อB ห%B% @1อ%B/?!>N>%# 1อN@0 @1อN>%# 1อN@0 @1QหOCO0A/N>% Oล>@1ชํ@1>N>%คA%
ONอ#B%ค/@/'ลอ .?0 อ@ช?/อ%@/?0 Oล>2.@พO/ ลOอ/Q%@1#ํ@@% พ.0. `cde R OR/NN>%1Oอ0ล>
NO 2>&หO@อN>% อ(ลออ#B%!Nอ'ี
'1>@0 /?%#?P a^ N/1@0% พ.0. `cde
P2.@ N?01!>%>1ช@
อ$>& ?1/2/?2 >@1Oล>คBO/ค1อO1@%
'1>$@%11/@1&1>ห@1อ#B%ค/@/'ลอ .?0
อ@ช?/อ%@/?0 Oล>2.@พO/ ลOอ/Q%@1#ํ@@%
หนา ๓๒
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๕๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 905
|
884.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/884.pdf
|
ข้อบังคับสภาวิศวกร
ว่าด้วยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๓ และข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐
เพื่อให้สามารถจัดส่งหนังสือนัดประชุม และเอกสารประกอบวาระการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ญ) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
สภาวิศวกรโดยมติที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ และโดยความเห็นชอบ
ของสภานายกพิเศษแห่งสภาวิศวกรออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๘ ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการประชุมใหญ่สภาวิศวกร (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๘ การนัดประชุม การเชิญประชุม การส่งเอกสารการประชุม และการแจ้งมติที่ประชุม
ให้คณะกรรมการมีหนังสือนัดประชุมแจ้งวัน เวลา สถานที่ และระเบียบวาระการประชุม พร้อมเอกสาร
ประกอบการประชุม ไปยังสมาชิกก่อนวันประชุมใหญ่ไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้
ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการด าเนินการประชุม”
ข้อ ๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองของข้อ ๑๕ ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วย
การประชุมใหญ่สภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓
“ในการแจ้งบันทึกรายงานการประชุมตามวรรคหนึ่ง จะใช้วิธีผ่านระบบทางอิเล็กทรอนิกส์
ด้วยก็ได้”
ประกาศ ณ วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
นายกสภาวิศวกร
้หนา ๗๐
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
|
test
| 906
|
1254.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1254.pdf
|
ประกาศ
เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีก าหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ
ตามที่ได้มีประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่
ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ ๑๙) ลงวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ นั้น
เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติการป้องกัน แก้ไข ระงับยับยั้ง ฟื้นฟู หรือช่วยเหลือ
ประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๗ แห่งพระราชก าหนดการบริหาร
ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้บรรดาประกาศที่คณะรัฐมนตรี
ก าหนดขึ้นตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม
พ.ศ. ๒๕๖๓ และค าสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๕/๒๕๖๓ เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่
ตามพระราชก าหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม
พ.ศ. ๒๕๖๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีจะก าหนดเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖5
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
้หนา ๑๔๓
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๗๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๕
|
test
| 907
|
1502.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1502.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย
เรื่อง ก้าหนดวันเริ่มต้นการหีบอ้อยผลิตน ้าตาลทรายฤดูการผลิตปี ๒๕๖๕/๒๕๖๖
อาศัยอ้านาจตามความในมาตรา ๑๗ (๑๑) ประกอบกับมาตรา ๑๗ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติ
อ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗ คณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทรายโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี
๑. ก้าหนดวันเริ่มต้นการหีบอ้อยผลิตน ้าตาลทรายฤดูการผลิตปี ๒๕๖๕/๒๕๖๖ ของโรงงาน
น ้าตาลทรายทุกโรงงาน ตั งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ เว้นแต่โรงงานอุตสาหกรรมน ้าตาลชลบุรี
ซึ่งหยุดประกอบกิจการชั่วคราว
๒. ให้โรงงานน ้าตาลทรายตามข้อ ๑ เริ่มต้นการหีบอ้อยผลิตน ้าตาลทรายภายใน ๗ วัน
นับแต่วันที่คณะกรรมการก้าหนด
๓. กรณีมีเหตุจ้าเป็น หรือโรงงานน ้าตาลทรายใดประสงค์จะเปิดหีบอ้อยผลิ ตน ้าตาลทราย
ภายหลังจากวันที่ก้าหนดเกินกว่า ๗ วัน ให้โรงงานน ้าตาลทรายแจ้งเป็นหนังสือให้ส้านักงานคณะกรรมการ
อ้อยและน ้าตาลทรายทราบ
๔. ให้เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทรายรักษาการตามประกาศนี
ทั งนี ตั งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖6
ณัฐพล รังสิตพล
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ประธานกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย
้หนา ๒๙
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๘๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ เมษายน ๒๕๖๖
|
test
| 908
|
1784.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1784.pdf
|
'1>@0อ$>& ?1/211พ@1
N?P0/?&อ@1O2!/'์ (&?&#?P dg)
N1APอ ํ@ห% />$?@1ํ@1>อ@1N'็%!?/N>%!@/O&&อN2?0อ@1O2!/'์N'็%!?/N>%
2ํ@ห1?&!1@2@1อ>NลO#1อ%>2์ (อ.2.g) (N@%1>&&Nค1AอN@0อ>%N#อ1์N%O!
2ํ@ห1?&!1@2@1&@ล?1>
อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ _`a #/> OหN'1>//ล1 ?1@1 @POORNพ>P/N!>/
P 0พ1>1@&??!>OORNพ>P/N!>/'1>//ล1?1@1 (&?&#?P _`) พ.0. `bge อ$>& ?1/211พ@1
P 0อ%B/?!>1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/@1คล? ํ@ห% />$?@1ํ@1>อ@1N'็%!?/N>%!@/O&&อN2?0อ@1O2!/'์
N'็%!?/N>%2ํ@ห1?&!1@2@1อ>NลO#1อ%>2์ (อ.2.g) (N@%1>&&Nค1AอN@0อ>%N#อ1์N%O! 2ํ@ห1?&!1@2@1&@ล?1>
?!NอR'%?Q
QหO0Nล>ค/@/Q%Oอ _^ อ'1>@0อ$>& ?1/211พ@1 N?P0/?&อ@1O2!/'์ (&?&#?P de)
N1APอ ํ@ห% />$?@1ํ@1>อ@1N'็%!?/N>%!@/O&&อN2?0อ@1O2!/'์N'็%!?/N>%2ํ@ห1?&!1@2@1อ>NลO#1อ%>2์
(อ.2.g) (N@%1>&&Nค1AอN@0อ>%N#อ1์N%O! 2ํ@ห1?&!1@2@1&@ล?1> ล/?%#?P _ B/.@พ?%$์ พ.0. `cdd
Oล>QหOQOค/@/!NอR'%?QO#%
Oอ _^ '1>@0%?QQหOQO&?ค?&?&!1@2@1#?PR O? #ํ@@Q%!?QO!N/?%#?P _g 2>ห@ค/ พ.0. `cdc
"@/?%#?P a_ $?%/@ค/ พ.0. `cdf
'1>@0 /?%#?P 27 $?%/@ค/ พ.0. `c66
Bล0@ !?%!>N!/>#
อ$>& ?1/211พ@1
หนา ๑๒
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ มกราคม ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 909
|
887.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/887.pdf
|
ข้อบังคับสภาวิศวกร
ว่าด้วยการรับสมัครเป็นสมาชิกสามัญของสภาวิศวกร (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการรับสมัครเป็นสมาชิกสามัญ
ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการอ านวยความสะดวกและลดภาระ
แก่ประชาชนผู้มาติดต่อ โดยไม่เรียกเก็บส าเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้ ตามมติคณะรัฐมนตรี
ในคราวประชุม เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๑ รวมถึงเพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการให้บริการของสภาวิศวกรผ่านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๘ (๖) (ข) และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวิศวกรโดยมติที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
และโดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแห่งสภาวิศวกรออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการรับสมัครเป็นสมาชิกสามัญ
ของสภาวิศวกร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๖ ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการรับสมัครเป็นสมาชิกสามัญ
ของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๖ ผู้สมัครเป็นสมาชิก ต้องยื่นใบสมัครตามแบบที่คณะกรรมการสภาวิศวกรก าหนดต่อ
ส านักงานสภาวิศวกร พร้อมด้วยหลักฐาน ดังนี้
(๑) ส าเนาหลักฐานการศึกษา
(๒) รูปถ่ายปัจจุบัน ไม่เกิน ๑๒ เดือน หน้าตรงไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นด า ขนาดกว้าง
๒.๕ เซนติเมตร สูง ๓.๕ เซนติเมตร จ านวน ๒ รูป
(๓) ใบรับรองแพทย์ตามแบบที่แพทยสภารับรอง”
ข้อ ๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นหมวด ๔ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และข้อ ๑๐ ของข้อบังคับ
สภาวิศวกร ว่าด้วยการรับสมัครเป็นสมาชิกสามัญของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓
“หมวด ๔
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ ๑๐ ค าขอ ใบสมัคร การอนุญาต ทะเบียนสมาชิก ค าสั่งทางปกครอง หรือ
การด าเนินการใด ๆ ตามข้อบังคับนี้ ถ้าได้กระท าในรูปของข้อมูลและธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้ถือว่า
ใช้บังคับได้และมีผลโดยชอบด้วยข้อบังคับนี้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส์”
้หนา ๖๒
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
ข้อ ๕ ใบสมัครสมาชิกที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่ข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับ และยังอยู่ในระหว่าง
การพิจารณา ให้ด าเนินการต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จตามข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการรับสมัคร
เป็นสมาชิกสามัญของสภาวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๓
ประกาศ ณ วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. ๒๕64
ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
นายกสภาวิศวกร
้หนา ๖๓
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
|
test
| 910
|
271.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/271.pdf
|
ระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย
ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย ว่าด้วยการจัดเก็บเงิน
จากการจ้าหน่ายน ้าตาลทรายภายในราชอาณาจักรเข้ากองทุนอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2561
พ.ศ. 2562
โดยที่ระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย ว่าด้วยการจัดเก็บเงินจากการจ้าหน่าย
น ้าตาลทรายภายในราชอาณาจักรเข้ากองทุนอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2561 ได้ก้าหนดขึ นเพื่อให้
สอดคล้องกับค้าสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2561 เรื่อง การแก้ไขกฎหมาย
เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน ้าตาลทรายทั งระบบ ลงวันที่ 15 มกราคม
พุทธศักราช 2561 ต่อมาค้าสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับดังกล่าวได้สิ นสภาพบังคับลง
จึงเห็นสมควรที่จะได้ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย ว่าด้วยการจัดเก็บเงิน
จากการจ้าหน่ายน ้าตาลทรายภายในราชอาณาจักรเข้ากองทุนอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2561
เพื่อให้สอดคล้องกัน
อาศัยอ้านาจตามความในมาตรา ๑๗ (๓๐) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย
พ.ศ. ๒๕๒๗ คณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงเห็นสมควร
วางระเบียบไว้ ดังนี
ให้ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย ว่าด้วยการจัดเก็บเงินจากการจ้าหน่าย
น ้าตาลทรายภายในราชอาณาจักรเข้ากองทุนอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2561
ทั งนี ตั งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖2
กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ประธานกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย
้หนา ๕๑
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
|
test
| 911
|
1135.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1135.pdf
|
ประกาศส านักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
ที่ ป. ๑/๒๕๖๕
เรื่อง ประเภทกิจการที่ไม่ให้สิทธิและประโยชน์
ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ๔/๒๕๖๔
อนุสนธิประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ๔/๒๕๖๔ ลงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๔
เรื่อง มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๖ และมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริม
การลงทุน พ.ศ. ๒๕๒๐ ส านักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจึงออกประกาศก าหนดประเภทกิจการ
ที่ไม่ให้ได้รับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติม ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ๔/๒๕๖๔
ลงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๔ เรื่อง มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่
ประเภท ๑.๒๓ กิจการผลิตหรือให้บริการระบบเกษตรสมัยใหม่ เช่น ระบบตรวจจับหรือ
ติดตามสภาพต่าง ๆ ระบบควบคุมการใช้ทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง เช่น น า
ปุ๋ย เวชภัณฑ์ และระบบโรงเรือนอัจฉริยะ เป็นต้น
ประเภท ๔.๑๑.๖ กิจการระบบปฏิบัติการเกี่ยวกับอวกาศ เช่น ระบบค้นหา ระบบสถานี
ภาคพื น ระบบตรวจวัด ระบบประเมินผล และระบบน าทางในอวกาศ
เป็นต้น
ประเภท ๔.๒๒.๒ ระบบจ าลองยุทธ์และการฝึกเสมือนจริง เช่น ระบบเครื่องช่วยฝึกยานรบ
เสมือนจริง ระบบเครื่องช่วยฝึกใช้อาวุธเสมือนจริง และระบบสนามฝึกยิง
อาวุธประจ ากายและอาวุธประ จ าหน่วยระบบจ าลองยุทธ์ปฏิบัติการร่วม
(JTLS) เป็นต้น
ประเภท ๕.๗ กิจการซอฟต์แวร์
ประเภท ๕.๙ กิจการให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัล (DIGITAL SERVICES)
ประเภท ๕.๑๐ กิจการพัฒนาซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์มเพื่อให้บริการดิจิทัล หรือดิจิทัล
คอนเทนต์
ประเภท ๗.๙.๒.๓ กิจการนิคมหรือเขต DATA CENTER
ประเภท ๗.๙.๓ กิจการนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมอัจฉริยะ
ประเภท ๗.๑๐ กิจการ CLOUD SERVICE
ประเภท ๗.๓๑ กิจการพัฒนาพื นที่เมืองอัจฉริยะ
ประเภท ๗.๓๒ กิจการพัฒนาระบบเมืองอัจฉริยะ
้หนา ๑๐
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๗๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๕
ประเภท ๗.๓๓ กิจการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบอัจฉริยะ
ประเภท ๘.๑.๔ กิจการพัฒนา DIGITAL TECHNOLOGY
ประกาศ ณ วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖5
ดวงใจ อัศวจินตจิตร์
เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
้หนา ๑๑
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๗๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๕
|
test
| 912
|
1252.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1252.pdf
|
ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
ว่าด้วยการทดสอบความรู้ความช านาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร (ฉบับที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๖๕
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการทดสอบ
ความรู้ความช านาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒
ประกอบกับข้อ ๔ (๓) และข้อ ๕ (๓) ของข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยการออกใบอนุญาต
เป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมร ะดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๗
และโดยมติที่ประชุมคณะกรรมการสภาวิศวกร ครั้งที่ ๕๓-๑๐/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๕
คณะกรรมการสภาวิศวกร ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการทดสอบความรู้
ความช านาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๕”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๕ ของระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการทดสอบ
ความรู้ความช านาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบ
คณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการทดสอบความรู้ความช านาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิ
วิศวกร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๕ ในการสอบสัมภาษณ์ ให้คณะอนุกรรมการที่สภาวิศวกรแต่งตั้งตามข้อ ๔ (๒)
ของข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยการออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมระดับสามัญ
วิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๗ วินิจฉัยเพียงว่าผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
ควบคุมผ่านหรือไม่ผ่านการสอบสัมภาษณ์
ผู้ขอรับใบอนุญาตที่ไม่เข้าสอบภายในระยะเวลาที่ก าหนดถือว่าสอบไม่ผ่าน
หลักเกณฑ์และวิธีการสอบสัมภาษณ์ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการสภาวิศวกร
ประกาศก าหนด”
ข้อ ๔ ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ระดับสามัญวิศวกร ซึ่งได้ยื่น
ค าขอไว้ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ด าเนินการต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จตามระเบียบคณะกรรมการ
สภาวิศวกร ว่าด้วยการทดสอบความรู้ความช านาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๕๑
และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยการทดสอบความรู้ความช านาญ
้หนา ๔
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๗๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕
ระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร
ว่าด้วยการทดสอบความรู้ความช านาญระดับสามัญวิศวกรและระดับวุฒิวิศวกร พ.ศ. ๒๕๕๑ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๕๙
ประกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖5
รองศาสตราจารย์ปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์
นายกสภาวิศวกร
้หนา ๕
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๗๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕
|
test
| 913
|
2250.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2250.pdf
|
Oอํ@ห%
ออ!@/ค/@/Q%/@!1@ _f
OหNพ1>1@&?ญญ?!>@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1 พ.0. `cc_
!@/#?PR O/?'1>@0พ AQ%#?P'1@Nห! B@1์อ?%1>#&! Nอค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@ ?1
Q%N!พ AQ%#?Pอํ@N.อ0>ห@ ?ห/? 0>ล@ 1>ห/N@/?%#?P `^ /1@ค/ พ.0. `cdf "@/?%#?P
a^ ?%0@0% พ.0. `cdf Oล>/อ&ห/@0QหOออํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1
N'็%(CO1?&(> อ& ํ@N%>%@1 %?Q%
NพAPอQหO2@/@1"'้อ?% ค/&คB/ Oล>OORNห!B@1์Q%พAQ%#?P'1@Nห!B@1์อ?%1>#&!Nอ
ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1 ?ลN@/N'็%R' O/0ค/@/N1?0&1Oอ0Oล>N> '1>2>#$>.@พ อ@0?0อํ@%@
!@/ค/@/Q%/@!1@ _f OหNพ1>1@&?ญญ?!>@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1 พ.0. `cc_
(COอํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@ ?1 P 0ค/@/Nห O%อ&อค>1 ?/%!1?N/APอ/?%#?P
_a /1@ค/ พ.0. `cdf @ออOอํ@ห% ?%?Q
_. QหONO@ห%O@#?Pอ1?#?PN?P0/Oอ'>&?!>@1ห1Aอ N/O%@1'>&?!>@1อ0N@ห%@Pอ0N@Q
NพAPอN/0NหลAอห1Aอ2%?&2%B%@1 ํ@N%>%@1Q%อ ํ@%@ห%O@#?Pอออ ํ@%/0@11 ?1@ค/@// ?P%ค
.@0Q%1@อ@@?1 Oล>พ%?@%NO@ห%O@#?Pอออํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1
#?Q%?Q !@/#?P(COอํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1 (COอํ@%/0@10C%0์อํ@%/0@1 ห1Aอ(CO@P
R O1?&/อ&ห/@0@(COอํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1ห1Aอ(COอํ@%/0@10C%0์อํ@%/0@1
/?คํ@2?P ห1AอN'็%@1'>&?!>!@/O(%@1 ํ@N%>%@1 NพAPอ'้อ?% '1@&'1@/ 1>?& 0?&0?Q Oล>OOR
ห1Aอ&11N#@Nห!B@1์#?P1>#&!Nอค/@//?P%คQ%1@อ@@?1
`. หO@/&BคคลQ N O@ห1AอQหO&BคคลQ ! Oอออ@&1 >N/พAQ%#?P อ@ค@1 ห1Aอ2"@%# ?P
#?PN?P0/Oอ?&@1'>&?!>ห%O@#?Pอออํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1 Oล>.@0Q%1>0>N/ล@
@1'>&?!>ห%O@#?Pอออํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@ ?1 #?Q%?Q !@/#?P(COอํ@%/0@1
1?1@ค/@// ?P%ค.@0Q%1@อ@@ ?1 (COอํ@%/0@10 C%0์อํ@%/0@1 ห1Aอ(CO@PR O1?&/อ&ห/@0
@(COอํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1ห1Aอ(COอํ@%/0@10C%0์อํ@%/0@1 '1>@0ํ@ห%
N/O%O!NN'็%&Bคคล@PR O1?&อ%Bญ@!@พ%?@%NO@ห%O@#?P ห1AอN'็%&Bคคล@P/?'1>@0อ&Bคคล ?ลN@/
/N@N'็%&Bคคล@PR O1?&0N/O%
a. หO@/&BคคลQ ออ%อNคห2"@%Q%N/ล@#?Pํ@ห% #?Q%?Q !@/#?P(COอํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค
.@0Q%1@อ@@ ?1 (COอํ@%/0@10C%0์อํ@%/0@1 ห1Aอ(CO@PR O1?&/อ&ห/@0@(COอํ@%/0@11?1@
ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1ห1Aอ(COอํ@%/0@10C%0์อํ@%/0@1 '1>@0ํ@ห% N/O%O!NN'็%&Bคคล
@PR O1?&อ%Bญ@!@พ%?@%NO@ห%O@#?P ห1AอN'็%&Bคคล@P/?'1>@0อ&Bคคล ?ลN@//N@N'็%&Bคคล
@PR O1?&0N/O%
หนา ๕๑
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๑๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๗ มกราคม ๒๕๖๘
b. หO@/%ํ@อ@/B$ออ%อNคห2"@%
c. หO@/@1QON2O%#@ค/%@ค/ห1Aอ@1QO0@%พ@ห%> ห1Aอ!Oอ'>&?!>!@/NAPอ%R@1QO
N2O%#@ค/%@ค/ห1Aอ@1QO0@%พ@ห%> #?Q%?Q !@/#?P(COอํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1
(COอํ@%/0@10C%0์อํ@%/0@1 ห1Aอ(CO@PR O1?&/อ&ห/@0@(COอํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1
ห1Aอ(COอํ@%/0@10C%0์อํ@%/0@1 '1>@0ํ@ห%
d. QหO&Bคคล'>&?!>ห1Aอ N/O%@1'>&?!>อ0N@ห%@Pอ0N@Q อ?%N?P0/?&Nค1APอ/Aอห1AออB'1์
อ>NลO#1อ%>2์ !@/%> '1>N.# ล?1>@1QO ห1Aอ.@0Q%N!&1>N/พAQ%#?P#?P(COอํ@%/0@11?1@
ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@ ?1 (COอํ@%/0@10 C%0์อํ@%/0@1 ห1Aอ(CO@PR O1?&/อ&ห/@0@
(COอํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@?1ห1Aอ(COอํ@%/0@10C%0์อํ@%/0@1 '1>@0ํ@ห%
NพAPอ'้อ?%อ?%!1@0#?P>N> ON?/>! 1N@@0 ห1Aอ#1?พ0์2>%อ'1>@%
Q%@1%?Q (COอํ@%/0@11?1@ค/@//?P%ค.@0Q%1@อ@@ ?1 (COอํ@%/0@10C%0์อํ@%/0@1
ห1Aอ(CO@PR O1?&/อ&ห/@0@( COอํ@%/0@11 ?1@ค/@// ?P%ค.@0Q%1@อ@@ ?1ห1Aอ(COอํ@%/0@1
0C%0์อํ@%/0@1 >ํ@ห% NAPอ%N/ล@Q%@1' >&?!>!@/Oอํ@ห% ห1AอNAPอ%RQ%@1' >&?!>@%
อพ%?@%NO@ห%O@#?P!@/#?PNหO%2/ค/1 NพAPอ/>QหO/?@1'>&?!>#?PNอQหON> ค/@/N Aอ 1Oอ%ON'1>@%
N>%2/ค/1ONNห!BR O
#?Q%?Q QหO/?(ล&?ค?&QO1>ห/N@/?%#?P `^ /1@ค/ พ.0. `cdf "@/?%#?P a^ ?%0@0%
พ.0. `cdf
'1>@0 /?%#?P _e /1@ค/ พ.0. `cdf
Oพ#อ$@1 >%/?!1
%@01?/%!1?
หนา ๕๒
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๑๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๗ มกราคม ๒๕๖๘
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 914
|
2278.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2278.pdf
|
1>#1/
ํ@ห% อ?!1@ค/@/N1O/อ0@%พ@ห%>&%#@หล/2?/'#@%
พ.0. 2568
อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ 5 (1) OหNพ1>1@& ??!>#@หล/ พ.0. 2535
1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/ค/%@ค/ออ1>#1/R/O ?!NอR'%?Q
Oอ _ QหOํ@ห% อ?!1@ค/@/N1O/อ0@%พ@ห%>&%#@หล/2?/'#@% ?!NอR'%?Q
(1) 1"&11#B#?P/?%Qํ@ห%?1"N>%2อพ?%2อ1Oอ0>Pล1?/ ห1Aอ1"&11#Bค%P 02@1#?P/?#?P%?P
ค%P 02@1N>%2>&หO@ค% QหOQOค/@/N1O/R/NN>%O' 2>&>PลN/!1!Nอ?P/P/
(2) 1">#?Pล@C1"อAP% ห1Aอ1"0%!์2?PลOอNลO QหOQOค/@/N1O/R/NN>%ห2>&หO@>PลN/!1!Nอ?P/P/
(3) 1"P1N1?0%ห1Aอ1"1?&2N%?N1?0% QหOQOค/@/N1O/R/NN>%O' 2>&>PลN/!1!Nอ?P/P/
1"อAP%%อ@ (1) (2) Oล> (3) QหOQOค/@/N1O/R/NN>%ห%@P1Oอ0>PลN/!1! Nอ?P/P/
Oล>ห@1" ?ลN@/อ0CNQ%NอN >%1"Nอ/@2B !OอQOค/@/N1O/R/N!Pํ@/N@NO@2>&>PลN/!1!Nอ?P/P/
N/O%O!NQ%1?#?PNอN >%1"%?Q%/?Oอํ@? O@%@11@1ห1Aอ#?0%/>2?0 /?2>P? /@ ห1Aอ/?Nห!B? OออAP%
Oอ ` Q%N!#@# ?P/?Nค1APอห/@01@1O2 / N@N'็%N!อ?%!1@0ห1 AอN!QหO?&1"O@
QหOล ค/@/N1O/ลOล>Nพ>P/ค/@/1>/? 1>/?@Q%!@/2/ค/1
Oอ a Q%1?#?P/?Nค1APอห/@01@1ํ@ห% อ?!1@ค/@/N1O/!Pํ@/N@อ?!1@#?Pํ@ห% R/OQ%Oอ 1
QหOQOค/@/N1O/R/NN>%อ?!1@#?PNค1APอห/@01@1 ?ลN@/ํ@ห%
QหOR/O /?%#?P 4 B/.@พ?%$์ พ.0. `_`8
2B1>0> @1BNN1Aอ>
1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/ค/%@ค/
หนา ๓
เลม ๑๔๒ ตอนที่ ๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ กุมภาพันธ ๒๕๖๘
ห/@0Nห!B :- Nห!B(ลQ%@1'1>@0QO1>#1/&?&%?Q คAอ P 0#?PN'็%@12/ค/1ํ@ห% อ?!1@ค/@/N1O/
อ0@%พ@ห%>&%#@หล/2?/'#@%QหONห/@>2/?&ล?1>#@@0.@พอ#@ NพAPอQหON> ค/@/คลNอ!?/
ค/@/2> / Oล>ค/@/'ลอ . ?0Q%2 ?1&%#@หล/ ?ลN@/ '1>อ& ?&/@!1@ 5 (1)
OหNพ1>1@& ??!>#@หล/ พ.0. `_a5 &??!>QหO1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/ค/%@ค// ?อํ@%@
ออ1>#1/ํ@ห% อ?!1@ค/@/N1O/อ0@%พ@ห%>&%#@หล/ @ํ@N'็%!Oอออ1>#1/%?Q
หนา ๔
เลม ๑๔๒ ตอนที่ ๖ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ กุมภาพันธ ๒๕๖๘
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 915
|
2125.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2125.pdf
|
1>@0ค>11/@1>1C?P>NพAPอN1111/
N1APอ @1??P>B/QพAQ?P>1C?P>NพAPอN1111/ (??P `)
พ.0. `cde
P0 ?PN็@12/ค/1O ORNพ >P/N>/1>@0ค>11/@1 >1C?P>NพAPอN1111/
N1APอ @1??P>B/QพAQ?P>1C?P>NพAPอN1111/ 1>@0 /??P a^ B3@ค/ พ.0. `cda
NพAPอQหON>ค/@/?NO3>Nห/@>2/0 >P@Q อ@0?0อํ@@@/ค/@/Q/@1@ _g (a) O3> (_`)
OหNพ1>1@?ญญ?>@1>1C?P>NพAPอN1111/ พ.0. `c_f 1>อ?/>ค>11/@1>1C?P>
NพAPอN1111/Qค1@/@11>B/ค1?Q?P b/`cde N/APอ/??P e />B@0 `cde
@ออ1>@0R/O
?NอR?Q
Oอ _ QหO0N3>ค/@/Q Oอ e อ1>@0ค>11/@1 >1C?P>NพAPอN1111/
N1APอ @1??P>B/QพAQ?P>1C?P>NพAPอN1111/ 3/??P a^ B3@ค/ พ.0. `cda O3>QหOQO
ค/@/NอR?QO
Oอ e N/APอCO/?อํ@@ROพ>@1@อBญ@@/คํ@อO3O/ อ@@1 ํ@N>@1QหON็R
@/1>N ?0ค>11/@1 >1C?P>NพAPอN1111/ /N@O/0ห3?N ์ />?@1 O3>N APอR
Q@1อBญ@O3>@1Qห OCO1?อBญ@Aอ>?>Q@1QO?P>ห1Aออ2?ห@1>/1?พ0์2ํ@ห1?>@1?PN็
@12?2Bห1AอN?P0/NAPอ?@1>1C?P>NพAPอN1111/ พ.0. `cb_ O3O/ QหO 2... ํ@N>@1
?NอR?Q
(_) 1?@1อBญ@@1??P> ?Pอ0CNอ@0?02ํ@ห1?Bคค3?PRO1?@1??P> QหO?ํ@2?ญญ@
NO@ํ@1>P0์Q?P>ห1Aออ2?ห@1>/1?พ0์NพAPอ1>อ>@1?PN็@12?2Bห1AอN?P0/NAPอ?
@1>1C?P>NพAPอN1111/ O3>ห?2AออBญ@QหONO@ํ@1>P0์Q?P> (?Pอ0CNอ@0?0) (2... b-^_ .)
OO@02?ญญ@?3N@/
(`) @1อ Bญ@อAPอNห Aอ@ (_) QหO?ํ@N็2?ญญ@N O@ํ@1>P0 ์Q?P>ห1Aอ
อ2?ห@1>/1?พ0์NพAPอ1>อ>@1?PN็@12?2Bห1AอN?P0/NAPอ?@1>1C?P>NพAPอN1111/
P0QหON1?0NOคN@อO@/?Pค>11/@1>1C?P>NพAPอN1111/ํ@ห
Q1 ??P@1 ํ@N>@1@/ ( _) O3> ( `) N็@1อ Bญ@@1 ??P>Q ?P>ห1Aอ
อ2?ห@1>/1?พ0์?P 2... RO/@@//@1@ `g QหO?ํ@N็2?ญญ@NN@ P0QหON1?0NOคN@อO
@/?Pค>11/@1>1C?P>NพAPอN1111/ํ@ห
?Q?Q Q@1ค>คN@อO2ํ@ห1?CO1?อBญ@QO?P>ห1Aออ2?ห@1>/1?พ0์NพAPอ1>อ>@1
?PN็@12?2Bห1AอN?P0/NAPอ?@1>1C?P>NพAPอN1111/@/1>@0?Q ?PRO1>อ>@1
RNอ@1ออBญ@@/1>@0?Q QหOค>คN@อON็2อNN@อคN@อO@/ (`)
หนา ๖
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๑๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
Oอ ` 1>@0?QQหOQO?ค??QON/??@/?1>@0Q1@>@BN1@N็OR
1>@0 /??P g B3@ค/ พ.0. `cde
2/3 .>ญPญ2>/?์
1?/1?/N@@11>1/N11O3>2ห1์
1>@11/@1>1C?P>NพAPอN1111/
หนา ๗
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๑๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 916
|
938.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/938.pdf
|
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๔๐)
เรื่อง ก าหนดแบบเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ส าหรับผู้ประกอบการที่มีหน้าที่เสียภาษี
ตามมาตรา ๘๒/๑๓ วรรคสองและวรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๘๓ มาตรา ๘๕ มาตรา ๘๕/๖ และมาตรา ๘๕/๑๐
แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๓๐)
พ.ศ. ๒๕๓๔ อธิบดีกรมสรรพากรก าหนดแบบเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ส าหรับผู้ประกอบการที่มีหน้าที่
เสียภาษีตามมาตรา ๘๒/๑๓ วรรคสองและวรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร เพื่อใช้ยื่นต่อเจ้าพนักงาน
ประเมินตามประมวลรัษฎากร ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ก าหนดแบบดังต่อไปนี้ เป็นแบบเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
(๑) แบบ P.P.30.9 Value Added Tax Return for Non - Resident Under Section
82/13 of the Revenue Code
(๒) แบบ P.P.01.9 Form for Value Added Tax Registration for Non - Resident
Under Section 85/20 of the Revenue Code
(๓) แ บ บ P.P.08. 9 Form for Value Added Tax Registration Cancellation
Request for Non - Resident Under Section 85/20 of the Revenue Code
(๔) แบบ P.P.09.9 Form for Changes in Value Added Tax Registration for
Non - Resident Under Section 85/20 of the Revenue Code
แบบเกี่ ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้รายการข้อมูลตามแบบดังกล่าวที่สามารถ
ยื่นแบบผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของกรมสรรพากร
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ที่ลงในประกาศนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕64
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
อธิบดีกรมสรรพากร
้หนา ๑๕๒
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๔๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๖ ตุลาคม ๒๕๖๔
|
test
| 917
|
1054.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1054.pdf
|
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง ขยายก าหนดเวลาการจัดท าบัตรประจ าตัวประชาชนจากสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (เพิ่มเติม ครั้งที่ 3)
ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มีประกาศ เรื่อง ขยายก าหนดเวลาการจัดท าบัตรประจ าตัวประชาชน
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) (เพิ่มเติม ครั้งที่ 2)
ลงวันที่ 16 เมษายน 2564 เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่ประชาชนจะต้องเดินทางไปข อมีบัตร
ขอมีบัตรใหม่ หรือขอเปลี่ยนบัตร ในทุกท้องที่จังหวัดและกรุงเทพมหานคร จากภายในก าหนดหกสิบวัน
นับตั้งแต่วันที่ต้องมีบัตร มีบัตรใหม่ หรือเปลี่ยนบัตร เป็นภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 นั้น
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในปัจจุบันยังคงมี
การแพร่ระบาดของโรคกระจายไปทุกท้องที่จังหวัดและกรุงเทพมหานคร และการตรวจพบผู้ป่วยยืนยัน
ติดเชื้อรายใหม่โดยเฉพาะกรณีที่เป็นการติดเชื้อภายในประเทศยังมีจ านวนมากในแต่ละวัน จึงมีความจ าเป็น
ที่ต้องก าหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อร่วมแก้ไขและระงับยับยั้ง
สถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 6 เบญจ แห่งพระราชบัญญัติบัตรประจ าตัวประชาชน
พ.ศ. 2526 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติบัตรประจ าตัวประชาชน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2554
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงออกประกาศให้ขยายก าหนดเวลาการขอมีบัตร การขอมีบัตรใหม่
หรือการขอเปลี่ยนบัตรในทุกท้องที่จังหวัดและกรุงเทพมหานคร เพิ่มเติม จากภายในวันที่
31 ธันวาคม 2564 เป็นภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565
ประกาศ ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕64
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
้หนา ๗
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๗ งราชกิจจานุเบกษา ๒๔ มกราคม ๒๕๖๕
|
test
| 918
|
430.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/430.pdf
|
ข้อก ำหนด
ออกตำมควำมในมำตรำ ๙ แห่งพระรำชก ำหนด
กำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
(ฉบับที่ ๔)
ตำมที่ได้มีประกำศสถำนกำรณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วรำชอำณำจักรตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนำคม
พ.ศ. ๒๕๖๓ และประกำศ เรื่อง กำรขยำยระยะเวลำกำรประกำศสถำนกำรณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่
ทั่วรำชอำณำจักร (ครำวที่ ๑) ลงวันที่ ๒๘ เมษำยน พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่
๑ พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ จนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ แล้ว นั้น
โดยที่รัฐบำลได้เฝ้ำระวังและติดตำมสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคโควิด 19
ทั้งในประเทศและต่ำงประเทศมำเป็นล ำดับอย่ำงต่อเนื่อง และมอบหมำยให้ฝ่ำยสำธำรณสุข
ฝ่ำยเศรษฐกิจ ฝ่ำยปกครอง และฝ่ำยควำมมั่นคงร่วมกันประเมินสถำนกำรณ์เพื่อพิจำรณำผ่อนคลำย
หรือเพิ่ มควำมเข้มงวดกำรบังคับใช้บำงมำตรกำร โดยมุ่งจะให้กำรควบคุมและกำรแก้ไขสถำนกำรณ์
ฉุกเฉินสำมำรถยุติลงได้โดยเร็วและไม่ย้อนกลับมำอีก ขณะเดียวกัน ประชำชนสำมำรถด ำรงชีวิต
ได้อย่ำงปกติสุข ภำยใต้มำตรกำรป้องกันโรคและค ำแนะน ำของทำงรำชกำร โดยจะพิจำรณำผ่อนคลำย
เป็นล ำดับขั้นตอนตำมหลักเกณฑ์ที่องค์กำรอนำมัยโลกก ำหนดและค ำนึงถึงประเภทของกิจกำร
หรือกิจกรรมที่มีควำมเสี่ยงน้อย สถำนที่ซึ่งสำมำรถจัดระบบควบคุมดูแลได้ และผู้เกี่ยวข้องซึ่งสำมำรถ
น ำมำตรกำรป้องกันโรคมำบังคับใช้ได้เป็นล ำดับแรก โดยใช้ช่วงเวล ำระยะแรกนี้เตรียมกำรเพื่อรองรับ
กำรจัดระบบตำมมำตรกำรและค ำแนะน ำของทำงรำชกำรไปพลำงก่อน
อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๙ แห่งพระรำชก ำหนดกำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ และมำตรำ ๑๑ แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔
นำยกรัฐมนตรีจึงออกข้อก ำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนรำชกำรทั้งหลำย ดังนี้
ให้บรรดำประกำศหรือค ำสั่งของผู้ว่ำรำชกำรกรุงเทพมหำนคร ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด
เจ้ำพนักงำนควบคุมโรคติดต่อที่ออกตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรคติดต่อ ผู้มีอ ำนำจตำมกฎหมำยว่ำด้วย
กำรเดินอำกำศและกฎหมำยว่ำด้วยคนเข้ำเมื องที่ได้ประกำศหรือสั่งไว้ก่อนวันที่ข้อก ำหนดนี้ใช้บังคับ
ไม่ว่ำจะเป็นกำรห้ำม กำรให้กระท ำกำร หรือกำรผ่อนคลำยใด ๆ ซึ่งถือว่ำเป็นประกำศหรือสั่ง
ตำมข้อก ำหนดที่ออกตำมควำมในมำตรำ ๙ แห่งพระรำชก ำหนดกำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์
ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ยังคงมีผลบังคั บใช้ต่อไปเช่นเดิม จนกว่ำจะได้มีข้อก ำหนด ประกำศ หรือ
ค ำสั่งเป็นอย่ำงอื่น
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
ประกำศ ณ วันที่ 29 เมษำยน พ.ศ. ๒๕๖3
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชำ
นำยกรัฐมนตรี
้หนา ๗๗
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๐๐ งราชกิจจานุเบกษา ๒๙ เมษายน ๒๕๖๓
|
test
| 919
|
1392.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1392.pdf
|
กฎกระทรวง
ฉบับที่ 385 (พ.ศ. 2565)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 4 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2513 และมาตรา 42 (17)
แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10)
พ.ศ. 2496 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ให้ยกเลิกความใน (78) ของข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง
ฉบับที่ 371 (พ.ศ. 2563) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
“(78) เงินได้ของวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนเฉพาะที่เป็น
ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลซึ่งมีเงินได้ไม่เกินหนึ่งล้านแปดแสนบาท ส าหรับปีภาษีนั้น
ทั้งนี้ ส าหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม
พ.ศ. 2568 และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศก าหนด”
ให้ไว้ ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖5
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
้หนา ๑๔
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๗๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากการก าหนดให้เงินได้ของวิสาหกิจชุมชน
ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมค านวณ
เพื่อเสียภาษีเงินได้ตามที่ก าหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวล
รัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 371 (พ.ศ. 2563)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม
พ.ศ. 2565 แต่เพื่อส่งเสริมและส นับสนุนวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งท าให้เศรษฐกิจของชุมชนมีความเข้มแข็ง
และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สมควรก าหนดให้การไม่น าเงินได้ดังกล่าวมารวมค านวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
มีผลใช้บังคับขยายไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568 จึงจ าเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
้หนา ๑๕
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๗๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
|
test
| 920
|
2208.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2208.pdf
|
'#>@02ํ@%?@%!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##!
N#APอ O!N!?Q(CO!#/2อ&@##ํ@(ล>! ?์อB!2@ห##! (&?&#?P `c)
.0. `cde
P "#?PN'็%@#2!ค/#O!N!?Q(CO!#/2อ&@##ํ@(ล>! ?์อB!2@ห##! NAPอ ํ@N%>%@#!#/2อ&
@##ํ@(ล>! ?์อB!2@ห##!
อ@0?"อํ@%@!@!ค/@!Q%!@!#@ c OหN#>#@&?ญญ?!>!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##!
.0. `c__ @POORN>P!N!>!P "#>#@& ?ญญ?!>!@!#@%(ล >! ?์อB!2@ห##! (&?&#?P f)
.0. `cd` Nล@$>@#2ํ@%?@%!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##! P "ค/@!NหO%อ&อค>##!@#
!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##! @ออ'#>@0R/O ?!NอR'%?Q
Oอ _ '#>@0%?QN#?"/N@ '#>@02ํ@%?@%!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##! N#APอ O!N!?Q
(CO!#/2อ&@##ํ@(ล>! ?์อB!2@ห##! (&?&#?P `c) .0. `cde
Oอ ` '#>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'#>@0Q%#@>@%BN&1@N'็%!O%R'
Oอ a QหOO!N!?Q &#>1?# Nอ2?Nอ2 ('#>N#0R#") ํ@? N'็%(CO!#/2อ&@##ํ@(ล>! ?์
อB!2@ห##! ํ@%/% aa !@!#@% ?!NอR'%?Q
ลํ@ ?&#?P (ล>! ?์อB!2@ห##! !@!#@%Nล#?P
!อ.
1 !CO%Qํ@#Oอ%%Qํ@N"O%&#>P คOล>!CO%Qํ@N"O%&#>P ค N@> O@%ค/@!'ลอ ?" 2461
2 ห!OอหBO@/R้@ คBล?1>#?P!Oอ@# O@%'#>2>#$> @ล?@% 2545
3 @!O!%Qํ@R้@ คBล?1>#?P!Oอ@# O@%'#>2>#$> @ล?@% 2588
4 N!@R้@ คBล?1>#?P!Oอ@# O@%'#>2>#$> @ล?@% 2589
5 N!@#? R้@ : คBล?1>#?P!Oอ@# O@%'#>2>#$> @ล?@% 2590
6 N!@อ&R้@ - คBล?1>#?P!Oอ@# O@%'#>2>#$> @ล?@% 2674
7 !COONO2 2>%คO@ N@> O@%'#>2>#$> @ล?@% 2700
8
ค/@!'ลอ ?"อNค#APอQOR้@2ํ@ห#?&QOQ%#?Pอ"CNอ@0?"Oล>Nค#APอQOR้@อAP%
#?PคลO@"?% NลN! 2(25) Oอํ@ห% N@>2ํ@ห#?&N!@อ&R!Pค#N/ #/!"@
N!@อ&R!Pค#N/#N/!
60335
NลN! 2(25)
9 ค/@!'ลอ ?"อNค#APอQOR้@2ํ@ห#?&QOQ%#?Pอ"CNอ@0?"Oล>Nค#APอQOR้@อAP%
#?PคลO@"?% NลN! 2(47) Oอํ@ห% N@>2ํ@ห#?&#>#>หB!O!R้@N>@>"์
60335
NลN! 2(47)
หนา ๖๙
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
ลํ@ ?&#?P (ล>! ?์อB!2@ห##! !@!#@%Nล#?P
!อ.
10
ค/@!'ลอ ?"อNค#APอQOR้@2ํ@ห#?&QOQ%#?Pอ"CNอ@0?"Oล>Nค#APอQOR้@อAP%
#?PคลO@"?% NลN! 2(48) Oอํ@ห% N@>2ํ@ห#?&N!@'ิ้%!'ัOล>N!@"N@
N>@>"์
60335
NลN! 2(48)
11 ค/@!'ลอ ?"อNค#APอQOR้@2ํ@ห#?&QOQ%#?Pอ"CNอ@0?"Oล>Nค#APอQOR้@อAP%
#?PคลO@"?% NลN! 2(90) Oอํ@ห% N@>2ํ@ห#?&N!@อ&R!Pค#N/N>@>"์
60335
NลN! 2(90)
12 ค/@!'ลอ ?"อNค#APอQOR้@2ํ@ห#?&QOQ%#?Pอ"CNอ@0?"Oล>Nค#APอQOR้@อAP%
#?PคลO@"?% NลN! 2(109) Oอํ@ห% N@>2ํ@ห#?&Nค#APอ&ํ@&? %Qํ@ O/"#?2?"C/?
60335
NลN! 2(109)
13 ค/@!'ลอ ?"อNค#APอQOR้@2ํ@ห#?&QOQ%#?Pอ"CNอ@0?"Oล>Nค#APอQOR้@อAP%
#?PคลO@"?% NลN! 2(115) Oอํ@ห% N@>2ํ@ห#?&Nค#APอ COลค/@!@!(>/
60335
NลN! 2(115)
14
Nลล์Oล>O&!N!อ#?P#B!>" C!>&##Bอ>NลOP##Rล!์Oอลค@Rล%์ห#Aออ>NลOP##Rล!์อAP%
#?PR!NN'็%# - Oอํ@ห% ค/@!'ลอ ?"2ํ@ห#?&Nลล์#B!>" C!>(%@?%#?P/
O&&@Oล>2 ํ@ห#?&O&!N!อ#?P#ํ@@Nลล์#B!>" C!>(%@?%#?P/O&&@
2ํ@ห#?&@#QO@%O&&@ - NลN! 1 #>&&%>N>ล
62133 NลN! 1
15
Nลล์Oล>O&!N!อ#?P#B!>" C!>&##Bอ>NลOP##Rล!์Oอลค@Rล%์ห#Aออ>NลOP##Rล!์อAP%
#?PR!NN'็%# - Oอํ@ห% ค/@!'ลอ ?"2ํ@ห#?&Nลล์#B!>" C!>(%@?%#?P/
O&&@Oล>2 ํ@ห#?&O&!N!อ#?P#ํ@@Nลล์#B!>" C!>(%@?%#?P/O&&@
2ํ@ห#?&@#QO@%O&&@ - NลN! 2 #>&&ล>N#?"!
62133 NลN! 2
16 N!O@N2?"& N!O@#?& N!O@#?&!Nอ"@%"%!์ Oล>N!O@N2?"&"@%"%!์ - @#'#>B
%ํ@@#>O2R้@อ"@%"%!์R้@ - NลN! 1 Oอํ@ห% #?P/R'
62196 NลN! 1
17
N!O@N2?"& N!O@#?& N!O@#?&!Nอ"@%"%!์ Oล>N!O@N2?"&"@%"%!์ - @#'#>B
%ํ@@#>O2R ้@อ"@%"%!์R้@ - NลN! 2 Oอํ@ห% ค/@!NO@?%R O
#@!>!>2ํ@ห#?&N!O@R้@@N2?"&Oล>N!O@R้@#Nอ2N/%2?!(?2 AC
62196 NลN! 2
18
N!O@N2?"& N!O@#?& N!O@#?&!Nอ"@%"%!์ Oล>N!O@N2?"&"@%"%!์ - @#'#>B
%ํ@@#>O2R ้@อ"@%"%!์R้@ - NลN! 3 Oอํ@ห% ค/@!NO@?%R O
#@!>!> 2ํ@ห#?&คCNN!O@!Nอ"@%"%!์@N2?"&Oล>คCNN!O@!Nอ"@%"%!์#Nอ2N/%2?!(?2
DC Oล> AC/DC
62196 NลN! 3
19
Nลล์Oล>O&!N!อ#?P#B!>" C!>&##Bอ>NลOP##Rล!์ Oอลค@Rล%์ห#Aออ>NลOP##Rล!์อAP%
#?PR!NN'็%# - Oอํ@ห% ค/@!'ลอ ?"2ํ@ห#?&Nลล์Oล>O&!N!อ#?Pล>N#?"!
#B!>" C!> 2ํ@ห#?&@#QOQ%@%อB!2@ห##!
62619
20 Nลล์Oล>O&!N!อ#?P#B!>" C!>&##Bอ>NลOP##Rล!์Oอลค@Rล%์ห#Aออ>NลOP##Rล!์อAP%
#?PR!NN'็%# - Nลล์Oล>O&!N!อ#?Pล>N#?"!#B!>" C!> 2ํ@ห#?&@#QOQ%@%อB!2@ห##!
62620
21 @%> Nค#APอQO Oล>ิล์!R%ลอ%2ํ@ห#?&อ@ห@# 2108
หนา ๗๐
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
ลํ@ ?&#?P (ล>! ?์อB!2@ห##! !@!#@%Nล#?P
!อ.
22 ห!/%># ?"2ํ@ห#?&(COQO#"?#"@% 2715
23 #> @1NO อN%'#>2ค์ 2925
24 ROOP@!? O@!?& 2956
25 N2AQอ"B!?/ #> ?& 50 3149
26 N2AQอC? #> ?& 100 3150
27 N2AQอC? #> ?& 150 3151
28 อB'#์''้อ /!@Oล>Q&ห%O@ - #>&?ห%O@2ํ@ห#?&'้อ?%ห" Oล>ล>ออ
อNหล/
3155
29 อB'#์''้อ /!@Oล>Q&ห% O@ - O/N%ค#อ&!@2ํ@ห#?&'้อ?%ห" Oล>
ล>อออNหล/
3156
30 N2AQอC? #> ?& 275 3204
31 @%>Oล>Nค#APอQONหลOลO@R#O2%>!2ํ@ห#?&อ@ห@# N@> O@%ค/@!'ลอ ?" 3206
32 #อN#O@ห%?O#O2ํ@ห#?&(CO@" 3288
33 #> @12?!(?2อ@ห@#2ํ@ห#?&'#Bอ@ห@# O/"ค/@!#Oอ% 3438
'#>@0 /?%#?P `b !Bล@ค! .0. `cde
/?%?" %!?"
Nล@$>@#2ํ@%?@%!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##!
หนา ๗๑
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 921
|
2219.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2219.pdf
|
)1>@01>%1/O1@'
N1AP1 ํ@/'"/ล?N!์ />&?@1 Oล>NAP1'RQ/Oล"/0N1'
@111N>'2/%(1'@0O@ Oล>*CO)1>?'#'Q'%O1%?P%?P)1>2(.?0,>(?#>10N@1O@0O1
,.0. `cde
N,AP1N)็'@1N/0N/ลA1Oล>(11N%@ค/@/N" A1"1O1'ON'@0O@Oล>*CO)1>?'#'Q'%O1%?P
%?P)1>2(.?0,>(?#>10N@1O@0O11!?@/@#.?0Oล>1B%.?0 @P1/)O1?'Oล>(11N%@2@&@1!. ?0
1>%1///@"R%0 R"O)1>@0N#, AQ'%?P)1>2(2@&@1!. ?0 #?QO#NN/N"A1'2>/@ค/ `cde
$@/?'@ค/ `cdf 1?'2N*ล1>%(#N12$@'@1!์%@N011> @ค/1ล"/0N1'@111N>'2/%('@0O@
Oล>*CO)1>?'#'Q'%O1%?P"?ลN@/
1@0?01ํ@'@#@/ค/@/Q'/@#1@ bd/_ O/N,1>1@(??#>)1>?'2?ค/ ,.0. `caa
@POORN,>P/N#>/P"0,1>1@(??#>)1>?'2?ค/ ((?(%?P b) ,.0. `ccf 1?/'#1?/N@@11>%1/O1@'
P"0ค/@/N/O'1(1ค!>1?/'#1? 11)1>@0R/O "?#N1R)'?Q
O1 _ Q/O'@0O@@P@Q'%>N(?0''@0O@ Oล>*CO)1>?'#'#@//@#1@ aa @P@Q'%>N(?0'
*CO)1>?'#' Q'%O1%?P?//?"1>(?P @'(B1? @02>'&B์ ํ@O,N,1 1'ON' >N>N%1@ ล(B1?
?0'@% ?0.C/> B/,1 N?01@0 N?0Q//N #1? #@ 'ค1'@0 'ค1)/ 'ค1,'/ 'ค11@2?/@
'ค101?&11/1@ 'ค12/11ค์ 'N@' (@@0 )1@?'(B1? ,1>'ค101?10B&0@ ,>N0@ ,?@ ,>>#1
,>1!BPล N,1(C1!์ O,1N .CNO# //@2@1ค@/ /B"@/@1 O/N2N121' 0P2&1 0>ล@ 1O10N1O"
1>01 ลํ@)@ ลํ@,C' Nล0 2ล@ 2#Cล 2/B%12@ค1 21>(B1? 2>/์(B1? 2BP%?0 2B1@11์&@'?
2B1>'%1์ /'1ค@0 /'1(?/ลํ@.C 1N@%1 1B"1&@'? 1B#1">#$์ Oล>1B%?0&@'? R"O1?(@1ล"/0N1'
@111N>'2/%(NO@1%B')1>?'2?ค/)1>ํ@/"N"A1'#Bล@ค/ ,.0. `cde $@/"N"A1'/?'@ค/
,.0. `cdf P"0Q/O2NN>'2/%(Q'1?#1@+N@0ล>1O10ล>2@/1คN@O@1*CO)1>?'#'
O1 ` Q/O*CO)1>?'#'#@//@#1@ ag @P/?%>N(?0'*CO)1>?'#'Q'%O1%?P%?Pํ@/'"#@/O1 _
R"O1?(@1ล"/0N1'@111N>'2/%(NO@1%B')1>?'2?ค/)1>ํ@/"N"A1'#Bล@ค/ ,.0. `cde
$@/"N"A1'/?'@ค/ ,.0. `cdf P"0Q/O2NN>'2/%(Q'1?#1@N"A1'ล>211O10O)"2>(2@/(@%
O1 a Q'1!?%?P/?@12NN>'N>'/N@ํ@'/'N>'%?Pํ@/'"R/O#@/)1>@0'?Q Q/O'@0O@/1A1*CO)1>?'#'
#@/O1 _ /1A1O1 ` OลO/O#N1!? 0AP'คํ@1O111?(N>'Q'2N/'%?PN>'คA'R"O ! 2ํ@'?@')1>?'2?ค/
1BN%,//@'ค1,AQ'%?P 2ํ@'?@')1>?'2?ค/?//?" /1A12ํ@'?@')1>?'2?ค/?//?"2@@
)1>@0 ! /?'%?P `d &?'/@ค/ ,.0. `cde
,>,? '์ 1?>)1>@1
1?/'#1?/N@@11>%1/O1@'
หนา ๑๔
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๕๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 922
|
459.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/459.pdf
|
ประกาศ
เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
(คราวที่ ๒)
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่
๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน คราวที่ ๑ ออกไป
จนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ นั้น
รัฐบาลได้ด าเนินบรรดามาตรการต่าง ๆ อันจ าเป็นเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด - 19 ทั้งการห้ามออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลา
ที่ก าหนด การจ ากัดการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร การห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง และการห้ามใช้อาคาร
หรือสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรค รวมทั้งการแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ผ่านศูนย์บริหาร
สถานการณ์โควิด - 19 โดยหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในแต่ละฝ่ายได้ปฏิบัติงาน
ตามหน้าที่และอ านาจที่ได้รับมอบหมายโดยเข้มงวด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดของโรคดังกล่าว
ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยยังไม่สิ้นสุด โดยปรากฏข้อมูลเป็นที่ประจักษ์ว่าหลายประเทศยังคงมี
การระบาดแ ละมีจ านวนผู้ติดเชื้อในระดับสูง และเมื่อได้ผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการควบคุมแล้ว
กลับพบการระบาดของโรคระลอกใหม่ในระดับรุนแรง ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
ดังกล่าวของรัฐบาลเป็นไปโดยมีเอกภาพ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัย
ในชีวิตของประชาชนเป็นส าคัญ จึงมีความจ าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขยายระยะเวลาการประกาศ
สถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยในระหว่างนั้นรัฐบาลจะติดตามและประเมินสถานการณ์
อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิ ภาพ
และก าหนดหรือผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ตามความเหมาะสม โดยค านึงถึงการด ารงชีวิตโดยปกติสุข
ของประชาชนไปพร้อมกัน
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชก าหนดการบริหารราชการในสถานการณ์
ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๕๖๓ จึงให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่
ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง ส าหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่
จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ จนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓
ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖3
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
้หนา ๓๓
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๒๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๓
|
test
| 923
|
79.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/79.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น
และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
พ.ศ. ๒๕๖๑
โดยที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑
มาตรา ๑๐๖ กําหนดให้เพื่อประโยชน์ในการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบทร ัพย์สิน
และหนี้สิน ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทร ัพย์สินและหนี้สิน ที่ตั้งของ
อสังหาริมทรัพย์ และเอกสารประกอบของผู้ดํารงตําแหน่งตามมาตรา ๑๐๒ (๑) เฉพาะนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา และบุคคลตามมาตรา ๑๐๒ (๒) (๓) (๗)
และ (๙) รวมทั้งของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลดังกล่าวให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป
และมาตรา 106 วรรคสอง กําหนดให้การเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้บริหารท้องถิ่น
รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ
ป.ป.ช. กําหนด
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๐๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการท ุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิก
สภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. ๒๕๖๑”
ข้อ ๒ ประกาศน ี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสามส ิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ตําแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นตําแหน่งที่ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
1) กรุงเทพมหานคร
(1) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
( ๒) รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
2) เมืองพัทยา
(1) นายกเมืองพัทยา
( ๒) รองนายกเมืองพัทยา
3) องค์การบริหารส่วนจังหวัด
(1) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
้หนา ๗๘
่เลม ๑๓๕ ตอนที่ ๘๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
4) เทศบาลนคร
(1) นายกเทศมนตรี
5) เทศบาลเมือง
(1) นายกเทศมนตรี
6) เทศบาลตําบล
(1) นายกเทศมนตรี
7) องค์การบริหารส่วนตําบล
(1) นายกองค์การบริหารส่วนตําบล
ข้อ ๔ ให้ประธานกรรมการป ้องกันและปราบปรามการท ุจริตแห่งชาติเป็นผู้รักษาการ
ตามประกาศนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.
มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑
พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
้หนา ๗๙
่เลม ๑๓๕ ตอนที่ ๘๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
|
test
| 924
|
2445.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2445.pdf
|
#0201>?#!2##2#
(1?P cb)
N#AP1 O2//%1N์O%0NAP1R NAP12#"N/O 21?N>RO 21?!C%คN2N>P!
21?B#>N20 O%012#O2!์ 2O2/#12##>2คQ/OON2 222R"/#A1
!C%>>O22#O"์O%02#222#2BN2#0#>2ค1>N%O#1>2์
1201"1O222!ค/2!Q!2#2 c !2#2 d O%0!2#2 e O/N#0#2$1 ?2
112!ค/2!Q#0!/%# 112# /N2O/"2#"N/ O#112# ( 1?P egc) .0. `cdf
1>?#!2##2# O2//% 1N์O%0NAP1R NAP12#"N/ O 21?N>RO 21?!C%คN2N>P!
21?B#>N20 O%012#O2!์ 2O2/#12##>2คQ/OON2 222R"/#A1!C%>> 1N1R?Q
O1 _ Q#020?Q
!C%>> /!2"ค/2!/N2
(_) !C%>>22#!?
(`) !C%>>ค0O"022#์ B02%#์
(a) !C%>>B02 #์
(b) !C%>>1"12
(c) !C%>>NคPP%"?22#2N02!#0#2O2#>2!NO#0N#1#22B2/ 2"2!#!#2B!2#?
(d) !C%>>#2!2>? Q#0#2C1! ์ 2!NO#0N#1#22B2/ 2"2!#!#2B!2#?
(e) !C%>>P#ค!0N#O P#"22%0>#>#2
(f) !C%>>P#"22%NO
(g) !C%>>P#"22%O2#/ Q#0#!#2>C1! ์
(_^) !C%>>P#"22%#01!N%O2NO2คB/2# Q#021#2C1! ์
(__) !C%>>P#"22%#0! BN%O2 Q#0#2 C1! ์2!NO#0N# 1#22B2/
2"2!#!#2B!2#?
(_`) !C%>>P#"22% C!>%1B%"N
(_a) !C%>>P#"22%#2/>?
(_b) !C%>>P#"22%N%>2> Q#01B1! ์2!NO#0NO2?P2N1 NO2้21%"2>/12
#!/%/#2>/22#2ค#>#์
หนา ๓๐
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๑๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๘
(_c) !C%>>P#"22%N/022# ์N#O1 Q#01 B1! ์2!NO#0N O2?P2N1
NO2้21%"2>/12 #!/%/#2>/22#2ค#>#์
(_d) !C%>>P#"22%2%2ค#>#์
(_e) !C%>>P#"22%2์
(_f) !C%>>P#"22%2!NO#02NO22>#>>>N 11N#A1 Q#0#!#2>C1! ์
(_g) !C%>>P#"22%2/1 ค0O"022#์ !/2/>"2%1"N?"Q/!N
(`^) !C%>>P#"22%/2Q/N
(`_) !C%>>0#?2/2ค/1 Q#01B1! ์2!NONO2้2/ #!#00#?2/2ค/1 /#1>"#22#?
(``) !C%>>221!0N#OO/N2>
(`a) !C%>>2212>#>#NAP12#ืQC2!## 222#O"์O/N2>
(`b) !C%>>212B221#022/>"2
(`c) !C%>>2!NO#0ิPN%O2
(`d) 0>#>#2!C%>>
O1 ` 2#RO#1"N/O 21?N>RO1Bคค%##!2 2O2/#12##>2คQ/OON2 222R"
/#A1!C%>> 2!!2#2 b (_) O/N#0#2$1 ?2112!ค/2!Q#0!/%# 112# /N2O/"
2#"N/O#112# (1?P egc) .0. `cdf 0O1#>2คNON>NN21Q
O1 a 2#RO#1"N/O 21?N>RO1#>11/#A1/O2/BO2N/>>Bคค% 2O2/#12##>2ค
Q/OON2 222R"/#A1!C%>> 2!!2#2 b (`) O/N#0#2$1?2112!ค/2!Q#0!/%
#112# /N2O/"2#"N/O#112# (1?P egc) .0. `cdf 0#>2คNON> #1"์2>
/#A12>คO2ORO
Q#??P#>2คNO#1"์2>/#A12>คO2 O1NOR2!/%1N์O%0NAP1R 1?Q
(_) #??P#>11/#A1/O2/BO2N/>>Bคค%AQ1#1"์2>!2NAP1#>2ค O1!?/%12
2#RO!2@P#1"์2>?P#0BO2/O%0!C%คN21#1"์2>1Q P"Q/OA1/N2!C%คN22!/%121%N2/
NO!C%คN21#2"N2"?P#>2ค
(`) #??P#>11/#A1/O2/BO2N/>>Bคค%O2#1"์2>?PRO1@1?#1"์2>1#>11
/#A1/O2/BO2N/>>Bคค%1Q!2#>2ค Q/OA1N12!C%คN2OB2N/?PN/%A122#คO2//1คN22@/#1
O%0คN2N2AP1!#2ค21#1"์2> NO!C%คN21#2"N2"?P#>2ค
หนา ๓๑
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๑๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๘
(a) #??P#>11/#A1/O2/BO2N/>>Bคค%O22>คO2!2#>2ค R!N/N20NO2>คO2?P%>N1
/#A1AQ1!2NAP12" Q/OA1N12!C%คN2OB12>คO21%N2/?P22!2#>2C์RO NO!C%คN21#2"N2"
?P#>2ค ON!C%คN21%N2/O1R!NN>#2ค22>คO2คN/%A1"!2 2!!2#2 dc /> (d) O/N#0!/%
#112#
(b) !C%คN21#1"์2>/#A12>คO2?PAQ1!2NAP1#>2ค1Q 0O1!?O2/R!NN>#2ค2
?P@AQ1ROP"> 1Q?Q 2!!2#2 dc #? (_c) O/N#0!/%#112#
O1 b 2##>2คQ/OON2 222R"/#A1!C%>> Q/OQOO1!C%2##>2ค?P#2Q#0
#>2ค1>N%O#1>2์NO/%12#012#QO2>>"N/O 21?N>RO 21?!C%คN2N>P! 21?B#>N20
O%012#O2!์ 2!!2#2 b O%0!2#2 e O/N#0#2$1?2112!ค/2!Q#0!/%#112#
/N2O/"2#"N/O#112# (1?P egc) .0. `cdf P"CO?PQO2>>"N/O 21?12#R!NO1O2
N122#/%122##>2คN1NO212#0N!>
O1 c #020?QQ/OQO1ค11QON/1?P _ !#2ค! .0. `cdf NOOR
#020 /1?P 8 $1 2ค! .0. `cd8
!ิ่ส@0 สุ1?สวด?
อ> ด?ก1/ส11พ@ก1
หนา ๓๒
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๑๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๘
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 925
|
1702.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1702.pdf
|
'1>@0ค>11/@1ล@/N@ O/01@ค@2>%คO@Oล>&1>@1
&?&#?P `a พ.0. `_``
N1APอ @1ํ@ห% 2>%คO@ค/&คB/Nพ>P/N!>/
!@/#?Pค>11/@1ล@/N@ O/01@ค@2>%คO@Oล>&1>@1 O/0ค/@/NหO%อ&อค>1?/%!1?
R Oออ'1>@0ค>11/@1ล@/N@ O/01@ค@2>%คO@Oล>&1>@1 &?&#?P _ พ.0. `_`` N1APอ @1ํ@ห%
2>%คO@ค/&คB/Nพ>P/N!>/ ล/?%#?P _๙ /1@ค/ พ.0. `_`` ํ@ห% 2>%คO@ค/&คB/Nพ>P/N!>/ _ 1@0@1
Oล>'1>@0ค>11/@1ล@/N@ O/01@ค@2>%คO@Oล>&1>@1 &?&#?P ๙ พ.0. `_`` N1APอ @1ํ@ห%
2>%คO@Oล>&1>@1ค/&คB/ ล/?%#?P `๙ />"B%@0% พ.0. `_`` ํ@ห% 2>%คO@ค/&คB/ ^` 1@0@1
Oล>&1>@1ค/&คB/ _ 1@0@1 R'OลO/ %?Q%
P 0#?Pค>11/@1ล@/ N@ O/01@ค@2 >%คO@Oล>&1>@1 R Oพ>@1@Nห O%/N@2"@%@1 ์
Oล>.@/>N011 >Q%>% ?Qํ@N'็%>!OอNพ>P/N!>/@1ํ@ห% QหO%Qํ@!@ล#1@0N' ็%2>%คO@ค/&คB/
NพAPอ COล'้อ?%@1ํ@ห% 1@ค@AQอ 1@ค@ํ@ห%N@0 ห1Aอ@1ํ@ห% NAPอ%ROล>/>$?@1'>&?!>#@@1คO@
อ?%R/NN'็%$11/ Oล>ํ@?& COล2>%คO@%Qํ@!@ล#1@0QหO/?1@ค@#?PN'็%$11/Oล>'1>/@#?PNพ?0พอ
อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ ๙ (_) Oล>/@!1@ `^ OหNพ1>1@& ?ญญ?!>/N@ O/0
1@ค@2>%คO@Oล>&1>@1 พ.0. `_^` ค>11/@1ล@/N@ O/01@ค@2>%คO@Oล>&1>@1 O/0ค/@/NหO%อ&
อค>1?/%!1? @ออ'1>@0 ?!NอR'%?Q
Oอ _ '1>@0&?&%?QQหOQO&?ค?&N'็%1>0>N/ล@ห%@P'ี !?QO!N/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@
N'็%!O%R' N/O%O!N>/?@1ออ'1>@0Qห/N
Oอ ` QหO%Qํ@!@ล#1@0 N'็%2>%คO@ค/&คB/
'1>@0 /?%#?P 31 !Bล@ค/ พ.0. `_`6
.C/>$11/ N/0?0
1?/%!1?/N@@11>#1/พ@>0์
'1>$@%ค>11/@1ล@/N@ O/01@ค@2>%คO@Oล>&1>@1
หนา ๖๗
เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 926
|
33.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/33.pdf
|
หน้า ๑
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๙๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ สิงหาคม ๒๕๖๑
ระเบียบสํานักงานประกันสังคม
ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์แก่สถานพยาบาลหรือผู้ประกันตน
และการจ่ายเงินค่ายา พ.ศ. ๒๕61
เพื่อให้เป็นไปตามความในข้อ ๑๒ (๑) แห่งระเบียบคณะกรรมการประกันสังคม ว่าด้วยการรับเงิน
การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุน พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการ
ประกันสังคมว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
ประกอบก ับเพื่อให้การจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย ์แก่สถานพยาบาลหร ือผู้ประกันตนและ
การจ่ายเงินค่ายาเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการแพทย ์ ที่กําหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่าย
ค่าบริการทางการแพทย์และค่ายา
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ ่นดิน
พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545
สํานักงานประกันสังคมจึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสํานักงานประกันสังคมว่าด้วยการจ่ายเงินค่าบริการ
ทางการแพทย์แก่สถานพยาบาลหรือผู้ประกันตน และการจ่ายเงินค่ายา พ.ศ. ๒๕61”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบสํานักงานประกันสังคมว่าด้วยการจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์
แก่สถานพยาบาล และการจ่ายเงินค่ายาแก่หน่วยงานภาครัฐ พ.ศ. ๒๕59
ข้อ ๔ วิธีปฏิบัติใด ซึ่งมิได้กําหนดในระเบียบนี้ให้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการโดยอนุโลม
ข้อ ๕ ในระเบียบนี้
“ค่าบริการทางการแพทย ์” หมายความว ่า เงินตอบแทนค ่าบริการทางการแพทย ์และ
ค่ารักษาพยาบาลผู้ประกันตน
“ค่ายา” หมายความว่า เงินค่ายาในบัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชี จ (๒) หรือค่ายาต้านไวรัสเอดส์
“สถานพยาบาล ” หมายความว่า สถานพยาบาลท ี่สํานักงานกําหนดสิทธิในการรับบริการ
ทางการแพทย์
“สถานพยาบาลอื่น” หมายความว่า สถานพยาบาลที่นอกเหนือจากสถานพยาบาลที่สํานักงาน
กําหนดสิทธิในการรับบริการทางการแพทย์
“สํานักงาน” หมายความว่า สํานักงานประกันสังคม
“เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม
ข้อ ๖ ให้สํานักงานจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย ์ให้แก่สถานพยาบาลโดยว ิธีเหมาจ่าย
ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย ์ เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราสําหรับประโยชน์ทดแทนในกรณ ี
หน้า ๒
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๙๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ สิงหาคม ๒๕๖๑
ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทํางาน ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่
แก้ไขเพิ่มเติมต่อผู้ประกันตนหน ึ่งคน ภายในระยะเวลาหน ึ่งปี ตามจํานวนผู้ประกันตนที่มีชื่อ
ตามทะเบียนที่สํานักงานได้กําหนดไว้ให้กับสถานพยาบาลโดยให้จ่ายภายในวันที่ ๑๕ ของทุกเดือน
ให้สํานักงานแบ่งจ่ายเงินตามวรรคหน ึ่ง เป็นรายเดือน ๆ ละไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบห้า
ของจํานวนผู้ประกันตนที่ใช้เป็นฐานในการค ํานวณเงินค่าบริการทางการแพทย ์ในวันทําการสุดท้าย
ของเดือนก่อนเดือนที่จะทําการจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย ์โดยใช้จํานวนผู้ประกันตนที่มีชื่อ
ตามทะเบียนที่สํานักงานได้กําหนดไว้ให้กับสถานพยาบาลในการไปรับบริการทางการแพทย์เป็นเกณฑ์คํานวณ
เมื่อมีการจ่ายเงินในแต่ละเดือนแล้ว ให้มีการคิดคํานวณเง ินค่าบริการทางการแพทย ์
ที่สถานพยาบาลพ ึงจะได้รับจริงตามจํานวนผู้ประกันตนของเดือนที่มีการจ่ายเงิน โดยให้ใช้จํานวน
ผู้ประกันตนโดยเฉลี่ยซึ่งคํานวณได้จากจํานวนผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในวันต้นเดือน
รวมกับจํานวนผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในวันสิ้นเดือนหารด้วยสองเป็นเกณฑ์คํานวณ
และในกรณีที่ต้องจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์เพิ่มให้แก่สถานพยาบาล ให้ดําเนินการให้แล้วเสร็จ
ภายในสามเดือน นับแต่เดือนที่มีการจ่ายเงิน
ข้อ 7 ให้สํานักงานจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลที่ต้องรับภาระกรณี
โรคที่มีภาระเสี่ยงตามอัตราการใช้บริการทางการแพทย์ของผู้ประกันตนหนึ่งคนภายในระยะเวลาหนึ่งปี
ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราสําหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบ
อันตรายหร ือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการท ํางาน ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และ
ที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยแบ่งงบประมาณเป็นสองส่วน ส่วนที่ 1 แบ่งจ่ายเป็นรายเดือน เดือนละเท่า ๆ กัน
จํานวนสิบเอ็ดงวด ส่วนที่ 2 จ่ายเป็นงวดที่ 12 และให้จ่ายเงินภายในสิบห้าวันนับถัดจากวันที่ได้รับอนุมัติ
ดังนี้
งวดที่ 1 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเด ือนมกราคม
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคม เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย ์ตามภาระเสี่ยงงวดที่ 1
ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
งวดที่ 2 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ และนําเงินค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1
มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงงวดที่ 2 ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
งวดที่ 3 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม และนําเงินค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1
ถึงงวดที่ 2 มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงงวดที่ 3 ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
หน้า ๓
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๙๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ สิงหาคม ๒๕๖๑
งวดที่ 4 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน และนําเงินค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1
ถึงงวดที่ 3 มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงงวดที่ 4 ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
งวดที่ 5 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม และนําเงินค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1
ถึงงวดที่ 4 มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงงวดที่ 5 ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
งวดที่ 6 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน และนําเงินค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1
ถึงงวดที่ 5 มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงงวดที่ 6 ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
งวดที่ 7 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม และนําเงินค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1
ถึงงวดที่ 6 มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงงวดที่ 7 ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
งวดที่ 8 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม และนําเงินค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1
ถึงงวดที่ 7 มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงงวดที่ 8 ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
งวดที่ 9 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน และนําเงินค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1
ถึงงวดที่ 8 มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงงวดที่ 9 ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
งวดที่ 10 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม และนําเงินค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1
ถึงงวดที่ 9 มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงงวดที่ 10 ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
งวดที่ 11 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ที่ส่งภายในเดือนมกราคมถึงเดือนพฤศจิกายน
และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนพฤศจิกายน และนําเงินค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1
หน้า ๔
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๙๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ สิงหาคม ๒๕๖๑
ถึงงวดที่ 10 มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย ์ตามภาระเส ี่ยงงวดที่ 11 ที่จ่ายให้
สถานพยาบาล
งวดที่ 12 ให้คํานวณตามคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอกและน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน
ตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) ที่มีค่าน้อยกว่า 2 ของผู้ป่วยใน ของข้อมูลปีนั้นทั้งหมดที่ส่งภายใน
ระยะเวลาที่สํานักงานกําหนด และข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม และนําเงิน
ค่าบริการทางการแพทย์งวดที่ 1 ถึงงวดที่ 11 มาหักออก เป็นเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยง
งวดที่ 12 ที่จ่ายให้สถานพยาบาล
สถานพยาบาลหรือสถานพยาบาลอื่นจะต้องส่งข้อมูลการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตน
ภายในระยะเวลาท ี่สํานักงานกําหนด เพื่อนํามาใช้เป็นข้อมูลในการคํานวณค่าบริการทางการแพทย ์
ตามภาระเสี่ยง การกําหนดสัดส่วนงบประมาณระหว่างส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 หรือการกําหนดสัดส่วน
ค่าบริการทางการแพทย ์ระหว่างผู้ป่วยนอกและผ ู้ป่วยใน รวมทั้งคะแนนโรคเร ื้อรังแต่ละโรค
เพื่อคํานวณค่าบริการทางการแพทย ์ตามภาระเส ี่ยง ให้สํานักงานพิจารณาตามค ําแนะนําของ
คณะกรรมการการแพทย์
สําหรับปีที่สํานักงานมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการรายงานข ้อมูลการให้บริการทางการแพทย ์
แก่ผู้ประกันตนที่ใช้ในการคํานวณค่าบริการทางการแพทย ์ตามภาระเสี่ยง ทําให้ต้องขยายระยะเวลา
การส่งข้อมูลการให้บริการทางการแพทย ์แก่ผู้ประกันตน ในช่วงแรกที่ยังไม่ได้รับข้อมูลการให้บริการ
ทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตน ให้คํานวณคะแนนโรคเรื้อรังของผู้ป่วยนอก และน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตาม
วันนอนตามกล ุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs) จากข้อมูลการให้บริการทางการแพทย ์แก่ผู้ประกันตน
ของปีก่อนหน้า และใช้ข้อมูลผู้ประกันตนเฉลี่ยตามปีที่จ่าย ในการคํานวณค่าบริการทางการแพทย ์
ตามภาระเส ี่ยงให้แก่สถานพยาบาลเป ็นรายเดือนไปก่อน และเมื่อได้รับข้อมูลปีที่จะจ่ายจริงแล้ว
จึงคํานวณค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงด้วยข้อมูลของปีที่จะจ่าย โดยจะต้องไม่เกินงวดที่ 11
สําหรับสถานพยาบาลท ี่เข้าใหม่ให้จ่ายค่าบริการทางการแพทย ์ตามภาระเส ี่ยงให้แก่สถานพยาบาล
ตามจํานวนผู้ประกันตนของป ีที่จ่าย ด้วยอัตราร้อยละยี่สิบห้าของอัตราที่กําหนดตามประกาศ
คณะกรรมการการแพทย ์ โดยแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน และเมื่อได้รับข้อมูลการให้บริการทางการแพทย์
แก่ผู้ประกันตน ปีที่จะจ่ายจริงแล้ว ให้คํานวณค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงด้วยข้อมูลของปีที่จะจ่าย
โดยจะต้องไม่เกินงวดที่ 11
ข้อ ๘ ให้สํานักงานจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลตามจํานวนผู้ประกันตน
ที่มีชื่อตามทะเบียนที่สํานักงานได้กําหนดไว้ให้สถานพยาบาลที่บริการมีคุณภาพและผลลัพธ์การให้บริการที่ดี
ตามตัวชี้วัดเรื่องร้องเรียนและตัวชี้วัดสถานภาพการจ ําหน่ายและประเภทการจ ําหน่ายผู้ประกันตน
ออกจากสถานพยาบาล ตามที่คณะกรรมการการแพทย์กําหนด
(ก) สถานพยาบาลท ี่บริการมีคุณภาพและผลล ัพธ์คุณภาพการให ้บริการที่ดีตามตัวชี้วัด
เรื่องร้องเรียน ในอัตราไม่เกินหกสิบบาท ต่อผู้ประกันตนหนึ่งคนภายในระยะเวลาหนึ่งปี
หน้า ๕
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๙๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ สิงหาคม ๒๕๖๑
(ข) สถานพยาบาลท ี่บริการมีคุณภาพและผลล ัพธ์คุณภาพการให ้บริการที่ดีตามตัวชี้วัด
สถานภาพการจําหน่าย (Discharge status) และประเภทการจําหน่าย (Discharge type) ผู้ประกันตน
ออกจากสถานพยาบาล ในอัตราไม่เกินหกสิบบาท ต่อผู้ประกันตนหนึ่งคนภายในระยะเวลาหนึ่งปี
การจ่ายค่าบริการทางการแพทย ์ให้แก่สถานพยาบาลตามข ้อ (ก) และ (ข) ให้เป็นไป
ตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการการแพทย ์ตามพระราชบ ัญญัติประกันสังคม
พ.ศ. ๒๕๓๓ เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราสําหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
อันมิใช่เนื่องจากการทํางาน ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยแบ่งจ่าย
เป็นรายงวดภายในสิบห้าวันนับถัดจากวันที่ได้รับอนุมัติ
ข้อ 9 ให้สํานักงานจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย ์ให้แก่สถานพยาบาลหร ือผู้ประกันตน
กรณีผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงโดยกําหนดกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (Diagnosis Related Groups : DRGs)
ที่มีค่าน้ําหนักสัมพัทธ์ปรับตามวันนอน (Adjusted Related Weight : AdjRW) มากกว่าหรือเท่ากับ ๒
ในอัตราที่กําหนดตามประกาศคณะกรรมการการแพทย ์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓
เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราสําหรับประโยชน ์ทดแทนในกรณ ีประสบอันตรายหร ือเจ็บป่วยอันมิใช่
เนื่องจากการทํางาน ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้แบ่งจ่ายเป็นรายงวด
ภายในสิบห้าวันนับถัดจากวันที่ได้รับอนุมัติ
สถานพยาบาลหรือสถานพยาบาลอื่น ต้องส่งข้อมูลการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตน
ผ่านไปยังหน่วยงานที่สํานักงานกําหนดภายในสองเดือนถัดจากเดือนที่ให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตน
เพื่อให้สํานักงานนํามาใช้เป็นข้อมูลในการคํานวณการจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์ของเดือนมกราคมถึง
เดือนธันวาคม เมื่อจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ครบทุกรายการแล้วหากมีค่าบริการทางการแพทย์คงเหลือ
จํานวนเท่าใด ให้เป็นดุลพินิจของสํานักงานในการพิจารณาคํานวณจ่ายเงินเพิ่มเติมหรือลดลงให้แก่
สถานพยาบาล ภายในวงเงินที่กําหนดตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตรา
สําหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทํางาน ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ข้อ ๑๐ ให้สํานักงานจ่ายเงินค่ายาตามท ี่กําหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการการแพทย ์
ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และอัตราสําหรับประโยชน์ทดแทน
ในกรณีผู้ประกันตนที่จําเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาในบ ัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชี จ (๒)
และประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ว่าด้วยหลักเกณฑ์
และอัตราสําหรับประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์
ข้อ ๑๑ ในกรณีสํานักงานได้จ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลตามข้อ ๙ ไปแล้ว
ต่อมาในภายหลังจากการตรวจสอบข้อมูลการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตน และการคํานวณที่ถูกต้อง
พบว่าสํานักงานได้จ่ายเงินเกินกว่าจํานวนเงินซึ่งสถานพยาบาลพึงจะได้รับจริง ให้เลขาธิการหรือผู้ซึ่ง
เลขาธิการมอบหมายเป ็นผู้พิจารณาปรับปรุงหักลบจํานวนเงินที่ขาดหรือเกินในเดือนถัดจากเดือนที่มี
หน้า ๖
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๙๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ สิงหาคม ๒๕๖๑
การคิดคํานวณที่ถูกต้อง หรือดําเนินการเรียกเงินคืนจากสถานพยาบาล หรือจากค่าบริการทางการแพทย์อื่น ๆ
ที่สถานพยาบาลพึงจะได้รับจากสํานักงาน
กรณีพบว่าสํานักงานต้องจ่ายค่าบริการทางการแพทย ์เพิ่มเติม ให้จ่ายเงินแก่สถานพยาบาล
ภายในสามสิบวัน นับถัดจากวันที่ได้รับอนุมัติ
ข้อ 12 ให้สํานักงานจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ กรณีที่สถานพยาบาลได้ให้บริการทางการแพทย์
แก่ผู้ประกันตนประเภทผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงเกินปกติ (Outlier Reimbursement Schedule : ORS)
ที่กําหนดตามประกาศคณะกรรมการการแพทย ์ เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราสําหรับประโยชน์ทดแทน
ในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทํางาน ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้สํานักงานจ่ายค่าบริการทางการแพทย์แก่สถานพยาบาลเฉพาะค่ารักษาพยาบาล
ส่วนที่เกินกว่าหนึ่งล้านบาท และเป็นค่าใช้จ่ายตามรายการที่ได้ปรับตามอัตราที่กรมบัญชีกลางกําหนด
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่ได้ปรับตามอัตราดังกล่าวเมื่อนํามาหักด้วยค่าบริการทางการแพทย ์ทุกประเภท
ที่สํานักงานจ่ายให้แก่สถานพยาบาลครบท ุกรายการแล ้ว ปรากฏว่ามีค่าใช้จ่ายที่สถานพยาบาล
ต้องรับภาระเกินกว่าสองแสนห ้าหมื่นบาทขึ้นไป จึงจะถือว่าเป็นผู้ป่วยในที่มีค่ารักษาสูงเกินปกติ
(Outlier Reimbursement Schedule : ORS) โดยให้สํานักงานจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้กับ
สถานพยาบาลในอ ัตราร้อยละแปดสิบ ของค่าบริการทางการแพทย ์เฉพาะส่วนที่เกินหนึ่งล้านบาท
ให้คณะกรรมการการแพทย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการการแพทย์เป็นผู้มีอํานาจให้ความเห็นชอบ
ในการจ ่ายค่าบริการทางการแพทย ์แก่สถานพยาบาลเฉพาะผ ู้ป่วยในที่มีค่าใช้จ่ายสูงเกินปกติ
(Outlier Reimbursement Schedule : ORS) และให้จ่ายเงินแก่สถานพยาบาลภายในส ิบห้าวัน
นับถัดจากวันที่ได้รับอนุมัติ
ข้อ ๑3 ในกรณีที่คณะกรรมการการแพทย์ออกประกาศแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ และอัตรา
การจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ตามข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 หรือข้อ 12 แล้วแต่กรณี
ให้สํานักงานจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย ์ให้แก่สถานพยาบาลหร ือผู้ประกันตนหรือจ่ายเงินค่ายา
ตามหลักเกณฑ์และอัตราที่มีการแก้ไขปรับปรุงดังกล่าวแล้ว
ข้อ 14 ให้สํานักงานดําเนินการจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นอยู่ก่อนวันที่ระเบียบฉบับนี้
ใช้บังคับจนครบตามจํานวนที่สํานักงานต้องจ่ายให้แก่สถานพยาบาล
ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑
สุรเดช วลีอิทธิกุล
เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม
|
test
| 927
|
907.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/907.pdf
|
กฎกระทรวง
ก ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีกำรกำรออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
ส ำหรับแปลงที่ดินในเขตโครงกำรจัดรูปที่ดิน
พ.ศ. 2564
อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ 5 วรรคหนึ่ง และมำตรำ 51 วรรคหนึ่ง
แห่งพระรำชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2558 รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์และรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในกำรออกโฉนดที่ดิน ให้หัวหน้ำส ำ นักงำนจัดรูปที่ดินจังหวัดแจ้งขอด ำเนินกำร
ออกโฉนดที่ดินต่อเจ้ำพนักงำนที่ดินจังหวัดหรือเจ้ำพนักงำนที่ดินจังหวัดสำขำแห่งท้องที่ซึ่งที่ดินนั้น
ตั้งอยู่ พร้อมทั้งส่งมอบเอกสำรหลักฐำน ดังต่อไปนี้
(1) หนังสือแสดงสิทธิในที่ดินเดิมและเอกสำรหรือหลักฐำนอื่นที่เกี่ยวข้องกับกำรขอ
ออกโฉนดที่ดิน
(2) แผนผังกำรจัดแปลงที่ดินใหม่พร้อมกับรำยชื่อเจ้ำของที่ดินเดิมและผู้มีสิทธิได้รับที่ดิน
ในกำรจัดรูปที่ดินแต่ละแปลง
ข้อ 2 ในกำรรังวัดท ำแผนที่ก่อนออกโฉนดที่ดิน ให้เจ้ำขอ งที่ดินที่เกี่ยวข้อง ผู้แทน
กรมชลประทำนและหัวหน้ำส ำนักงำนจัดรูปที่ดินจังหวัด ร่วมน ำท ำกำรรังวัดปักหลักหมำยเขต ที่ดิน
และลงชื่อในฐำนะผู้น ำท ำกำรรังวัดตำมประมวลกฎหมำยที่ดิน
ข้อ 3 ให้เจ้ำพนักงำนที่ดินด ำเนินกำรออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้มีชื่อตำมหลักฐำนที่หัวหน้ำ
ส ำนั กงำนจัดรูปที่ดินจังหวัดแจ้งตำมข้อ 1 และให้น ำประมวลกฎหมำยที่ดินยกเว้นกำรประกำศ
แจกโฉนด มำใช้บังคับโดยอนุโลม
้หนา ๒๗
่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๖๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ กันยายน ๒๕๖๔
ข้อ 4 เมื่อออกโฉนดที่ดินแล้ว ให้เจ้ำพนักงำนที่ดินมอบโฉนดที่ดินทั้งหมดให้แก่หัวหน้ำ
ส ำนักงำนจัดรูปที่ดินจังหวัดเป็นผู้รับไปด ำเนินกำรต่อไป
ให้ไว้ ณ วันที่ 10 สิงหำคม พ.ศ. ๒๕๖4
เฉลิมชัย ศรีอ่อน พลเอก อนุพงษ์ เผ่ำจินดำ
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย
้หนา ๒๘
่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๖๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ กันยายน ๒๕๖๔
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจำกมำตรำ 51 วรรคหนึ่ง
แห่งพระรำชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2558 บัญญัติว่ำ เมื่อคณะกรรมกำรจัดรูปที่ดินจังหวัด
ได้ก ำหนดแปลงที่ดินที่จะจัดให้แก่เจ้ำของที่ดินเดิม หรือผู้มีสิทธิได้รับที่ดินในกำรจัดรูปที่ดินเสร็จสิ้นแล้ว
ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ตำมประมวลกฎหมำยที่ดินด ำ เนินกำรออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินส ำหรับแปลงที่ดิน
ในเขตโครงกำรจัดรูปที่ดินนั้นต่อไป ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่ก ำหนดในกฎกระทรวง จึงจ ำเป็นต้องออก
กฎกระทรวงนี้
้หนา ๒๙
่เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๖๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ กันยายน ๒๕๖๔
|
test
| 928
|
1562.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1562.pdf
|
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง วัตถุที่ได้รับยกเว้นไม่เป็นยา
(ฉบับที่ 40) พ.ศ. 2566
ด้วยประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๓๔ (พ.ศ. ๒๕๔๘) เรื่อง วัตถุที่ได้รับยกเว้นไม่เป็นยา
ลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๔๘ ก าหนดวัตถุที่มุ่งหมายส าหรับใช้ในการเกษตรได้รับยกเว้นไม่เป็นยา
ประกอบ กับมีกฎหมายว่าด้วยการควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ซึ่งควบคุมก ากับดูแลอาหารสัตว์แล้ว
สมควรก าหนดให้อาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะส าหรับสัตว์เลี้ยง ที่มีกลูโคซามีน (Glucosamine)
และคอนดรอยติน (Chondroitin) รวมทั้งเกลือของสารดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ รวมถึงสารกลูโคซามีน
(Glucosamine) และคอนดรอยติน (Chondroitin) ที่มุ่งหมายเป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ
ส าหรับสัตว์เลี้ยง เป็นวัตถุที่มุ่งหมายส าหรับใช้ในการเกษตรที่ได้รับยกเว้นไม่เป็นยาด้วย
อาศัยอ านาจตามความในวรรคสอง (ก) ของบทนิยามค าว่า “ยา” ในมาตรา ๔
แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒
และมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ ให้เพิ่มเติมข้อความต่อไปนี้เป็น (๖) ของข้อ ๒ แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ฉบับที่ ๓๔ (พ.ศ. ๒๕๔๘) เรื่อง วัตถุที่ได้รับยกเว้นไม่เป็นยา ลงวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2548
“(๖) สารกลูโคซามีน (Glucosamine) และคอนดรอยติน (Chondroitin) รวมทั้งเกลือ
ของสารดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ ที่มุ่งหมายส าหรับใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ
ส าหรับสัตว์เลี้ยง ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ รวมถึงอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ
ส าหรับสัตว์เลี้ยงที่มีส่วนประกอบดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ”
ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖6
สาธิต ปิตุเตชะ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
้หนา ๖
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๔๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๖
|
test
| 929
|
1015.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1015.pdf
|
ระเบียบกรมการขนส่งทางบก
ว่าด้วยการศึกษาอบรมและทดสอบผู้ขอรับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจ ารถ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. 256๔
ตามที่ได้มีระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการศึกษาอบรมและทดสอบผู้ขอรับใบอนุญาต
ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจ ารถ พ.ศ. 25๔๗ ลงวันที่ 1๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ไว้แล้ว นั้น
โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อยู่ในระดับ
ค่อนข้างทรงตัวและมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้พิจารณาปรับปรุงบังคับใช้มาตรการ
ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยยังคงมาตรการห้ามออกนอกเคหะสถาน การลด
และจ ากัดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง และก าหนดให้ส่วนราชการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งขั้นสูงสุดเต็มจ านวน มุ่งเน้นการปฏิบัติงานโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด
ส่งผลท าให้การด าเนินการด้านใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามระเบียบที่ก าหนดไว้ในปัจจุบันเกิดความไม่สะดวก
กับประชาชนและไม่สอดคล้องกับมาตร การของรัฐบาล ฉะนั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชน
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการศึกษาอบรมและทดสอบ
ผู้ขอรับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจ ารถ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 256๔”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. 256๔ เป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้เพิ่มบทเฉพาะกาลข้อ ๓๔ ของระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการศึกษาอบรม
และทดสอบผู้ขอรับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจ ารถ พ.ศ. 25๔๗
“บทเฉพาะกาล
“ข้อ ๓๔ การทดสอบสมรรถภาพของร่างกายส าหรับผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถใหม่
และผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทุกประเภทและทุกชนิด ที่มาด าเนินการตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน
พ.ศ. ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖4 ให้ท าการทดสอบความสามารถในการใช้เบรกเท้า
และทดสอบสายตาบอดสี”
ประกาศ ณ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕64
จิรุตม์ วิศาลจิตร
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
้หนา ๔
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๓๐๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๔
|
test
| 930
|
2258.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2258.pdf
|
'1>@01>#1/#1?พ0@1$11/@!>Oล>2>PO/ ลOอ/
N1APอ ํ@ห% /@!1ฐ@%คN@ค/?% ํ@อ1"0%!์#?PQONค1APอ0%!์O&&B 1>N&> O/0@1อ? (&?&#?P `)
พ.0. `cde
P 0#?PN'็%@12/ค/1OORNพ>P/N!>/@1ํ@ห% /@!1ฐ@%คN@ค/?% ํ@อ1"0%!์#?PQONค1APอ0%!์
O&&B 1>N&> O/0@1อ? NพAPอQหON'็%R'!@//! >ค>1?ฐ/%!1? N/APอ/?%#?P _` /?%@ค/ `cde
NหO%อ&Q%หล ?@1อ@1 ํ@N%>%/@!1@12 NN21>/@%0>ล'>Oล>1"0%! ์P&1@ (Classic cars)
@PN'็%R'Q%#>0#@N ?0/?%?&%P0&@0@121 O@พล?21O@211ค์ (Soft Power) อ1?ฐ&@ล#?PQO#B%
#@/?%$11/N'็%ลR(ล? ?%@1N!>&P!#@N011ฐ>
อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ cc OหNพ1>1@& ??!>2NN21>/Oล>1?1@คB.@พ
2>PO/ ลOอ/OหN@!> พ.0. `cac 1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/#1 ?พ0@1$11/@! >Oล>2>PO/ ลOอ/
P 0คํ@O%>%ํ@อค>11/@1ค/&ค B//ลพ>1 Oล>P 0ค/@/NหO%อ&อค>11/@12 >PO/ ลOอ/
OหN@!> @ออ'1>@0R/O ?!NอR'%?Q
Oอ _ QหO0Nล>ค/@/Q%&#%>0@/คํ@/N@ 1"0%!์ Q%Oอ ` OหN'1>@01>#1/#1?พ0@1
$11/@!>Oล>2>PO/ ลOอ/ N1APอ ํ@ห% /@!1ฐ@%คN@ค/?% ํ@อ1"0%!์#?PQONค1APอ0%!์O&&B 1>N&>
O/0@1อ? พ.0. `cdb Oล>QหOQOค/@/!NอR'%?QO#%
1"0%!์ ห/@0ค/@//N@ 1"0%!์!@/ห/@0/N@ O/01"0%!์#?PQONค1APอ0%!์O&&B 1>N&>
O/0@1อ? Oล>QOQ%#@!@/ห/@0/N@ O/0@11@1#@& O!NR/Nห/@0ค/@/1//"@1"0%!์P&1@
(Classic Cars) !@/ห/@0/N@ O/0.@1?211พ2@/>!
Oอ ` '1>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R'
'1>@0 /?%#?P _` $?%/@ค/ พ.0. `cde
Nล>/?0 01?อNอ%
1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/#1?พ0@1$11/@!>Oล>2>PO/ ลOอ/
หนา ๔
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ มกราคม ๒๕๖๘
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 931
|
381.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/381.pdf
|
ประกาศ
เรื่อง การก าหนดอ านาจหน้าที่ของรัฐมนตรี
ตามกฎหมายเป็นอ านาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม
พ.ศ. ๒๕๖๓ แล้ว นั้น
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๗ แห่งพระราชก าหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้บรรดาอ านาจหน้าที่ของ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตามกฎหมาย หรือที่เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายหรือที่มีอยู่ตามกฎหมาย
โอนมาเป็นอ านาจหน้าที่ของนายกรัฐม นตรีเป็นการชั่วคราวเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการอนุญาต อนุมัติ
สั่งการ บังคับบัญชา หรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับยับยั้งในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ
ฟื้นฟูหรือช่วยเหลือประชาชน ดังต่อไปนี้
๑. พระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗
๒. พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ าไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖
๓. พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗
๔. พระราชบัญญัติการเนรเทศ พ.ศ. ๒๔๙๙
๕. พระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๐
๖. พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๑
๗. พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. ๒๕๖๒
๘. พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการน าเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. ๒๕๒๒
๙. พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕
๑๐. พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๑. พระราชบัญญัติก าหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอ านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. ๒๕๔๒
๑๒. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒
๑๓. พระราชบัญญัติควบคุมน้ ามันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๒
๑๔. พระราชบัญญัติควบคุมโภคภัณฑ์ พ.ศ. ๒๔๙๕
๑๕. พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๓๐
๑๖. พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๗. พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒
๑๘. พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๙. พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘
้หนา ๒
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๖๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๓
๒๐. พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕
๒๑. พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐
๒๒. พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓
๒๓. พระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐
๒๔. พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒
๒๕. พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘
๒๖. พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
๒๗. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
๒๘. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
๒๙. พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒
๓๐. พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘
๓๑. พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๙
๓๒. พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
๓๓. พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
๓๔. พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒
๓๕. พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕
๓๖. พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และก ากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
๓๗. พระราชบัญญัติองค์การเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๐๙
๓๘. พระราชบัญญัติอ้อยและน้ าตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗
๓๙. พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน
พ.ศ. ๒๔๙๐
๔๐. พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. ๒๕๒๒
ทั้งนี้ ให้รวมถึงกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวข้างต้นด้วย
ให้ส่วนราชการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายข้างต้นยังคงใช้อ านาจหน้าที่เช่นเดิมต่ อไป
ตามหลักเกณฑ์ที่นายกรัฐมนตรีก าหนด เว้นแต่จะมีประกาศหรือค าสั่งเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖3
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
้หนา ๓
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๖๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๓
|
test
| 932
|
227.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/227.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
เรื่อง การก ากับดูแลกิจการที่ดี
พ.ศ. ๒๕๖๒
เพื่อให้มีแนวทางในการพิจารณาลักษณะของกิจการที่จะจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม
ในเรื่องการก ากับดูแลกิจการที่ดี
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๔) และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ
ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. ๒๕๖๒ คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ในการประชุม
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม เรื่อง การก ากับดูแล
กิจการที่ดี พ.ศ. ๒๕๖๒”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ การก ากับดูแลกิจการที่ดีของวิส าหกิจเพื่อสังคมตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง (๔)
อย่างน้อยต้องประกอบด้วยเรื่องต่อไปนี้
(๑) มีนโยบายต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบและมีการด าเนินการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประพฤติมิชอบ
หรือการติดสินบนใด ๆ
(๒) มีการด าเนินการเกี่ยวกับการก ากับดูแลกิจการที่ดีตามที่กฎหมาย หลักเกณฑ์ หลักปฏิบัติ
หรือแนวทาง ที่เกี่ยวข้องก าหนด ซึ่งรวมถึงการจัดประชุมคณะกรรมการ การจัดประชุมผู้ถือหุ้น
การสอบบัญชี การเสียภาษีอย่างถูกต้อง เป็นต้น
(๓) มีระบบการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม มีการบริหารงานที่สุจริต
โปร่งใส และเชื่อถือได้
(๔) มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกิจการ รายงานผลการด าเนินงาน และรายงานทางการเงิน
ที่ถูกต้องและเพียงพอ แก่สาธารณชนอย่างสม่ าเสมอเป็นประจ าทุกปี
ประกาศ ณ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖2
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
รองนายกรัฐมนตรี
ประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
้หนา ๒๗
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๗ ตุลาคม ๒๕๖๒
|
test
| 933
|
1953.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1953.pdf
|
'1>@02O@%?@%'1/@CNพAPอ2?%!>
N1APอ ห3?@%O2 />$?@1#O@Nค1APอO@N%> 1?2?O3>/>$?@1!1/2อ&คB.@พ
O3>ค/@/'3อ .?0อNค1APอO@N%> 1?2?
พ.0. `cde
อ@0?0อO@%@!@/ค/@/Q%Oอ a /11ค2อ OหN1>#1/@1อ%B@!N?P0/?&Nค1APอO@N%> 1?2?
พ.0. `cdb N3@$>@12O@%?@%'1/@CNพAPอ2?%!> ออ'1>@0R/O ?!NอR'%?Q
Oอ _ '1>@0%?QN1?0/N@ '1>@02O@%?@%'1/@CNพAPอ2?%!> N1APอ ห3?@%O2 />$?@1
#O@Nค1APอO@N%> 1?2?O3>/>$?@1!1/2อ&คB.@พO3>ค/@/'3อ .?0อNค1APอO@N%> 1?2? พ.0. `cde
Oอ ` '1>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R'
Oอ a QหONอ2@1 ?!NอR'%?Q N'็%ห3?@%O2 />$?@1#O@Nค1APอO@N%> 1?2? O3>/>$?@1
!1/2อ&คB.@พO3>ค/@/'3อ . ?0อNค1APอO@N%> 1?2? 2O@ห1?&'1>อ&@1อ1?&Q&อ%B@!#O@
Nค1APอO@N%> 1?2?
(_) Nอ2@1O2 1@03>Nอ?0 />$?@1O3>?Q%!อ%@1#O@Nค1APอO@N%> 1?2?
(`) Nอ2@1O2 1@03>Nอ?0 />$?@1!1/2อ&คB.@พO3>ค/@/'3อ .?0อNค1APอO@N%> 1?2?
#?P1>&B/@!1@%#?PQOห1AอR O1?&@11?&1อ2O@ห1?&@1#O@Nค1APอO@N%> 1?2? อ0N@ห%@Pอ0N@Q ?!NอR'%?Q
( ) /@!1@% ISO 13485:2016 Medical devices - Quality management systems -
Requirements for regulatory purposes ห1Aออ%B1//@!1@% IEC 60601 - Medical electrical
equipment ห1Aอ/@!1@%คB.@พNค1APอNอN10 ์/>%>?0ห1AอNค1APอ1?2?1?1@ ห1Aอ/@!1@%อ AP%
#?PN#?0&N#N@ 2O@ห1?&Nค1APอO@N%> 1?2?#?PQOQ%#@@1Oพ#0์
( ) /@!1@% IEC 62463:2010 - Radiation protection instrumentation - X-ray
systems for the screening of persons for security and the carrying of illicit items ห1Aอ
/@!1@% ANSI/HPS N43.17:2009 - Radiation Safety for Personnel Security Screening Systems
Using X-Ray or Gamma Radiation ห1Aอ/@!1@%อAP%#?PN#?0&N#N@ 2O@ห1?&Nค1APอO@N%> 1?2?#?PQOQ%@%
1?1@ค/@//?P%ค'3อ .?0 NพAPอQO!1/2อ&&Bคค3
( ค) /@!1@% IEC 62523:2010 - Radiation protection instrumentation Cargo/vehicle
radiographic inspection system ห1Aอ /@!1@% ANSI/HPS N43.14:2011 - Radiation Safety
for Active Interrogation Systems for Security Screening of Cargo, Energies up to 100 MeV
ห1Aอ/@!1@%อAP%#?PN#?0&N#N@ 2O@ห1?&Nค1APอO@N%> 1?2?#?PQOQ%@%1?1@ค/@//?P%ค'3อ .?0 Nค1APอO@N%>
1?2?NพAPอ!1/2อ&2>%คO@ห1Aอ0@%พ@ห%>
หนา ๑๒
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๖๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๗
( ) /@!1@% ANSI/HPS N43.3:2008 - General Radiation Safety Standard for
Installations Using Non-Medical X-Ray and Sealed Gamma-Ray Sources, Energies up to
10 MeV ห1Aอ/@!1@%อAP%#?PN#?0&N#N@ 2O@ห1?&Nค1APอO@N%> 1?2?O&&/Aอ"Aอห1AอO&&พพ@#?PQOQ%@%
1?1@ค/@//?P%ค'3อ .?0
( ) /@!1@% ANSI/HPS N43.3:2008 - General Radiation Safety Standard for
Installations Using Non-Medical X-Ray and Sealed Gamma-Ray Sources, Energies up to
10 MeV ห1Aอ /@!1@% ANSI/HPS N43.5:2008 - Radiological Safety Standard for the
Design of Radiographic and Radioscopic Non-Medical X-Ray Equipment Below 1 MeV
ห1Aอ/@!1@%อAP%#?PN#?0&N#N@ 2O@ห1?&Nค1APอNอN10์"N@0.@พ1?2?#@อB!2@ห11/ห1Aอ#@@10@1@/>?0
( ) /@!1@% IAEA - Specific Safety Guides No. RS-G-1.10 - Safety of Radiation
Generators and Sealed Radioactive Sources ห1Aอ Specific Safety Guides No. SSG-55 -
Radiation Safety of X- Ray Generators and Othe r Radiation Sources Used for
Inspection Purposes and for Non-medical Human Imaging ห1Aอ IEC 61010-2-091: 2012
Safety requirements for electrical equipment for measurement, control and laboratory
use - Part 2-091: Particular requirements for cabinet X-ray systems ห1Aอ/@!1@%อ AP%
#?PN#?0&N#N@ 2O@ห1?&Nค1APอO@N%> 1?2?อAP%%อNห%Aอ@#?PO@ห% R/OQ% () "@ ()
() /@!1@%# ?P? #O@P 0ค>11/@$ >@11>ห/ N@'1>N#0/ N@ O/0/@!1@%2@@
อ>N3O#1อN#ค%>2์ (International Electrotechnical Commission; IEC) ห1Aออค์@11>ห/N@'1>N#0
/N@ O/0@1/@!1@% (International Organization for Standardization; ISO) ห1Aออค์@1อ@ห@1
O3>0@OหN2ห1?อN/1>@ (Food and Drug Administration; FDA) ห1Aอ/@!1@%ค/@/'3อ . ?0
!@/OอO@ห% Q%1>N&?0&Oอ&?ค?& O@%/@!1@%(3>!.?์อB!2@ห11/อ2ห.@พ0BP1' (European
Conformity; CE) ห1Aอ CE Marking ห1Aอ/@!1@%(3>!.?์อB!2@ห11/ (/อ.) ห1Aอ/@!1@%อAP%
#?PN#?0&N#N@ 2O@ห1?&Nค1APอO@N%> 1?2?#?P!Oออ1?&Q&อ%B@!#O@Nค1APอO@N%> 1?2?
'1>@0 /?%#?P _e พ21.@ค/ พ.0. `cde
1อ0@2!1@@10์พ@2>#$>N ห3Nอ$?1พ0์
N3@$>@12O@%?@%'1/@CNพAPอ2?%!>
หนา ๑๓
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๖๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 934
|
2180.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2180.pdf
|
'102010#1/21ค31
/N2 O/0.21?N>%R OO30.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N f_e)
N1ANอ ํ2ห% อค์21 2"2%22$21B03 2"2%พ02&23 O302"2%0@12
!2//2!12 be (e) () OหN'10//311121 O30/2!12 a (b) () OหNพ101221?2
ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `ag)
พ.0. `cab @NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121
/N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `cb) พ.0. `cac
อ2010อํ2%2!2/ค/2/Q%/2!12 be (e) () OหN'10//311121 @NOORNพ>N/N!>/P 0
พ1012&11!>OORNพ>N/N!>/'10//311121 (&1&#?N _g) พ.0. `c^f O30/2!12 a (b) ()
OหNพ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `ag)
พ.0. `cab @NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%
.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `cb) พ.0. `cac 11/%!1?/N22110#1/21ค31 @'1020 1!NอR'%?O
Oอ _ QหO0N3>ค/2/Q% (`cd) อOอ a อ'102010#1/21ค31 /N2 O/0.21?N>%R O
O30.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `) N1ANอ ํ2ห% อค์21 2"2%22$21B03 2"2%พ02&23 O302"2%0@12
!2//2!12 be (e) () OหN'10//311121 O30/2!12 a (b) () OหNพ101221 ?2
ออ!2/ค/2/Q%'10//31 1121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `ag) พ.0. `cab
@NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/
(&1&#?N `cb) พ.0. `cac 3/1%#?N _` !B32ค/ พ.0. `cac @NOORNพ>N/N!>/P 0'1020
10#1/21ค3 1 /N2 O/0.21?N>%R OO30.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N ``) N1ANอ ํ2ห% อค ์21
2"2%22$21B03 2"2%พ02&23 O302"2%0@12 !2//2!12 be (e) () OหN'10//311121
O30/2!12 a (b) () OหNพ101221?2ออ!2/ค/2/Q%'10//31 1121 /N2 O/0210N/O%
.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `ag) พ.0. `cab @NOORNพ>N/N!>/P 0พ101221?2ออ!2/ค/2/Q%
'10//311121 /N2 O/0210N/O%.21?/C3คN2Nพ>N/ (&1&#?N `cb) พ.0. `cac 3/1%#?N `a 1%020%
พ.0. `cae O30QหOQOค/2/!NอR'%?OO#%
(`cd) /C3%>$>N/0ค1CO30&Bค321#2210@12#?N'102&.10221NอNห!B1O20
Oอ ` '1020%?OQหON1>N/QO&1ค1&!1OO!N/1%#?N _e 2>ห2ค/ พ.0. `cbg N'็%!O%R'
'1020 /1%#?N f พ21.2ค/ พ.0. `cde
B3พ1%$์ อ/1/>/1%์
11/%!1?N/0/N221/ '>&1!>1221O#%
11/%!1?/N22110#1/21ค31
หนา ๗
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๓๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ ธันวาคม ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 935
|
716.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/716.pdf
|
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง วัตถุที่ได้รับยกเว้นไม่เป็นยา
(ฉบับที่ ๓๗) พ.ศ ๒๕๖๔
เนื่องด้วยในปัจจุบัน มีการน าวัตถุที่ปรากฏในต ารายาและวัตถุที่มุ่งหมายส าหรับใช้
ในการบรรเทาหรือรักษาความเจ็บปวดของมนุษย์หรือสัตว์ มาใช้ในทางอุตสาหกรรมอื่นที่ไม่ใช่
อุตสาหกรรมด้านยา จึงสมควรได้รับการยกเว้นจากการเป็นยา
อาศัยอ านาจตามความในวรรคสอง (ก) ของบทนิยามค าว่า “ยา ” ในมาตรา ๔
แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒
และมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ ให้วัตถุที่มุ่งหมายส าหรับใช้ในทางอุตสาหกรรม ดังต่อไปนี้ ได้รับการยกเว้น
จากการเป็นยา
๒.๑ ลิเทียม คาร์บอเนต (Lithium carbonate) โดยน ามาใช้ในอุตสาหกรรม
เซรามิค หรืออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เพื่อท าให้ปูนแข็งตัวเร็ว
๒.๒ แมนนิทอล (Mannitol) โดยน ามาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ที่ตัดกระแสไฟฟ้า
๒.๓ นิโคตินามายด์ (Nicotinamide) หรือไนอาซินาไมด์ (Niacinamide)
หรือวิตามิน บี ๓ (Vitamin B3) รวมถึงชื่อสามัญทางยาอื่นที่หมายถึงนิโคตินามายด์ โดยน ามาใช้
ในอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ตัดกระแสไฟฟ้า
๒.๔ คอร์น สตาร์ช (Corn Starch) โดยน ามาใช้เป็นสารปรุงแต่งน้ ามันหล่อลื่น
หรือเป็นตัวประสานในน้ ามันหล่อลื่นแม่พิมพ์ที่ใช้ส าหรับงานแปรรูปโลหะ
๒.๕ เดกซ์ทริน (Dextrin) โดยน ามาใช้ในการผลิตสีย้อมที่ใช้กับหนังสัตว์
หนังพีวีซี ผ้า กระดาษ อลูมิเนียม และการผลิตผลิตภัณฑ์กาวหรือสารยึดเกาะ
ประกาศ ณ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖4
อนุทิน ชาญวีรกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
้หนา ๑๔
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๙๔ งราชกิจจานุเบกษา๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔
|
test
| 936
|
1362.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1362.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม
เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตน
ที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) (ฉบับที่ 2)
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินช่วยเหลือ
เบื้องต้นในกรณีที่ผู้ประกันตนได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือโรคโควิด 19 ( Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เพื่อให้ผู้ประกันตนทุกคนได้รับเงิน
ช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือโรคโควิด 19 ( Coronavirus Disease 2019 ( COVID-19)) ตามประกาศคณะกรรมการ
การแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่ อง หลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น
ให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ
โรคโควิด 19 ( Coronavirus Disease 2019 ( COVID-19)) ลงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2564
ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการการแพทย์ ในการประชุมครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ๒๕๖5
โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคม (ชุดที่ ๑๓) ในการประชุมครั้งที่ 14/2565
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ๒๕๖5
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๕ (๒) และมาตรา ๖๓ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม
พ.ศ. ๒๕๓๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ คณะกรรมการ
การแพทย์โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคม จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕65 เป็นต้นไป
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ 4 แห่งประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติ
ประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับ
ความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19)) ลงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๔ เงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้จ่ายแก่ผู้ประกันตน
กรณีที่ผู้ประกันตนตามวรรคหนึ่งเสียชีวิต ให้เฉลี่ยจ่ายให้แก่สามีหรือภริยา บิดามารดา บุตร”
ประกาศ ณ วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. ๒๕65
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณเหลือพร ปุณณกันต์
ประธานกรรมการการแพทย์
้หนา ๑๙
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๕๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๕
|
test
| 937
|
687.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/687.pdf
|
ระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย
ว่าด้วยการตัดและส่งอ้อยให้แก่โรงงาน การตรวจสอบคุณภาพอ้อย
และการรับอ้อยจากชาวไร่อ้อยหรือหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมมาตรการควบคุมด าเนินการเกี่ยวกับการหีบอ้อยของโรงงาน
การตัดและส่งอ้อยให้แก่โรงงาน การตรวจสอบคุณภาพอ้อยและการรับอ้อยของโรงงาน รวมทั้ง
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการตัดสินข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการตรวจสอบคุณภาพอ้อย อ้อยไฟไหม้
ความบริสุทธิ์ของอ้อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กระบวนการด าเนินการดังกล่าว และส่งเสริมการพัฒนา
ระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ าตาลทรายให้เป็นไปอย่างมีระบบ เหมาะสมกับสถานการณ์และ
เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๗ (๑๐) และ (๑๒) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ าตาลทราย
พ.ศ. ๒๕๒๗ โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทราย
จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทราย ว่าด้วยการตัดและ
ส่งอ้อยให้แก่โรงงาน การตรวจสอบคุณภาพอ้อยและการรับอ้อยจากชาวไร่อ้อยหรือหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ 11 (3) ของระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ าตาลทราย
ว่าด้วยการตัดและส่งอ้อยให้แก่โรงงาน การตรวจสอบคุณภาพอ้อยและการรับอ้อยจากชาวไร่อ้อย
หรือหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(3) ในฤดูการผลิตปี 2563/2564 ให้โรงงานรับอ้อยไฟไหม้จากชาวไร่อ้อย
หรือหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยคู่สัญญาได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของปริมาณอ้อยที่รับทั้งหมดในหนึ่งวัน
หากมีปริมาณอ้อยไฟไหม้เกินกว่าปริมาณที่ก าหนดให้น าปริมาณอ้อยไฟไหม้ที่เกินไปรวมค านวณในวันถัดไป
และเมื่อรวมทั้งฤดูการผลิต ให้โรงงานรับอ้อยไฟไหม้ได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของปริมาณอ้อยที่โรงงาน
รับทั้งหมดในฤดูการผลิตนั้น”
ประกาศ ณ วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖4
กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ประธานกรรมการอ้อยและน้ าตาลทราย
้หนา ๑
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๖๒ งราชกิจจานุเบกษา ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๔
|
test
| 938
|
2146.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2146.pdf
|
ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินเงินสะสมและเงินสมทบ
ที่นายจ้างต้องน าส่งกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
พ.ศ. ๒๕๖๗
โดยที่เป็นการสมควรให้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมิน
เงินสะสมและเงินสมทบที่นายจ้างต้องน าส่งกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เพื่อให้การด าเนินการกองทุน
สงเคราะห์ลูกจ้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๓๒ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
พ.ศ. ๒๕๔๑ คณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างว่าด้วยหลักเกณฑ์
และวิธีการประเมินเงินสะสมและเงินสมทบที่นายจ้างต้องน าส่งกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง พ.ศ. ๒๕๖๗”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“ส านักงาน” หมายความว่า ส านักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด หรือส านักงาน
สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่
“เงินสะสม” หมายความว่า เงินที่ลูกจ้างจ่ายเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
“เงินสมทบ” หมายความว่า เงินที่นายจ้างจ่ายสมทบให้แก่ลูกจ้างเพื่อส่งเข้ากองทุนสงเคราะห์
ลูกจ้าง
“กองทุน” หมายความว่า กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
ข้อ ๔ ในกรณีที่นายจ้างไม่น าส่งเงินสะสมและ/หรือเงินสมทบหรือน าส่งไม่ครบตามก าหนดเวลา
ให้พนักงานตรวจแรงงานมีค าเตือนเป็นหนังสือ ให้นายจ้างน าเงินสะสมและ/หรือเงินสมทบที่ค้างช าระ
และเงินเพิ่ม มาช าระภายในก าหนดไม่น้อยกว่าสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือนั้น ถ้านายจ้างได้รับ
ค าเตือนดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่น าเงินสะสมและ/หรือเงินสมทบที่ค้างช าระและเงินเพิ่มมาช าระภายใน
ก าหนด ให้พนักงานตรวจแรงงานมีอ านาจประเมินเงินสะสมและ/หรือเงินสมทบและแจ้งเป็นหนังสือ
ให้นายจ้างน าส่งได้ ดังนี้
(๑) ถ้านายจ้างเคยน าส่งเงินสะสมและเงินสมทบแล้วให้ถือว่าจ านวนเงินสะสมและ/หรือเงินสมทบ
ที่นายจ้างมีหน้าที่น าส่งในเดือนต่อมาแต่ละเดือนมีจ านวนเท่ากับจ านวนเงินสมทบในเดือนที่นายจ้างได้
น าส่งแล้วเดือนสุดท้ายเต็มเดือน
(๒) ถ้านายจ้างซึ่งมีหน้าที่น าส่งเงินสะสมและเงินสมทบแ ต่ไม่ยื่นแบบรายการ (สกล.๓) หรือ
(สกล.๓/๑) แล้วแต่กรณี หรือยื่นแบบรายการ (สกล.๓) หรือ (สกล.๓/๑) แล้ว แต่ไม่เคยน าส่งเงินสะสม
และเงินสมทบหรือยื่นแบบรายการ (สกล.๓) หรือ (สกล.๓/๑) โดยแจ้งจ านวนและรายชื่อลูกจ้าง
หนา ๖
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๒๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
น้อยกว่าจ านวนลูกจ้างที่มีอยู่จริง ให้ประเมินเงินสะสมและเงินสมทบจากแบบรายการ (สกล.๓) หรือ
(สกล.๓/๑) ที่นายจ้างเคยยื่นไว้ หรือจากจ านวนลูกจ้างที่พนักงานตรวจแรงงานตรวจพบ แล้วแต่กรณี
โดยถือว่าลูกจ้างแต่ละคนได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนในอัตราที่ได้เคยมีการยื่นแบบรายการ (สกล.๓) หรือ
(สกล.๓/๑) ไว้ แต่ถ้าไม่เคยมีการยื่นแบบรายการ (สกล.๓) หรือ (สกล.๓/๑) หรือยื่นแบบรายการ
(สกล.๓) หรือ (สกล.๓/๑) ไม่ครบถ้วน ให้ถือว่าลูกจ้างแต่ละคนได้รับค่าจ้างรายเดือนไม่น้อยกว่าอัตรา
ค่าจ้างขั้นต่ ารายวันตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานที่ใช้บังคับอยู่ในท้องที่นั้น คูณด้วยสามสิบ
ข้อ ๕ กรณีที่มีการพิสูจน์ได้ภายในสองปีนับแต่วันที่มีการแจ้งการประเมินเงินสะสมและ/
หรือเงินสมทบว่าจ านวนเงินสะสมและ/หรือเงินสมทบที่แท้จริงที่นายจ้างมีหน้าที่ต้องน าส่งมีจ านวน
มากกว่าหรือน้อยกว่าจ านวนเงินสะสมและ/หรือเงินสมทบที่พนักงานตรวจ แรงงานประเมินไว้ตามข้อ ๔
ให้ส านักงานมีหนังสือแจ้งผลการพิสูจน์ให้นายจ้างทราบ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบผลการพิสูจน์
เพื่อให้นายจ้างน าส่งเงินสะสมและ/หรือเงินสมทบเพิ่มเติมภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หรือ
ยื่นค าขอต่อส านักงาน เพื่อให้คืนเงินสะสมและ/หรือเงินสมทบ แล้วแต่กรณี
ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗
บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์
ปลัดกระทรวงแรงงาน
ประธานกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
หนา ๗
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๒๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 939
|
1547.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1547.pdf
|
ประกาศกรมวิชาการเกษตร
เรื่อง วิธีการแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. 2566
โดยที่มาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕
บัญญัติว่าในกรณีที่กฎหมายก าหนดให้ผู้รับอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผย ให้เป็นสิทธิของ
ผู้รับอนุญาตที่จะแสดงใบอนุญาตนั้นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการที่ผู้อนุญาตประกาศก าหนดก็ได้
โดยให้ถือว่าการแสดงเช่นว่านั้นเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว สมควรก าหนดวิธีการแสดงใบอนุญาต
ตามกฎหมายในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตรโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการ
อ านวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๕ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง วิธีการแสดงใบอนุญาต
โดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๖”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“ใบอนุญาต ” หมายความว่า เอกสารหลักฐานอื่นใดที่กฎหมายก าหนดให้ต้องแสดงไว้
ในที่เปิดเผย ดังต่อไปนี้
(๑) ใบอนุญาตขยายพันธุ์ต้นยางเพื่อการค้า ใบอนุญาตค้ายาง ใบอนุญาตตั้งโรงท ายาง
ใบอนุญาตเป็นผู้น ายางเข้ามาในราชอาณาจักร ใบอนุญาตเป็นผู้ส่งออกยางไปนอกราชอา ณาจักร
ใบอนุญาตเป็นผู้จัดให้มีการวิเคราะห์หรือทดสอบคุณภาพยาง ตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ. 2542
(๒) ใบอนุญาตรวบรวมเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า ใบอนุญาตขายเมล็ดพันธุ์ควบคุม
ใบอนุญาตน าเข้าซึ่งเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า ใบอนุญาตส่งออกซึ่งเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า
ใบอนุญาตน าผ่านซึ่งเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(๓) ใบอนุญาตผลิตปุ๋ยเคมีเพื่อการค้า ใบอนุญาตผลิตปุ๋ยชีวภาพเพื่อการค้า ใบอนุญาต
ผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อการค้า ใบอนุญาตขายปุ๋ย ใบอนุญาตน าเข้าปุ๋ย ใบอนุญาตส่งออกปุ๋ย ใบอนุญาต
น าผ่านปุ๋ย ใบส าคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี ใบส าคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยชีวภาพ ใบส าคัญการขึ้นทะเบียน
ปุ๋ยอินทรีย์ หนังสือส าคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย
พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(4) ใบอนุญาตน าเข้าวัตถุอันตราย ใบอนุญาตผลิตวัตถุอันตราย ใบอนุญาตมีไว้ในครอบครอง
ซึ่งวัตถุอันตราย ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
้หนา ๓๑
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๓๘ งราชกิจจานุเบกษา ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๖
ข้อ ๔ ผู้รับอนุญาตสามารถเลือกแสดงใบอนุญาตตามข้อ ๓ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(๑) แสดงเป็นภาพผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
(๒) แสดงเป็นคิวอาร์โคดที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถสแกนเพื่อเข้าถึงใบอนุญาต
ที่เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หรือภาพทางอิเล็กทรอนิกส์ของใบอนุญาต
ข้อ ๕ การแสดงใบอนุญาตตามข้อ ๓ ต้องมีขนาดของภาพและความละเอียดที่ชัดเจนเพียงพอ
รวมทั้งสามารถแสดงให้เห็นข้อมูลอันเป็นสาระส าคัญของใบอนุญาตได้ครบถ้วน
ผู้รับอนุญาตอาจเลือกแสดงภาพใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ สถานที่ประกอบกิจการ
มากกว่าหนึ่งใบหรือภาพผ่านห น้าจอเดียวกันก็ได้ แต่ต้องมีระยะเวลาแสดงภาพใบอนุญาตแต่ละใบ
ไม่น้อยกว่าห้าวินาที
ข้อ ๖ เมื่อผู้รับอนุญาตเลือกแสดงใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่งอย่างใด
ตามข้อ ๓ แล้ว ผู้รับอนุญาตไม่ต้องแสดงใบอนุญาตไว้โดยเปิดเผยตลอดเวลา ณ สถานที่ประกอบกิจการ
อีกต่อไปก็ได้ แต่ต้องสามารถแสดงต่อเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาเมื่อมีการตรวจสอบ
หรือต่อประชาชนที่ขอตรวจดู
ประกาศ ณ วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. ๒๕66
ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง
รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร
้หนา ๓๒
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๓๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๖
|
test
| 940
|
306.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/306.pdf
|
กฎกระทรวง
ฉบับที่ 355 (พ.ศ. 2562)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 3 สัตตรส วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) พ.ศ. 2562 และมาตรา 4
แห่งประมวลรัษฎากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในกฎกระทรวงนี้
“ผู้มีหน้าที่รายงาน” หมายความว่า สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน
สถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น และผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วย
ระบบการช าระเงิน
“บัญชี ” หมายความว่า บัญชีที่ใช้ส าหรับการฝากหรือรับโอนเงินของบุคคลใดที่อยู่ใน
ความครอบครองของผู้มีหน้าที่รายงาน โดยอาจกระท าในนามของบุคคลคนเดียวหรือหลายคน
“รับโอนเงิน” หมายความว่า การที่บุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีได้รับเงินหรือสิทธิเรียกร้อง
เงินในบัญชี
ข้อ 2 ให้ผู้มีหน้าที่รายงานจัดท ารายงานข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ
ซึ่งอยู่ในความครอบครองตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของปีที่ล่วงมา โดยต้องมี
รายการดังต่อไปนี้
(1) เลขประจ าตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เลขทะเบียนนิติบุคคล เลขประจ าตัว
ผู้เสียภาษีอากร หรือสิ่งอื่นที่ใช้ในการระบุตัวบุคคลของบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ
(2) ชื่อและชื่อสกุลของบุคคลธรรมดา ชื่อของห้างหุ้นส่วนสามัญ ชื่อของคณะบุคคลที่มิใช่
นิติบุคคล หรือชื่อนิติบุคคล
(3) จ านวนครั้งของการฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน
(4) จ านวนเงินที่ฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน
(5) เลขที่บัญชีทุกบัญชีที่มีการฝากหรือรับโอนเงิน
้หนา ๔
่เลม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๔๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๒
ข้อ 3 ในการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ ให้ผู้มีหน้าที่รายงาน
น าส่งข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะตามข้อ 2 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร
ตามรูปแบบการรายงานข้อมูลที่อธิบดีประกาศก าหนด
ข้อ 4 การรายงานข้อมูลเกี่ยวกับจ านวนครั้งและจ านวนเงินของการฝากหรือรับโอนเงิน
ตามข้อ 2 (3) และ (4) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) การฝากหรือรับโอนเงินเข้าบัญชีของบุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชี ให้นับจ านวนครั้ง
และจ านวนเงินทุกครั้งที่ มีการฝากหรือรับโอนเงินเข้าไปในบัญชีของบุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชี
โดยไม่ต้องค านึงถึงข้อก าหนดวิธีการน าเงินเข้าบัญชีที่ผู้มีหน้าที่รายงานได้ก าหนดไว้แต่อย่างใด
(2) การฝากหรือรับโอนเงินเข้าบัญชีซึ่งกระท าผ่านอุปกรณ์รับช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
ภาพรหัสคิว อาร์ หรือวิธีการรับช าระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ให้นับจ านวนครั้งและจ านวนเงินที่ได้
กระท าผ่านอุปกรณ์หรือวิธีการเช่นว่านั้นทุกครั้ง โดยไม่ต้องค านึงถึงข้อก าหนดวิธีการน าเงินเข้าบัญชี
ที่ผู้มีหน้าที่รายงานได้ก าหนดไว้แต่อย่างใด
ในกรณีที่การฝากหรือรับโอนเงินตา มวรรคหนึ่งเป็นการฝากหรือรับโอนเงินด้วยเงินตรา
ต่างประเทศ ให้ค านวณค่าหรือราคาของเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยตามอัตราถัวเฉลี่ย
ณ วันสิ้นปีที่ธนาคารพาณิชย์รับซื้อซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้ค านวณไว้ก่อนรายงานข้อมูล
ข้อ 5 การรายงานข้อมูลการฝากหรือรับโอนเงินในครั้งแรกซึ่งต้องรายงานภายในวันที่
31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ให้ผู้มีหน้าที่รายงานรายงานข้อมูลในปีที่ล่วงมาเฉพาะข้อมูลการฝากหรือ
รับโอนเงินที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันถัดจากวันที่กฎกระทรวงนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ให้ไว้ ณ วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖2
อุตตม สาวนายน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
้หนา ๕
่เลม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๔๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๒
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 3 สัตตรส แห่งประมวลรัษฎากร
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) พ.ศ. 2562 ก าหนดให้
สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน สถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น
และผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยระบบการช า ระเงิน มีหน้าที่รายงานข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล
ที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะในปีที่ล่วงมา โดยรายการข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ
ที่ต้องรายงาน และวิธีการรายงานให้เป็นไปตามที่ก าหนดในกฎกระทรวง จึงจ าเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
้หนา ๖
่เลม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๔๐ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๒
|
test
| 941
|
210.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/210.pdf
|
ประกาศกรมการขนส่งทางบก
เรื่อง ก าหนดแบบ ขนาด มาตรฐาน และคุณลักษณะของเครื่องวัดควันด า เครื่องวิเคราะห์ก๊าซ
เครื่องวัดก๊าซรั่ว เครื่องวัดระดับเสียง เครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์
และเครื่องวัดความเข้มของฟิล์มกรองแสง
ส าหรับใช้ในการตรวจสภาพรถของสถานตรวจสภาพรถ
พ.ศ. 2562
ตามที่ได้มีประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ก าหนดแบบ ขนาด มาตรฐาน และคุณลักษณะ
ของเครื่องวัดควันด า เครื่องวิเคราะห์ก๊าซ เครื่องวัดก๊าซรั่ว เครื่องวัดระดับเสียง เครื่องวัดความเร็วรอบ
เครื่องยนต์ และเครื่องวัดความเข้มของฟิล์มกรองแสง ส าหรับใช้ในการตรวจสภาพรถของ
สถานตรวจสภาพรถ พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 ไว้แล้ว นั้น
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงแก้ไขประกาศดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอ านาจตามความ
ในข้อ 6 วรรคสาม ของกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการขอต่ออายุ
ใบอนุญาตจัดตั้งสถานตรวจสภาพรถ พ.ศ. 2555 อธิบดีกรมการขนส่งทางบกออกประกาศไว้
ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิก
(1) ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ก าหนดแบบ ขนาด มาตรฐาน และคุณลักษณะ
ของเครื่องวัดควันด า เครื่องวิเคราะห์ก๊าซ เครื่องวัดก๊าซรั่ว เครื่องวัดระดับเสียง เครื่องวัดความเร็วรอบ
เครื่องยนต์ และเครื่องวัดความเข้มของฟิล์มกรองแสง ส าหรับใช้ในการต รวจสภาพรถของ
สถานตรวจสภาพรถ พ.ศ. 2556 ลงวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556
(2) ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ก าหนดแบบ ขนาด มาตรฐาน และคุณลักษณะ
ของเครื่องวัดควันด า เครื่องวิเคราะห์ก๊าซ เครื่องวัดก๊าซรั่ว เครื่องวัดระดับเสียง เครื่องวัดความเร็วรอบ
เครื่องยนต์ และเครื่องวัดความเข้มของฟิล์มกรองแสง ส าหรับใช้ในการตรวจสภาพรถของ
สถานตรวจสภาพรถ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556
ข้อ 2 เครื่องวัดควันด า (Smoke Meter) ต้องมีแบบ ขนาด มาตรฐาน และคุณลักษณะ
ดังนี้
(1) เป็นระบบวัดความทึบแสงแบบไหลผ่านบางส่วน (Partial-Flow Opacimeter)
(2) เป็นไปตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ (Society of Automotive Engineers)
ที่ SAE J 1667 หรือข้อก าหนดทางเทคนิคของสหประชาชาติที่ 24 ( UN Regulation No. 24)
หรือมาตรฐานขององค์การระห ว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน ( International Organization for
Standardization) ที่ ISO 11614 หรือมาตรฐานอื่นที่กรมควบคุมมลพิษเห็นชอบ
(3) สามารถวัดค่าความทึบแสงได้ ตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 99.9
้หนา ๓
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๐๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๒
(4) ส่วนแสดงผลเป็นแบบตัวเลข และมีความละเอียดในการอ่านไม่เกินร้อยละ 0.1
(5) สามารถใช้กับระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ( AC) 220 โวลท์ (Volt) ความถี่ 50 เฮิรตซ์
(Hz.) ได้
(6) มีช่องสัญญาณออก (Output) แบบดิจิตอล (Digital)
(7) สามารถแสดงผลค่าควันด าในหน่วยร้อยละที่ระยะความยาวของทางเดิน แสงมาตรฐานที่
76 มิลลิเมตร และระยะความยาวคลื่นแสงมาตรฐานที่ 570 นาโนเมตรได้
ข้อ ๓ เครื่องวิเคราะห์ก๊าซ (Gas Analyser) ต้องมีแบบ ขนาด มาตรฐาน และคุณลักษณะ
ดังนี้
(๑) เป็นระบบนันดีสเปอร์ซีฟ อินฟราเรด (Non-Dispersive Infrared Detection: NDIR)
ส าหรับใช้วัดปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC)
(๒) สามารถวัดปริมาณของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ( CO) จากท่อไอเสียได้ไม่น้อยกว่า
ร้อยละ ๔.๕ โดยปริมาตร และวัดปริมาณของก๊าซไฮโดรคาร์บอน ( HC) จากท่อไอเสียได้ไม่น้อยกว่า
๑๐,๐๐๐ ส่วนในล้านส่วน (ppm) ของค่าเทียบเท่านอร์มัลเฮ็กเซน (N-Hexane)
(๓) เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 3930 หรือ OIML R 99 class 1 หรือ OIML R 99
class 0
(๔) มีระบบการขับไล่ก๊าซไอเสียที่ตกค้างออกจากเครื่องวิเคราะห์ก๊าซ
(๕) ส่วนแสดงผลเป็นแบบตัวเลข
(ก) สามารถแสดงค่าปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ( CO) ได้ตั้งแต่ร้อยละ ๐
ถึงร้อยละ ๑๐ โดยปริมาตร หรือมากกว่า และมีความละเอียดในการอ่านไม่เกินร้อยละ ๐.๑
โดยปริมาตร
(ข) สามารถแสดงค่าปริมาณก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC) ได้ตั้งแต่ ๐ ถึง ๑๐,๐๐๐ ส่วน
ในล้านส่วน หรือมากกว่า และมีความละเอียดในการอ่านไม่เกิน ๑๐ ส่วนในล้านส่วน
(๖) สามารถใช้กับระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ( AC) ๒๒๐ โวลท์ (Volt) ความถี่ ๕๐ เฮิรตซ์
(Hz.) ได้
(๗) มีช่องสัญญาณออก (Output) แบบดิจิตอล (Digital)
ข้อ ๔ เครื่องวัดก๊าซรั่ว (Gas Leak Detector) ต้องมีแบบ ขนาด มาตรฐาน และคุณลักษณะ
ดังนี้
(๑) สามารถใช้ตรวจสอบการรั่วของก๊าซปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติในระบบเชื้อเพลิง
แบบเคลื่อนย้ายได้
(2) สามารถตรวจสอบก๊าซรั่วด้วยเซ็นเซอร์ ชนิดสารกึ่งตัวน า (Semi-Conductor)
(3) มีเสียงสัญญาณเตือน หรือสัญญาณไฟกระพริบ หรือแสดงค่าเป็นตัวเลขเมื่อตรวจพบ
การรั่วของก๊าซ
้หนา ๔
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๐๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๒
(4) ใช้ระบบไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่เซลล์แห้งที่มีจ าหน่ายทั่วไปภายในประเทศ
(5) มีความไวในการตรวจจับปริมาณก๊าซรั่วที่น้อยกว่า 150 ส่วนในล้านส่วน
ข้อ ๕ เครื่องวัดระดับเสียง (Sound Level Meter) ต้องมีแบบ ขนาด มาตรฐาน และ
คุณลักษณะ ดังนี้
(๑) เป็นไปตามมาตรฐานของคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยเทคนิคไฟฟ้า (International
Electrotechnical Commission, IEC) IEC 61672 Type 1 หรือ Type 2
(๒) สามารถแสดงค่าวัดระดับเสียงได้ตั้งแต่ 50 dB (A) หรือน้อยกว่า ถึง ๑๒๐ dB (A)
หรือมากกว่า และมีความละเอียดในการอ่านไม่เกิน ๐.๑ dB (A)
(๓) สามารถแสดงและบันทึกค่าเสียงสูงสุด (Max Hold) ได้ในขณะท าการตรวจวัด
(๔) ส่วนแสดงผลของอุปกรณ์เป็นแบบตัวเลขสามารถแสดง Weighting Network เป็นแบบ A
และแสดง Dynamic Characteristic เป็นแบบ Fast ได้
(๕) มีช่องสัญญาณออก (Output) แบบดิจิตอล (Digital)
(6) มีอุปกรณ์สอบเทียบความเที่ยงตรงประจ าเครื่องวัดระดับเสียงแบบเครื่องก าเนิดเสียงมาตรฐาน
(Acoustic Calibrator) เช่น พิสตันโฟน (Piston Phone) หรืออะคูสติก คาลิเบรเตอร์ ( Acoustic
Calibrator)
ข้อ 6 เครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ ( Engine Tachometer) ต้องมีแบบ ขนาด
มาตรฐาน และคุณลักษณะ ดังนี้
(1) สามารถแสดงค่าความเร็วรอบของเครื่องยนต์ได้ตั้งแต่ ๕๐๐ รอบต่อนาที หรือน้อยกว่า
ถึง 6,000 รอบต่อนาที หรือมากกว่า
(2) สามารถตรวจวัดความเร็วรอบของเครื่องยนต์ ๒ จังหวะที่มีจ านวนสูบตั้งแต่ ๑ ถึง ๔ สูบ
หรือมากกว่า และเครื่องยนต์ ๔ จังหวะที่มีจ านวนสูบตั้งแต่ ๑ ถึง ๖ สูบ หรือมากกว่า
ข้อ 7 เครื่องวัดควา มเร็วรอบเครื่องยนต์ส าหรับสถานตรวจสภาพรถแต่ละประเภทให้เป็น
ดังนี้
(1) สถานตรวจสภาพรถที่ได้รับใบอนุญาตให้ตรวจสภาพรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก
ต้องมีเครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์แก๊สโซลีนหรือเครื่องยนต์ที่จุดระเบิดด้วยประกายไฟ และ
เครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ดีเซลหรือเครื่องยนต์ที่จุดระเบิดด้วยการอัด
(2) สถานตรวจสภาพรถที่ได้รับใบอนุญาตให้ตรวจสภาพรถยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
ต้องมีเครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์แก๊สโซลีนหรือเครื่องยนต์ที่จุดระเบิดด้วยประกายไฟ และ
เครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ดีเซลหรือเครื่องยนต์ที่จุดระเบิดด้วยการอัด
(3) สถานตรวจสภาพรถที่ได้รับใบอนุญาตให้ตรวจสภาพรถจักรยานยนต์ตามกฎหมาย
ว่าด้วยรถยนต์ ต้องมีเครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์แก๊สโซลีนหรือเครื่องยนต์ที่จุดระเบิดด้วยประกายไฟ
้หนา ๕
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๐๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๒
เครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่สามารถตรวจวัดได้ทั้งเครื่องยนต์แก๊สโซลีนหรือเครื่องยนต์
ที่จุดระเบิดด้วยประกายไฟ และเครื่องยนต์ดีเซลหรือเครื่องยนต์ที่จุดระเบิดด้วยการอัด รวมอยู่ในเครื่องเดียวกัน
ให้ใช้แทนเครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ตาม (1) (2) และ (3) ได้
ข้อ 8 เครื่องวัดความเข้มของฟิล์มกรองแสง (Tint Meter) ต้องมีแบบ ขนาด มาตรฐาน
และคุณลักษณะ ดังนี้
(๑) สามารถตรวจวัดค่าของแสงที่ส่องผ่านกระจกและฟิล์มกรองแสงของรถยนต์ โดยสามารถ
เคลื่อนย้ายน าไปใช้งานได้สะดวก
(2) แสดงค่าของแสงส่องผ่านกระจกและฟิล์มกรองแสงได้เป็นแบบตัวเลข ตั้งแต่ร้อยละ ๐ - ๙๙
(3) สามารถป้องกันแสงรบกวนจากภายนอกได้ในขณะท าการตรวจวัด
(4) มีอุปกรณ์ประกอบการใช้งานที่สามารถตรวจวัดกระจกของรถได้ทุกบาน
ข้อ 9 เครื่องวัดควันด า เครื่องวิเคราะห์ก๊าซ เครื่องวัดก๊าซรั่ว เครื่องวัดระดั บเสียง
เครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ และเครื่องวัดความเข้มของฟิล์มกรองแสง ต้องผลิตโดยผู้ผลิตที่ได้รับ
มาตรฐาน ISO 9001 : 2015 หรือสูงกว่า และต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก
ข้อ 10 เครื่องวัดควันด าที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทาง บก และใช้งานในสถาน
ตรวจสภาพรถอยู่ก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้ใช้ได้ต่อไปในสถานตรวจสภาพรถที่เครื่องดังกล่าว
ใช้งานอยู่เฉพาะตามใบอนุญาตเลขที่นั้นเท่านั้น
เครื่องวิเคราะห์ก๊าซ เครื่องวัดก๊าซรั่ว เครื่องวัดระดับเสียง เครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์
และเครื่องวัดความเข้มของฟิล์มกรองแสง ที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกก่อนวันที่
ปร ะกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้ใช้ได้ต่อไป แต่สถานตรวจสภาพรถต้องจัดให้มีอุปกรณ์สอบเทียบ
ความเที่ยงตรงของเครื่องวัดระดับเสียงแบบเครื่องก าเนิดเสียงมาตรฐาน ( Acoustic Calibrator)
เช่น พิสตันโฟน (Piston Phone) หรืออะคูสติก คาลิเบรเตอร์ (Acoustic Calibrator) ภายในสองปี
นับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
ข้อ 11 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เว้นแต่สถานตรวจสภาพรถที่ ได้รับใบอนุญาตให้ตรวจสภาพรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก
และสถานตรวจสภาพรถที่ได้รับใบอนุญาตให้ตรวจสภาพรถยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์อยู่ก่อนวันที่
ประกาศนี้ใช้บังคับ ต้องจัดให้มีเครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ดีเซลหรือเครื่องยนต์ที่จุดระเบิด
ด้วยการอัด หรือเครื่องวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ตามข้อ 7 วรรคสอง ภายในสองปีนับแต่วันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖2
พีระพล ถาวรสุภเจริญ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
้หนา ๖
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๐๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๒
|
test
| 942
|
2168.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2168.pdf
|
'1>@0ค>11/@1ํ@?&@1#/"@//%?O
N1AN1 2"@%#?NOล>N/N/ล@1AN%Q%@1!> !N1NพAN1@1#/"@//%?O
P 0#?NQ%@1! > !N1ลC/%?O/1A1&Bคคล#?NลC/%?OR O1>&BR/ONพAN1@1#/"@//% ?O!@/O1'>&?!>
@1#/"@//%?O1(CO#/"@//%?O /@(CO#/"@//%?OR/N2@/@1"!> !N1!@/2"@%#?N/1A1N/N/ล@#?N//@0ํ@/% R O
2/ค/1ํ@/% 2"@%#?N1AN% Oล>/ล?N์ />$?@1 Oล>NAN1%RQ%@1!> !N1NพAN1#/"@//%?OQ%N/N/ล@1AN%
#?NN//@>2/ NพAN1Q/O@1!> !N1NพAN1@1#/"@//%?O1(CO#/"@//%?O/?ค/@/N//@>2/ 21 คลO1?&2.@พ2?ค/
@1'1>1&1@?พOล>@1 ํ@1?พ1ลC/%?O
1@0?01ํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ g (_) (`) Oล>/@!1@ _d (_) O/Nพ1>1@&??!>
@1#/"@//%?O พ.0. `ccf ค>11/@1ํ@?&@1#/"@//%?O @11'1>@0R/O ?!N1R'%?O
O1 _ '1>@0%?ON1?0/N@ '1>@0ค>11/@1 ํ@?&@1#/"@//% ?O N1AN1 2"@%#?N
Oล>N/N/ล@1AN%Q%@1!> !N1NพAN1@1#/"@//%?O
O1 ` '1>@0%?OQ/OQO&?ค?&!?OO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R'
O1 a 2"@%#?N1AN%!@//@!1@ g (_) O/Nพ1>1@&??!>@1#/"@//%?O พ.0. `ccf
R OON .C/>ลํ@N%@/1A1">N%#?N10CN12@/? .1>0@ /1A1คCN2/121ลC/%?O
O1 b N/AN1คํ@%@"@1@?พ /%O@#?N@1@%1ลC/%?O/1A1&Bคคล@NลC/%?OR O1>&BR/ONพAN1@1#/"@//%?O
Q%1?#?N&Bคคล ?ลN@/R OOO1@0ล>N1?0 N?N0/?&1@?พ#?N/?ล?1>/1A1@1#ํ@@%#?N(CO#/"@//% ?O
R/N1@!> !N1NพAN1#/"@//%?O!@/N/N/ล@#?Nํ@/% Q%/@!1@ g (`) O/Nพ1>1@&??!>@1#/"@//%?O
พ.0. `ccf Oล>(CO#/"@//%?OR Oพ0@0@/!> !N1!@/2/ค/1OลO/ O!NR/N2@/@1"!> !N1R O Q/O(CO#/"@//%?O
!> !N1#/"@//%?OQ%/?%/0B 1@@1 N/ล@ _f.^^ %@0>@ "@N/ล@ `^.^^ %@0>@R O
'1>@0 /?%#?N `g !Bล@ค/ พ.0. `cde
1%B#>% @/?1Cล
1?/%!1?/N@@11>#1///@ R#0
'1>$@%11/@1ํ@?&@1#/"@//%?O
หนา ๘๓
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 943
|
2271.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2271.pdf
|
'1>@01>#1/อB!2@ห11/
N1APอ อ?!1@คN@QON@0Q%@1!1/2อ&@1#ํ@(ล>!.?์อB!2@ห11/
พ.0. `cd^
P 0#?PN'็%@12/ค/1'1?&'1Bอ?!1@คN@QON@0Q%@1!1/2อ&@1# ํ@(ล>!.?์อB!2@ห11/
QหO/?ค/@/Nห/@>2//@0>P@Q%
อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ d /11คห%@P OหNพ1>1@& ?ญญ?!>/@!1@%(ล >!.?์
อB!2@ห11/ พ.0. `c__ @POORNพ>P/N!>/P 0พ1>1@& ?ญญ?!>/@!1@%(ล >!.?์อB!2@ห11/
(&?&#?P d) พ.0. `cb^ 1?/%!1?/N@@11>#1/อB!2@ห11/ @ออ'1>@0R/O ?!NอR'%?Q
Oอ _ '1>@0%?QN1?0/N@ '1>@01>#1/อB!2@ห11/ N1APอ อ?!1@คN@QON@0Q%@1!1/2อ&
@1#ํ@(ล>!.?์อB!2@ห11/ พ.0. `cd^
Oอ ` '1>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@ >@%BN&1@ %"@/?%#?P
a_ $?%/@ค/ พ.0. `cd^ 0N/O%อ?!1@คN@QON@0Q%@1!1/2อ&@1# ํ@(ล>!.?์อB!2@ห11/
NพAPอ@1อ%Bญ@!Q%'1>N#0 P 02ํ@%?@%/@!1@%(ล >!.?์อB!2@ห11/ QหO/?(ลQO&?ค?&"@/?%#?P
a^ />"B%@0% `cd^
Oอ a QหO0Nล>ค/@/Q% (_) อOอ ` อ'1>@01>#1/อ B!2@ห11/ N1APอ
อ?!1@คN@QON@0Q%@1!1/2อ&@1#ํ@(ล>!.?์อB!2@ห11/ พ.0. `cc_ Oล>QหOQOค/@/!NอR'%?QO#%
(_) @1!1/2อ&@1#ํ@(ล>!.?์อB!2@ห11/NพAPอ@1อ%Bญ@!ห1Aอ!> !@/(ลหล?@1อ%Bญ@!
Q%'1>N#0 N'็%N>%ํ@%/% c,^^^ &@# !Nอ/?% N01อ/?%ห@R/NN>% b ?P/P/ QหON1?0NO&
N'็%N>% `,c^^ &@# 2ํ@ห1?&คN@QON@0Q%@1N >%#@Oล>ค N@#?Pพ?QหON&>N@0!@/1>N& ?0&
1>#1/@1คล?/N@ O/0@1N&>N@0คN@QON@0Q%@1N >%#@R'1@@1
'1>@0 /?%#?P `^ /1@ค/ พ.0. `cd^
Nอ%? พ1Oอ/พ?%$B์
1?/%!1?/N@@11>#1/อB!2@ห11/
หนา ๔
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๔๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ กุมภาพันธ ๒๕๖๘
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 944
|
2494.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2494.pdf
|
1>@01>1/อB2@ห11/
N1ANอ ํ@ห/@1@ล>.?์อB2@ห11/ 1O1Nอ1์Oล>Nค1ANอ?1NพANอ@1N11Oล>@1่@R/O -
2N/?NN?N0/Oอ?ค/@/ลอ.?0อ1>ค/คB/ NลN/ _ หล?@1?N/R2ํ@ห1?@1ออOOล>พ?@
พ.0. `_`b
P0?NN็@12/ค/1 ํ@ห/@1@ล >.?์อB2@ห11/ 1O1Nอ1 ์Oล>Nค1ANอ?1
NพANอ@1N11Oล>@1่@R/O - 2N/?NN?N0/Oอ?ค/@/ลอ.?0อ1>ค/คB/ NลN/ _ หล?@1?N/R
2ํ@ห1?@1ออOOล>พ?@
อ@0?0อํ@@@/ค/@/Q/@1@ __ OหNพ1>1@?ญญ?>/@1@ล>.?์อB2@ห11/
พ.0. `___ @NOORNพ>N/N>/P0พ1>1@ ?ญญ?>/@1@ล >.?์อB2@ห11/ (??N a)
พ.0. `__b 1?/1?/N@@11>1/อ B2@ห11/ @ออ1>@0@/ OอN2ออค>11/@1
/@1@ล>.?์อB2@ห11/R/O ??O
Oอ _ 1>@0 ?ON1?0/N@ 1>@01>1/อ B2@ห11/ N1ANอ ํ@ห/@1@
ล>.?์อB2@ห11/ 1O1Nอ1์Oล>Nค1ANอ?1NพANอ@1N11Oล>@1่@R/O - 2N/?NN?N0/Oอ?
ค/@/ลอ.?0อ1>ค/คB/ NลN/ _ หล?@1?N/R2ํ@ห1?@1ออOOล>พ?@ พ.0. `_`b
Oอ ` 1>@0?OQหO/?ล?ON/??@/?1>@0Q1@>@BN1@N็OR
Oอ a QหOํ @ห/@1@ล >.?์อB 2@ห11/ 1O1Nอ1 ์Oล>Nค1 ANอ ?1
NพANอ@1N11Oล>@1่@R/O - 2N/?NN?N0/Oอ?ค/@/ลอ.?0อ1>ค/คB/ NลN/ _ หล?@1?N/R
2ํ@ห1?@1ออOOล>พ ?@ /@1@Nล?N /อ. 4141 NลN/ 1 - 2567 R/O ?/?1@0ล>Nอ?0
O@01>@0?O
1>@0 /??N `b B/.@พ?์ พ.0. `_`b
Nอ? พ1Oอ/พ?B์
1?/1?/N@@11>1/อB2@ห11/
หนา ๖
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๔๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๘
ขอมูลมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
แนบทายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
ชื่อมาตรฐาน : รถแทรกเตอรและเครื่องจักรเพื่อการเกษตรและการปาไม – สวนที ่เกี่ยวของ
กับความปลอดภัยของระบบควบคุม
เลม 1 หลักการทั่วไปสําหรับการออกแบบและพัฒนา
TRACTORS AND MACHINERY FOR AGRICULTURE AND FORESTRY -
SAFETY-RELATED PARTS OF CONTROL SYSTEMS -
PART 1: GENERAL PRINCIPLES FOR DESIGN AND DEVELOPMENT -
AMENDMENT 1
มาตรฐานเลขที่ : มอก. 4141 เลม 1-2567
ผูจัดทํา : สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
กรรมการวิชาการ : -
ขอบขาย : มาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนี้
- กําหนดขึ้นโดยรับ ISO 25119-1:2018/Amd 1:2020 Tractors and
machinery for agriculture and forestry — Safety-related parts
of control systems — Part 1: General principles for design and
development — Amendment 1 มาใชโดยวิธีพิมพซ้ํา (reprinting)
ในระดับเหมือนกันทุกประการ (identical) โดยใช ISO ฉบับภาษาอังกฤษ
เปนหลัก
- เอกสารนี้กําหนดหลักการทั่วไปสําหรับการออกแบบและพัฒนาชิ้นสวน
ที่เกี่ยวของกับความปลอดภัยของระบบควบคุม (SRP/CS) บนรถแทรกเตอร
ที่ใชในการเกษตรและการปาไม และบนเครื่องจักรแบบขับเคลื่อนในตัว และ
เครื่องแบบติดตั้ง แบบกึ่งติดตั้ง และแบบลากที่ใช ในการเกษตร นอกจากนี้
ยังสามารถนําไปใชกับอุปกรณเทศบาลแบบเคลื่อนที่ได (เชน
เครื่องกวาดถนน)
- เอกสารนี้ไมครอบคุลมถึง:
- อากาศยานและยานพาหนะแบบ air-cushion ที่ใชในการเกษตร;
- อุปกรณสนามหญาและสวน
- เอกสารนี้ระบุคุณลักษณะและประเภทที่จําเปนสําหรับ SRP/CS ในการปฏิบัติ
หนาที่ที่เกี่ยวของกับความปลอดภัย ไมไดระบุระดับประสิทธิภาพของ
แอปพลิเคชันเฉพาะ
หมายเหตุ 1 เครื่องจักร ประเภท C สามารถระบุระดับประสิทธิภาพ (Specify
performance levels AgPL) สําหรับฟงกชันที่เกี่ยวของกับ
ความปลอดภัยในเครื่องจักรภายในขอบเขตได มิฉะนั้น ขอมูล
จําเพาะของ AgPL ถือเปนความรับผิดชอบของผูผลิต
- เอกสารนี้ใชไดกับชิ้นสวนที่เกี่ยวของกับความปลอดภัยของระบบไฟฟา/
อิเล็กทรอนิกส/ระบบอิเล็กทรอนิกสแบบตั้งโปรแกรมได (E/E/PES) เนื่องจาก
เกี่ยวของกับระบบเมคคาทรอนิกส โดยครอบคลุมถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
จากพฤติกรรมทํางานผิดปกติของระบบที่เกี่ยวของกับความปลอดภัยของ
E/E/PES รวมถึงการโตตอบของระบบเหลานี้ ไมไดกลาวถึงอันตราย
ที่เกี่ยวของกับไฟฟาช็อต ไฟไหม ควัน ความรอน การแผรังสี ความเปนพิษ
การติดไฟ ปฏิกิริยา การกัดกรอน การปลอยพลังงาน และอันตรายที่คลายกัน
เวนแตจะเกิดโดยตรงจากพฤติกรรมทํางานผิดปกติของระบบที่เกี่ยวของกับ
ความปลอดภัยของ E/E/PES . นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงพฤติกรรม
การทํางานที่ผิดปกติของระบบที่เกี่ยวของกับความปลอดภัย E/E/PES ที่
เกี่ยวของกับมาตรการปองกัน การปองกัน หรือฟงกชันที่เกี่ยวของกับ
ความปลอดภัยเพื่อตอบสนองตออันตรายที่ไมใช E/E/PES
- ตัวอยางที่รวมอยูในขอบเขตของเอกสารนี้:
- SRP/CS จํากัดการไหลของกระแสไฟฟาในไฟฟาไฮบริดเพื่อปองกัน
ความลมเหลวของฉนวน/อันตรายจากไฟฟาช็อต;
- การรบกวนทางแมเหล็กไฟฟากับ SRP/CS;
- SRP/CS ออกแบบมาเพื่อปองกันอัคคีภัย
เนื้อหาประกอบดวย : รายละเอียดใหเปนไปตาม ISO 25119-1:2018/Amd 1:2020
จํานวนหนา : 41 หนา
ISBN (e-book) : 978-616-617-766-4
ICS : 35.240.99; 65.060.01
สถานที่จัดเก็บ : หองสมุดสํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท 02 430 6834
ตอ 02 440-2441
สถานที่จําหนาย : สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400
https://www.tisi.go.th
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 945
|
1098.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1098.pdf
|
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๔๑๕)
เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได
สําหรับเงินไดเทาที่ไดจายเปนคาซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม
อาศัยอํานาจตามความในวรรคหนึ่งของขอ ๒ (๑๐๒) แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖
(พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎาก ร วาดวยการยกเวนรัษฎากร ซึ่งแกไขเพิ่มเติม
โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๕๗ (พ.ศ. ๒๕๖๓) ออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร
อธิบดีกรมสรรพากรกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินได
เทาที่ไดจายเปนคาซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม ดังตอไปนี้
ขอ ๑ ใหยกเลิกความในขอ ๕ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได
(ฉบับที่ ๓๖๙) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินได
เทาที่ไดจายเปนคาซื้อห นวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม ลงวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
และใหใชความตอไปนี้แทน
“ขอ ๕ การไดรับยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินไดเทาที่ไดจายเปนคาซื้อหนวยลงทุน
ในกองทุนรวมเพื่อการออมตามประกาศนี้ ตองเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการ ดังตอไปนี้
(๑) กรณีการซื้อหนวยลงทุนตั้งแตวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เปนตนไป
ผูมีเงินไดตองแจงความประสงคที่จะใชสิทธิยกเวนภาษีเงินไดตอบริษัทหลักทรัพยจัดการกองทุนรวม
ที่ตนไดซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม
(๒) กรณีการซื้อหนวยลงทุนกอนวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ผูมีเงินได
ตองมีหนังสือรับรองการซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออมจากบริษัทหลักทรัพยจัดการกองทุนรวม
ที่แสดงไดวามีการจายเงินเขากองทุนรวมเพื่อการออมดังกลาว”
ขอ ๒ ใหเพิ่มความตอไปนี้เปนขอ ๕/๑ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได
(ฉบับที่ ๓๖๙) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินได
เทาที่ไดจายเปนคาซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม ลงวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
้หนา ๑๒๖
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๑๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ มีนาคม ๒๕๖๕
“ขอ ๕/๑ บริษัทหลักทรัพยจัดการกองทุนรวมที่ไดรับแจงความประสงคตามขอ ๕ (๑)
ตองสงขอมูลของผูมีเงินไดตอกองเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมสรรพากร โดยจัดทําขึ้นเปนขอมูลอิเล็กทรอนิกส
ตามรูปแบบและนําสงตามวิธีการที่กําหนดบนเว็บไซตของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th
การแจงและการสงขอมูลตามวรรคหนึ่ง ใหแจงภายในวันที่ ๑๕ มกราคมของปถัดไป
เวนแตอธิบดีจะกําหนดเปนอยางอื่น
กรณีบริษัทหลักทรัพยจัดการกองทุนรวมไดแจงและสงขอมูลตามวรรคสองแลว
แตมีความประสงคจะขอแกไข ยกเลิก หรือเพิ่มเติมขอมูลดังกลาวนั้น ใหบริษัทหลักทรัพยจัดการ
กองทุนรวมดังกลาวแจงและสงขอมูลผานระบบรับขอมูลคาซื้อหนวยลงทุนเกินกําหนดเวลาบนเว็บไซต
ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th”
ขอ ๓ ใหยกเลิกความในวรรคหนึ่งของขอ ๗ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได
(ฉบับที่ ๓๖๙) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเวนภาษีเงินได สําหรับเงินได
เทาที่ไดจายเปนคาซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม ลงวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
และใหใชความตอไปนี้แทน
“หนังสือรับรองการซื้อหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออมตามขอ ๕ (๒)
และหนังสือรับรองการโอนหนวยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออมตามขอ ๖ ตองจัดทําเปนภาษาไทย
หรือภาษาอังกฤษ แตถาทําเปนภาษาตางประเทศอื่นตองมีคําแปลภาษาไทยกํากับดวย สวนตัวเลขใหใชเลขไทย
หรือเลขอารบิค โดยมีขอความอยางนอยตามแบบที่แนบทายประกาศนี้”
ขอ ๔ ประกาศนี้ใหใชบังคับสําหรับเงินไดพึงประเมินประจําป พ.ศ. ๒๕๖๕ ที่จะตองยื่นรายการใน
พ.ศ. ๒๕๖๖ เปนตนไป
ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
สมศักดิ์ อนันทวัฒน
รองอธิบดี รักษาราชการแทน
อธิบดีกรมสรรพากร
้หนา ๑๒๗
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๑๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ มีนาคม ๒๕๖๕
|
test
| 946
|
1971.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1971.pdf
|
'1>@01//>@@1N1!1
N1APอ อ?!1@คN@/>Nค1@>ห์O3># 2อ&(3>!.?ฑ์/?!"Bอ?%!1@0O3>2@1*>1!คO@#@@1N1!1
*.0. `cde
P 0#?PN'็%@12/ค/1'1?&'1Bอ?!1@คN@/>Nค1@>ห์O3># 2อ&(3>!.?ฑ์/?!"Bอ?%!1@0O3>2@1*>1
!คO@#@@1N1!1 N*APอQหONห/@>2/O3>2อ ค3Oอ?&2.@*@1์'ัB&?%
อ@0?0อO@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ a` /11ค2อ OหN*1>1@&??!>1>N&?0&&1>ห@11@@1O(N% >%
*.0. `cab @POORN*>P/N!>/P 0*1>1@& ??!>1>N&?0&&1>ห@11@@1O( N% >% ( &?&#?P c)
*.0. `cbc '1>อ&?&Oอ ` อ1>#1/O&N2N/%1@@11//>@@1N1!1 1>#1/N1!1
O3>2ห1์ *.0. `cce อ$>& ?1//>@@1N1!1 @ออ'1>@01//>@@1N1!1 N1APอ อ?!1@
คN@/>Nค1@>ห์O3># 2อ&(3>!.?ฑ์/?!"Bอ?%!1@0O3>2@1*>1!คO@#@@1N1!1R/O ?!NอR'%?Q
Oอ _ '1>@0%?QN1?0/N@ '1>@01//>@@1N1!1 N1APอ อ?!1@คN@/>Nค1@>ห์O3># 2อ&
(3>!.?ฑ์/?!"Bอ?%!1@0O3>2@1*>1!คO@#@@1N1!1 *.0. `cde
Oอ ` '1>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R'
Oอ a QหO0N3>
(_) '1>@01// >@@1N1!1 N1APอ อ?!1@คN@$11/N% ?0/@1!1/2อ&(3 >!.?ฑ์
/?!"Bอ?%!1@0#?P1//>@@1N1!1N'็%(CO1?&(> อ& *.0. `cbb 3/?%#?P c N/1@0% *.0. `cbb
(`) '1>@01//>@@1N1!1 N1APอ อ?!1@คN@$11/N%?0/@1!1//>Nค1@>ห์2@1*>1!คO@
Q%*A (? O3>(3R/O *.0. `cbd 3/?%#?P g ?%0@0% *.0. `cbd
(a) '1>@01//>@@1N1!1 N1APอ อ?!1@คN@$11/N%?0/@1!1//>Nค1@>ห์2@1*>1!คO@
Q%*A >%O3>%QO@ *.0. `cbf 3/?%#?P _c B/.@*?%$์ *.0. `cbf
Oอ b Q%'1>@0%?Q
/?!"Bอ?%!1@0#@@1N1!1 ห/@0ค/@//N@ ?!NอR'%?Q
(_) 2@1O@? O/3
(`) 2@1O@? /?*A
(a) 2@1'้อ?%O@? P1ค*A
(b) 2@1ค/&คB/@1N1>N!>&P!อ*A
(c) 2@1O@? R10?!1C*A
(d) 2@1O@? ห%C
(e) 2@1O@? หอ0
(f) 2@1'้อ?%O@? R2ON Aอ%)อ0
หนา ๒๖
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๗๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๗
(3>!.?ฑ์/?!"Bอ?%!1@0#@@1N1!1 ห/@0ค/@//N@ (3>!.?ฑ์#?P/?2#$>NQ%@1'้อ?%
O@? 0?!1C*A
2@1*>1!คO@ ห/@0ค/@//N@ 2@1!คO@Q%2>%คO@N1!1#?PN> @@1QO/?!"Bอ?%!1@0
#@@1N1!1 O3>QหOห/@0ค/@/1//" @3BN/อ%B*?%$์อ/?!"Bอ?%!1@0#@@1N1!1% ?Q% R OON
2@1@1>&/%@1N'3 ?P0%O'3 (conversion products) 2@1@1>&/%@121 O@O3>23@0
(metabolites) 2@1@@1# O@'>>1>0@ (reaction products) O3>2@1#?P'%อ0CNQ%/?!"Bอ?%!1@0
#@@1N1!1 (impurities) #?P/?ค/@/N'็%*>1อ0N@/?%?02O@ค?
Oอ c อ?!1@คN@/>Nค1@>ห์O3># 2อ&(3>!.?ฑ์/?!"Bอ?%!1@0O3>2@1*>1!คO@#@@1N1!1
QหON'็%R'!@/&??O%&#O@0'1>@0%?Q
Oอ d @1Q #?PR O O@N%>%@1R'Nอ%/?%#?P'1>@0%?QQO&?ค?&O3>0? O@N%>%@1R/NO3O/N21O
QหO O@N%>%@1!NอR'!@/'1>@01//>@@1N1!1 N1APอ อ?!1@คN@$11/N%?0/@1!1/2อ&(3>!.?ฑ์
/?!"Bอ?%!1@0#?P1//>@@1N1!1N' ็%(CO1?&(> อ& *.0. `cbb '1>@01// >@@1N1!1
N1APอ อ?!1@คN@$11/N%?0/@1!1// >Nค1@>ห์2@1*>1!คO@Q%*A (? O3>(3R/O *.0. `cbd
O3>'1>@01// >@@1N1!1 N1APอ อ?!1@คN@$11/N%?0/@1!1//>Nค1@>ห์2@1*>1!คO@Q%*A
>%O3>%QO@ *.0. `cbf %/N@>O3O/N21O
'1>@0 /?%#?P 19 />"B%@0% *.0. `cd7
1*?.?#1์ ?%#101?/0์
อ$>& ?1//>@@1N1!1
หนา ๒๗
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๗๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๗
&?ญช?O%&#O@0'1>@01//>ช@@1N1!1 N1?Nอ อ?!1@คN@/>Nค1@>ห์O3># 2อ&
(3>!.?ฑ์/?!"@อ?%!1@0O3>2@1พ>1!คO@#@@1N1!1 พ.0. `cde
_. อ?!1@คN@/>Nค1@>ห์O3># 2อ&!?/อ0N@(3>!.?ฑ์2@1'้อ?%O@? 0?!1Aพ?ช
3O@ ?&#?N 1@0@1 !?/อ0N@3>
_._ 2@#ออ$%&>N (A.I.) "O/"N%ค'>ค HPLC b,^^^ (@%
_.` 2@#ออ$%&>N (A.I.) "O/"N%ค'>ค GC a,^^^ (@%
_.a 2@#ออ$%&>N (A.I.) "O/"N%ค'>ค%@Nค!? b,^^^ (@%
_.b 2@#ออ$%&>N (A.I.) *%># ?!์ White oil ห#Aอ Petroleum oil b,`^^ (@%
_.c 2@#NAอ)' (Impurities) b,c^^ (@%
_.d คN@ pH (pH range) (MT 75) e^^ (@%
_.e )#>!@!'OO@NAอ)' (Water content) (MT 30.5) g^^ (@%
_.f @#2CญN2?"'OO@ห'?N!ANอOหO (Loss on drying) (MT 17) d^^ (@%
_.g @#%>%@"O%>@#ค2 @อ2@#%>%@" (Degree of dissolution
and solution stability) (MT 179)
d^^ (@%
_._^ 2@#P!N%>%@"'OO@ (Insoluble material) (MT 10) c^^ (@%
_.__ @##>@"อ2@#O''OO@ (Spontaneity of dispersion) (MT 160) e^^ (@%
_._` @##>@"อ2@#O''OO@ (Degree of dispersion) (MT 174) d^^ (@%
_._a #>O##Nอ'O((N)ี" (Wet sieve test) (MT 187) (MT 185) f^^ (@%
_._b @##>@"ออ'B @ค (Particle size distribution) (MT 59.2) e^^ (@%
_._c @#ค2 @@#%>%@" (Solution stability) (MT 41) b^^ (@%
_._d @##>@"#>อ'O/'%อ" (Suspensibility) (MT 184) e^^ (@%
_._e @#ค2 @ออ>!?%?N'O%>@#คA'#?/ออ>!?%?N'
(Emulsion stability and Re-emulsification) (MT 36.3)
e^^ (@%
_._f @#N)ี"'OO@ (Wettability) (MT 53.3) b^^ (@%
_._g ค/@!ค%'ออ (Persistent foaming) (MT 47) c^^ (@%
_.`^ ค/@!ห'@O'N' (Bulk density, Tap density) (MT 186) c^^ (@%
_.`_ ค/@!ห'@O'N'%?NอB!ห C!> 20 อ0@N%N?"2 (Density) (MT 3) d^^ (@%
_.`` @#ค2 @%?NอB!ห C!> 54 อ0@N%N?"2 14 /?' (Accelerated
storage) (MT 46.3)
f^^ (@%
_.`a ค/@!2@!@#$O'@#Pห%N% (Pourability) (MT 148) e^^ (@%
_.`b Unsulphonatable Residue of Neutral oil (MT 57) `,^^^ (@%
_.`c N/@#%?N' (Volatility of Neutral oil) (MT 56) _,c^^ (@%
_.`d @#ค2 @อ*%># ?!์%?NNAอ@O%O/
(Stability of diluted oil product) (MT 55.4)
e^^ (@%
_.`e @#ค2 @@##>@"#?/อ2@#O''OO@ (MT 180) b^^ (@%
_.`f %?1!>2C## TC = Technical materials b,^^^ (@%
_.`g %?1!>2C## TK = Technical concentrates b,^^^ (@%
_.a^ %?1!>2C## CS = Capsule suspensions _d,e^^ (@%
- ` -
3O@ ?&#?N 1@0@1 !?/อ0N@3>
_.a_ %?1!>2C## DC = Dispersible concentrates _b,b^^ (@%
_.a` %?1!>2C## DP = Dustable powders _`,c^^ (@%
_.aa %?1!>2C## DS = Powder for dry seed treatment _`,c^^ (@%
_.ab %?1!>2C## DT = Tablets for direct application _`,_^^ (@%
_.ac %?1!>2C## EC = Emulsifiable concentrates _a,d^^ (@%
_.ad %?1!>2C## EG = Emulsifiable granules _c,^^^ (@%
_.ae %?1!>2C## EP = Emulsifiable powders _c,^^^ (@%
_.af %?1!>2C## ES = Emulsions for seed treatment _`,e^^ (@%
_.ag %?1!>2C## EW = Emulsion, oil in water _a,b^^ (@%
_.b^ %?1!>2C## FS = Suspension concentrates for seed treatment _d,^^^ (@%
_.b_ %?1!>2C## GR = Granules __,f^^ (@%
_.b` %?1!>2C## LS = Solutions for seed treatment _`,c^^ (@%
_.ba %?1!>2C## ME = Micro-emulsions _`,e^^ (@%
_.bb %?1!>2C## OD = Oil-based suspension concentrates _c,a^^ (@%
_.bc %?1!>2C## OL = Oil miscible liquids __,e^^ (@%
_.bd %?1!>2C## SC = Suspension concentrates _d,g^^ (@%
_.be %?1!>2C## SE = Aqueous suspo-emulsions _c,a^^ (@%
_.bf %?1!>2C## SG = Water soluble granules _`,f^^ (@%
_.bg %?1!>2C## SL = Soluble concentrates _a,^^^ (@%
_.c^ %?1!>2C## SP = Water soluble powders _a,d^^ (@%
_.c_ %?1!>2C## SS = Water soluble powders for seed treatment _`,e^^ (@%
_.c` %?1!>2C## ST = Water soluble tablets _d,d^^ (@%
_.ca %?1!>2C## UL = Ultra low volume liquids __,e^^ (@%
_.cb %?1!>2C## WG = Water dispersible granules _d,`^^ (@%
_.cc %?1!>2C## WP = Wettable powders _c,b^^ (@%
_.cd %?1!>2C## WS = Water dispersible powders for slurry seed
treatment
_a,d^^ (@%
_.ce %?1!>2C## WT = Water dispersible tablets _c,d^^ (@%
_.cf %?1!>2C## ZC = Mixed formulations of CS and SC _d,c^^ (@%
_.cg %?1!>2C## ZE = Mixed formulations of CS and SE _c,a^^ (@%
_.d^ %?1!>2C## ZW = Mixed formulations of CS and EW _c,a^^ (@%
_.d_ %?1!>2C## EC ห#Aอ EW = White oil ห#Aอ Petroleum oil g,^^^ (@%
- a
`. อ?!1@คN@/>Nค1@>ห์'1>/@2@1ออ2#$>Nอ2@12? @พ?ช#?NใชOใ%@1'้อ?%O@? 0?!1Aพ?ช
3O@ ?&#?N 1@0@1 !?/อ0N@3>
`._ 2@#ออ$%&>N (A.I.) azadirectin b,^^^ (@%
`.` 2@#ออ$%&>N (A.I.) D-limonene c,^^^ (@%
`.a 2@#ออ$%&>N (A.I.) rotenone b,^^^ (@%
`.b 2@#ออ$%&>N (A.I.) saponin b,^^^ (@%
`.c 2@#ออ$%&>N (A.I.) b-asarone c,^^^ (@%
`.d 2@#ออ$%&>N (A.I.) 1,8-cineole c,^^^ (@%
`.e 2@#ออ$%&>N (A.I.) อ2@#2?"@A%?NOOO'@#)้อ?'O@?"0?##CA
%?NP!NP"Oอ"CNO'(?ญ? OหO*COอO@'/"@#อ/>?"? '@)ั?"@#*%>#%@
@#N1## N)็'*CO>@#!@O@ห'"อ?##@คN@OON@"O'@#/>Nค#@>ห์O%>
%"2อ(N)็'#@"#!?
a. อ?!1@คN@/>Nค1@>ห์O3># 2อ&2@1พ>1!คO@@@1ใชO2@1'้อ?%O@? 0?!1Aพ?ชใ%พ?ช
3O@ ?&#?N 1@0@1 !?/อ0N@3>
a._ 2@#>1#คO@'>"N"?N"/ (Single residue) c,^^^ (@%
a.` 2@#>1#คO@ (Multi-residues)"O/"N%ค'>ค HPLC, GC c,c^^ (@%
a.a 2@#>1#คO@ (Multi-residues) 'Oอ"/N@ 50 '>"2@# "O/"N%ค'>ค
LC-MS/MS, GC-MS/MS
d,^^^ (@%
a.b 2@#>1#คO@ 50 '>"2@#@O'P) (Multi-residues) "O/"N%ค'>ค
LC-MS/MS, GC-MS/MS
g,^^^ (@%
b. อ?!1@คN@/>Nค1@>ห์O3># 2อ&2@1พ>1!คO@@@1ใชO2@1'้อ?%O@? 0?!1Aพ?ชใ% >% O3>%OO@
3O@ ?&#?N 1@0@1 !?/อ0N@3>
b._ 2@#>1#คO@%BN! Organochlorines c,c^^ (@%
b.` 2@#>1#คO@%BN! Organophosphorus c,c^^ (@%
b.a 2@#>1#คO@%BN! Pyrethroid c,c^^ (@%
b.b 2@#>1#คO@%BN! Organochlorines, Organophosphorus O%>
Pyrethroid
f,^^^ (@%
b.c 2@#>1#คO@%BN! Carbamates,
Triazines b,c^^ (@%
b.d 2@#>1#คO@'>" Glyphosate, Glufosinate c,^^^ (@%
b.e 2@#>1#คO@'>" 2,4-D c,^^^ (@%
b.f 2@#>1#คO@'>" Paraquat c,^^^ (@%
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 947
|
1269.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1269.pdf
|
ประกาศกระทรวงแรงงาน
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวท างานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
ส าหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ๓)
ตามที่ได้ออกประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวท างานในราชอาณาจักร
เป็นกรณีพิเศษ ส าหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๘ กันยายน ๒๕๖๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาการท างานของคนต่างด้าว
สัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมานั้น เนื่องจากได้มีการปรับปรุงระยะเวลาด าเนินการตามมาตรการ
ในการบริหารจัดการการท างานของคนต่างด้าว เพื่อรองรับการฟื้นฟูประเทศภายหลังการผ่อนคลาย
มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเ ชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงจ าเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมประกาศ
ดังกล่าว
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชก าหนดการบริหารจัดการ
การท างานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ และมาตรา ๑๔ และมาตรา ๖๓/๒ แห่งพระราชก าหนด
การบริหารจัดการการท างานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชก าหนด
การบริหารจัดการการท างานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในข้อ ๖ แห่งประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้
คนต่างด้าวท างานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ส าหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๖ เมื่อนายทะเบียนตรวจสอบค าขออนุญาตท างานแทนคนต่างด้าว รวมทั้งเอกสารและ
หลักฐานแล้ว เห็นว่าถูกต้องและครบถ้วน ให้นายทะเบียนออกใบอนุญาตท างานให้คนต่างด้าว
มีสิทธิท างานได้ไม่เกินวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ แต่ต้องก าหนดเงื่อนไขไว้ด้วยว่า ผู้ได้รับอนุญาต
ต้องจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลและตรวจสุขภาพภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ และต้องได้รับ
การตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวด้วยภายในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
มิเช่นนั้น การอนุญาตให้ท างานและการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรจะสิ้นสุดลง”
ข้อ ๒ ให้ยกเ ลิกความใน (๑) ของข้อ ๘ แห่งประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวท างานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ส าหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา
ลาว และเมียนมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๑) ขอตรวจลงตร าประเภทคนอยู่ชั่วคราวและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร
เป็นการชั่วคราว หรือขอตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปที่กองบังคับการ
ตรวจคนเข้าเมือง ๑ ส านักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด หรือสถานที่อื่นที่ส านักงาน
้หนา ๒๔
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๕
ตรวจคนเข้าเมืองก าหนด และเมื่อคนต่างด้าวด าเนินการดังกล่าวแล้ว ให้นายจ้างยื่นหลักฐานการอนุญาต
ให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อนายทะเบียนภายในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖”
ข้อ ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ ๑๐/๑ แห่งประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาต
ให้คนต่างด้าวท างานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ส าหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔
“ข้อ ๑๐/๑ ให้คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้ท างานตามประกาศนี้ เพิ่มนายจ้างได้เฉพาะ
คนต่างด้าวซึ่งท างานในเรื อประมง ทั้งนี้ ให้น าบทบัญญัติเกี่ยวกับการเพิ่มนายจ้างในประกาศ
ส านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการออกหนังสือคนประจ าเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง มาใช้บังคับ
แก่การเพิ่มนายจ้างของคนต่างด้าวดังกล่าวด้วยโดยอนุโลม”
ข้อ ๔ ในระหว่างที่คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้ท างานยังไม่ได้รับการตรวจอนุญาตให้อยู่
ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ตามเงื่อนไขที่ก าหนดในใบอนุญาตท างานตามข้อ ๖ แห่งประกาศ
กระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวท างานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ส าหรับ
คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔
ให้ใบอนุญาตท างานของคนต่างด้าวดังกล่าวยังคงใช้ได้ต่อไปจนถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เพื่อให้
คนต่างด้าวไปด าเนินการขอตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ส าหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา
ลาว และเมียนมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖5
สุชาติ ชมกลิ่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
้หนา ๒๕
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๕
|
test
| 948
|
1371.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1371.pdf
|
ประกาศส านักงานคณะกรรมการอาหารและยา
เรื่อง ก าหนดหลักฐานการขอต่ออายุใบอนุญาตผลิตอาหารแทนการตรวจประเมินว่าได้ปฏิบัติตามที่รัฐมนตรี
ประกาศก าหนดวิธีการผลิต เครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิต และการเก็บรักษาอาหาร
ตามมาตรา 6 (7)
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศส านักงานคณะกรรมการอาหารและยาว่าด้วยเรื่อง
ก าหนดหลักฐานการขอต่ออายุใบอนุญาตผลิตอาหาร ที่รัฐมนตรีประกาศก าหนดวิธีการผลิต
เครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิต และการเก็บรักษาอาหาร ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
และอ านวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการผลิตอาหาร
อาศัยอ านาจตามความในวรรคสาม ของข้อ 5 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2522)
ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 12
(พ.ศ. 2548) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
จึงออกประกาศไว้ ดังนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศส านักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง ก าหนดหลักฐาน
การขอต่ออายุใบอนุญาตผลิตอาหารที่รัฐมนตรีประกาศก าหนดวิธีการผลิต เครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิต
และการเก็บรักษาอาหาร ลงวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
ข้อ 2 หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอต่ออายุใบอนุญาตผลิตอาหารแทนการตรวจประเมิน
ว่าได้ปฏิบัติตามที่รัฐมนตรีประกาศก าหนดวิธีการผลิต เครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิต และการเก็บรักษาอาหาร
ตามมาตรา 6 (7) ให้ใช้หลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ต่อไปนี้
2.1 หนังสือรับรองมาตรฐานระบบการผลิตอาหารที่ก าหนดไว้ในประกาศ
กระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยวิธีการผลิต เครื่องมือ เครื่องใช้ในการผลิตและการเก็บรักษาอาหาร หรือมาตรฐาน
ระบบการผลิตอาหารอื่นที่มีความเทียบเท่า หรือไม่ต่ ากว่าเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ในบัญชีแนบท้าย
ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับดังกล่าว หรือตามรายชื่อมาตรฐานที่เผยแพร่ไว้ในเว็บไซต์
https:// www.fda.moph.go.th/sites/food/SitePages/gmplicense.aspx ซึ่งยังไม่หมดอายุ
และมีขอบข่ายการรับรองครอบคลุมการผลิตอาหารตามที่ได้รับอนุญาต
หนังสือรับรองมาตรฐานระบบการผลิตอาหารข้างต้น ต้องออกโดยหน่วยงาน
ใดหน่วยงานหนึ่ง ดังนี้
(1) หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบ
(2) หน่วยงานอื่นที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบ
(3) หน่วยรับรอง (Certification Body; CB) ที่ได้รับการรับรองระบบงาน
จากหน่วยรับรองระบบงาน (Accreditation Body; AB) ที่เป็นสมาชิกและได้รับการยอมรับจาก
องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการรับรองระบบงาน
้หนา ๓๐
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๖๑ งราชกิจจานุเบกษา ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
2.2 ผลการตรวจประเมินสถานที่ผลิตอาหารที่ผ่านตามเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ในประกาศ
กระทรวงสาธารณสุขว่าด้วย วิธีการผลิต เครื่องมือ เครื่องใช้ในการผลิตและการเก็บรักษาอาหาร
ซึ่งตรวจประเมินโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 หรือตรวจประเมิน
โดยหน่วยตรวจหรือหน่วยรับรองที่ขึ้นบัญชีกับส านักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่มีผลตรวจมาแล้ว
ไม่เกิน 1 ปี และมีขอบข่ายการตรวจครอบคลุมการผลิตอาหารตามที่ได้รับอนุญาต
ข้อ 3 หลักฐานตามข้อ ๒ หากเป็นส าเนาเอกสาร ให้รับรองส าเนาโดยหน่วยงานที่ออก
เอกสารนั้น ๆ
ข้อ ๔ หลักฐานตามข้อ ๒ ที่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือเอกสารลงนามด้วยลายมือชื่อ
อิเล็กทรอนิกส์ ต้องด าเนินการให้สอดคล้องตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ ๕ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับนับแต่วันถัดจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖5
ไพศาล ดั่นคุ้ม
เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
้หนา ๓๑
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๖๑ งราชกิจจานุเบกษา ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
|
test
| 949
|
1551.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1551.pdf
|
ประกาศกรมที่ดิน
เรื่อง ก าหนดให้ส านักงานที่ดินเป็นส านักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 71 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2550 ประกอบกับมาตรา 32
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 และข้อ 2 (1) (4) ข้อ 19 แห่งกฎกระทรวง
แบ่งส่วนราชการกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2557 ประกอบกับข้อ 8 ระเบียบกรมที่ดิน
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในส านักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ ส านักงานที่ดิน
อิเล็กทรอนิกส์ต่างส านักงานแบบออนไลน์ และส านักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ทั้งระบบ พ.ศ. 2564
จึงประกาศให้ส านักงานที่ดิน ดังต่อไปนี้ เป็นส านักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินประเภทโฉนดที่ดิน
1. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่
2. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาจอมทอง
3. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาเชียงดาว
4. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาดอยสะเก็ด
5. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาฝาง
6. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาพร้าว
7. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาแม่แตง
8. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาแม่ริม
9. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาสันก าแพง
10. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาสันทราย
11. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาสันป่าตอง
12. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาสารภี
13. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาหางดง
14. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาจอมทอง ส่วนแยกฮอด
15. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาจอมทอง ส่วนแยกแม่แจ่ม
16. ส านักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาแม่ริม ส่วนแยกสะเมิง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖6
ชยาวุธ จันทร
อธิบดีกรมที่ดิน
้หนา ๑๘
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๔๒ งราชกิจจานุเบกษา ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๖
|
test
| 950
|
1448.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1448.pdf
|
Àπâ“ 41
√“™°‘®®“πÿ‡∫°…“‡≈à¡ ÒÚÒ µÕπæ‘‡»… Úˆ ß ˘ ¡ ’π“§¡ ÚıÙ˜
ª√–°“»°√¡ªÉ“‰¡â
‡√◊ËÕß °“√„À⺟â√—∫Õπÿ≠“µµ—Èß‚√ßß“π·ª√√Ÿª‰¡âÀ√◊Õ‚√ߧⓉ¡â·ª√√Ÿª
ÕÕ°Àπ—ß ◊Õ°”°—∫‰¡â·ª√√Ÿª (©∫—∫∑’Ë Ú)
¥â«¬°√¡ªÉ“‰¡â‡ÀÁπ ¡§«√·°â‰¢‡æ‘Ë¡‡µ‘¡ª√–°“»°√¡ªÉ“‰¡â ‡√ ◊ËÕß °“√„À ⺟â√—∫
Õπÿ≠“µµ—Èß‚√ßß“π·ª√√Ÿª‰¡âÀ√◊Õ‚√ߧⓉ¡â·ª√√Ÿª ÕÕ°Àπ —ß ◊Õ°”°—∫‰¡â·ª√√Ÿª ≈ß« —π∑’Ë
Ò ¡°√“§¡ æ.». ‹ ÚıÙˆ ‡æ ◊ËÕ§«“¡‡À¡“– ¡·≈–„Àâ Õ¥§≈âÕß°—∫ ∂“π°“√≥å
ªí®®ÿ∫—π
Õ“»—¬Õ”π“®µ“¡§«“¡„π¡“µ√“ Û˘ ∑«‘ ·Ààßæ√–√“™∫—≠≠—µ‘ªÉ“‰¡â æÿ∑∏»—°√“™
ÚÙ¯Ù ·° ≢‡æ‘Ë¡‡µ‘¡‚¥¬æ√–√“™∫ —≠≠—µ‘ªÉ“‰¡â (©∫ —∫∑’Ë Ù) æ.». ÚıÛ
Õ∏‘∫¥’°√¡ªÉ“‰¡â®÷ß„À⬰‡≈‘°§«“¡„π¢âÕ ˆ ¢Õߪ√–°“»°√¡ª É“‰¡â ‡√◊ËÕß °“√„À⺟â√—∫
Õπÿ≠“µµ—Èß‚√ßß“π·ª√√Ÿª‰¡âÀ√◊Õ‚√ߧⓉ¡â·ª√√Ÿª ÕÕ°Àπ —ß ◊Õ°”°—∫‰¡â·ª√√Ÿª ≈ß« —π∑’Ë
Ò ¡°√“§¡ æ.». ÚıÙˆ ·≈–„Àℙ⧫“¡µàÕ‰ªπ’È·∑π
çˆ. °“√°√Õ°¢ âÕ§«“¡„π·∫∫øÕ√ å¡Àπ—ß ◊Õ°”°—∫‰¡â·ª√√Ÿª µ“¡¢ âÕ Ù
„Àâæ—∫µÕπª≈“¬¥â“πÀπâ“·∫∫Àπ—ß ◊Õ°”°—∫‰¡â·ª√√ŸªÕ¬Ÿà¥â“π∫π „À â·∫∫Àπ—ß ◊Õ
°”°—∫‰¡â·ª√√Ÿª∑—Èß Û µÕπµ√ß° —π ·≈ â«„À⇢’¬π§√—È߇¥’¬«‚¥¬„™â°√–¥“…§“√å∫Õπ
Õ¥·∑√°„Àâ¢âÕ§«“¡µ√ß°—π∑—Èß Û µÕπ ·≈ â«°≈—∫¥â“πÀ≈—߇¢’¬π√“¬°“√‰¡â·ª√√Ÿª
‚¥¬ªØ‘∫—µ‘‡™àπ‡¥’¬«°—∫°“√‡¢’¬π√“¬°“√¥â“πÀπâ“
”À√—∫ºŸâ√—∫Õπÿ≠“µ∑’˪√– ß§å®–æ‘¡æå√“¬°“√‰¡â·ª√√Ÿª ·∑π°“√‡¢’¬π°Á„Àâ∑”‰¥â
‚¥¬æ‘¡æå√“¬°“√‰¡â·ª√√Ÿª„Àâ¢âÕ§«“¡µ√ß°—π∑—Èß Û ©∫ —∫ ·≈â«·π∫°—∫Àπ—ß ◊Õ°”°—∫
‰¡â·ª√√Ÿª„Àâ§√∫∑—Èß Û µÕ𠵓¡∑ ’Ë√–∫ÿ‰«â„π¢âÕ Ù ‚¥¬„À â„™â·∫∫√“¬°“√‰¡â·ª√√Ÿª
µ“¡·∫∫·π∫∑⓬ª√–°“»π’Èé
Àπâ“ 42
√“™°‘®®“πÿ‡∫°…“‡≈à¡ ÒÚÒ µÕπæ‘‡»… Úˆ ß ˘ ¡ ’π“§¡ ÚıÙ˜
∑—Èßπ’È „Àâ„™â∫—ß§—∫µ—Èß·µà«—π∂—¥®“°«—πª√–°“»„π√“™°‘®®“πÿ‡∫°…“‡ªìπµâπ‰ª
ª√–°“» ≥ «—π∑’Ë Ò˜ °ÿ¡¿“æ—π∏å æ.». ÚıÙ˜
©—µ√™—¬ √—µ‚π¿“
Õ∏‘∫¥’°√¡ªÉ“‰¡â
|
test
| 951
|
1049.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1049.pdf
|
ค ำสั่งกรมสรรพำกร
ที่ ท.ป. 340/2564
เรื่อง มอบหมำยให้สั่งและด ำเนินกำรเกี่ยวกับกำรพิจำรณำงดเบี้ยปรับภำษีมูลค่ำเพิ่ม
และภำษีธุรกิจเฉพำะ บำงกรณี
เพื่อให้กำรสั่งงดเบี้ยปรับภำษีมูลค่ำเพิ่ม และภำษีธุรกิจเฉพำะบำงกรณี เป็นไปโดยสะดวก
และรวดเร็ว อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ 38 แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดิน
พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดิน (ฉบับที่ 7)
พ.ศ. 2550 มำตรำ 2 แห่งประมวลรัษฎำกร ข้อ 11 และข้อ 13 ของค ำสั่งกรมสรรพำกร
ที่ ท.ป. 81/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์กำรงดหรือลดเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มภำษีเงินได้ ภำษีมูลค่ำเพิ่ม
และภำษีธุรกิจเฉพำะ ตำมมำตรำ 22 มำตรำ 26 มำตรำ 67 ตรี มำตรำ 89 และมำตรำ 91/21 (6)
แห่งประมวลรัษฎำกร ลงวันที่ 9 กรกฎำคม พ.ศ. 2542 อธิบดีกรมสรรพำกรจึงมีค ำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 มอบหมำยให้ผู้อ ำนวยกำรกองบริหำรกำรเสียภำษีทำงอิเล็กทรอนิกส์ สั่งงดเบี้ยปรับ
ภำษีมูลค่ำเพิ่ม และภำษีธุรกิจเฉพำะ ตำมมำตรำ 89 (2) มำตรำ 89 (3) มำตรำ 89 (4)
และมำตรำ 91/21 (6) แห่งประมวลรัษฎำกร ส ำหรับเดือนภำษีสิงหำคม 2564 ถึงเดือนภำษี
พฤศจิกำยน 2564 โดยไม่จ ำกัดจ ำนวนเบี้ยปรับ
กำรงดเบี้ยปรับตำมวรรคหนึ่ง เฉพำะกรณีผู้ประกอบกำรจดทะเบียนที่เสียภำษีมูลค่ำเพิ่ม
ตำมมำตรำ 82/3 มำตรำ 83 และมำตรำ 83/4 แห่งประมวลรัษฎำกร หรือกรณีผู้ประกอบกิจกำร
ที่มีหน้ำที่เสียภำษีธุรกิจเฉพำะ ตำมมำตรำ 91/8 และมำตรำ 91/10 แห่งประมวลรัษฎำกร
ที่ได้ยื่นแบบแสดงรำยกำรและช ำระภำษีด้วยวิธีกำรทำงอิเล็กทรอนิกส์ โดยช ำระภำษีพร้อมทั้งเงินเพิ่ม
ตำมแบบแสดงรำยกำรทั้งจ ำนวนให้ครบถ้วนในแต่ละครำวภำยในก ำหนดเวลำสำมเดือนนับแต่
วันพ้นก ำหนดเวลำกำรยื่นแบบแสดงรำยกำรภำษีหรือก ำหนดเวลำที่รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรคลัง
หรืออธิบดีกรมสรรพำกรขยำยหรือเลื่อนออกไป แล้วแต่กรณี โดยให้ถือว่ำแบบแสดงรำยกำรดังกล่ำว
เป็นค ำร้องของดเบี้ยปรับ
ข้อ 2 ค ำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 24 พฤศจิกำยน พ.ศ. ๒๕๖4
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภำศ
อธิบดีกรมสรรพำกร
้หนา ๘๖
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๔ งราชกิจจานุเบกษา ๑๙ มกราคม ๒๕๖๕
|
test
| 952
|
192.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/192.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
เรื่อง วิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และการออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบ
มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเทคนิคท าสีเครื่องจักร
ระดับ ๑
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๒ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา
ฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๗ คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงก าหนดวิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน
และการออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ
สาขาช่างเทคนิคท าสีเครื่องจักร ระดับ ๑ ไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ วิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเทคนิค
ท าสีเครื่องจักร ระดับ ๑
๑.๑ การทดสอบความรู้ ความเข้าใจ
เป็นการทดสอบความรู้ ความเข้าใจ ที่จ าเป็นจะต้องน าไปใช้ในการปฏิบัติงาน
ได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัยชนิด ๔ ตัวเลือก จ านวน ๕o ข้อ
ใช้เวลาในการทดสอบ 60 นาที คิดเป็นร้อยละยี่สิบของคะแนนทั้งหมด ผู้เข้ารับการทดสอบ
ต้องทดสอบได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบ จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการทดสอบความสามารถ
๑.๒ การทดสอบความสามารถ
เป็นการทดสอบภาคปฏิบัติเกี่ยวกับช่างเทคนิคท าสีเครื่องจักร ใช้เวลาในการ
ทดสอบ ๙๐ นาที คิดเป็นร้อยละแปดสิบของคะแนนทั้งหมด โดยมีทั้งหมด ๔ งาน ดังนี้
(๑) ปฏิบัติตามข้อก าหนดและความปลอดภัยในการท างาน
(๒) ปฏิบัติงานสีตามแบบสั่งผลิต
(๓) ตรวจสอบคุณภาพงานสี
(๔) จัดเก็บและท าความสะอาดอุปกรณ์พ่นสี
ผู้เข้ารับการทดสอบต้องทดสอบภาคความสามารถทั้ง ๔ งาน ในแต่ละงาน
ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบ และต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบทุกงานที่ก าหนดไว้
๑.๓ รายละเอียดวิธีการทดสอบให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศก าหนด
้หนา ๑๑
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๙๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๗ สิงหาคม ๒๕๖๒
ข้อ ๒ การออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเทคนิคท าสีเครื่องจักร ระดับ ๑ จะออกให้แก่ผู้ผ่านการทดสอบ
โดยผู้เข้ารับการทดสอบต้องทดสอบได้คะแนนภาคความรู้ ความเข้าใจ ไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบ
และภาคความสามารถ ไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบ และรวมกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบของคะแนนทั้งหมด
จึงจะถือว่าผ่านการเกณฑ์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ
สาขาช่างเทคนิคท าสีเครื่องจักร ระดับ ๑
ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖2
พันต ารวจตรีหญิง รมยง สุรกิจบรรหาร
รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน
ปลัดกระทรวงแรงงาน
ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
้หนา ๑๒
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๙๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๗ สิงหาคม ๒๕๖๒
|
test
| 953
|
2055.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2055.pdf
|
'#>@0ค>##!@#2NN2#>!@#ล#B%
#?P f/`cde
N#APอ OORN>P!N!>!!@!#@#'#?&'#B'#>2>#$> @ O@%@#QOล?@%# O#%
P "@#!> !?Q#>&&(ล>!R้@@ล?@%O2อ@#>!"์
!@!'#>@0ค>##!@#2NN2#>!@#ล#B% #?P _c/`cdc
อ%B2%$>'#>@0ค>##!@#2NN2#>!@#ล#B% #?P _c/`cdc ล/?%#?P f $?%/@ค! `cdc
N#APอ !@!#@#"#> ?&อB!2@ห##! (Smart and Sustainable Industry)
NAPอQหO!@!#@#'#?&'#B'#>2>#$> @ O@%@#QOล?@%# O#%P "@#!> !?Q#>&&(ล>!R้@
@ล?@%O2อ@#>!"์อ"CNQ%#> ?&#?PNห!@>2!">P@Q% อ@0?"อํ@%@!@!ค/@!Q%!@!#@ _d OหN#>#@&?ญญ?!>
2NN2#>!@#ล#B% .0. `c`^ ค>##!@#2NN2#>!@#ล#B%@ออ'#>@0ํ@ห% #@"@#Nค#APอ?#
Oล>อB'#์#?P2@!@#"%?&N'็%N>%ล#B%NAPอQOQ%@#คํ@%/ @1?N>%R O%>!>&Bคคล#?P>R O#?&"N/O%
?!NอR'%?Q
Oอ _ #@"@#Nค#APอ?#Oล>อB'#์#?P2@!@#"%?&N'็%N>%ล#B% R OON
_._ O(Nลล์O2อ@#>!"์ (PV Module)
_.` Nค#APอO'ล#>O2R้@ (Inverter)
_.a ห!OอO'ลR้@ (Transformer)
_.b #>&&N@"R้@ #>&&ค/&คB! #>&&!> !@!!#/2อ& #>&&ค/@!'ลอ ?"
2"@%?!#//? อ@@0 (Weather station) Oล>#>&&ลO@O(Nลล์O2อ@#>!"์ (Cleaning System)
_.c #>&&?NO&ล?@%R้@ (Battery Energy Storage System : BESS)
Oล>Nค#APอO'ล#>O2R้@ (Inverter) อ#>&& BESS
Oอ ` !CลคN@N>%ล#B%R!N#/!คN@#?P >%Oล>#B%ห!B%N/?"%Q%@#'#?&'#B!@!Oอ _ N!APอ#/!OลO/
>!OอR!NN>% `^ ลO@%&@#!Nอํ@ล?@#(ล>!R้@ _ N!>/?!!์ (MW)
Oอ a '#>@0&?&%?QQหOQO&?ค?&?&คํ@อ#?&@#2NN2#>!#?P"AP%!?QO!N/?%#?Pออ'#>@0N'็%!O%R'
'#>@0 /?%#?P `f !>"B%@"% .0. `cde
>?" Bห/>#
#อ%@"#?ฐ!%!#?
'#>$@%##!@#2NN2#>!@#ล#B%
หนา ๒๑
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๔๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ กันยายน ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 954
|
1318.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1318.pdf
|
ประกาศส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
เรื่อง การปฏิบัติพิธีการศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์ส าหรับการเชื่อมโยงข้อมูลสินค้าเกษตร
ภายใต้มาตรฐานบังคับตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานสินค้าเกษตร
ด้วยส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติได้ร่วมกับกรมศุลกากร ก าหนดรหัส
พิกัดศุลกากรและรหัสสถิติสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับที่ควบคุมการส่งออกหรือน าเข้าผ่านระบบ
การเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว (National Single Window : NSW) ดังนั้น เพื่อให้
มีความถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน ในรายการพิกัดศุลกากรและรหัสสถิติของสินค้าควบคุมและมีผลบังคับ
ตามกฎหมาย เป็นการลดภาระ และอ านวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในการติดต่อหน่วยงานภาครัฐ
หรือในขั้นตอนการผ่านพิธีการศุลกากรด้านการส่งออกหรือน าเข้า
อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๕ ของระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ส าหรับการน าเข้า การส่งออก การน าผ่าน และโลจิสติกส์ พ.ศ. ๒๕๕๗ เลขาธิการ
ส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ ในประกาศนี้
“รหัสพิกัดศุลกากรและรหัสสถิติ” หมายความว่า รหัสพิกัดศุลกากร ซึ่งประกอบด้วย ตอน
ประเภท ประเภทย่อย จ านวน ๘ หลัก และรหัสสถิติ จ านวน ๓ หลัก ของสินค้า
“รายการสินค้า ” หมายความว่า ชื่อหรือค าอธิบายของสินค้า ( Description) ตามพิกัด
ศุลกากรและรหัสสถิติ
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตส่งออกหรือน าเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ
ที่หน่วยงานของรัฐออกให้ เพื่อการส่งออกหรือน าเข้า
“ใบรับรอง” หมายความว่า ใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ ที่ผู้ประกอบการ
ตรวจสอบมาตรฐานออกให้ เพื่อการส่งออกหรือน าเข้า
“หนังสือรับแจ้งการส่งออกหรือน าเข้า” หมายความว่า หนังสือรับแจ้งการส่งออกหรือน าเข้า
สินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ ที่หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ออกให้เพื่อการส่งออกหรือน าเข้า
“ผู้ส่งออก” ให้หมายความรวมถึง เจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้มีส่วนได้เสียในของใด ๆ
นับแต่เวลาที่น าของนั้นเข้ามาในอารักขาของพนักงานศุลกากรจนถึงเวลาที่ได้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร
“ผู้น าเข้า ” ให้หมายความรวมถึง เจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้มีส่วนได้เสียในของใด ๆ
นับแต่เวลาที่น าของนั้นเข้ามาในราชอาณาจักรจนถึงเวลาที่พนักงานศุลกากรได้ส่งมอบให้ไปโดยถูกต้อง
พ้นจากอารักขาของพนักงานศุลกากร
้หนา ๑๕
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๑๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ กันยายน ๒๕๖๕
“การเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
แบบไร้เอกสาร ระหว่างระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานของรัฐ หรือระหว่างระบบข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานของรัฐกับเอกชน ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการการส่งออกหรือการน าเข้า
โดยผ่านระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว (National Single Window : NSW)
“สินค้าควบคุม (Permission Goods)” หมายความว่า สินค้าเกษตรภายใต้มาตรฐานบังคับ
ที่ต้องได้รับใบอนุญาต ใบรับรอง และหนังสือรับแจ้งการส่งออกหรือน าเข้า ที่รวบรวมและจัดเก็ บ
เป็นข้อมูลพิกัดศุลกากรและรหัสสถิติซึ่งหน่วยงานของรัฐได้มีการตกลงกับกรมศุลกากรเพื่อใช้ในการ
ควบคุมเกี่ยวกับกระบวนการส่งออกหรือน าเข้า
“หน่วยงานของรัฐ ” หมายความว่า ส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่ส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติมอบหมายที่มีอ านาจหน้าที่
ในการออกใบอนุญาต ใบรับรอง หนังสือรับแจ้งการส่งออกหรือน าเข้า หรือเอกสารอื่นใดในรูปแบบ
อิเล็กทรอนิกส์ ส าหรับการส่งออกหรือน าเข้า
ข้อ ๓ ฐานข้อมูลรายการสินค้าควบคุมให้ เป็นไปตามที่กรมศุลกากรจัดท าและเผยแพร่
ทางเว็บไซต์ (www.customs.go.th) หรือช่องทางอื่นตามสมควร
ข้อ ๔ สินค้าที่จะต้องมีใบอนุญาต ใบรับรอง และหนังสือรับแจ้งการส่งออกหรือน าเข้า
เพื่อเชื่อมโยงผ่านระบบ NSW ไปยังระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ให้เป็นไปตามที่ ระบุไว้
ในฐานข้อมูลรายการสินค้าควบคุมที่กรมศุลกากรเผยแพร่ไว้ตามข้อ ๓ เฉพาะส่วนที่อยู่ในการก ากับดูแล
ของส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
ข้อ ๕ ให้ผู้ส่งออกหรือผู้น าเข้าตรวจสอบรายการสินค้าควบคุมซึ่งก าหนดไว้ในฐานข้อมูล
รายการสินค้าควบคุมของกรมศุลกากร และด าเนินการขอใบอนุญาต ใบรับรอง และหนังสือรับแจ้ง
การส่งออกหรือน าเข้าตามที่กรมศุลกากรเผยแพร่ไว้ตามข้อ ๓ เพื่อใช้ประกอบในการผ่านพิธีการศุลกากร
ทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร
ข้อ ๖ กรณีที่หน่วยงานของรัฐให้ผู้ส่งออกหรือผู้น าเข้าแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับก ารส่งออกหรือ
น าเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับผ่านระบบ NSW ก่อนการส่งข้อมูลใบขนสินค้า ให้บันทึก
รายการที่ปรากฏในเอกสารก ากับสินค้า (Invoice) ทุกรายการ ให้ถูกต้องและครบถ้วน ผู้ส่งออกหรือ
ผู้น าเข้าจะได้เลขที่ใบรับแจ้งการส่งออกหรือน าเข้า ส าหรับใช้บันทึกข้ อมูลในส่วนใบอนุญาต
(Import/Export Declaration Detail (Permit)) ในช่องเลขที่ใบอนุญาตหรือใบรับรอง ( Permit
Number) ของใบขนสินค้า ในการจัดส่งข้อมูลใบขนสินค้าเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร
ข้อ ๗ หากระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานของรัฐขัดข้องไม่สามารถ ส่งข้อมูลใบอนุญาต
ใบรับรอง และหนังสือรับแจ้งการส่งออกหรือน าเข้า ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ หน่วยงานจะก าหนด
เงื่อนไขการผ่านพิธีการศุลกากรแบบกระดาษเป็นการเฉพาะคราว
้หนา ๑๖
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๑๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ กันยายน ๒๕๖๕
ข้อ ๘ ในกรณีพิกัดศุลกากรและรหัสสถิติที่อยู่ในข่ายการควบคุมแต่ได้รับการยกเว้น
ไม่ต้องมีใบอนุญาต ใบรับรอง และหนังสือรับแจ้งการส่งออกหรือน าเข้า การส่งข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า
เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ให้ผู้ส่งออกหรือผู้น าเข้าบันทึกข้อมูลในส่วนใบอนุญาต ดังนี้
(๑) EXEMPT3 ไม่ต้องมีใบอนุญาต ใบรับรอง และหนังสือรับแจ้งการส่งออกหรือน าเข้า
เนื่องจากมีกฎหมายอื่นควบคุมและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่ควบคุมแล้ว
(๒) EXEMPT99 ไม่ต้องมีใบอนุญาต ใบรับรอง และหนังสือรับแจ้งการส่งออกหรือน าเข้า
เนื่องจากกรณีอื่น ๆ
ข้อ ๙ หากหน่วยงานของรัฐก าหนดให้ผู้ส่งออกหรือผู้น าเข้า ต้องด าเนินการตามขั้นตอน
หรือวิธีการอื่นใด เพื่อให้การควบคุมสินค้าภายใต้รายการในฐานข้อมูลรายการสินค้าควบคุม มีความถูกต้อง
ครบถ้วน ชัดเจน และมีผลบังคับตามกฎหมาย ผู้ส่งออกหรือผู้น าเข้า จะต้องด าเนินการตามขั้นตอน
หรือวิธีการดังกล่าวด้วย
ประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖5
พิศาล พงศาพิชณ์
เลขาธิการส านักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
้หนา ๑๗
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๑๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ กันยายน ๒๕๖๕
|
test
| 955
|
2473.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2473.pdf
|
'1>@0ค>11/@1$B111/#@อ>NลO#1อ%>2์
N1APอ /@!1@1NพAPอ'้อ?%อ@@11/#@N#คP%Pล0?
2ํ@ห1?&(COQหO&1>@12APอ2?ค/ออ%Rล%์
P 0#?PN'็%@12/ค/1ํ@ห% /@!1@1NพAPอ'้อ?%อ@@11/#@N#คP%Pล0?NพAPอQหO(COQหO&1>@1
2APอ2?ค/ออ%Rล% ์!@/ห/@0/ N@ O/0/@!1@1' ้อ?%Oล>'1@&'1@/อ@@11/#@N#คP%Pล0 ?
R O'>&?!>!@//@!1@1 ?ลN@/ อ?%N'็%@1'้อ?%อ@@11/#@N#คP%Pล0?#?PN> @Q%
อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ b/_ /11คห%@P OหNพ1>1@ํ@ห% /@!1@1'้อ?%Oล>
'1@&'1@/อ@@11/#@N#คP%Pล0 ? พ.0. `cdd @POORNพ>P/N!>/P 0พ1>1@ํ@ห% /@!1@1
'้อ?%Oล>'1@&'1@/อ@@11/#@N#คP%Pล0? (&?&#?P `) พ.0. `cdf '1>อ&?&/@!1@ ae (g)
OหNพ1>1@&??!>/N@ O/0$B111/#@อ>NลO#1อ%>2์ พ.0. `cbb @POORNพ>P/N!>/P 0พ1>1@&??!>
/N@ O/0$B111/#@อ>NลO#1อ%>2์ (&?&#?P a) พ.0. `cd` ค>11/@1$B111/#@อ>NลO#1อ%>2์
@ออ'1>@0R/O ?!NอR'%?Q
Oอ _ '1>@0%?QN1?0/N@ '1>@0ค>11/@1$B111/#@อ>NลO#1อ%>2์ N1APอ /@!1@1
NพAPอ'้อ?%อ@@11/#@N#คP%Pล0?2ํ@ห1?&(COQหO&1>@12APอ2?ค/ออ%Rล%์
Oอ ` '1>@0%?QQหOQO&?ค?&!?QO!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R'
Oอ a Q%1?#?P(COQหO&1>@12APอ2?ค/ออ%Rล% ์R O1?&OO@อ' ้อ?%Oล>'1@&'1@/
@11>#ํ@ค/@/(> #@N#คP%Pล0?2@12%N#0 2ํ@%?@%'ล? 1>#1/ >>#?ลNพAPอN011>Oล>2?ค/
/N@/?Oอ/Cล'ลอ/ห1AอOอ/CลN#O#?Pอ@%ํ@R'2CN@11>#ํ@ค/@/(> อ@@11/#@N#คP%Pล0? QหO(COQหO&1>@1
2APอ2?ค/ออ%Rล%์/?ห%O@#?P1>?&@1N(0Oพ1NOอ/Cล ?ลN@/P 0#?%#? O!N#?Q%?Q!OอR/NN>%1>0>N/ล@0?P2>&2?P?P/P/
%?&O!NN/ล@#?PR O1?&OO Oล>QหOOO(ล@1 ํ@N%>%@1 ?ลN@/!Nออ'้อ?%Oล>'1@&'1@/@11>#ํ@ค/@/(>
#@N#คP%Pล0?2@12%N#0 2ํ@%?@%'ล? 1>#1/ >>#?ลNพAPอN011>Oล>2?ค/P 0N1O/
'1>@0 /?%#?P `^ />"B%@0% พ.0. `cdf
/>ล@/11 /?คล>$%>Bล
'1>$@%11/@1$B111/#@อ>NลO#1อ%>2์
หนา ๔๒
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๓๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๘
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 956
|
484.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/484.pdf
|
ประกาศกรมการขนส่งทางบก
เรื่อง เอกสารการขนส่งที่ต้องจัดให้มีไว้ประจ ารถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตราย (ฉบับที่ ๕)
พ.ศ. ๒๕๖๓
ตามที่ได้มีประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง เอกสารการขนส่งที่ต้องจัดให้มีไว้ประจ ารถ
ที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๕๙ ลงวันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ ๒) ลงวันที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และ (ฉบับที่ ๓) ลงวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒
และ (ฉบับที่ ๔) ลงวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ไว้แล้ว นั้น
โดยที่ประกาศดังกล่าวก าหนดให้ผู้ขับรถขนส่งวัตถุอันตรายต้องมีหนังสือรับรองผ่านการอบรม
หลักสูตรการขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะมีผลใช้บังคับ
ในวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ แต่เนื่องจากปัจจุบันได้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 ( COVID-19) และนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อก าหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชก าหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑) ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม
พ.ศ. ๒๕๖๓ ก าหนดมาตรการ ในด้านต่าง ๆ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังนั้น เพื่อให้การด าเนินการของกรมการขนส่งทางบกสอดคล้องกับ
มาตรการตามพระราชก าหนดดังกล่าว สมควรผ่อนระยะเวลาการบังคับใช้หนังสือรับรองผ่านการอบรม
หลักสูตรการขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายออกไปอีกระยะหนึ่ง อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๓ (๓)
ของกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน พ.ศ. ๒๕๕๘ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
จึงให้ยกเลิกความในข้อ ๑๑ (๓) ของประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง เอกสารการขนส่งที่ต้องจัดให้มีไว้
ประจ ารถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๕๙ ลงวันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง เอกสารการขนส่งที่ต้องจัดให้มีไว้ประจ ารถที่ใช้ในการ
ขนส่งวัตถุอันตราย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลงวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
“(๓) การจัดให้มีหนังสือรับรองผ่านการอบรมหลักสูตรการขับรถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตราย
ตามข้อ ๘ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป”
ประกาศ ณ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. ๒๕63
จิรุตม์ วิศาลจิตร
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
้หนา ๙
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๔๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๓
|
test
| 957
|
2399.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2399.pdf
|
'#>@0#!0B%@#
N#APอ ํ@ห% #@ค@0B%@#2ํ@ห#?&2>%คO@R!ON'็%N์'#>N!>%N>%อ@#@ออ
อ@0?"อํ@%@!@!ค/@!Q%!@!#@ g OหN#>#@ํ@ห% >? อ?!#@0B%@# .0. `ca^
OORN>P!N!>!P "#>#@& ?ญญ?!>OORN>P!N!>!#>#@ ํ@ห% >? อ?!#@0B%@# .0. `ca^
(&?&#?P b) .0. `cba อ$>& ?#!0B%@#NหO%ค/#ํ@ห% #@ค@0B%@#2ํ@ห#?&2>%คO@R!O ?!NอR'%?Q
O%>QหO"Aอ#@ค@#?P'#>@0%?Q N'็%N์'#>N!>%N>%อ@#@ออ !?QO!N/?%#?P _ $1 @ค! .0. `cdf
N'็%!O%R'
R!O2?
_) R!OB
1. "@/ f B!@Q%R' %C&@0์N!!#%> ``,aed.00 &@#
2. "@/ d B! "@!Pํ@/N@ f B! %C&@0์N!!#%> g,`e^.^^ &@#
3. "@/!Pํ@/N@ d B! %C&@0์N!!#%> 16,230.00 &@#
#@ค@!@! _, ` O%> a O@!O%!>QหOQO?&R!O2?2/%'N@#?PN'็%R!OB#?P#ํ@ออ@2/%'N@
#?Qอ#?O%>Nอ% P "!?ห%?2Aอ#?&#อ@#!'N@R!O ห#Aอ(CO#?P#!'N@R!O!อ&ห!@" O%>R!ON2APอ!คB @
!@!#?Pค>#?!%!#?QหO2NออR ON'็%#?>N01 O%>#>##/@ >"์อ%Bญ@!P "!?ห%?2Aอ#?&#อ
คB @@#!'N@R!O @P#!0B%@#>'#>N!>%#@ค@O!N%>#@"R'
`) R!ONห%?P"!
_. %@ /O@ _^ %>Q/2?PNห%?P"!@Q%R' %C&@0์N!!#%> 32,580.00 &@#
"@/ _^ B!@Q%R'
`. %@ /O@ _^ %>Q/2?PNห%?P"!@Q%R' %C&@0์N!!#%> 31,250.00 &@#
"@/ d B! "@!Pํ@/N@ _^ B!
a. %@ /O@ d %>Q/2?PNห%?P"! %C&@0์N!!#%> 25,080.00 &@#
"@!Pํ@/N@ _^ %>Q/2?PNห%?P"! "@/ d B!@Q%R'
b. %@ /O@ d %>Q/2?PNห%?P"!@Q%R' %C&@0์N!!#%> 22,250.00 &@#
"@/ a B! "@!Pํ@/N@ d B!
a) R!O!?&
_. "@/ d B!@Q%R' %C&@0์N!!#%> 55,830.00 &@#
`. "@/ a B! "@!Pํ@/N@ d B! %C&@0์N!!#%> 47,250.00 &@#
หนา ๑๓
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๑๘๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ เมษายน ๒๕๖๘
b) R!O#> @%
_. "@/ d B!@Q%R' %C&@0์N!!#%> 54,750.00 &@#
`. "@/ a B! "@!Pํ@/N@ d B! %C&@0์N!!#%> 44,130.00 &@#
c) R!O @ O@N#Aอ
_. "@/ _c B!@Q%R' %C&@0์N!!#%> 71,550.00 &@#
`. "@/ _^ B! "@!Pํ@/N@ _c B! %C&@0์N!!#%> 63,150.00 &@#
d) R!O&@/?N%?"#์
_. %@ /O@!?QO!N b %>Q/@Q%R' %C&@0์N!!#%> 349,750.00 &@#
`. %@ /O@!Pํ@/N@ b %>Q/ %C&@0์N!!#%> 72,850.00 &@#
#@ค@!@! _ O%> ` !>QหOQO?&N01R!O&@/?N%?"#์#?P%@ /O@!Pํ@/N@!@!#@%
P "!?ห%?2Aอ#?&#อคB @@#!'N@R!O @P#!0B%@#>'#>N!>%#@ค@O!N%>#@"R'
e) R!OO'##C'อ"N@อAP%
_. "@/ d B!@Q%R' %C&@0์N!!#%> 40, _e^.00 &@#
`. "@/ a B! "@!Pํ@/N@ d B! %C&@0์N!!#%> 33,240.00 &@#
f) ห?/R!OO'##C'%> !N@ N
_. "@/ _ _/` B! "@!Pํ@/N@ a B! %C&@0์N!!#%> 32,550.00 &@#
`. "@/ d %>Q/ "@!Pํ@/N@ _ _/` B! %C&@0์N!!#%> 31,200.00 &@#
a. "@/!Pํ@/N@ d %>Q/ %C&@0์N!!#%> 13,900.00 &@#
R!O%> อAP% N
_) R!OB
_. R!O!>N%Aอ, R!O>"Cห#Aอ"B %C&@0์N!!#%> 17,430.00 &@#
`. R!O>?% %C&@0์N!!#%> 20,630.00 &@#
a. R!O'#> CN, R!O!>คN@P!, R!OO , %C&@0์N!!#%> 1 f,dc_.00 &@#
R!O!>Nค?"%#อ, R!ON!O, R!OB ,
R!O#?, R!Oห%B!อ
b. R!O>?QN@ค/@"ห#AอNO ํ@, R!O2@$#, %C&@0์N!!#%> 12,200.00 &@#
R!O#O@, R!O?QNห%O'N@, R!ON%O
c. R!O!>O&, R!OB!O#, R!O?%, %C&@0์N!!#%> 11,560.00 &@#
R!O!@N2Aอ, R!O"!หอ!, R!O"!ห>%, R!Oํ@'@,
R!OOอP, R!O%อห#AอNค?P"!ค%อ,
R!O!>คN@O!O, R!O!?%%, R!O!>Nค?"%อAP% N,
R!ON!O , R!O!>ค#Oอ, R!OO %Qํ@, R!O?"$1์
หนา ๑๔
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๑๘๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ เมษายน ๒๕๖๘
d. R!O"@, R!ON/O@ห#AอN/O@, %C&@0์N!!#%> __,a`e.00 &@#
R!O"/%ห#Aอ#อ&@Q, R!O2"@, R!O>#Oอ%,
R!OO@%Nห%Aอ, R!O!?!@%,
R!O>&@, R!ORNN?"/, R!O%/, R!ONห?",
R!ON2?" Nอ, R!O#BN#?"%%
e. R!O2!ห#Aอ>, R!O2อ2%@, R!O'อ, %C&@0์N!!#%> `,bc^.00 &@#
R!O%BN%, R!O>Q/, R!O@!B#?, R!O"@@#@
`) R!O&@/?N%?"#์
_. R!O>?% %C&@0์N!!#%> 442,250.00 &@#
`. R!O'#> CN, R!O2>N @ ห#Aอ"!หอ!, %C&@0์N!!#%> 200,750.00 &@#
R!O"B
a. R!O!อ>, R!Oํ@'@'N@, R!OB!O#, %C&@0์N!!#%> 64,300.00 &@#
R!O!>#B!'N@
b. R!O#?, R!O!>Q% ํ@ห#AอPคOห%!, %C&@0์N!!#%> 45,550.00 &@#
R!O>&@, R!O2"@, R!O"@,
R!O!>Nค?"%##@"
#@ค@!@! _, `, a O%> b !>QหOQO?&R!O&@/?N%?"#์ํ@#B R!NR O!@!#@% P "!?ห%?2Aอ
#?&#อคB @ @#!'N@R!O @P#!0B%@#>'#>N!>%#@ค@O!N%>#@"R'
a) R!OO'##C'
_. R!O!>N%Aอ, R!O>"Cห#Aอ"B %C&@0์N!!#%> 140,376.00 &@#
`. R!O>?% %C&@0์N!!#%> 47,730.00 &@#
a. R!O'#> CN, R!O!>คN@P!, R!OO , %C&@0์N!!#%> gc,d_a.00 &@#
R!O!>Nค?"%#อ, R!ON!O, R!OB ,
R!O#?, R!Oห%B!อ
b. R!O>?QN@ค/@"ห#AอNO ํ@, R!O2@$#, %C&@0์N!!#%> 125,809.00 &@#
R!O#O@, R!O?QNห%O'N@, R!ON%O
c. R!O!>O&, R!OB!O#, R!O?%, %C&@0์N!!#%> a8,405.00 &@#
R!O!@N2Aอ, R!O"!หอ!, R!O"!ห>%, R!Oํ@'@,
R!OOอP, R!O%อห#AอNค?P"!ค%อ,
R!O!>คN@O!O, R!O!?%%, R!O!>Nค?"%อAP% N,
R!ON!O , R!O!>ค#Oอ, R!OO %Qํ@, R!O?"$1์
หนา ๑๕
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๑๘๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ เมษายน ๒๕๖๘
d. R!O"@, R!ON/O@ห#AอN/O@, %C&@0์N!!#%> 21, ged.00 &@#
R!O"/%ห#Aอ#อ&@Q, R!O2"@, R!O>#Oอ%,
R!OO@%Nห%Aอ, R!O!?!@%, R!O>&@,
R!ORNN?"/, R!O%/, R!ONห?",
R!ON2?" Nอ, R!O#BN#?"%%
e. R!O2!ห#Aอ>, R!O2อ2%@, R!O'อ, %C&@0์N!!#%> 1 a,eeb.00 &@#
R!O%BN%, R!O>Q/, R!O@!B#?, R!O"@@#@
f. R!Oห!อ%#"R#B%> %อ@R!O2? %C&@0์N!!#%> 13,400.00 &@#
O%>R!O#?P#>&BR/OO@!O%
g. 'BN!R!O!>คN@P! %C&@0์N!!#%> 46,750.00 &@#
_^. "Cค@%>'!?2 %C&@0์N!!#%> 11,301.00 &@#
'#>@0 /?%#?P 25 N!1@"% .0. `cd8
ส>!1?0@ />ช@#1>ส> >N
$?้อO@!/0ก@1กอง/@1@!พ> ?ก@1แล>1@ค@0>ลก@ก1 #>"?>1@ชก@1แ!
อ >"?ก1/0>ลก@ก1
หนา ๑๖
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๑๘๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ เมษายน ๒๕๖๘
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 958
|
916.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/916.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา
เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประกาศการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนา
ระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. 2560
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๐ (9) และมาตรา 15 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริม
และพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. 2560 คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา
เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประกาศการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา
พ.ศ. ๒๕๖๐”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“ส านักงาน” หมายความว่า ส านักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือส านักงานเกษตร
และสหกรณ์จังหวัด แล้วแต่กรณี
“เจ้าหน้าที่ ” หมายความว่า เจ้าหน้าที่ของส านักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หรือส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด แล้วแต่กรณี
“พระราชบัญญัติ” หมายความว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา
พ.ศ. ๒๕๖๐
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา
ข้อ 4 ในกรณีที่บุคคลใดฝ่าฝืนพระราชบัญญัติตามมาตรา ๑๖ มาตรา ๑๘ มาตรา ๒๐
มาตรา ๒๑ วรรคสอง มาตรา 25 หรือมาตรา ๓๖ (๑) หรือ (๒) และผลของคดีถึงที่สุดแล้ว
ให้คณะกรรมการมีอ านาจออกประกาศการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ โดยระบุรายละเอียดของการฝ่าฝืน
พระราชบัญญัติดังกล่าว รวมทั้งระบุชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ประชาชนทราบได้
ข้อ 5 การพิจารณาด าเนินการออกประกาศตามข้อ 4 ให้ด าเนินการเมื่อส านักงานพบข้อเท็จจริง
หรือมีผู้ยื่นค าร้องขอ โดยค าร้องขออาจท าเป็นหนังสือหรือแจ้งด้วยวาจาก็ได้
ในกรณีที่มีค าร้องขอเป็นหนังสือ ต้องมีลายมือชื่อผู้ร้องในค าร้องขอ และในกรณีที่มีค าร้อง
ขอด้วยวาจา ให้เจ้าหน้าที่จัดให้มีการบันทึกถ้อยค าของผู้ร้องเกี่ยวกับประเด็นค าร้องขอ แล้วให้ผู้ร้อง
ลงลายมือชื่อรับรองว่าเป็นความจริง และให้ส านักงานปกปิดข้อมูลของผู้ร้องเป็นความลับ
ข้อ 6 ให้ส านักงานที่ได้รับค าร้องขอ หรือพบข้อเท็จจริงตามข้อ 4 จัดท ารายงานการตรวจสอบ
พร้อมแนบหลักฐานที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืน ในกรณีที่ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นหน่วยงาน
ที่รับค าร้องขอ ให้เสนอไปยังส านักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่
ได้รับค าร้องขอ เพื่อน าเสนอคณะกรรมการพิจารณาด าเนินการต่อไป
้หนา ๒๘
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๘๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ เมษายน ๒๕๖๒
ข้อ ๗ ให้คณะกรรมการพิจารณาออกประกาศการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติตามข้อ ๔ และให้
ส านักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด าเนินการจัดท าร่างประกาศตามมติคณะกรรมการ แล้วให้
น าเสนอประธานกรรมการลงนามออกประกาศ ให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการมีมติ
ข้อ ๘ ประกาศการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติต้องมีรายละเอียดอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
(1) ชื่อผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตร หรือเกษตรกร ที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ
(2) ชื่อกรรมการผู้จัดการของผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตร และชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรง
กับการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติที่ปรากฏในค าพิพากษา
(3) รายละเอียดของการฝ่าฝืนตามค าพิพากษา และข้อกฎหมายที่เป็นฐานอ านาจในการออก
ประกาศ รวมทั้งมติของคณะกรรมการ
ให้ประกาศตามวรรคหนึ่ง มีอายุ ๑ ปี นับแต่วันที่ออกประกาศ
ข้อ ๙ เมื่อคณะกรรมการออกประกาศการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแล้ว ให้ส านักงาน
ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์น าประกาศขึ้นเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของส านักงานปลัดกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ และเว็บไซต์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือช่องทางอื่นเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม
รวมทั้งส่งส าเนาประกาศแจ้งให้คู่กรณีทราบโดยเร็ว
ประกาศ ณ วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖2
กฤษฎา บุญราช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ประธานกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา
้หนา ๒๙
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๘๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ เมษายน ๒๕๖๒
|
test
| 959
|
1492.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1492.pdf
|
ประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เรื่อง ยกเลิกประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับการก าหนดกรณีที่มีเหตุสมควร
และอัตราค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ
พ.ศ. ๒๕๖๖
ด้วยข้อบังคับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุข
กรณีที่มีเหตุสมควร กรณีอุบัติเหตุ หรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยข้อบังคับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุข กรณีที่มี
เหตุสมควร กรณีอุบัติเหตุ หรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้ก าหนดกรณีที่มี
เหตุสมควรที่บุคคลผู้มีสิทธิเข้ารับบริการจากสถานบริการอื่นนอกจากหน่วยบริการประจ าของตน หรือหน่วย
บริการปฐมภูมิในเ ครือข่าย หน่วยบริการที่เกี่ยวข้อง โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕
ดังนั้น เพื่อไม่ให้การก าหนดสิทธิในการเข้ารับบริการกรณีที่มีเหตุสมควรมีความซ้ าซ้อนกันจึงสมควร
ยกเลิกประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับการก าหนดกรณีที่มีเหตุสมคว รและอัตรา
ค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓๖ (๒) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๔๕ เลขาธิการส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ยกเลิก
ประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับการก าหนดกรณีที่มีเหตุสมควรและอัตรา
ค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ พ.ศ. ๒๕๖๖”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิก
(๑) ประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ก าหนดกรณีที่มีเหตุสมควร
และอัตราค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ พ.ศ. ๒๕๖๓ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓
(๒) ประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ก าหนดกรณีที่มีเหตุสมควร
และอัตราค่าใช้ จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓ ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๖๓
(๓) ประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ก าหนดกรณีที่มีเหตุสมควร
และอัตราค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๔ ลงวันที่ ๒๙ เมษายน
พ.ศ. ๒๕๖๔
(๔) ประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ก าหนดกรณีที่มีเหตุสมควร
และอัตราค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๔ ลงวันที่ ๕ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๕๖๔
้หนา ๑๕
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๘๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ เมษายน ๒๕๖๖
(๕) ประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ก าหนดกรณีที่มีเหตุสมควร
และอัตราค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๔ ลงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๕๖๔
(๖) ประกาศส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ก าหนดกรณีที่มีเหตุสมควร
และอัตราค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๔ ลงวันที่ ๒๙ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๖๔
ประกาศ ณ วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. ๒๕66
จเด็จ ธรรมธัชอารี
เลขาธิการส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
้หนา ๑๖
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๘๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ เมษายน ๒๕๖๖
|
test
| 960
|
278.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/278.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
เรื่อง มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างควบคุมคุณภาพการผลิตด้านมิติ
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๒ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา
ฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา 39 (3) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
พ.ศ. 2545 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2557 คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมื อแรงงาน จึงก าหนดมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างควบคุมคุณภาพการผลิตด้านมิติ โดยความเห็นชอบ ของ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างควบคุมคุณภาพการผลิตด้านมิติ
หมายถึง ช่างที่มีความรู้ ความสามารถในการเลือก ใช้งาน บ ารุงรักษา การทวนสอบ และมีความรู้
ในการประยุกต์ใช้ในการวัดขนาดตามเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนทางเรขาคณิต (Geometric Dimensioning
and Tolerancing : GD&T) ของเครื่องมือวัด ๕ ชนิด ได้แก่ เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์
ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ และไดอัลอินดิเคเตอร์ รวมถึงมีความรู้พื้นฐานด้านมาตรวิทยา
ข้อ ๒ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างควบคุม
คุณภาพการผลิตด้านมิติ แบ่งออกเป็น ๓ ระดับ
๒.๑ ระดับ ๑ หมายถึง ช่างที่มี ความรู้และความสามารถในการเลือก ใช้งาน
บ ารุงรักษา เครื่องมือวัด ๕ ชนิด ได้แก่ เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์
และไดอัลอินดิเคเตอร์ รวมถึงมีความรู้พื้นฐานด้านมาตรวิทยา
๒.๒ ระดับ ๒ หมายถึง ช่างที่มีความรู้และความสา มารถในการเลือก ใช้งาน
บ ารุงรักษา การทวนสอบ เครื่องมือวัด ๕ ชนิด ได้แก่ เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ
ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ และไดอัลอินดิเคเตอร์ รวมถึงมีความรู้ด้านมาตรวิทยา
๒.๓ ระดับ ๓ หมายถึง ช่างที่มีความรู้และความสามารถในการเลือกใช้ งาน
บ ารุงรักษา การทวนสอบ และมีความรู้ในการประยุกต์ใช้ในการวัดขนาดตามเกณฑ์ความคลาดเคลื่อน
ทางเรขาคณิต ( Geometric Dimensioning and Tolerancing : GD&T) เครื่องมือวัด ๕ ชนิด
ได้แก่ เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ แ ละไดอัลอินดิเคเตอร์
รวมถึงมีความรู้ด้านมาตรวิทยา
ข้อ ๓ ข้อก าหนดทางวิชาการที่ใช้เป็นเกณฑ์วัด ความรู้ ความสามารถและทัศนคติ
ในการท างานของผู้ประกอบอาชีพในสาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างควบคุมคุณภาพการผลิตด้านมิติ
ให้เป็น ดังนี้
๓.๑ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ ๑ ได้แก่
้หนา ๑
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
๓.๑.๑ ความรู้ ความเข้าใจ ประกอบด้วย ขอบเขตความรู้ ความเข้าใจ
ในเรื่องดังต่อไปนี้
๓.๑.๑.๑ การเตรียมความพร้อมก่อนการปฏิบัติงาน
(๑) สถานที่ปฏิบัติงาน
(ก) ความปลอดภัยในการท างาน
(ข) เครื่องมือ อุปกรณ์และสถานที่
(ค) สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการท างาน
(๒) แบบชิ้นงานและข้อก าหนดตามแบบทดสอบ
(ก) สัญลักษณ์ และข้อก าหนดตามแบบทดสอบ
(ข) ชิ้นงานทดสอบ
(๓) เครื่องมือวัดและเครื่องมือมาตรฐาน ที่ใช้ในการ
ปฏิบัติงาน 5 ชนิด ได้แก่ เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ และ
ไดอัลอินดิเคเตอร์
(ก) โครงสร้างของเครื่องมือวัด
(ข) หลักการใช้งานของเครื่องมือวัด
(ค) ส่วนประกอบของเครื่องมือวัด
๓.๑.๑.๒ การวัดชิ้นงานอย่างถูกวิธี
(๑) การบ ารุงรักษาเครื่องมือวัดก่อนการใช้งาน
(ก) การเคลื่อนย้าย
(ข) การประกอบ
(ค) การท าความสะอาด
(๒) หลักการวัดชิ้นงานอย่างถูกวิธี
(ก) การวัดขนาดโดยใช้เครื่องมือวัดตามค าสั่ง
การทดสอบ
(ข) การบันทึกผลการวัดตามแบบบันทึกผล
๓.๑.๑.๓ การบ ารุงรักษาหลังการใช้งาน
(๑) เครื่องมือวัดและเครื่องมือมาตรฐาน ได้แก่
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ และไดอัลอินดิเคเตอร์
(ก) การท าความสะอาด
(ข) การเก็บรักษา
(๒) ชิ้นงานและอุปกรณ์
(ก) การท าความสะอาด
้หนา ๒
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
(ข) การเก็บรักษา
๓.๑.๒ ความสามารถ ประกอบด้วย ขอบเขตความสามารถในการปฏิบัติงาน
เลือกใช้งาน และบ ารุงรักษาเครื่องมือวัด ๕ ชนิด ได้แก่ เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ
ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ และไดอัลอินดิเคเตอร์ ในเรื่องดังต่อไปนี้
๓.๑.๒.๑ เตรียมความพร้อมก่อนการปฏิบัติงาน
(๑) สถานที่ปฏิบัติงาน
(ก) ตรวจสอบและใช้งานอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย
ในการท างาน
(ข) ตรวจสอบเครื่องมือ อุปกรณ์และสถานที่
(ค) บันทึกข้อมูลสภาพแวดล้อมในการท างาน
(๒) แบบชิ้นงานและข้อก าหนดตามแบบทดสอบ
(ก) ท าความเข้าใจ และบันทึกข้อมูลที่จ าเป็น
ตามแบบทดสอบ
(ข) ตรวจสอบชิ้นงานทดสอบ
(๓) ตรวจสอบเครื่องมือวัดและเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้
ในการปฏิบัติงาน
(ก) เวอร์เนียคาลิปเปอร์
(ข) ไมโครมิเตอร์
(ค) ไฮเกจ
(ง) ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์
(จ) ไดอัลอินดิเคเตอร์
๓.๑.๒.๒ วัดชิ้นงานตามแบบทดสอบ
(๑) ท าความสะอาดเครื่องมือวัดก่อนการใช้งาน
(๒) วัดขนาดชิ้นงาน โดยใช้เวอร์เนียคาลิปเปอร์
ไมโครมิเตอร์ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ ไดอัลอินดิเคเตอร์ และบันทึกผลการวัด
๓.๑.๒.๓ บ ารุงรักษาหลังการใช้งาน โดยการท าความสะอาดและ
เก็บรักษา
(๑) เครื่องมือวัด
(๒) เครื่องมือมาตรฐาน
(๓) ชิ้นงานและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน
๓.๑.๓ ทัศนคติ ประกอบด้วย การปฏิบัติงานที่ตรงต่อเวลา การรักษาวินัย
ในการท างาน ความปลอดภัยในการท างาน ความซื่อสัตย์ ความละเอียดรอบคอบ และความประหยัด
้หนา ๓
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
๓.๒ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ ๒ ได้แก่
๓.๒.๑ ความรู้ ความเข้าใจ ประกอบด้วย ขอบเขตความรู้ ความเข้าใจ
ในเรื่องดังต่อไปนี้
๓.๒.๑.๑ การเตรียมความพร้อมก่อนการปฏิบัติงาน
(๑) สถานที่ปฏิบัติงาน
(ก) ความปลอดภัยในการท างาน
(ข) เครื่องมือ อุปกรณ์และสถานที่
(ค) สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการท างาน
(๒) แบบชิ้นงานและข้อก าหนดตามแบบทดสอบ
(ก) สัญลักษณ์ และข้อก าหนดตามแบบทดสอบ
(ข) ชิ้นงานทดสอบ
(๓) เครื่องมือวัดและเครื่องมือมาตรฐาน ที่ใช้ในการ
ปฏิบัติงาน
(ก) เวอร์เนียคาลิปเปอร์
(ข) ไมโครมิเตอร์
(ค) ไฮเกจ
(ง) ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์
(จ) ไดอัลอินดิเคเตอร์
๓.๒.๑.๒ การทวนสอบเครื่องมือวัดจากชิ้นงานมาตรฐาน หรือ
เครื่องมือมาตรฐาน
(๑) การก าหนดเกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือวัดที่จะ
ทวนสอบ
(ก) เกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือวัด
(ข) การเลือกเครื่องมือให้เหมาะสม
(๒) การทวนสอบเครื่องมือวัดจากชิ้นงานมาตรฐาน หรือ
เครื่องมือมาตรฐาน
(ก) หลักการการทวนสอบเครื่องมือวัด
(ข) การวิเคราะห์ผลการทวนสอบ
๓.๒.๑.๓ การวัดชิ้นงาน
(๑) การบ ารุงรักษาเครื่องมือวัดก่อนการใช้งาน
(ก) การเคลื่อนย้าย
(ข) การประกอบ
้หนา ๔
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
(ค) การท าความสะอาด
(๒) หลักการวัดชิ้นงานอย่างถูกวิธี
(ก) การวัดขนาดโดยใช้เครื่องมือวัดตามค าสั่ง
การทดสอบ
(ข) การบันทึกผลการวัดตามแบบบันทึกผล
๓.๒.๑.๔ การบ ารุงรักษาหลังการใช้งาน
(๑) เครื่องมือวัดและเครื่องมือมาตรฐาน ได้แก่
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ และไดอัลอินดิเคเตอร์
(ก) การท าความสะอาด
(ข) การเก็บรักษา
(๒) ชิ้นงานและอุปกรณ์
(ก) การท าความสะอาด
(ข) การเก็บรักษา
๓.๒.๒ ความสามารถ ประกอบด้วย ขอบเขตความสามารถในการปฏิบัติงาน
เลือกใช้งาน ทวนสอบและบ ารุงรักษาเครื่องมือวัด ๕ ชนิด ได้แก่ เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์
ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ และไดอัลอินดิเคเตอร์ ในเรื่องดังต่อไปนี้
๓.๒.๒.๑ เตรียมความพร้อมก่อนการปฏิบัติงาน
(๑) ตรวจสอบความพร้อมด้านสถานที่ เครื่องมือและ
อุปกรณ์ทั่วไป
(๒) เลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับการวัดชิ้นงาน
ตามเกณฑ์พิกัดความเผื่อของแบบงาน
(๓) ตรวจสอบความพร้อมเครื่องมือวัดและเครื่องมือ
มาตรฐาน
๓.๒.๒.๒ ทวนสอบเครื่องมือวัดจากชิ้นงานมาตรฐานหรือจาก
เครื่องมือมาตรฐาน
(๑) ก าหนดเกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือวัดที่จะทวนสอบ
(๒) ทวนสอบเครื่องมือวัด ๕ ชนิด ได้แก่ เวอร์เนียคาลิปเปอร์
ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ ไดอัลอินดิเคเตอร์
(๓) วิเคราะห์ผลการทวนสอบ
๓.๒.๒.๓ วัดชิ้นงาน
(๑) ท าความสะอาดเครื่องมือวัดก่อนการใช้งาน
้หนา ๕
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
(๒) วัดขนาดชิ้นงาน โดยใช้ เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์
ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ ไดอัลอินดิเคเตอร์ และบันทึกผลการวัด
๓.๒.๒.๔ บ ารุงรักษาหลังการใช้งาน เช่น ท าความสะอาดและ
เก็บรักษา
(๑) เครื่องมือวัด
(๒) เครื่องมือมาตรฐาน
(๓) ชิ้นงานและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน
๓.๒.๓ ทัศนคติ ประกอบด้วย การปฏิบัติงานที่ตรงต่อเวลา การรักษาวินัย
ในการท างาน ความปลอดภัยในการท างาน ความซื่อสัตย์ ความละเอียดรอบคอบ และความประหยัด
๓.๓ มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ ๓ ได้แก่
๓.๓.๑ ความรู้ ความเข้าใจ ประกอบด้วย ขอบเขตความรู้ ความเข้าใจ
ในเรื่องดังต่อไปนี้
๓.๓.๑.๑ การเตรียมความพร้อมก่อนการปฏิบัติงาน
(๑) สถานที่ปฏิบัติงาน
(ก) ความปลอดภัยในการท างาน
(ข) เครื่องมือ อุปกรณ์และสถานที่
(ค) สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการท างาน
(๒) แบบชิ้นงานและข้อก าหนดตามแบบทดสอบ
(ก) สัญลักษณ์ตามมาตรฐาน GD&T และข้อก าหนด
ตามแบบทดสอบ
(ข) ชิ้นงานทดสอบ
(๓) เครื่องมือวัดและเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้ในการ
ปฏิบัติงาน
(ก) เวอร์เนียคาลิปเปอร์
(ข) ไมโครมิเตอร์
(ค) ไฮเกจ
(ง) ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์
(จ) ไดอัลอินดิเคเตอร์
๓.๓.๑.๒ การทวนสอบเครื่องมือวัดจากชิ้นงานมาตรฐานหรือ
เครื่องมือมาตรฐาน
(๑) การก าหนดเกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือวัด
ที่จะทวนสอบ
้หนา ๖
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
(ก) เกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือวัด
(ข) การเลือกเครื่องมือให้เหมาะสม
(๒) การทวนสอบเครื่องมือวัด จากชิ้นงานมาตรฐาน
(ก) หลักการการทวนสอบเครื่องมือวัด
(ข) การวิเคราะห์ผลการทวนสอบ
๓.๓.๑.๓ การวัดชิ้นงานตามหลักเกณฑ์ GD&T
(1) เลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับลักษณะการวัด
ตามหลักเกณฑ์ GD&T
(ก) เกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือวัด
(ข) การเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสม
(๒) การวัดชิ้นงาน รูปทรงทางเรขาคณิต ตามหลักเกณฑ์
GD&T และการบันทึกผล
(ก) หลักการการวัดชิ้นงาน
(ข) การประยุกต์ใช้เครื่องมือวัดชิ้นงานตามหลักเกณฑ์
GD&T
๓.๓.๑.๔ การบ ารุงรักษาหลังการใช้งาน เช่น ท าความสะอาดและ
เก็บรักษา
(๑) เครื่องมือวัดและเครื่องมือมาตรฐาน ได้แก่
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ และไดอัลอินดิเคเตอร์
(ก) การท าความสะอาด
(ข) การเก็บรักษา
(๒) ชิ้นงานและอุปกรณ์
(ก) การท าความสะอาด
(ข) การเก็บรักษา
๓.๓.๒ ความสามารถ ประกอบด้วย ขอบเขตความสามารถในการปฏิบัติงาน
เลือกใช้งานทวนสอบและบ ารุงรักษาเครื่องมือวัด ๕ ชนิด ได้แก่ เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์
ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ และไดอัลอินดิเคเตอร์ ในเรื่องดังต่อไปนี้
๓.๓.๒.๑ เตรียมความพร้อมก่อนการปฏิบัติงาน
(๑) ตรวจสอบความพร้อมด้านสถานที่ เครื่องมือและ
อุปกรณ์ทั่วไป
(๒) เลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับการวัดชิ้นงาน
ตามเกณฑ์พิกัดความเผื่อของแบบงาน
้หนา ๗
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
(๓) ตรวจสอบความพร้อมเครื่องมือวัดและเครื่องมือ
มาตรฐาน
๓.๓.๒.๒ ทวนสอบเครื่องมือวัดจากชิ้นงานมาตรฐานหรือจากเครื่องมือ
มาตรฐาน
(๑) ก าหนดเกณฑ์การยอมรับของเครื่องมือวัดที่จะทวนสอบ
(๒) ทวนสอบเครื่องมือวัด ๕ ชนิด เวอร์เนียคาลิปเปอร์
ไมโครมิเตอร์ ไฮเกจ ไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ ไดอัลอินดิเคเตอร์
(๓) วิเคราะห์ผลการทวนสอบ
๓.๓.๒.๓ วัดชิ้นงานตามหลักเกณฑ์ GD&T
(๑) ท าความสะอาดเครื่องมือวัดก่อนการใช้งาน
(๒) เลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับลักษณะการวัด
ตามหลักเกณฑ์ GD&T
(๓) วัดชิ้นงาน ได้แก่ ความกลม ต าแหน่ง ความตรง
ความขนาน ความตั้งฉาก ความราบ ตามหลักเกณฑ์ GD&T และบันทึกผล
๓.๓.๒.๔ บ ารุงรักษาหลังการใช้งาน เช่น ท าความสะอาดและ
เก็บรักษา
(๑) เครื่องมือวัด
(๒) เครื่องมือมาตรฐาน
(๓) ชิ้นงานและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน
๓.๓.๓ ทัศนคติ ประกอบด้วย การปฏิบัติงานที่ตรงต่อเวลา การรักษาวินัย
ในการท างาน ความปลอดภัยในการท างาน ความซื่อสัตย์ ความละเอียดรอบคอบ และความประหยัด
ประกาศ ณ วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖2
สุทธิ สุโกศล
ปลัดกระทรวงแรงงาน
ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
้หนา ๘
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
|
test
| 961
|
1357.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1357.pdf
|
ประกาศกรมการจัดหางาน
เรื่อง ก าหนดแบบและเอกสารหรือหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบในการยื่นค าขอและการแจ้ง
ตามกฎกระทรวงการขออนุญาตท างาน การออกใบอนุญาตท างาน และการแจ้งการท างานของคนต่างด้าว
พ.ศ. ๒๕๖๓ (ฉบับที่ ๒)
ตามที่ได้ออกประกาศกรมการจัดหางาน เรื่อง ก าหนดแบบและเอกสารหรือหลักฐานที่ต้องใช้
ประกอบในการยื่นค าขอและการแจ้ง ตามกฎกระทรวงการขออนุญาตท างาน การออกใบอนุญาตท างาน
และการแจ้งการท างานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๓ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เนื่องจาก
คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕ เห็นชอบตามที่ส านักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของ
การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) เสนอเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการถ่ายท า
ภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยของส านักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) และ
กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเป็นการฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ของประเทศไทยให้สามารถกลับมาขยายตัวได้อย่างต่ อเนื่องภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มผ่อนคลายลง นั้น
อาศัยอ านาจตามความในข้อ ๔ วรรคสอง ข้อ ๙ ข้อ ๑๒ ข้อ ๑๔ วรรคสอง ข้อ ๑๕
วรรคสาม ข้อ ๑๖ วรรคสาม ข้อ ๑๘ วรรคหนึ่งและวรรคสาม และข้อ ๒๐ ของกฎกระทรวง
การขออนุญาตท างาน การออกใบอนุญาตท างาน และการแจ้งการท างานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๓
อธิบดีกรมการจัดหางานจึงให้ยกเลิกความใน (๑) ของข้อ ๒ ของประกาศกรมการจัดหางาน เรื่อง
ก าหนดแบบและเอกสารหรือหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบในการยื่นค าขอและการแจ้ง ตามกฎกระทรวง
การขออนุญาตท างาน การออกใบอนุญาตท างาน และการแจ้งการท างานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๓
ลงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๑) ค าขออนุญาตท างานและต่ออายุใบอนุญาตท างานของคนต่างด้าวตามมาตรา ๕๙
ให้เป็นไปตามแบบ บต. ๒๕
ให้คนต่างด้าวที่ได้ รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วย
คนเข้าเมือง เพื่อท างานเกี่ยวกับการถ่ายท าภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักรซึ่งได้รับอนุญาตจาก
คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ตามกฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์และวีดิทัศน์ โดยกรมการท่องเที่ยว
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีหนังสือแจ้งการอนุญาตดังกล่าวต่อกรมการจัดหางาน ได้รับยกเว้น
ไม่ต้องยื่นใบรับรองของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรมที่รับรองว่า
้หนา ๓๖
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๕๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๕
คนต่างด้าวไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบและไม่เป็นโรคตามที่ก าห นดไว้ใน
กฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา ๖๔/๑ ที่ระบุไว้ในข้อ ๔.๖ ของแบบตามวรรคหนึ่ง”
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕65
ไพโรจน์ โชติกเสถียร
อธิบดีกรมการจัดหางาน
้หนา ๓๗
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๕๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๕
|
test
| 962
|
222.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/222.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
เรื่อง มาตรฐานขั้นต่่าของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ๔)
โดยที่ เป็นการสมควรปรับปรุงมาตรฐานขั้นต่่าของสภาพการจ้างส่าหรับลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ
เกี่ยวกับอัตราเงินค่าชดเชย และอัตราเงินเพื่อตอบแทนความชอบในการท่างานเนื่องจากพ้นจากต่าแหน่ง
เพราะเหตุเกษียณอายุ
อาศัยอ่านาจตามความในมาตรา ๑๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพั นธ์
พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความใน (๕) ของข้อ ๕๙ แห่งประกาศคณะกรรมการแรงงาน
รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่่าของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(๕) ลูกจ้างซึ่งท่างานติดต่อกันครบสิบปี แต่ไม่ครบยี่สิบปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง
อัตราสุดท้ายสามร้อยวัน หรือไม่น้อยกว่าค่ าจ้างของการท่างานสามร้อยวันสุดท้าย ส่าหรับลูกจ้าง
ซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยค่านวณเป็นหน่วย”
ข้อ ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๖) ของข้อ ๕๙ แห่งประกาศคณะกรรมการแรงงาน
รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่่าของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๕๔๙
“(๖) ลูกจ้างซึ่งท่างานติดต่อกันครบยี่สิบปีขึ้นไป ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย
สี่ร้อยวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการท่างานสี่ร้อยวันสุดท้าย ส่าหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้าง
ตามผลงานโดยค่านวณเป็นหน่วย”
ข้อ ๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๓) ของข้อ ๖๑ แห่งประกาศคณะกรรมการแรงงาน
รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่่าของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๕๔๙
“(๓) ลูกจ้างผู้ได้ปฏิบัติงานในช่วงก่อนเกษียณอายุติดต่อกันครบยี่สิบปีขึ้นไป ให้ไ ด้รับเงิน
เพื่อตอบแทนความชอบในการท่างานเป็นจ่านวนเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้ายสี่ร้อยวัน”
้หนา ๑๑
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๔๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ กันยายน ๒๕๖๒
ข้อ ๕ สิทธิการได้รับเงินเพื่อตอบแทนความชอบในการท่างานตามอัตราที่ก่าหนด
ในข้อ ๖๑ (๓) แห่งประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่่า
ของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศนี้
ให้มีผลใช้บังคับแก่ลูกจ้างที่ต้องพ้นจากต่าแหน่งเพราะเหตุเกษียณอายุตามข้อบังคับ ข้อก่าหนด ระเบียบ
หรือค่าสั่งของนายจ้าง ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ เป็นต้นไปด้วย
ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖2
หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ประธานกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
้หนา ๑๒
่เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๔๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ กันยายน ๒๕๖๒
|
test
| 963
|
1160.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1160.pdf
|
ประกาศส านักทะเบียนกลาง
เรื่อง ประเภทงานทะเบียนราษฎรที่ให้บริการด้วยระบบดิจิทัล
โดยที่กฎกระทรวงก าหนดการปฏิบัติงานการทะเบียนราษฎรด้วยระบบดิจิทัล พ.ศ. 2565
ก าหนดให้มีการปฏิบัติงานและการให้บริการทะเบียนราษฎรด้วยระบบดิจิทัล เพื่อให้การบริการ
ประชาชนเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
อาศัยอ านาจตามความในข้อ 5 ของกฎกระทรวงก าหนดการปฏิบัติงานการทะเบียนราษฎร
ด้วยระบบดิจิทัล พ.ศ. 2565 ผู้อ านวยการทะเบียนกลางออกประกาศก าหนดประเภทงานทะเบียนราษฎร
ที่ให้บริการด้วยระบบดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล
จากส านักทะเบียนสามารถขอรับบริการผ่านระบบดิจิทัลได้ด้วยตนเอง ไว้ดังนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศส านักทะเบียนกลาง เรื่อง ประเภทงานทะเบียนราษฎร
ที่ให้บริการด้วยระบบดิจิทัล”
ข้อ 2 ประเภทงานทะเบียนราษฎรที่ให้บริการด้วยระบบดิจิทัลตามประกาศนี้ ได้แก่
(1) การแจ้งการย้ายที่อยู่ในส านักทะเบียนเดียวกัน และการแจ้งการย้ายที่อยู่ปลายทาง
(2) การมอบหมายหรือมอบอ านาจให้แจ้งหรือยื่นค าร้องเพื่อด าเนินการตามพระราชบัญญัติ
การทะเบียนราษฎร หรือระเบียบส านักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดท าทะเบียนราษฎร
(3) การคัด หรือคัดและรับรองรายการทะเบียนบ้าน ทะเบียนประวัติ และทะเบียนคนเกิด
เฉพาะกรณีรายการที่ผู้ขอเป็นเจ้าของข้อมูล
ข้อ ๓ ประเภทงานทะเบียนราษฎร ตามข้อ ๒ (๑) และ (๒) ก าหนดให้บริการเมื่อ
กฎกระทรวงก าหนดการปฏิบัติงานการทะเบียนราษฎรด้วยระบบดิจิทัล พ.ศ. 2565 มีผลใช้บังคับ
ส่วนประเภทงานทะเบียนราษฎร ตามข้อ ๒ (๓) ก าหนดให้บริการเมื่อพ้นก าหนดเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
นับแต่กฎกระทรวงก าหนดการปฏิบัติงานการทะเบียนราษฎรด้วยระบบดิจิทัล พ.ศ. 2565 มีผลใช้บังคับ
ข้อ 4 ให้ส านักทะเบียนอ าเภอและส านักทะเบียนท้องถิ่นถือปฏิบัติในการให้บริการ
งานทะเบียนราษฎรด้วยระบบดิจิทัลตามข้อ 2 ให้เป็นไปตามกฎกระทรวงก าหนดการปฏิบัติงาน
การทะเบียนราษฎรด้วยระบบดิจิทัล พ.ศ. 2565 โดยเคร่งครัด
ประกาศ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖5
ธนาคม จงจิระ
ผู้อ านวยการทะเบียนกลาง
้หนา ๓๙
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๘๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ เมษายน ๒๕๖๕
|
test
| 964
|
572.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/572.pdf
|
ประกาศการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ที่ 95/๒๕๖๓
เรื่อง การจัดเก็บและช าระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ในนิคมอุตสาหกรรม
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดให้มีหลักเกณฑ์การจัดเก็บและช าระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ในนิคมอุตสาหกรรมเป็นไปตามกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งก าหนดให้บุคคลธรรมดา
หรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือเป็นผู้ครอบครองหรือท าประโยชน์ในที่ดิ น
หรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๒๒ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ 95/๒๕๖๓
เรื่อง การจัดเก็บและช าระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ในนิคมอุตสาหกรรม”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ออกประกาศเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“กนอ.” หมายความว่า การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
“นิคมอุตสาหกรรม” หมายความว่า นิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ. จัดตั้งเอง หรือนิคมอุตสาหกรรม
ที่ผู้ร่วมด าเนินงานเข้าร่วมด าเนินงานจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม โดย กนอ. เป็นผู้ให้บริการระบบ
สาธารณูปโภค
“ผู้ประกอบกิจการ” หมายความว่า ผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรม
“ผู้เช่า” หมายความว่า ผู้เช่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในนิคมอุตสาหกรรม
“ที่ดิน” หมายความว่า พื้นดินอันเป็นทรัพย์สินของ กนอ. หรือที่ กนอ. เช่าจากหน่วยงานของรัฐ
และให้หมายความรวมถึงพื้นที่ที่เป็นภูเขาหรือที่มีน้ าด้วย
“สิ่งปลูกสร้าง ” หมายความว่า โรงเรือน อาคาร ตึก หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นบนที่ดิน
ที่บุคคลอาจเข้าอยู่อาศัยหรือใช้สอยได้ หรือที่ใช้เป็นที่เก็บสินค้าหรือประกอบการอุตสาหกรรม
หรือพาณิชยกรรม และให้หมายความรวมถึงห้องชุดหรือแพที่บุคคลอาจใช้อยู่อาศัยได้หรือที่มีไว้
เพื่อหาผลประโยชน์ด้วย
ข้อ ๔ การจัดเก็บภาษีที่ ดินในนิคมอุตสาหกรรม เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แจ้งการประเมินภาษีมายัง กนอ. แล้ว กนอ. จะด าเนินการจัดเก็บจากผู้ประกอบกิจการหรือผู้เช่าตามสัดส่วน
การใช้พื้นที่และระยะเวลาตามสัญญาภายในก าหนดระยะเวลาที่ กนอ. ต้องช าระให้แก่องค์กรปกครอง
้หนา ๒๕
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๖๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
ส่วนท้องถิ่น โดย กนอ. จะมีหนังสือแจ้งผู้ประกอบกิจการหรือผู้เช่าทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวัน
ก่อนครบก าหนดระยะเวลาที่ กนอ. ต้องช าระให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ข้อ ๕ การจัดเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้างในนิคมอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบกิจการหรือผู้เช่า
เป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง บนที่ดินที่เช่ากับ กนอ. เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งการประเมินภาษี
ไปยังผู้ประกอบกิจการหรือผู้เช่าโดยตรง ให้ผู้ประกอบกิจการหรือผู้เช่าดังกล่าวช าระภาษีต่อองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นที่แจ้งการประเมินภาษีนั้น
หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งการประเมินภาษี ที่ผู้ประกอบกิจการหรือผู้เช่าซึ่งเป็น
เจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินนั้นมายัง กนอ. กนอ. จะแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ประกอบกิจการ
หรือผู้เช่าและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าวทราบโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการหรือผู้เช่านั้น
ประสานหรือด าเนินการช าระภาษีโดยตรงกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป
ข้อ ๖ การจัดเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้างในนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ. เป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง
และให้เช่า เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งการประเมินภาษีมายัง กนอ. แล้ว กนอ. จะด าเนินการ
จัดเก็บจากผู้เช่าสิ่งปลูกสร้ างนั้นตามสัดส่วนการใช้พื้นที่และระยะเวลาตามสัญญาภายในก าหนด
ระยะเวลาที่ กนอ. ต้องช าระให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดย กนอ. จะมีหนังสือแจ้งผู้เช่า
ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวันก่อนครบก าหนดระยะเวลาที่ กนอ. ต้องช าระให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น
ข้อ ๗ กรณีผู้ประกอบกิจการหรือผู้เช่าที่ดินไม่ช าระค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามระยะเวลา
ที่ก าหนด ผู้ประกอบกิจการหรือผู้เช่าที่ดินจะต้องช าระดอกเบี้ยผิดนัด รวมถึง กนอ. มีสิทธิบังคับจาก
หลักประกันสัญญาตามเงื่อนไขที่ก าหนดในสัญญาระหว่าง กนอ. กับผู้ประกอบกิจการหรือผู้เช่าต่อไป
ข้อ ๘ เฉพาะกรณีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี ๒๕๖๓ ให้ผู้ประกอบกิจการ
หรือผู้เช่าด าเนินการช าระภาษีให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาตามที่ กนอ. ก าหนด โดยจะแจ้งให้
ผู้ประกอบการหรือผู้เช่าทราบต่อไป
ประกาศ ณ วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓
สมจิณณ์ พิลึก
ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
้หนา ๒๖
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๖๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
|
test
| 965
|
412.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/412.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
เรื่อง วิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
และการออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคติดตั้งเครื่องจักรกล
ระดับ 3
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๒๒ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนา
ฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗
คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ก าหนดวิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
และการออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล
สาขาช่างเทคนิคติดตั้งเครื่องจักรกล ระดับ ๓ ไว้ดังนี้
ข้อ ๑ วิธีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิค
ติดตั้งเครื่องจักรกล ระดับ ๓ ให้เป็นดังต่อไปนี้
๑.๑ การทดสอบความรู้
เป็นการทดสอบความรู้ ที่จ าเป็นจะต้องน าไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง
ตามหลักวิชาการ ลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัยชนิด ๔ ตัวเลือก จ านวน ๕o ข้อ ใช้เวลาในการ
ทดสอบ 1 ชั่วโมง คิดเป็นร้อยละสามสิบของคะแนนทั้งหมด โดยผู้เข้ารับการทดสอบต้องได้คะแนน
ไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบของคะแนนภาคความรู้ จึงมีสิทธิเข้ารับการทดสอบภาคความสามารถ
๑.๒ การทดสอบความสามารถ
เป็นการทดสอบภาคปฏิบัติเกี่ยวกับความสามารถในการประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์
ระบบขับเคลื่อน ได้แก่ เครื่องจักรหลักเกียร์ กระบอกเพลา สามารถปรับหาศูนย์และติดตั้ง
อุปกรณ์ระบบขับเคลื่ อนที่ต้องการความแม่นย าสูง ได้แก่ ใบจักร เพลา และแบริ่ง ได้อย่างถูกต้อง
แม่นย า ด้วยการใช้เครื่องมือวัดที่มีความละเอียดมาก และสามารถสอนงานในการปฏิบัติงานและ
วิเคราะห์ให้ค าปรึกษาการติดตั้งแก่ช่างเทคนิคที่ระดับต่ ากว่าได้ ใช้เวลาในการทดสอบ ๒ ชั่วโมง
(๑๒๐ นาที) คิดเป็นร้อยละเจ็ดสิบของคะแนนทั้งหมด โดยเป็นการทดสอบ มีดังนี้
(๑) การประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ระบบขับเคลื่อน ระดับ ๓
(๒) การหาศูนย์เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ระบบขับเคลื่อน ระดับ ๓
(๓) การติดตั้งอุปกรณ์ระบบขับเคลื่อน ระดับ ๓
๑.๓ รายละเอียดวิธีการทดสอบให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการก าหนด
้หนา ๓๐
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๘๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ เมษายน ๒๕๖๓
ข้อ ๒ การออกหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคติดตั้งเครื่องจักรกล ระดับ ๓ จะออกให้แก่ผู้ผ่านการทดสอบ
โดยมีเกณฑ์ ดังนี้
๒.๑ ผู้เข้ารับการทดสอบต้องได้คะแนนภาคความรู้และภาคความสามารถรวมกัน
ไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบเจ็ดของคะแนนทั้งหมด โดยต้องได้คะแนนภาคความรู้ไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบ
และได้คะแนนภาคความสามารถไม่น้อยกว่าร้อยละแปดสิบ จึงถือว่าผ่านการทดสอบมาตรฐาน
ฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างเทคนิคติดตั้งเครื่องจักรกล ระดับ 3
๒.๒ กรณีผู้เข้ารับการทดสอบได้คะแนนรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบเจ็ด
ของคะแนนทั้งหมด แต่ไม่ผ่านเกณฑ์การทดสอบความสามารถงานใดงานหนึ่ง ให้สามารถเข้ารับ
การทดสอบภาคความสามารถเฉพาะงานได้ใหม่ภายใน ๖ เดือน นับแต่วันที่ประกาศผลการทดสอบ
๒.๓ กรณีผู้เข้ารับการทดสอบได้คะแนนภาคความรู้น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบ
แต่ได้คะแนนภาคความสามารถผ่านเกณฑ์การทดสอบที่ก าหนดไว้ ให้สามารถเข้ารับการทดสอบ
ภาคความรู้ได้ใหม่ภายใน ๖ เดือน นับแต่วันที่ประกาศผลการทดสอบ
ประกาศ ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖2
สุทธิ สุโกศล
ปลัดกระทรวงแรงงาน
ประธานกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
้หนา ๓๑
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๘๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ เมษายน ๒๕๖๓
|
test
| 966
|
1552.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1552.pdf
|
ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดท าค าสั่งของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
พ.ศ. ๒๕๖๖
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๑๖ (๔) ประกอบมาตรา ๗๔ วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงออกประกาศไว้
ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง หลักเกณฑ์
และวิธีการในการจัดท าค าสั่งของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. ๒๕๖๖”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในการจัดท าค าสั่งตามมาตรา ๗๔ วรรคหนึ่ง ว รรคสอง หรือวรรคสาม (๑)
หรือ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ นอกจากที่ก าหนดไว้ในประกาศ
หรือระเบียบตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้น ากฎหมายว่าด้วย
วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๔ ค าสั่งของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามข้อ ๓ ต้องมีรายละเอียดอย่างน้อยประกอบด้วย
(๑) ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระส าคัญ
(๒) ข้อกฎหมายที่อ้างอิง
(๓) ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ
ทั้งนี้ ค าสั่งของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ให้ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ลงนามแทน
ข้อ ๕ การแจ้งค าสั่งของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามประกาศนี้ ให้ท าเป็นหนังสือหรือ
โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้
ข้อ ๖ ให้ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้
ประกาศ ณ วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖6
เธียรชัย ณ นคร
ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
้หนา ๒๐
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑๔๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๖
|
test
| 967
|
1152.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1152.pdf
|
กฎกระทรวง
ก ำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้พลำสติก
ส ำหรับอำหำรต้องเป็นไปตำมมำตรฐำน
พ.ศ. ๒๕๖๕
อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ วรรคหนึ่ง แห่งพระรำชบัญญัติมำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติมำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๒ และมำตรำ ๕๘ วรรคหนึ่ง แห่งพระรำชบัญญัติ
มำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบั ญญัติมำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๕๘ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรม
ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก ำหนดสองร้อยเจ็ดสิบวันนับแต่วันประกำศ
ในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
ข้อ ๒ ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้พลำสติกส ำหรับอำหำรต้องเป็นไป
ตำมมำตรฐำนใดมำตรฐำนหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(๑) มำตรฐำนเลขที่ มอก. 655 เล่ม 1 - 2553 ตำมประกำศกระทรวงอุตสำหกรรม
ฉบับที่ ๔๒๒๕ (พ.ศ. 255๓) ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกร รม
พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง ยกเลิกมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้พลำสติกส ำหรับอำหำร
และก ำหนดมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้พลำสติกส ำหรับอำหำร เล่ม 1
พอลิเอทิลีน พอลิพรอพิลีน พอลิสไตรีน พอลิเอทิลีนเทเรฟแทเลต พอลิไวนิลแอลกอฮอล์ และ
พอลิเมทิลเพนทีน ลงวันที่ 20 สิงหำคม พ.ศ. ๒๕5๓
(๒) มำตรฐำนเลขที่ มอก. 655 เล่ม 2 - 2554 ตำมประกำศกระทรวงอุตสำหกรรม
ฉบับที่ ๔๓๖๖ (พ.ศ. ๒๕๕๔) ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม
พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง ก ำหนดมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้พลำสติกส ำหรับ
อำหำร เล่ม 2 พอลิไวนิลคลอไรด์ พอลิคำร์บอเนต พอลิแอไมด์ และพอลิเมทิลเมทำคริเลต ลงวันที่
7 กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕5๔
้หนา ๑๒
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๒๑ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ เมษายน ๒๕๖๕
(๓) มำตรฐำนเลขที่ มอก. 655 เล่ม 3 - 2554 ตำมประกำศกระทรวงอุตสำหกรรม
ฉบับที่ ๔๓๖๗ (พ.ศ. ๒๕๕๔) ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม
พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง ก ำหนดมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้พลำสติก
ส ำหรับอำหำร เล่ม 3 อะคริโลไนไทรล์ - บิวทะไดอีน - สไตรีน และสไตรีน - อะคริโลไนไทรล์ ลงวันที่
7 กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕5๔
ให้ไว้ ณ วันที่ 22 มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖5
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรม
้หนา ๑๓
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๒๑ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ เมษายน ๒๕๖๕
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจำกผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะ
และเครื่องใช้พลำสติกส ำหรับอำหำรที่วำงจ ำหน่ำยในท้องตลำดมีปริมำณสำรตกค้ำงที่เป็นอันตรำยต่อผู้บริโภค
จึงจ ำเป็นต้องควบคุมผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมดังกล่ำว เพื่อควำมปลอดภัยและป้องกันควำมเสียหำยอันอำจจะ
เกิดแก่ประชำชน กิจกำรอุตสำหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศ ในกำรนี้ ได้มีประกำศกระทรวงอุตสำหกรรม
ฉบับที่ ๔๒๒๕ (พ.ศ. 255 ๓) ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม
พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง ยกเลิกมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้พลำสติกส ำหรับอำหำร
และก ำหนดมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้พลำสติกส ำหรับอำหำร เล่ม 1 พอลิเอทิลีน
พอลิพรอพิลีน พอลิสไตรีน พอลิเอทิลีนเทเรฟแทเลต พอลิไวนิลแอลกอฮอล์ และพอลิเมทิลเพนทีน ลงวันที่
20 สิงหำคม พ.ศ. ๒๕5๓ ประกำศกระทรวงอุตสำหกรรม ฉบับที่ ๔๓๖๖ (พ.ศ. ๒๕๕๔) ออกตำมควำม
ในพระรำชบัญญัติมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง ก ำหนดมำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้พลำสติกส ำหรับอำหำร เล่ม 2 พอลิไวนิลคลอไรด์
พอลิคำร์บอเนต พอลิแอไมด์ และพอลิเมทิลเมทำคริเลต ลงวันที่ 7 กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕5๔ และประกำศ
กระทรวงอุตสำหกรรม ฉบับที่ ๔๓๖๗ (พ.ศ. ๒๕๕๔) ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติมำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง ก ำหนดมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้
พลำสติกส ำหรับอำหำร เล่ม 3 อะคริโลไนไทรล์ - บิวทะไดอีน - สไตรีน และสไตรีน - อะคริโลไนไทรล์
ลงวันที่ 7 กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕5๔ และได้มีกำรด ำเนินกำรจัดให้มีกำรรับฟังควำมคิดเห็นของตัวแทน
ของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องครบถ้วนตำมควำมในมำตรำ ๑๘ แห่งพระรำชบัญญัติ
มำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติมำตรฐำนผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม
(ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๒ แล้ว สมควรก ำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรมภำชนะและเครื่องใช้พลำสติก
ส ำหรับอำหำรต้องเป็นไปตำมมำตรฐำน จึงจ ำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
้หนา ๑๔
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๒๑ ก ราชกิจจานุเบกษา ๘ เมษายน ๒๕๖๕
|
test
| 968
|
1449.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1449.pdf
|
ระเบียบกรมทรัพยากรธรณี
ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่ง
พ.ศ. ๒๕๖๕
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงแก้ไขระเบียบกรมทรัพยากรธรณีว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือ
ในการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่ง พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อให้การปฏิบัติราชการเกี่ยวกับ
การให้บริการทางวิชาการในการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่งมีความชัดเจนยิ่งขึ้น
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕
และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๑ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมทรัพยากรธรณีว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือในการ
ตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่ง พ.ศ. ๒๕๖๕”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิก “ระเบียบกรมทรัพยากรธรณีว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบ
ทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่ง พ.ศ. ๒๕๕๕”
บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ค าสั่ง หรือแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการให้บริการทางวิชาการ
ในการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่งอื่นใดที่ก าหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้ง
กับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ 4 ในระเบียบนี้ “การตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่ง ” หมายถึง
การตรวจสอบ สภาพที่ดินทางวิชาการด้านธรณีวิทยาเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับการเกิดของพื้นที่
ที่ตรวจสอบนั้น ว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือเกิดจากการกระท าของมนุษย์
หมวด ๑
หลักเกณฑ์การขอและการให้ความช่วยเหลือ
ข้อ ๕ ผู้ขอรับความช่วยเหลือต้องเป็นกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
(๑) ตามค าสั่งศาลหรือการขอความช่วยเหลือจากศาล
(๒) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง
ข้อ ๖ หลักเกณฑ์การพิจารณาให้ความช่วยเหลือในกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
(๑) ในเรื่องที่เกี่ยวกับสาธารณประโยชน์ สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน หรือทรัพย์สินของแผ่นดิน
(๒) ในเรื่องที่ได้รับการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรง
้หนา ๑
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๓๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
ข้อ ๗ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี หรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมทรัพยากรธรณีมอบหมายเป็นผู้อนุมัติ
ให้ความช่วยเหลือ และหรืออนุมัติการยกเว้นค่าใช้จ่ายในการด าเนินการให้ความช่วยเหลือต่อหน่วยงานของรัฐ
โดยผู้ขอรับความช่วยเหลือต้องชี้แจงเหตุผลและความจ าเป็นในการขอยกเว้นค่าใช้จ่ายในการด าเนินการ
ให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีไป
หมวด ๒
เงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือ
ข้อ ๘ ผู้ขอรับความช่วยเหลือยินยอมปฏิบัติตามระเบียบกรมทรัพยากรธรณีว่าด้วยการให้
ความช่วยเหลือในการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่ง
กรณีหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ออกโฉนดที่งอกต้องเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ
หรือคณะท างานระดับจังหวัดเกี่ยวกับการพิจารณาออกโฉนดที่งอกริมตลิ่งพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ให้ส่งเรื่องให้กรมทรัพยากรธรณีพิจารณาให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่ง
ข้อ ๙ ผู้ขอรับความช่วยเหลือต้องจัดเจ้าหน้าที่ และประสานแจ้งหน่วยงานหรือบุคคล
ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการด าเนินการตรวจสอบด้วยทุกครั้ง และหรือต้องเป็นผู้มีอ านาจตามกฎหมาย
ที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ที่อยู่ในกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย
ข้อ ๑๐ การให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่งแต่ละราย
ต้องได้รับอนุมัติตามข้อ ๗ ก่อน
ข้อ ๑๑ ในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น หรือเป็นความผิดในทางอาญาเกิดขึ้น
เพราะเหตุแห่งการให้ความช่วยเหลือตามที่ขอ เนื่องจากผู้ขอรับความช่วยเหลือหรือตัวแทนได้แจ้งข้อความ
อันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ซึ่งหากได้ทราบความจริงดังกล่าวแล้วจะไม่ท าให้เกิด
ความเสียหาย หรือความผิดในทางอาญา ผู้ขอรับความช่วยเหลือต้องเป็นผู้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น
และไม่ถือว่าการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นเหตุให้พ้นจากความผิดในทางอาญา
หมวด ๓
ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือ
ข้อ ๑๒ ผู้ขอรับความช่วยเหลือต้องช าระค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
(๑) ค่าพาหนะเดินทาง ค่าที่พัก รวมทั้งค่าเบี้ยเลี้ยง ตามอัตราที่ทางราชการก าหนดส าหรับ
เจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรธรณีที่ไปปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือ
(๒) ค่าใช้จ่ายในการขนย้ายเครื่องมือ เครื่องจักร รวมทั้งค่าวัสดุสิ่งของที่ใช้ในการปฏิบัติงาน
(ถ้ามี)
(๓) ค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)
้หนา ๒
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๓๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
ทั้งนี้ เมื่อผู้ขอรับความช่วยเหลือช าระค่าใช้จ่ายให้ครบถ้วนตามที่กรมทรัพยากรธรณี
ได้มีหนังสือแจ้งแล้ว กรมทรัพยากรธรณีจึงจะด าเนินการให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบทางธรณีวิทยา
กรณีที่งอกริมตลิ่งตามขั้นตอนปฏิบัติงานต่อไป
หมวด ๔
แนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณี
ข้อ ๑๓ ให้แจ้งก าหนดนัดหมายในการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่ง โดยต้องมี
เจ้าหน้าที่ของผู้ขอรับความช่วยเหลือหรือผู้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานร่วมตรวจสอบกับ
เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีที่ไปปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือด้วยทุกครั้ง
กรณีที่ต้องมีการตรวจสอบในพื้นที่ที่มีผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย
ต้องได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่ หรือเข้าไปในนามของเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอ านาจเข้าพื้นที่ได้ตามกฎหมาย
ข้อ ๑๔ ให้ด าเนินการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่ง และให้ความเห็นทางวิชาการ
ว่าพื้นที่ที่ตรวจสอบนั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือเกิดจากการกระท าของมนุษย์
ข้อ ๑๕ เมื่อเข้าด าเนินการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่งแล้ว ให้ท าบันทึก
การตรวจสอบเป็นหนังสือ และลงลายมือชื่อผู้ร่วมตรวจสอบทางธรณีวิทยาไว้เป็นหลักฐานตามแบบที่
กรมทรัพยากรธรณีก าหนด
ข้อ ๑๖ ให้ผู้ตรวจสอบจัดท ารายงานผลการตรวจสอบ พร้อมลงลายมือชื่อผู้ท าการตรวจสอบ
ก ากับไว้ทุกหน้า โดยเก็บไว้ที่กรมทรัพยากรธรณี จ านวน ๑ ฉบับ และส่งให้ผู้ขอรับความช่วยเหลือ
จ านวน ๑ ฉบับ
ข้อ ๑๗ การปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบทางธรณีวิทยากรณีที่งอกริมตลิ่ง
แก่ผู้ขอรับความช่วยเหลือจะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติราชการของกรมทรัพยากรธรณี
ประกาศ ณ วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖5
อรนุช หล่อเพ็ญศรี
อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
้หนา ๓
่เลม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๓๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
|
test
| 969
|
586.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/586.pdf
|
ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง ก าหนดที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ท าประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ
เพื่อให้ไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินดังกล่าวไม่เป็นไม้หวงห้าม พ.ศ. ๒๕๖๓
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ท าประโยชน์ตามประเภทหนังสือ
แสดงสิทธิเพื่อให้ถือว่าไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินดังกล่าวไม่เป็นไม้หวงห้าม
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๗ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง
ก าหนดที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ท าประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ เพื่อให้ไม้ที่ปลูกขึ้น
ในที่ดินดังกล่าวไม่เป็นไม้หวงห้าม พ.ศ. ๒๕๖๓”
ข้อ ๒ ให้ที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้เข้าท าประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินตามพระราชบัญญัติ
การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประเภทหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
ตามแบบ ส.ป.ก. ๔-๐๑ ส.ป.ก. ๔-๐๑ ก ส.ป.ก. ๔-๐๑ ข ส.ป.ก. ๔-๐๑ ค หรือ ส.ป.ก. ๔-๐๑ ช
เป็นที่ดินซึ่งไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นไม้หวงห้าม
ความตามวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับกับไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินดังกล่าวก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับด้วย
ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖3
วราวุธ ศิลปอาชา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
้หนา ๙
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๒๙๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๓
|
test
| 970
|
1405.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1405.pdf
|
ระเบียบคณะกรรมการก ากับกิจการพลังงาน
ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอ านาจเหนือตลาด
พ.ศ. ๒๕๖๕
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดหลักเกณฑ์การเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอ านาจเหนือตลาดเพื่อให้
การพิจารณาเกี่ยวกับการกระท าอันมีลักษณะเป็นการผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือจ ากัดการแข่งขัน
การให้บริการพลังงานมีความชัดเจน
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๖๐ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๐
ประกอบกับมติคณะกรรมการก ากับกิจการพลังงาน ในการประชุมครั้งที่ ๔๙/๒๕๖๕ (ครั้งที่ ๘๑๖)
เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๕ คณะกรรมการก ากับกิจการพลังงาน ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมก ากับกิจการพลังงาน ว่าด้วยหลักเกณฑ์
การเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอ านาจเหนือตลาด พ.ศ. ๒๕๖๕”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ บรรดาระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ และค าสั่งอื่นใดในส่วนที่มีก าห นดไว้แล้ว
ในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
“ตลาดที่เกี่ยวข้อง ” หมายความว่า ตลาดการให้บริการพลังงานที่เกี่ยวข้องตามที่
คณะกรรมการประกาศก าหนด
“ความสัมพันธ์กันทางนโยบาย ” หมายความว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ประกอบธุรกิจตั้งแต่
สองรายขึ้นไปที่มีแนวทาง นโยบาย หรือวิธีการในการบริหาร การอ านวยการ หรือการจัดการธุรกิจ
ที่อยู่ภายใต้บุคคลที่มีอ านาจสั่งการรายเดียวกัน
“อ านาจสั่งการ” หมายความว่า อ านาจควบคุมอันเนื่องมาจากเหตุหนึ่งเหตุใด ดังต่อไปนี้
(๑) การถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงในผู้ได้รับใบอนุญาตรายหนึ่งเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจ านวน
สิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้ได้รับใบอนุญาตนั้น
(๒) การมีอ านาจควบคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของผู้ได้รับใบอนุญาตรายหนึ่ง
ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
(๓) การมีอ านาจควบคุมการแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการในผู้ได้รับใบอนุญาตรายหนึ่ง
ตั้งแต่กึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
(๔) การมีอ านาจสั่งการตาม (๑) หรือ (๒) ต่อไปเป็นทอดๆ ทุกทอด โดยเริ่มจากการมีอ านาจ
สั่งการตาม (๑) หรือ (๒) ในผู้ประกอบธุรกิจในทอดแรก
้หนา ๑๒
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๕
“บริษัทย่อย” หมายความว่า บริษัทย่อยของผู้รับใบอนุญาตการประกอบกิจการพลังงานจาก
คณะกรรมการก ากับกิจการพลังงานตามระเบียบคณะกรรมการก ากับกิจการพลังงาน ว่าด้วยหลักเกณฑ์
และวิธีการรวมกิจการและการถือหุ้นไขว้ในกิจการพลังงาน
“ผู้รับใบอนุญาต” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตการประกอบกิจการพลังงานตามพระราชบัญญัติ
การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๐
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการก ากับกิจการพลังงาน
“ส านักงาน” หมายความว่า ส านักงานคณะกรรมการก ากับกิจการพลังงาน
ข้อ ๕ เพื่อประโยชน์แห่งการบังคั บให้เป็นไปตามระเบียบฉบับนี้ ให้ถือว่าผู้ได้รับใบอนุญาต
ตั้งแต่สองรายขึ้นไปที่มีความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออ านาจสั่งการเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเดียวกัน
ข้อ ๖ ให้ผู้รับใบอนุญาตที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดการแข่งขันขึ้นในตลาด หรือสามารถ
ก าหนดราคา ปริมาณ คุณลักษณะ หรือคุณภาพของสินค้าได้โดยเป็นอิสระจากผู้ประกอบธุรกิจอื่น
หรือจากผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่ง เป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีอ านาจเหนือตลาดที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณา
จากปัจจัย ดังต่อไปนี้
(๑) ส่วนแบ่งตลาด โดยให้ผู้รับใบอนุญาตในกรณีดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีอ านาจเหนือตลาด
(ก) ผู้รับใบอนุญาตรายใดรายหนึ่งที่มีส่วนแบ่งตลาดในปีที่ผ่านมาตั้งแต่ร้อยละห้าสิบขึ้นไป
และมียอดเงินขายในปีที่ผ่านมาตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป หรือ
(ข) ผู้รับใบอนุญาตสามรายแรกที่มีส่วนแบ่งตลาดในปีที่ผ่านมารวมกันตั้งแต่ร้อยละเจ็ดสิบห้า
ขึ้นไปให้ถือว่าเป็นผู้มีอ านาจเหนือตลาด ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าวให้นับเฉพาะผู้รับใบอนุญาต
(๒) การกระจุกตัวของตลาด โดยพิจารณาจากค่าดัชนี Herfindahl-Hirschman Index (HHI)
โดยหากดัชนี HHI ของตลาดสูงกว่า ๑๘๐๐ จะถือว่าเป็นตลาดที่มีการกระจุกตัวมาก
(๓) อุปสรรคในการเข้าสู่ตลาด ความคงทนของอุปสรรคดังกล่าว โดยอาจเป็นอุปสรรค
ด้านโครงสร้าง ด้านกฎหมาย หรือด้านการก ากับดูแล
(๔) แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงการแข่งขันในอนาคต และศักยภาพในการแข่งขันของคู่แข่ง
ในตลาด
(๕) ขนาดของกิจการโดยรวม
(๖) การควบคุมโครงสร้างพื้นฐานที่จ าเป็น
(๗) ความได้เปรียบหรือเหนือกว่าทางเทคโนโลยีเมื่อเทียบกับผู้รับใบอนุญาตรายอื่นในตลาด
ที่เกี่ยวข้อง
(๘) อ านาจในการต่อรองของผู้ซื้อ
(๙) ความง่ายในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
(๑๐) ความหลากหลายของสินค้าหรือบริการ
(๑๑) การประหยัดจากขนาด
้หนา ๑๓
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๕
(๑๒) การประหยัดจากขอบเขตการผลิต
(๑๓) การรวมตัวในแนวตั้งของธุรกิจที่ให้บริการ
(๑๔) ระดับหรือแนวโน้มการกระจายและขายสินค้า
(๑๕) อุปสรรคในการขยายกิจการ
(๑๖) ปัจจัยอื่นตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
ทั้งนี้ ตามแนวปฏิบัติที่คณะกรรมการเห็นชอบตามระเบียบนี้
ข้อ ๗ เพื่อให้มีมาตรการก ากับดูแลล่วงหน้าในการส่งเสริมการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม
ในกิจการพลังงาน ให้คณะกรรมการมี อ านาจก าหนดผู้มีอ านาจเหนือตลาดเป็นผู้มีอ านาจเหนือตลาด
อย่างมีนัยส าคัญในแต่ละประเภทของใบอนุญาต หรือตามตลาดที่เกี่ยวข้องตามที่คณะกรรมการก าหนด
เพิ่มเติม
ข้อ ๘ ในการพิจารณาก าหนดผู้มีอ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัย ส าคัญตามข้อ ๗ ให้ก าหนด
ผู้มีอ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัย ส าคัญในตลาดที่เกี่ยวข้องตามระเบียบคณะกรรมการว่าด้วยนิยามตลาด
และขอบเขตตลาดการให้บริการพลังงานที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาจากปัจจัยในข้อ ๖
ทั้งนี้ การพิจารณา ก าหนดผู้มีอ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัยส าคัญตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตาม
แนวปฏิบัติที่คณะกรรมการเห็นชอบตามระเบียบนี้
ข้อ ๙ ในแต่ละตลาดที่เกี่ยวข้องตามข้อ ๘ ให้คณะกรรมการพิจารณาก าหนดผู้รับใบอนุญาต
เพียงรายเดียวเป็นผู้มี อ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัย ส าคัญในแต่ล ะประเภทใบอนุญาต หรือตลาด
ที่เกี่ยวข้องอื่น
ข้อ ๑๐ ในกรณีที่ไม่อาจ ก าหนดผู้มี อ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัยส าคัญเพียงรายเดียว
ตามข้อ ๙ ได้ ให้คณะกรรมการพิจารณาก าหนดผู้มีอ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัยส าคัญแบบหลายรายร่วมกัน
โดยค านึงถึงปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้
(๑) การกระจุกตัวของตลาด
(๒) สินค้าและบริการที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน
(๓) โครงสร้างต้นทุนที่คล้ายคลึงกัน
(๔) ส่วนแบ่งตลาดที่ใกล้เคียงกัน
ในการพิจารณาก าหนดผู้มีอ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัยส าคัญแบบหลายรายร่วมกันตามวรรคหนึ่ง
คณะกรรมการอาจใช้เกณฑ์และปัจจัยอื่นที่ใช้ในทางวิชาการพิจารณาประกอบด้วยก็ได้ เช่น ความโปร่งใส
ตลาดในสภาวะเติบโตเต็มที่หรืออิ่มตัว การเติบโตอย่างชะงักงันด้านอุปสงค์ อุปสงค์ของสินค้าหรือ
บริการที่มีความยืดหยุ่นต่ า นวัตกรร มทางเทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เติบโตเต็มที่หรืออิ่มตัว ก าลังการผลิต
ส่วนเกิน อุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดสูง อ านาจในการต่อรองของผู้ซื้อ การแข่งขันที่มีศักยภาพ
กลไกของการโต้กลับ และขอบข่ายของการแข่งขันด้านราคา เป็นต้น
้หนา ๑๔
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๕
ข้อ ๑๑ ให้คณะกรรมการพิจารณา ก าหนดมาตรการเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง
ส าหรับผู้รับใบอนุญาตที่เป็นผู้มี อ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัย ส าคัญตามระเบียบนี้ โดยจะต้องสอดคล้อง
กับสภาพอุปสรรคในการแข่งขันในตลาด และเป็นไปตามที่ก าหนดไว้ในหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณา
ก าหนดมาตรการส าหรับพฤติกรรมผูกขาด ลดการแข่งขั น หรือจ ากัดการแข่งขันในกิจการพลังงาน
ที่คณะกรรมการประกาศก าหนด กรณีที่มีผู้ได้รับใบอนุญาตเพียงรายเดียวในตลาดที่เกี่ยวข้องโดยชอบ
ด้วยกฎหมาย คณะกรรมการอาจพิจารณาไม่ก าหนดมาตรการก ากับดูแลที่เหมาะสมก็ได้
ให้คณะกรรมการทบทวนความจ าเป็นของมาตรการเฉพาะเป็นประ จ าทุกสองปี หรือ
ตามระยะเวลาที่คณะกรรมการเห็นสมควร โดย ค านึงถึงความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและ
ความต้องการของตลาดตลอดจนสภาพการแข่งขัน
ข้อ ๑๒ ให้ส านักงานจัดท ารายงานการวิเคราะห์เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ
ในการก าหนดผู้มีอ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัยส าคัญและมาต รการเฉพาะในการ ก ากับดูแลตามข้อ ๘
ข้อ ๙ ข้อ ๑๐ และข้อ ๑๑
การจัดท ารายงานการวิเคราะห์ตามวรรคหนึ่งเพื่อก าหนดผู้มีอ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัยส าคัญ
ส านักงานอาจมอบหมายให้ผู้ประกอบธุรกิจรายใดรายหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจัดท ารายงาน
การวิเคราะห์ ภายในระยะเวลาที่ส านักงานเห็นสมควร
ข้อ ๑๓ ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่ต้องจัดส่งข้อมูลตามที่ ส านักงานร้องขอเพื่อใช้ในการวิเคราะห์
และพิจารณาตามระเบียบนี้ ในกรณีที่ ส านักงานมีหรือได้รับข้อมูลไม่เพียงพอเพื่อประกอบการวิเคราะห์
หรือพิจารณา ส านักงานอาจ ใช้หลักเกณฑ์ตามหลักวิชาเศรษฐศาสตร์ในการ ก าหนดสมมติฐานหรือ
ประมาณค่าที่เหมาะสมเพื่อใช้ประกอบการค านวณหรือการพิจารณาก็ได้
ข้อ ๑๔ ผู้รับใบอนุญาตรายใดที่เป็นผู้มีอ านาจเหนือตลาดตามระเบียบนี้ ให้ถือว่าเป็นผู้มีอ านาจ
เหนือตลาดตามระเบียบคณะกรรมการก ากับกิจการพลังงา น ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณา
ก าหนดมาตรการส าหรับพฤติกรรมผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือจ ากัดการแข่งขันในกิจการพลังงาน
ข้อ ๑๕ ให้ส านักงานเสนอคณะกรรมการพิจารณาประกาศก าหนดผู้มีอ านาจเหนือตลาด
อย่างมีนัยส าคัญตามข้อ ๘ ข้อ ๙ หรือข้อ ๑๐ และมาตรการเฉพาะตามข้ อ ๑๑ และน าประกาศ
ดังกล่าวไปรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้เกี่ยวข้องเป็นเวลาอย่างน้อยสิบห้าวัน พร้อมทั้ง
แจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตตามประกาศทราบ หากผู้รับใบอนุญาตดังกล่าวมีข้อโต้แย้ง ให้ท าค าโต้แย้งเป็นหนังสือ
ต่อคณะกรรมการภายในระยะเวลาไม่เกินสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
ให้ส านักงานเสนอค าโต้แย้งตามวรรคหนึ่งต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จ
ภายในระยะเวลาไม่เกินสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับค าโต้แย้ง
กรณีมิได้มีค าโต้แย้งตามวรรคหนึ่ง หรือด าเนินการตามวรรคสองแล้วเสร็จ ให้คณะกรรมการ
มีค าสั่งก าหนดผู้มีอ านาจเหนือตลาดอย่างมีนัยส าคัญตามข้อ ๘ ข้อ ๙ หรือข้อ ๑๐ และมาตรการ
เฉพาะตามข้อ ๑๑ โดยให้ส านักงานมีหนังสือแจ้งค าสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตที่ตกอยู่ภายใต้บังคับ
้หนา ๑๕
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๕
แห่งค าสั่งนั้นทราบ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตต้องเตรียมการเพื่อปฏิบัติตามค าสั่ง ให้ส านั กงานแจ้งให้
ผู้รับใบอนุญาตทราบเป็นเวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
ข้อ ๑๖ ผู้รับใบอนุญาตที่ยื่นค าขออนุญาตที่ไม่พอใจค าสั่งของคณะกรรมการตามระเบียบนี้
มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งค าสั่ง
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยื่นอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ให้เป็นไปตามระเบียบ
ของคณะกรรมการว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอุทธรณ์ และการพิจารณาอุทธรณ์
ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕65
เสมอใจ ศุขสุเมฆ
ประธานกรรมการก ากับกิจการพลังงาน
้หนา ๑๖
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๒๙๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๕
|
test
| 971
|
1124.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1124.pdf
|
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีเงินได (ฉบับที่ ๔๑๗)
เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเวนภาษีเงินไดนิติบุคคล
สําหรับเงินไดที่ไดจายเปนคาซื้อหรือจางทําโปรแกรมคอมพิวเตอรหรือคาใชบริการโปรแกรมคอมพิวเตอร
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
วาดวยการยกเวนรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๒๕) พ.ศ. ๒๕๖๔ อธิบดีกรมสรรพากรกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ
และเงื่อนไขการยกเวนภาษีเงินไดนิติบุคคล สําหรับเงินไดที่ไดจายเปนคาซื้อหรือจางทําโปรแกรมคอมพิวเตอร
หรือคาใชบริการโปรแกรมคอมพิวเตอร ดังตอไปนี้
ขอ ๑ การยกเวนภาษีเงินไดสําหรับเงินไดที่ไดจายเปนคาซื้อหรือคาจางทําโปรแกรมคอมพิวเตอร
หรือคาใชบริการโปรแกรมคอมพิวเตอร ตามมาตรา ๔ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๒๕) พ.ศ. ๒๕๖๔ ตองเปนไปตามหลักเกณฑ วิธีการ
และเงื่อนไข ดังนี้
(๑) เปนการจายคาซื้อหรือคาจางทําโปรแกรมคอมพิวเตอร หรือคาใชบริการ
โปรแกรมคอมพิวเตอร ซึ่งไมรวมคาบํารุงรักษารายป และคาใชจายที่ไมเกี่ยวของโดยตรงกับการใช
โปรแกรมคอมพิวเตอร ใหแกผูขาย หรือผูรับจางทํา หรือผูใหบริการโปรแกรมคอมพิวเตอรที่ไดรับการขึ้นทะเบียน
จากสํานักงานสงเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
(๒) เปนโปรแกรมคอมพิวเตอร ที่ใชในการบริหารจัดการธุรกิจดานตาง ๆ และเปน
โปรแกรมคอมพิวเตอรที่ถูกสรางและพัฒนาขึ้นในประเทศไทย
(๓) ใหบริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลไดรับสิทธิยกเวนภาษีเงินไดนิติบุคคลสําหรับเงินได
เทากับรายจายที่ไดจายเปนคาซื้อหรือจางทํา หรือคาใชบริการโปรแกรมคอมพิวเตอรเปนจํานวนรอยละหนึ่งรอย
ของรายจายตามจํานวนที่ไดจายไปจริงแตไมเกินหนึ่งแสนบาทในแตละรอบระยะเวลาบัญชี
(๔) โปรแกรมคอมพิวเตอรที่ซื้อหรือจางทํา ตองนํามาหักคาสึกหรอและคาเสื่อมราคา
ของทรัพยสินได ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แหงประมวลรัษฎากร และตองไดมาและอยูในสภาพพรอมใชงาน
ตามประสงคภายในวันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการจายคาซื้อหรือคาจางทํา
้หนา ๑๖๕
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๕
(๕) โปรแกรมคอมพิวเตอรที่บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลไดซื้อ จางทํา หรือใชบริการ
จะตองไมเปนโปรแกรมคอมพิวเตอรประเภทเดียวกันตามรายงานแสดงรายละเอียดประเภทและลักษณะ
ของโปรแกรมคอมพิวเตอรที่ไดซื้อ จางทํา หรือใชบริการในรอบระยะเวลาบัญชีกอนหนานั้น ทั้งนี้ เฉพาะภายใน
รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ แตไมเกินวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
ขอ ๒ บริษัทหรือหางหุนสวนนิติบุคคลที่ใชสิทธิยกเวนภาษีเงินไดนิติบุคคลตองจัดทํารายงาน
แสดงรายละเอียดของโปรแกรมคอมพิวเตอรที่ใชสิทธิยกเวนนั้น โดยตองมีรายการและขอความอยางนอย
ตามแบบที่แนบทายประกาศนี้ และเก็บรักษารายงานดังกลาว รวมทั้งเอกสารประกอบการลงรายการในรายงานไว
ณ สถานประกอบการพรอมใหเจาพนักงานประเมินตรวจสอบได
ขอ ๓ ประกาศนี้ใหใชบังคับตั้งแตวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔ เปนตนไป
ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
สมศักดิ์ อนันทวัฒน
รองอธิบดี รักษาราชการแทน
อธิบดีกรมสรรพากร
้หนา ๑๖๖
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๒๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๕
รายงานแสดงรายละเอียด
ประเภทและลักษณะของโปรแกรมคอมพิวเตอรที่จะใชสิทธิตามมาตรา ๔
แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๒๕) พ.ศ. ๒๕๖๔
ชื่อผูมีหนาที่เสียภาษี ............................................................................................................ เลขประจําตัวผูเสียภาษี ....................................................................
ลําดับที่ ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร
เลือกไดมากกวา ๑ หัวขอ
ลักษณะการใชงานของโปรแกรมคอมพิวเตอร วันที่โปรแกรม
คอมพิวเตอรพรอมใช
งานไดตามประสงค
หมายเหตุ
ERP (ระบบบริหารจัดการทรัพยากรองคกร)
CRM (ระบบบริหารความสัมพันธกับลูกคา)
POS (ระบบบริการ ณ จุดขาย)
MRP (ระบบบริหารจัดการและวางแผนการผลิต)
Account (ระบบบัญชี)
Personnel (ระบบบริหารงานบุคคล)
Logistics (ระบบบริหารการขนสง)
Inventory (ระบบบริหารงานคลังสินคา)
อื่นๆ ระบุ.....
หมายเหตุ
โปรแกรมคอมพิวเตอร ใหระบุชื่อ ยี่หอ รุน ขนาด หรือคุณลักษณะจําเพาะ (Specification) ดวย (ถามี)
|
test
| 972
|
2510.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2510.pdf
|
'1>@01>#1/อB!2@ห11/
N1ANอ ํ@ห% /@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/ O(Nลล์O2อ@#>!0์ -
@11?&1อO&& ออO&&Oล>คB2/&?!> O@%ค/@/'ลอ .?0 - @1# 2อ&Oํ@
พ.0. 2568
P 0#?NN'็%@12/ค/1ํ@ห% /@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/ O(Nลล์O2อ@#>!0์ - @11?&1อO&&
ออO&&Oล>คB2/&?!> O@%ค/@/'ลอ .?0 - @1# 2อ&Oํ@
อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ 15 OหNพ1>1@&?ญญ?!>/@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/
พ.0. 2511 @NOORNพ>N/N!>/P 0พ1>1@& ?ญญ?!>/@!1@%(ล >!.?์อB!2@ห11/ ( &?&#?N 7)
พ.0. 2558 1?/%!1?/N@@11>#1/อB!2@ห11/ @ออ'1>@0!@/ OอN2%ออค>11/@1
/@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/R/O ?%?O
Oอ 1 '1>@0% ?ON1?0/N@ '1>@01>#1/อ B!2@ห11/ N1ANอ ํ@ห% /@!1@%
(ล>!.?์อB!2@ห11/ O(Nลล์O2อ@#>!0์ - @11?&1อO&& ออO&&Oล>ค B2/&?!> O@%ค/@/
'ลอ .?0 - @1# 2อ&Oํ@ พ.0. 2568
Oอ 2 '1>@0%?OQหO/?(ล%?&O!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R'
Oอ 3 QหOํ@ห% /@!1@%(ล >!.?์อB!2@ห11/ O(Nลล์O2อ@#>!0์ - @11?&1อO&&
ออO&&Oล>คB2/&?!> O@%ค/@/'ลอ .?0 - @1# 2อ&Oํ@ /@!1@%Nล#?N มอก. 62915 - 2567 ไว้
?/?1@0ล>Nอ?0 #O@0'1>@0%?O
'1>@0 /?%#?N 28 B/.@พ?%$์ พ.0. ๒_`๘
Nอ%? พ1Oอ/พ?%$B์
1?/%!1?/N@@11>#1/อB!2@ห11/
หนา ๒๒
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๒๕๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๘
ขอมูลมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
แนบทายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
ชื่อมาตรฐาน : แผงเซลลแสงอาทิตย - การรับรองแบบ ออกแบบและ คุณสมบัติดานความปลอดภัย
– การทดสอบซ้ํา
PHOTOVOLTAIC (PV) MODULES - TYPE APPROVAL, DESIGN AND
SAFETY QUALIFICATION – RETESTING
มาตรฐานเลขที่ : มอก. 62915-2567
ผูจัดทํา : สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
กรรมการวิชาการ : คณะที่ 77 ระบบเซลลแสงอาทิตย
ขอบขาย : มาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนี้
- กําหนดเปนแนวทางเดียวกันในการคงไวซึ่ง การรับรองแบบ ออกแบบ
และคุณสมบัติดานความปลอดภัยของแผงเซลลแสงอาทิตยภาค พื้นดิน
ที่ไดรับหรือกําลังจะไดรับการดัดแปลงจากการออกแบบที่ประเมิ นไวแตแรก
มาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนี้กลาวถึงเทคโนโลยีแผงเซลลแสงอาทิต ย
สองชนิด ไดแก เทคโนโลยีชนิดเวเฟอร (wafer-based technologies
(WBT)) และเทคโนโลยีชนิดฟลมบาง (monolithically-integrated
(MLI))
- การเปลี่ยนแปลงวัสดุที่ใช สวนประกอบ และกระบวนการผลิ ต อาจสงผล
กระทบตอสมรรถนะทางไฟฟาความนาเชื่อถือ และความปลอดภ ัย
ของผลิตภัณฑที่ดัดแปลง มาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนี้แสดงรายการ
การดัดแปลงและขอกําหนดที่ตองการจากการทดสอบซ้ําเปนไป ตาม
มาตรฐานการทดสอบที่แตกตางไปมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรร มนี้
เพียงชวยในการตัดสินใจ แตในบางระดับอาจจําเปนตองม ีการพิจารณา
เชิงวิศวกรรม
- ลําดับการทดสอบที่เลือกเพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงที่ไมพึง ประสงค
ตอผลิตภัณฑที่ดัดแปลง
- ผลิตภัณฑที่ผานการทดสอบตามลําดับที่กําหนดไว ในที่นี ้ใหถือวาเปนไป
ตามมาตรฐานที่เคยไดรับการรับรองวามีคุณสมบัติครบถวนมากอน
- จํานวนตัวอยางที่รวมอยูในโปรแกรมการทดสอบซ้ํา และเกณฑก ารผาน/
ไมผาน แสดงอยูในมาตรฐานอางอิง IEC 61215 และ IEC 61730 นอกจากนี้
อาจใชตัวอยางที่เปนตัวแทนตามที่อธิบายไวใน IEC 61215 และ IEC 61730
ตามความเหมาะสม
เนื้อหาประกอบดวย : บททั่วไป ขอบขาย เอกสารอางอิง บทนิยาม การทดสอบซ้ํา ภ าคผนวก
บรรณานุกรม
จํานวนหนา : 49 หนา
ISBN (e-book) : 978-616-617-732-9
ICS : 27.160
สถานที่จัดเก็บ : หองสมุดสํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท 02 430 6834
ตอ 02 440-2441
สถานที่จําหนาย : สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400
https://www.tisi.go.th
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 973
|
2420.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2420.pdf
|
#>##/
ํ@ห% QหO(ล>! ?์อB!2@ห##!NO!A NหลOลO@#? #Oอ%
!OอN'็%R'!@!!@!#@%
.0. `_`b
อ@0?"อํ@%@!@!ค/@!Q%!@!#@ _a /##คห%@P OหN#>#@&??!>!@!#@%(ล>! ?์
อB!2@ห##! .0. `___ @POORN>P!N!>!P "#>#@& ??!>!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##!
(&?&#?P b) .0. `_`` Oล>!@!#@ _b /##คห%@P OหN#>#@&??!>!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##!
.0. `___ @POORN>P!N!>!P "#>#@&??!>!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##! (&?&#?P a) .0. `__b
#?!%!#?/N@@##>##/อB!2@ห##!ออ#>##/R/O ?!NอR'%?Q
Oอ _ #>##/% ?QQหOQO&?ค?&N!APอO%ํ@ห% ห%@P#Oอ"O' 2>&/?%%?&O!N/?%'#>@0
Q%#@>@%BN&1@N'็%!O%R'
Oอ 2 QหO"Nล>#>##/ ํ@ห% QหO(ล>! ?์อB!2@ห##!N O!A NหลOลO@#? #Oอ%
!OอN'็%R'!@!!@!#@% .0. 2563
Oอ 3 (ล>! ?์อB!2@ห##!N O!A NหลOลO@#? #Oอ%!OอN'็%R'!@!!@!#@%Nล# ?P
!อ. _ac^ - `_`` !@!'#>@0#>##/อB!2@ห##! N#APอ ํ@ห% !@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##!
NO!A NหลOลO@#? #Oอ% .0. `_`a ล/?%#?P `c !?%@ค! .0. `_`a
QหOR/O /?%#?P 10 N!1@"% .0. `_`8
Nอ%? #Oอ!?%$B์
#?!%!#?/N@@##>##/อB!2@ห##!
หนา ๓๗
เลม ๑๔๒ ตอนที่ ๓๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘
ห!@"Nห! B :- Nห!B(ลQ%@#'#>@0Q O#>##/& ?&%?Q คAอ N%APอ@R O!?@#'#?&'#B!@!#@%
(ล>! ?์อB!2@ห##!NO!A NหลOลO@#? #Oอ% P "'#>@0#>##/อB!2@ห##! N#APอ ํ@ห% !@!#@%
(ล>! ?์อB!2@ห##!N O!A NหลOลO@#? #Oอ% .0. `_`a ล/?%#?P `c !?%@ค! .0. `_`a
Oล>R O!?@# ํ@N%>%@#? QหO!?@##?&ัค/@!ค> NหO%อ!?/O#%อลBN!(CO!?2N/%R ON2?"ห#Aอ(CO!?'#>P"%์
N?P"/Oอค#&" O/%!@!ค/@!Q%!@!#@ _b OหN#>#@& ??!>!@!#@%(ล >! ?์อB!2@ห##!
.0. `___ @POORN>P!N!>!P "#>#@&??!>!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##! (&?&#?P b) .0. `_``
OลO/ 2!ค/#'#?&'#B@#ํ@ห% QหO(ล>! ?์อB!2@ห##!NO!A NหลOลO@#? #Oอ%!OอN'็%R'!@!!@!#@%
NAPอQหO2อ คลOอ?&!@!#@%(ล>! ?์อB!2@ห##!NO!A NหลOลO@#? #Oอ%#?PR O'#?&'#BQห!N @ํ@N'็%
!Oอออ#>##/%?Q
หนา ๓๘
เลม ๑๔๒ ตอนที่ ๓๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 974
|
675.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/675.pdf
|
ระเบียบกรมการขนส่งทางบก
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการต่ออายุใบอนุญาตผู้ประจ ารถ (ฉบับที่ ๖)
พ.ศ. ๒๕๖๔
ตามที่ได้มีระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการต่ออายุใบอนุญาตผู้ประจ ารถ
พ.ศ. ๒๕๕๓ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติมไว้แล้ว นั้น
โดยที่กรมการขนส่งทางบกได้ประกาศงดการด าเนินการด้านใบอนุญาตขับรถตามกฎหมาย
ว่าด้วยรถยนต์ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจ ารถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ที่มีการอบรม
และทดสอบ ณ ที่ท าการส านักงานขนส่งทุกแห่ง งดการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
ของโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก และงดการให้บริการหน่วยเคลื่อนที่
ในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ระลอกใหม่
ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวท าให้ประชาชนไม่สามารถมาด าเนินการด้านใบอนุญาตขับรถและผู้ประจ ารถได้
ดังนั้น เพื่อเป็นการเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากการงดการด าเนินการดังกล่าว อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการต่ออายุ
ใบอนุญาตผู้ประจ ารถ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๗/๑ ของระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยหลักเกณฑ์
และวิธีการต่ออายุใบอนุญาตผู้ประจ ารถ พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกรมการขนส่งทางบก
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการต่ออายุใบอนุญาตผู้ประจ ารถ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๓ และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๗/๑ การต่ออายุใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ ที่สิ้นอายุเกินกว่า ๓ ปี ระหว่างวันที่
๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ จนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ให้ได้รับยกเว้นการทดสอบขับรถ”
ประกาศ ณ วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. ๒๕64
จิรุตม์ วิศาลจิตร
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
้หนา ๑๐
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๔๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
|
test
| 975
|
1205.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1205.pdf
|
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา)
พ.ศ. ๒๕๖๕
โดยที่พิจารณาเห็นว่า กัญชา เป็นสมุนไพรที่มีค่าต่อการศึกษาหรือวิจัย มีความส าคัญ
ทางเศรษฐกิจ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองและส่งเสริมการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๕ (๓) และ (๕) แห่งพระราชบัญญัติ
คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยค าแนะน าของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย จึงออกประกาศไว้
ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้กัญชา หรือสารสกัดจากกัญชา ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis เป็นสมุนไพรควบคุม
ข้อ ๒ อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปสามารถครอบครอง ใช้ประโยชน์ ดูแล เก็บรักษา
ขนย้าย จ าหน่ายสมุนไพรควบคุมตามข้อ ๑ ได้ ยกเว้นการกระท า ดังต่อไปนี้
(๑) การใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะโดยการสูบ
(๒) การใช้ประโยชน์กับสตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตร
(๓) การจ าหน่ายให้กับผู้ที่มีอายุต่ ากว่ายี่สิบปี สตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตร
ข้อ ๓ อนุญาตให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน และ
หมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถใช้ประโยชน์จากสมุนไพรควบคุม
ตามข้อ ๑ ให้กับผู้ป่วยของตน
ข้อ ๔ อนุญาตให้ผู้ป่วยตามข้อ ๓ สามารถครอบครอง ขนย้าย ดูแล เก็บรักษา ใช้ประโยชน์
ในปริมาณที่จ่ายให้ส าหรับการใช้ประโยชน์เป็นเวลาสามสิบวัน
ข้อ ๕ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖5
อนุทิน ชาญวีรกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
้หนา ๙
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๓๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๕
|
test
| 976
|
856.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/856.pdf
|
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการ เพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงาน
ที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิมตามมาตรา 19/1
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 19/1 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ภายใต้บังคับตามข้อ 2 การแจ้งขอเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงาน
ที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิมตามมาตรา ๑๙/๑ จะต้องไม่มีการเพิ่ม หรือเปลี่ยน
หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักร และต้องเป็นการแจ้งในลักษณะ ดังต่อไปนี้
(1) แจ้งเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการ
โรงงานเดิมโดยใช้เครื่องจักรเดิมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามมาตรา ๑๒ หรือ
(2) แจ้งเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการ
โรงงานเดิมโดยใช้เครื่องจักรเดิมที่ได้รับอนุญาตให้ขยายโรงงานตามมาตรา 18
ข้อ 2 เพื่อประโยชน์ในการควบคุมก ากับดูแลการเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการ
โรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิมตามมาตรา ๑๙/๑ ห้ามมิให้อ้างประเภทหรือชนิด
ของการประกอบกิจการโรงงานที่ได้จากการแจ้งขอเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงาน
ที่เกี่ยวเนื่ องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิมตามข้อ 1 มาแล้ว ไปแจ้งขอเพิ่มประเภทหรือชนิด
ของการประกอบกิจการโรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิมตามมาตรา 19/1
ในประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงานอื่นอีก
ประกาศ ณ วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕64
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
้หนา ๘
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๐๘ งราชกิจจานุเบกษา ๖ กันยายน ๒๕๖๔
|
test
| 977
|
448.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/448.pdf
|
ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
เรื่อง วิธีการ การรับเงินและการจ่ายเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดวิธีการ การรับเงินและการจ่ายเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ว่าด้วยการรับเงิน
การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกา
ก าหนดหลักเกณฑ์ในการท าธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๔๙ ออกตามความในมาตรา ๓๕
วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ เพื่อให้สอดคล้องกับ
นโยบายของรัฐบาลสู่รัฐบาลดิจิทัล ไทยแลนด์ ๔.๐ เป็นการลดภาระและอ านวยความสะดวกแก่ประชาชน
ในการท าธุรกรรมทางการเงินกับหน่วยงานของรัฐ และเพื่อให้การบริหารงานกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาศัยอ านาจตามความใน ข้อ 6 (2) และข้อ 13 (2) แห่งระเบียบคณะกรรมการกองทุน
สงเคราะห์ลูกจ้างว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และ การเก็บรักษาเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
พ.ศ. 2542 ประกอบกับหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0402.2/ว 103 ลงวันที่
1 กันยายน 2559 อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ ให้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างมีอ านาจรับเงินและการจ่ายเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ ให้น าระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บ
รักษาเงินและการน าเงินส่งคลัง มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๓ เมื่อกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้รับเงินตามข้อ ๒ ให้แจ้งการรับเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
กลับไปยังผู้มีหน้าที่ช าระเงิน
ประกาศ ณ วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖3
อภิญญา สุจริตตานันท์
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
้หนา ๖๒
่เลม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๑๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๓
|
test
| 978
|
1892.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1892.pdf
|
)1>@02O@'?@'ค!>11/@12NN21>/@13%B'
%?P ). `/`cde
N1AP/ )1>N.%>@1%?PR/NQหO2>%&>O3>)1>P0'์#@/)1>@0ค!>11/@12NN21>/@13%B'
%?P __/`cdc, _c/`cdc, _e/`cdc, `/`cde, a/`cde O3> b/`cde
/@0?0/O@'@#@/ค/@/Q'/@#1@ _a /@#1@ _d O3>/@#1@ _f OหN,1>1@(?ญญ?#>
2NN21>/@13%B' ,.0. `c`^ 2O@'?@'ค!>11/@12NN21>/@13%B'@//)1>@0O@ห'"
)1>N.%>@1%?PR/NQหO2>%&>O3>)1>P0'์#@/)1>@0ค!>11/@12NN21>/@13%B' %?P __/`cdc,
_c/`cdc, _e/`cdc, `/`cde, a/`cde O3> b/`cde "?#N/R)'?Q
O/ _ QหO0N3>)1>@02O@'?@'ค!>11/@12NN21>/@13%B' %?P ). b/`cdc 3/?'%?P
_d &?'/@ค/ `cdc N1AP/ )1>N.%>@1%?PR/NQหO2>%&>O3>)1>P0'์#@/)1>@0ค!>11/@12NN21>/
@13%B' %?P __/`cdc, _`/`cdc, _a/`cdc, _b/`cdc, _c/`cdc O3> _e/`cdc
O3>)1>@02O@'?@'ค!>11/@12NN21>/@13%B' %?P ). f/`cdd 3/?'%?P `d N/1@0' `cdd
N1AP/ OORN,>P/N#>/)1>N.%>@1%?PR/NQหO2>%&>O3>)1>P0'์ #@/)1>@02O@'?@'ค!>11/@1
2NN21>/@13%B' %?P ).b/`cdc
O/ ` O@ห'")1>N.%>@1%?PR/NQหO2>%&>O3>)1>P0'์#@/)1>@0ค!>11/@12NN21>/
@13%B' %?P __/`cdc 3/?'%?P f &?'/@ค/ `cdc N1AP/ /@#1@12'?(2'B'@1?"#?Q2$@(?'
,? '@(Bค3@1%?1>2C R"OON
- )1>N.% _^._.` >@10C'0์3@&B1>1>ห/N@)1>N%0
(International Business Center: IBC)
O/ a O@ห'")1>N.%>@1%?PR/NQหO2>%&>O3>)1>P0'์#@/)1>@0ค!>11/@12NN21>/
@13%B' %?P _c/`cdc 3/?'%?P f &?'/@ค/ `cdc N1AP/ /@#1@101>" ?(/B#2@ห11/
(Smart and Sustainable Industry) "?'?Q
a._ /@#1@1)1?()1B)1>2>%&>.@,"O@'@1)1?(N)3?P0'Nค1AP/?1O3>1>((/?#P'/?#>
(1!?/?@1'O@1>((/?#P'/?#>ห1A/หBN'0'#์/@QO) /@#1@101>"?(/B#2@ห11/"O@'@1'O@1>((/?#P'/?#>O3>
หBN'0'#์/@QOQ'@1*3>#ห1A/(1>@1 /@#1@1)1?()1B)1>2>%&>.@,"O@'@101>"?(R)2CN/B#2@ห11/ b.^
O3>/@#1@101>"?(/B#2@ห11/"O@'@101>"?(R)2CN/B#2@ห11/ b.^ R"OON
- )1>N.% `.`.`.` >@10C'0์-?้'-C2B.@,
- )1>N.% a.d >@1*3>#0@'0'#์%?P/R)
- )1>N.% a.e >@1*3>#1$?10@'0'#์
( 0N/O'%?P/?ค/@/B1>(/2C(#PO@/N@ `bf ??)
หนา ๒๒
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗
- )1>N.% a.f >@1*3>#1$0'#์R--้@ Battery Electric Vehicle
(BEV), Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PH EV),
HybridElectric Vehicle (HEV) O3>O,3#-/1 ์/
2O@ห1?(1$0'#์R--้@O((O(#N#/1?P (BEV Platform)
( N,@>*3>#.?!์1$0'#์R--้@ Plug-in Hybrid Electric
Vehicle (PHEV) O3> Hybrid Electric Vehicle (HEV))
- )1>N.% c.`.b.` >@1*3>#)C'?N/'#์
- )1>N.% c.b._^ >@1#?"P3ห>
- )1>N.% f.a.a >@1 Co-working Space
- )1>N.% _^._._ >@12'?(2'B'@1คO@O3>@13%B'
(Trade and Investment Support Office: TISO)
- )1>N.% _^._.` >@10C'0์3@&B1>1>ห/N@)1>N%0
(International Business Center: IBC)
- )1>N.% _^._.a >@10C'0์?"ห@?"AQ//?#$B">( >Q'2N/'
O3>2N/')1>/(1>ห/N@)1>N%0
(International Procurement Office: IPO)
a.` /@#1@1)1?()1B)1>2>%&>.@,"O@'@1)1?(N)3?P0'Nค1AP/?1O3>1>((/?#P'/?#>
(1!?R/NR"O'O@1>((/?#P'/?#>ห1A/หBN'0'#์/@QO) R"OON
- )1>N.% a.e >@1*3>#1$?10@'0'#์
( 0N/O'%?P/?ค/@/B1>(/2C(#PO@/N@ `bf ??)
- )1>N.% a.f >@1*3>#1$0'#์R--้@ Battery Electric Vehicle
(BEV), Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHE V),
Hybrid Electric Vehicle (HEV) O3>O,3#-/1์/
2O@ห1?(1$0'#์R--้@O((O(#N#/1?P (BEV Platform)
( N,@>*3>#.?!์1$0'#์R--้@ Plug-in Hybrid
Electric Vehicle (PHEV) O3> Hybrid Electric
Vehicle (HEV))
- >@1Q'3BN/ B %?Pค!>11/@12NN21>/@13%B')1>@0QหO@12NN21>/
@13%B'/0CNQ'!>%?P0AP'/1?(@12NN21>/#@//@#1@1'?Q
a.a /@#1@1)1?()1B)1>2>%&>.@,"O@'@1QON%คP'P30?">>%?3 R"OON
- )1>N.% _.a.`._ >@1*3>#ห1A/QหO(1>@1Nค1AP/?13 /B)1!์%@
@1N1#12/?0Qห/NO3>1>((N1#12/?0Qห/N%?P/?@1
หนา ๒๓
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗
//O((1>((ห1 A//-#์O/1์ ห1A/O,3#-/1์/
O3>*3>#Nค1AP/?13 /B)1!์Q'Pค1@1
- )1>N.% _.a.`.` >@1*3>#ห1A/QหO(1>@1Nค1AP/?13 /B)1!์%@
@1N1#12/?0Qห/NO3>1>((N1#12/?0Qห/N%?P/?@1
//O((1>(( ห1A//-#์O/1์ ห1A/O,3#-/1์/
O#NR/N/?@1*3>#Nค1AP/?13 /B)1!์Q'Pค1@1
- )1>N.% _.a.`.a >@1QหO(1>@11>((N1#12/?0Qห/N
- )1>N.% _.b.d >@10C'0์@1คO@*3>#*3%@@1N1#11>((">>%?3
- )1>N.% `.`.`.` >@10C'0์-?้'-C2B.@,
- )1>N.% a.d >@1*3>#0@'0'#์%?P/R)
- )1>N.% a.e >@1*3>#1$?10@'0'#์
( 0N/O'%?P/?ค/@/B1>(/2C(#PO@/N@ `bf ??)
- )1>N.% a.f >@1*3>#1$0'#์R--้@ Battery Electric Vehicle
(BEV), Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PH EV),
Hybrid Electric Vehicle (HEV) O3>O,3#-/1์/
2O@ห1?(1$0'#์R--้@O((O(#N#/1?P (BEV Platform)
( N,@>*3>#.?!์1$0'#์R--้@ Plug-in Hybrid
Electric Vehicle PHEV) O3> Hybrid Electric
Vehicle (HEV))
- )1>N.% a._f.`.a >@1@1//O((O3>,? '@1>((ห1A//-#์O/1์
%?PN?P0/O/?("@/N%?0/O3>2$@'?.@ค,AQ'">'
- )1>N.% a.`_.` >@1*3>#1>((O@3/0B%&์O3>@1+>N2/A/'1>
O3>>Q'2N/' O3>/ห1A/@1N//1>((O@3/0B%&์
O3>@1+>N2/A/'1>
- )1>N.% c.`.b.` >@1*3>#)C'?N/'#์
- )1>N.% c.b._^ >@1#?"P3ห>
- )1>N.% e.`.` >@1'>ค/ห1A/N#/B#2@ห11//?1>0>
- )1>N.% f._._ >@1,? '@/-#์O/1์ O,3#-/1์/N,AP/QหO(1>@1
">>%?3ห1A/">>%?3ค/'N%'#์
- )1>N.% f._.` >@1)1?()1B/-#์O/1์ O,3#-/1์/N,AP/QหO(1>@1
">>%?3ห1A/">>%?3ค/'N%'#์
- )1>N.% f.`._ >@1 Data Center
หนา ๒๔
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗
- )1>N.% f.`.` >@1 Cloud Service
- )1>N.% f.a.a >@1 Co-working Space
- )1>N.% f.b._ >@1,? '@,AQ'%?PN/A//?1>0>
- )1>N.% f.b.` >@1,? '@1>((N/A//?1>0>
- )1>N.% _^._._ >@12'?(2'B'@1คO@O3>@13%B'
(Trade and Investment Support Office: TISO)
- )1>N.% _^._.` >@10C'0์3@&B1>1>ห/N@)1>N%0
(International Business Center: IBC)
- )1>N.% _^._.a >@10 C'0์?"ห@?"AQ//?#$B">( >Q'2N/'O3>
2N/')1>/(1>ห/N@)1>N%0
(International Procurement Office: IPO)
- )1>N.% _^.__._ >@10C'0์1>@02>'คO@"O/01>((/?1>0>
a.b /@#1@1)1?()1B)1>2>%&>.@,"O@'@1)1>ห0?",3?@' @1QO,3?@'
%"O%' ห1A/@13"*31>%(#N/2>PO/"3O// 0N/O'1!?@13")1>/@!@1)3N/0P@N1A/'1>
R"OON
- )1>N.% `.`.`.` >@10C'0์-?้'-C2B.@,
- )1>N.% c.`.b.` >@1*3>#)C'?N/'#์
- )1>N.% c.b._^ >@1#?"P3ห>
- )1>N.% f.a.a >@1 Co-working Space
- )1>N.% _^._._ >@12'?(2'B'@1คO@O3>@13%B'
(Trade and Investment Support Office: TISO)
- )1>N.% _^._.` >@10C'0์3@&B1>1>ห/N@)1>N%0
(International Business Center: IBC)
- )1>N.% _^._.a >@10C'0์?"ห@?"AQ//?#$B">( >Q'2N/'O3>
2N/')1>/( 1>ห/N@)1>N%0
(International Procurement Office: IPO)
a.c /@#1@1)1?()1B)1>2>%&>.@,"O@'@1)1>ห0?",3?@' @1QO,3?@'%"O%'
ห1A/@13"*31>%(#N/2>PO/"3O// N,@>1!?@13")1>/@!@1)3N/0P@N1A/'1> R"OON
- )1>N.% `.`.`.` >@10C'0์-?้'-C2B.@,
- )1>N.% c.b._^ >@1#?"P3ห>
- )1>N.% f.a.a >@1 Co-working Space
หนา ๒๕
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗
- )1>N.% _^._._ >@12'?(2'B'@1คO@O3>@13%B'
(Trade and Investment Support Office: TISO)
- )1>N.% _^._.` >@10C'0์3@&B1>1>ห/N@)1>N%0
(International Business Center: IBC)
- )1>N.% _^._.a >@10C'0์?"ห@?"AQ//?#$B">( >Q'2N/'O3>
2N/')1>/(1>ห/N@)1>N%0
(International Procurement Office: IPO)
O/ b O@ห'")1>N.%>@1%?PR/NQหO2>%&>O3>)1>P0'์#@/)1>@0ค!>11/@12NN21>/
@13%B' %?P _e/`cdc 3/?'%?P f &?'/@ค/ `cdc N1AP/ /@#1@12NN21>/@13%B'Q',AQ'%?P
N#,? '@,>N01.@ค#>/?'// (EEC) R"OON
- )1>N.% _._.b >@1)1>/'QO@3@
- )1>N.% f.`.a >@1(1>@1/12AP/2?ญญ@!ค/@/N1O/2C1>ห/N@)1>N%0
.@ค,AQ''QO@
- )1>N.% _^.f._ >@1N1A/N-/1์1?P ห1A/N">'N1A/%N/N%?P0/ ห1A/QหO(1>@1
N1A/%N/N%?P0/
- )1>N.% _^._^.` >@1'2N%@/@@0
- )1>N.% _^._^.a >@1'2N%@N1A/
- )1>N.% _^._^.b >@1'2N%@1@
O/ c O@ห'")1>N.%>@1%?PR/NQหO2>%&>O3>)1>P0'์#@/)1>@0ค!>11/@12NN21>/
@13%B' %?P `/`cde 3/?'%?P e B/.@,?'&์ `cde N1AP/ /@#1@11?1@O3>0@0@'@1*3>#N">/
O3>)1>@0ค!>11/@12 NN21>/@13%B' %?P a/`cde 3/?'%?P e B/.@,?'&์ `cde N1AP/
/@#1@12NN21>/@10O@0@'&B1>O((ค1(/1 R"OON
- )1>N.% a.d >@1*3>#0@'0'#์%?P/R)
- )1>N.% a.e >@1*3>#1$?10@'0'#์
( 0N/O'%?P/?ค/@/B1>(/2C(#PO@/N@ `bf ??)
- )1>N.% a.f >@1*3>#1$0'#์R--้@ Battery Electric Vehicle
(BEV), Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHE V),
Hybrid Electric Vehicle (HEV) O3>O,3#-/1์/
2O@ห1?(1$0'#์R--้@O((O(#N#/1?P (BEV Platform)
( N,@>*3>#.?!์1$0'#์R--้@ Plug-in Hybrid
Electric Vehicle (PHEV) O3> Hybrid Electric
Vehicle (HEV))
หนา ๒๖
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗
- )1>N.% c.`.b.` >@1*3>#)C'?N/'#์
- )1>N.% e._._ >@1*3 >#,3?@'R-- ้@ ห1A/,3?@'R-- ้@
O3>R/' QO@@0> ห1A/NAQ/N,3 >@0>
(Refuse Derived Fuel)
- )1>N.% e._.` >@1*3 >#,3?@'R-- ้@ ห1A/,3?@'R-- ้@
O3>R/'QO@@,3?@'ห/B'N/?0' NN' O2/@%>#0์
3/ ?///3 P@?/.@, N)็'#O' 0N/O'0> ห1A/
NAQ/N,3>@0>
- )1>N.% e._.a >@1*3>#,3?@'R--้@ ห1A/,3?@'R--้@O3>R/'QO@
@R0P"1N'
- )1>N.% e._.b >@1*3>#,3?@'R--้@ ห1A/,3?@'R--้@O3>R/'QO@
@,3?@'/AP' N
- )1>N.% e._.c >@1*3>#'QO@)1>)@ 'QO@N,AP//B#2@ห11/ ห1A/R/'QO@
@'QO@N2?0
- )1>N.% e._.d >@1*3>#'QO@)1>)@ 'QO@N,AP//B#2@ห11/ ห1A/R/'QO@
- )1>N.% e._.e >@1(1>@1"O@'?"@1,3?@'
(Energy Service Company: ESCO)
- )1>N.% e._.f >@1O)11C)/?2"B%?PR/NQOO3O/N,AP/'O@3?(/@QO)1>P0'์
(Recycle) ห1A/'O@3?(คA'/@Qห/N (Recovery)
- )1>N.% e._.g >@1ค?"O0/?2"B%?PR/NQOO3O/N,AP/'O@3?(/@QOQห/N
(Sorting) 1!?#?QQ''>ค//B#2@ห11/ห1 A/N#
/B#2@ห11/%?PR"O1?(@12NN21>/
- )1>N.% e._._^ >@1ค?"O0/?2"B%?PR/NQOO3O/N,AP/'O@3?(/@QOQห/N
(Sorting)
- )1>N.% e._.__ >@1*3>#NAQ/N,3>@0> (Refuse Derived Fuel)
- )1>N.% e._._` >@1(O@(?"ห1A/O@?"/N2?0
O/ d O@ห'")1>N.%>@1%?PR/NQหO2>%&>O3>)1>P0'์#@/)1>@0ค!>11/@12NN21>/
@13%B' %?P b/`cde 3/?'%?P e B/.@,?'&์ `cde N1AP/ /@#1@11>#BO'@13%B'N,AP/-?้'-CN011>
R"OON
- )1>N.% _._.b >@1)1>/'QO@3@
- )1>N.% c.`.c >@1*3>#/?2"BN/21O@O3>>@1*3>#*3>#.?!์
ค/'1?#/?"O12O@ห1?(@'2@&@1!C)P.ค
หนา ๒๗
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗
- )1>N.% c.b._c >@1*3>#Pค121O@P3ห>2O@ห1?(@'N/21O@ห1A/
@'/B#2@ห11/ (Fabrication Industry)
- )1>N.% d.b.` >@1*3>#*3>#.?!์,3@2#>2O@ห1?(2>'คO@/B)P.ค
NN' (11B.?!์,3@2#> N)็'#O'
- )1>N.% d.d.e >@1*3>#2>P/@N0 AP/ ห1A/1>"@1 NN'
3N/1>"@1 N)็'#O'
- )1>N.% e.`.b >@1,? '@/@ค@12 O@ห1?(P1@'/B#2@ห11/
O3>/ห1A/ ค3?2>'คO@
- )1>N.% f.`.a >@1(1>@1/12AP/2?ญญ@!ค/@/N1O/2C1>ห/N@
)1>N%0.@ค,AQ''QO@
- )1>N.% _^.f._ >@1N1A/N-/1์1?P ห1A/N">'N1A/%N/N%?P0/ห1A/QหO(1>@1
N1A/%N/N%?P0/
- )1>N.% _^._^.` >@1'2N%@/@@0
- )1>N.% _^._^.a >@1'2N%@N1A/
- )1>N.% _^._^.b >@1'2N%@1@
O/ e Pค1@1% ?P0AP'/1?(@12NN21>/ ห1A/N)็'*COR"O1?(@12NN21>/.@0Q#O/@#1@1
#@/)1>@0ค!>11/@12 NN21>/@13%B' %?P _`/`cdc, _a/`cdc O3> _b/`cdc
3/?'%?P f &?'/@ค/ `cdc QหO0?คN)็'R)#@/ห3?N!์O3>NAP/'R%?PO@ห'"R/OQ')1>@0
2O@'?@'ค!>11/@12NN21>/@13%B' %?P ). b/`cdc 3/?'%?P _d &?'/@ค/ `cdc
)1>@0 ! /?'%?P `g /?'@ค/ ,.0. `cde
'2#/์ N%/"2$?10?">N
N3@&>@1ค!>11/@12NN21>/@13%B'
หนา ๒๘
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๒๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 979
|
1188.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1188.pdf
|
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
(ฉบับที่ ๔๓๓) พ.ศ. ๒๕๖๕
ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. ๒๕๒๒
เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 365) พ.ศ. 2556
เรื่อง การแสดงข้อความ “พรีเมียม” บนฉลากอาหาร
โดยที่เป็นการสมควรยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการแสดงข้อความ “พรีเมียม”
บนฉลากอาหาร เพื่อเป็นการลดภาระการขออนุญาตของประชาชน โดยให้การแสดงข้อความบนฉลาก
อาหารเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๖ (๑๐) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร
พ.ศ. ๒๕๒๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 365) พ.ศ. 2556 เรื่อง การแสดง
ข้อความ “พรีเมียม” บนฉลากอาหาร ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. ๒๕6๕
สาธิต ปิตุเตชะ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
้หนา ๔
่เลม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕
|
test
| 980
|
223.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/223.pdf
|
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีมูลคาเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๒๘)
เรื่อง กําหนดสาขาและลักษณะการประกอบกิจการ การใหบริการวิจัย
หรือการใหบริการทางวิชาการ ตามมาตรา ๘๑ (๑) (ฎ) แหงประมวลรัษฎากร
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘๑ (๑) (ฎ) แหงประมวลรัษฎากร ซึ่งแกไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๓๔ อธิบดีกรมสรรพากร
โดยอนุมัติรัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลัง กําหนดสาขาและลักษณะการประกอบกิจการ การใหบริการวิจัย
หรือการใหบริการทางวิชาการไว ดังตอไปนี้
ใหยกเลิกความในขอ ๓ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลคาเพิ่ม (ฉบับที่ ๑๒)
เรื่อง กําหนดสาขาและลักษณะการประกอบกิจการ การใหบริการวิจัยหรือการใหบริการทางวิชาการ
ตามมาตร า ๘๑ (๑) (ฎ) แหงประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแกไข
เพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลคาเพิ่ม (ฉบับที่ ๑๗๑) เรื่อง กําหนดสาขา
และลักษณะการประกอบกิจการ การใหบริการวิจัย หรือการใหบริการทางวิชาการ ตามมาตรา ๘๑ (๑) (ฎ)
แหงประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใชความตอไปนี้แทน
“ขอ ๓ ผูประกอบการใหบริการวิจัย หรือการใหบริการทางวิชาการ ตามขอ ๑ ตองเปนบุคคลธรรมดา
หรือเปนคณะบุคคลที่มิใชนิติบุคคล หรือเปนมูลนิธิ หรือเปนสถาบันอุดมศึกษา หรือเปนหนวยบริการ
รูปแบบพิเศษที่ไมมีฐานะเปนนิติบุคคล และเปนสวนหนึ่งของสวนราชการตามกฎหมายวาดวยการบริหารงาน
ของหนวยบริการรูปแบบพิเศษ
สถาบันอุดมศึกษาตามวรรคหนึ่ง ไดแก สถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ดังตอไปนี้
(๑) สถานศึกษาของรัฐในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและสถานศึกษาในกํากับของรัฐ
(๒) สถานศึกษาของรัฐในสังกัดกระทรวงอื่น ๆ
(๓) สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายวาดวยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน”
ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
เอกนิติ นิติทัณฑประภาศ
อธิบดีกรมสรรพากร
้หนา ๖๔
่เลม ๑๓๖ ตอนที่ ๗๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓ ตุลาคม ๒๕๖๒
|
test
| 981
|
2220.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2220.pdf
|
'1>@01>#1/O1@%
N1AP1 0@0ํ@/% N/3@@10AP%O&&1@0@1O2 @12NN>%2/#& O3>@1%ํ@2NN>%2/#&1%@0O@
O3>(CO'1>?%!%Q%#O1#?P#?P'1>2&.?0พ>&?!>
พ.0. `cde
NพAP1N'็%@1N/0N/3A1O3>&11N#@ค/@/N A1 1O1%ON%@0O@O3>( CO'1>?%!%Q%# O1#?P
#?P'1>2&. ?0พ>&?!> 1?@/@!. ?0O3>1 B#.?0 @P1/' ้1?%O3>&11N#@2@$@1. ?0
1>#1///@ R#0 R O'1>@0N!พ AQ%#?P'1>2&2@$@1. ?0 !?QO!NN/N A1%2>/@ค/ `cde
"@$?%/@ค/ `cde 1?%N'็%N/!B2B />2?0O3>2N(31>#&!N1@10AP%O&&1@0@1O2 @12NN>%2/#&
O3>@1% ํ@2NN>%2/#&1%@0 O@O3>(CO'1>?%!%Q%#O1#?P ?3N@/ @ค/10@0 ํ@/% N/3@
!@//@!1@ ag O3>/@!1@ be 11R'
1@0?01ํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ fb/` O/Nพ1>1@&??!>'1>?%2?ค/ พ.0. `caa
@POORNพ>P/N!>/P 0คํ@2?P/?//%O@ค>1?1@ค/@/2&O/N@!> #?P `_/`cd^ N1AP1 @1OORNพ>P/N!>/
//@0NพAP11ํ@%/0ค/@/2> /Q%@1'1>1&$ B1> 3/?%#?P b N/1@0% พB#$0?1@ `cd^
1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/O1@% P 0ค/@/N/O%1&1ค>1?ฐ/%!1? @11'1>@0R/O ?!N1R'%?Q
O1 _ Q/O%@0O@#?P@Q%#>N&?0%%@0O@!@//@!1@ ab O3>@Q%#>N&?0%3CO@@PN'็%
(CO'1>?%!%!@//@!1@ aa O/Nพ1>1@&??!>'1>?%2?ค/ พ.0. `caa Q%#O1#?P?//? 1>&?P
@%&B1? @02>%$B์ ํ@OพNพ1 1%ON% >N>N#1@ 3&B1? ?0%@# ?0.C/> B/พ1 N?01@0
N?0Q//N !1? !@ %ค1%@0 %ค1'ฐ/ %ค1พ%/ %ค11@2?/@ %ค101?$11/1@ %ค12/11ค์
%N@% &@@0 '1@?%&B1? พ1>%ค101?10B$0@ พ>N0@ พ?@ พ>>!1 พ>1BP3 Nพ1&C1์ Oพ1N .CNO!
//@2@1ค@/ /B @/@1 O/N2N121% 0P2$1 0>3@ 1O10N1O 1>01 3ํ@'@ 3ํ@พC% N30 23@
2!C3 2/B#12@ค1 21>&B1? 2>/์&B1? 2BP#?0 2B1@11์$@%? 2B1>%#1์ /%1ค@0 /%1&?/3ํ@.C 1N@#1
1B 1$@%? 1B!1 >!"์ O3>1B#?0$@%? R O1?&@10@0ํ@/% N/3@0AP%O&&1@0@1O2 @12 NN>%2/#&
O3>@1%ํ@2NN>%2/#&!@//@!1@ be O/Nพ1>1@&??!>'1>?%2?ค/ พ.0. `caa ?%?Q
(_) คN@O@/ N A1%?%0@0% พ.0. `cde Q/O0AP%O&&1@0@1O2 @12 NN>%2/#&
O3>%ํ@2NN>%2/#& .@0Q%/?%#?P _c /1@ค/ `cdf
(`) คN@O@/ N A1%!B3@ค/ พ.0. `cde Q/O0AP%O&&1@0@1O2 @12 NN>%2/#&
O3>%ํ@2NN>%2/#& .@0Q%/?%#?P _c B/.@พ?%$์ `cdf
(a) คN@O@/ N A1%พ20>@0% พ.0. `cde Q/O0AP%O&&1@0@1O2 @12 NN>%2/#&
O3>%ํ@2NN>%2/#& .@0Q%/?%#?P _c /?%@ค/ `cdf
(b) คN@O@/ N A1%$?%/@ค/ พ.0. `cde Q/O0AP%O&&1@0@1O2 @12 NN>%2/#&
O3>%ํ@2NN>%2/#& .@0Q%/?%#?P _c N/1@0% `cdf
หนา ๑๒
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๕๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๗
O1 ` Q/O(CO'1>?%!%!@//@!1@ ag O/Nพ1>1@&??!>'1>?%2?ค/ พ.0. `caa
@P/?#>N&?0%(CO'1>?%!%Q%#O1#?P#?Pํ@/% !@/O1 _ R O1?&@10@0ํ@/% N/3@% ํ@2NN>%2/#&
NO@1#B%!@//@!1@ ag /11ค2@/ ?%?Q
(_) N>%2/#&/ N A1%?%0@0% พ.0. `cde Q/O%ํ@2NN>%2/#&NO@1#B% .@0Q%/?%#?P
_c /1@ค/ `cdf
(`) N>%2/#&/ N A1%!B3@ค/ พ.0. `cde Q/O%ํ@2NN>%2/#&NO@1#B% .@0Q%/?%#?P
_c B/.@พ?%$์ `cdf
(a) N>%2/#&/ N A1%พ20>@0% พ.0. `cde Q/O%ํ@2NN>%2/#&NO@1#B% .@0Q%/?%#?P
_c /?%@ค/ `cdf
(b) N>%2/#&/ N A1%$?%/@ค/ พ.0. `cde Q/O%ํ@2NN>%2/#&NO@1#B% .@0Q%/?%#?P
_c N/1@0% `cdf
O1 a '1>@0%?QQ/OQO&?ค?&!?QO!N/?%#?P _d !B3@ค/ พ.0. `cde N'็%!O%R'
'1>@0 /?%#?P `d $?%/@ค/ พ.0. `cde
พ>พ?%์ 1?>'1>@1
1?ฐ/%!1?/N@@11>#1/O1@%
หนา ๑๓
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๕๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 982
|
2240.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2240.pdf
|
#1>@01/?P >!
N1APอ ํ@ห! QหOสํ@!?@!?P >!?ห/? Oล>สํ@!?@!?P >!ส@@
Q!พAQ!?P?ห/? B/พ1N#็!สํ@!?@!?P >!อ>NลO1อ!>ส์
อ@0?0อํ@!@!@/ค/@/Q!/@!1@ e_ /11คสอ OหN#1>//ลห/@0?P >! @POORNพ>P/N!>/
P 0พ1>1@" ??!>OORNพ>P/N!>/#1>//ลห/@0 ?P >! ("?"?P _^) พ.0. `cc^ #1>อ"?"
/@!1@ a` OหNพ1>1@"??!>1>N"?0""1>ห@11@@1O$N! >! พ.0. `cab @POORNพ>P/N!>/P 0
พ1>1@"??!>1>N"?0""1>ห@11@@1O$N! >! ("?"?P c) พ.0. `cbc Oล>Oอ ` (_) (b) Oอ _g
OหN1>1/O"NสN/!1@@11/?P >! 1>1//ห@ R0 พ.0. `cce #1>อ"?"Oอ f OหN
1>N"?0"1/ ?P >! /N@ O/0หล?Nฑ์Oล>/> ?@1 >N" ?0!ส> >Oล>!>!>11/Q!ส ํ@!?@!?P >!
อ>NลO1อ! >ส์ สํ@!?@! ?P >!อ>NลO1อ! >ส์!N@สํ@!?@!O""ออ!Rล! ์ Oล>สํ@!?@! ?P >!
อ>NลO1อ!>ส์?Q1>"" พ.0. `cdb @#1>@0QหOสํ@!?@!?P >! ?!NอR#!?Q N#็!สํ@!?@!?P >!
อ>NลO1อ!>ส์Nพ@>@1 >N"?0!ส> >Oล>!>!>11/Q!ห!?สAอOส ส> >Q!?P >!#1>N.P! ?P >!
_. สํ@!?@!?P >!?ห/? B/พ1
`. สํ@!?@!?P >!?ห/? B/พ1 ส@@#>>/
a. สํ@!?@!?P >!?ห/? B/พ1 ส@@ส/?
b. สํ@!?@!?P >!?ห/? B/พ1 ส@@หล?ส/!
c. สํ@!?@!?P >!?ห/? B/พ1 ส@@N@O>
?Q!?Q !?QO!N/?!?P _d ?!/@ค/ พ.0. `cde N#็!!O!R#
#1>@0 /?!?P 3 ?!/@ค/ พ.0. `cde
พรพจ!์ เพOญพาส
อ >"ด?กรม?Pด>!
หนา ๒๖
เลม ๑๔๒ ตอนพิเศษ ๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ มกราคม ๒๕๖๘
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 983
|
2003.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2003.pdf
|
'1>@0
N1ANอ @1QหO'1>@0Oล>คํ@2?N#?N%@01?/%!1?ํ@ห% !@/'1>@02"@%@1์BN>%
#?N/?ค/@/1O@0O10?ค/?(ลQO&?ค?&
!@/#?NR O/?'1>@0 N1ANอ @10@01>0>N/ล@@1'1>@02"@%@1์BN>%#?N/?ค/@/1O@0O1
Q%N!#Oอ#?N?ห/? %1@$>/@2 0N/O%อํ@N.อ0?Nอ อํ@N.อ2BRหP-ล อํ@N.อO/O Oล>อํ@N.อ2Bค>1>%
?ห/? 'ั!!@%? 0N/O%อํ@N.อ0>ห1>N อํ@N.อ'>%@N1> อํ@N.อ/@0อ อํ@N.อR/OON% อํ@N.อ#BN0@O
อํ@N.อ>พOอ Oล>อํ@N.อO/Nล@% Oล>?ห/? 0>ล@ 0N/O%อํ@N.อN&! อํ@N.อ1@/?% อํ@N.อ@&?
Oล>อํ@N.อ1'ิ%? ล/?%#?N _b 1@ค/ พ.0. `_`a OลO/ %?O%
NพANอQหON> ค/@/!NอN%ANอQ%@1' >&?!>@1'้อ?% OOR ห1Aอ1>?&2"@%@1 ์BN>%
#?N/?ค/@/1O@0O1 อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ a Oล>/@!1@ __ OหNพ1>1@ํ@ห% @1&1>ห@11@@1
Q%2"@%@1์BN>% พ.0. `_^b %@01?/%!1?@QหO&11 @'1>@0Oล>ค ํ@2?N#?N%@01?/%!1?
ํ@ห% @O%!@/'1>@02"@%@1์BN>%#?N/?ค/@/1O@0O1Q%N!#Oอ#?N?ห/? %1@$>/@2 ?ห/? 'ั!!@%?
Oล>?ห/? 0>ล@ ล/?%#?N `^ 1@ค/ พ.0. `_^b '1>@02"@%@1์BN>%#?N/?ค/@/1O@0O1
Q%N!#Oอ#?Nอํ@N.อ01?2@ค1 ?ห/? %1@$>/@2 ล/?%#?N _c !Bล@ค/ พ.0. `_`` คํ@2?N%@01?/%!1?
#?N _/`__^ N1ANอ @1O!N!?Oพ%?@%NO@ห%O@#?N ห?/ห%O@(CO1?&(> อ&Q%@1OOR2"@%@1์BN>%
ล/?%#?N _` /1@ค/ พ.0. `__^ '1>@0 N1ANอ @1QหOพ%?@%NO@ห%O@#?N ห?/ห%O@(CO1?&(> อ&
Q%@1OOR2"@%@1์BN>% !@/คํ@2?N#?N%@01?/%!1?ํ@ห% /?ห%O@#?NOล>อํ@%@Q%N!#Oอ#?N
อํ@N.อ01?2@ค1 ?ห/? %1@$>/@2 ล/?%#?N _c !Bล@ค/ พ.0. `_`` Oล>!@/'1>@00@01>0>N/ล@
@1'1>@02"@%@1์BN>%#?N/?ค/@/1O@0O1Q%N!#Oอ#?N ?ลN@/N#N@#?N0?ค/?(ลQO&?ค?&อ0CNQ%/?%#?N
'1>@0%?OQO&?ค?& QหO/?(ลQO&?ค?&!NอR'%/N@%@01?/%!1?>ํ@ห% N'็%อ0N@อAN%
#?O%?O !?OO!N/?%#?N `^ 1@ค/ พ.0. `_`a N'็%!O%R'
'1>@0 /?%#?N _b 1@ค/ พ.0. `_`a
N011@ #/?2>%
%@01?/%!1?
หนา ๓๙
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๙๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 984
|
1859.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1859.pdf
|
'1>@01>#1/อB!2@ห11/
N1ANอ ํ@ห% /@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/
P 1%N1!12ํ@ห1?&@1ห/N@%P'10#?N/?//ล&>%@O%2C2B N>% 25 kg O!NR/NN>% 100 kg
พ.0. 2567
P 0#?NN'็%@12/ค/1ํ@ห% /@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/ P 1%N1!12ํ@ห1?&@1ห/N@%P'10
#?N/?//ล&>%@O%2C2B N>% 25 kg O!NR/NN>% 100 kg
อ@0?0อํ@%@!@/ค/@/Q%/@!1@ 15 OหNพ1>1@&?ญญ?!>/@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/
พ.0. 2511 @NOORNพ>N/N!>/P 0พ1>1@&?ญญ?!>/@!1@%(ล>!.?์อB!2@ห11/ (&?&#?N 7) พ.0. 2558
1?/%!1?/N@@11>#1/อ B!2@ห11/ @ออ'1>@0!@/ OอN2%ออค>11/@1/@!1@%
(ล>!.?์อB!2@ห11/R/O ?%?O
Oอ 1 '1>@0% ?ON1?0/N@ '1>@01>#1/อ B!2@ห11/ N1ANอ ํ@ห% /@!1@%
(ล>!.?์อB!2@ห11/ P 1%N1!12ํ@ห1?&@1ห/N@%P'10#?N/?//ล&>%@O%2C2B N>% 25 kg O!NR/NN>% 100 kg
พ.0. 2567
Oอ 2 '1>@0%?OQหO/?(ล%?&O!N/?%"? @/?%'1>@0Q%1@>@%BN&1@N'็%!O%R'
Oอ 3 QหOํ@ห% /@!1@%(ล >!.?์อB!2@ห11/ P 1%N1!12 ํ@ห1?&@1ห/N@%P'10
#?N/?//ล&>%@O%2C2B N>% 25 kg O!NR/NN>% 100 kg /@!1@%Nล#?N /อ. 3646 เล่ม 5 - 2566 R/O
?/?1@0ล>Nอ?0 #O@0'1>@0%?O
'1>@0 /?%#?N 29 B/.@พ?%$์ พ.0. ๒๕67
พ>/พ์.?#1@ />?0Bล
1?/%!1?/N@@11>#1/อB!2@ห11/
หนา ๑๙
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑๐๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗
ขอมูลมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
แนบทายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
ชื่อมาตรฐาน : โดรนเกษตรสําหรับการหวานโปรย ที่มีมวลบินขึ้นสูงสุดเกิน 25 kg แต ไมเกิน
100 kg
AGRICULTURAL DRONE FOR GRANULES SPREADING : THE MAXIMUM
TAKE-OFF MASS GREATER THAN 25 KG BUT NOT OVER 100 KG
มาตรฐานเลขที่ : มอก. 3646 เลม 5−2566
ผูจัดทํา : สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
กรรมการวิชาการ : คณะอนุกรรมการวิชาการรายสาขา คณะที่ 50/7 อากาศยานที่ควบคุมการบิน
จากภายนอก สําหรับการเกษตร
ขอบขาย : มาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนี้
- ครอบคลุมเฉพาะโดรนเกษตรใชสําหรับการหวานโปรย สารอินทรียและ
สารเคมีที่มีมวลบินขึ้นสูงสุดเกิน 25 kg แตไมเกิน 100 kg ขับเคลื่อน
ดวยมอเตอรไฟฟา
เนื้อหาประกอบดวย : ขอบขาย บทนิยาม ระบบ และชนิด มิติและเกณฑความคลาดเคลื่อน
คุณลักษณะที่ตองการ เครื่องหมายและฉลาก การชักตัวอยางและเกณฑตัดสิน
การทดสอบ ภาคผนวก ก.
จํานวนหนา : 15 หนา
ISBN : 978-616-595-587-4
ICS : 49.020; 65.060
สถานที่จัดเก็บ : หองสมุดสํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท 02 430 6834
ตอ 02 440-2441
สถานที่จําหนาย : สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม
ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร 10400
https://www.tisi.go.th
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 985
|
1018.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1018.pdf
|
ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19
ขอแก้ไขข้อความคลาดเคลื่อน
คําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19)
ที่ 24/2564 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนด
การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 19) ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ฉบับประกาศและงานทั่วไป
เล่ม ๑๓8 ตอนพิเศษ 307 ง วันที่ ๑๕ ธันวาคม 2564
เอกสารแนบท้าย
หน้า ๕ ความในตาราง ข้อ ๒.๔) จาก
“๒.๔) หลักฐานการชําระค่าที่พักหรือสถานที่กักกันที่ทางราชการ
กําหนดเมื่อผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร อย่างน้อย ๑ วัน
และค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR รวมถึงค่าชุดตรวจและน้ํายา
ที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS - CoV - 2 (เชื้อก่อโรค
COVID - 19) แบบตรวจหาแอนต ิเจนด้วยตนเอง (Antigen
Self - test Kit หรือ ATK) ทั้งนี้ ต้องเป็นโรงแรมหรือสถานที่พัก
ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก ําหนด หรือสถานที่ซึ่ง
ผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันตามที่ทางราชการกําหนด ได้แก่
สถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันซึ่งได้ขึ้นทะเบียนต่อ
กระทรวงสาธารณสุข หรือสถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกัน
ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการ
โรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี อนุมัติและตรวจสอบ”
ให้แก้เป็น
“๒.๔) หลักฐานการชําระค่าที่พักหรือสถานที่กักกันที่ทางราชการ
กําหนดเมื่อผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร อย่างน้อย ๗ วัน
และค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR รวมถึงค่าชุดตรวจและน้ํายา
ที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS - CoV - 2 (เชื้อก่อโรค
COVID - 19) แบบตรวจหาแอนต ิเจนด้วยตนเอง (Antigen
Self - test Kit หรือ ATK) ทั้งนี้ ต้องเป็นโรงแรมหรือสถานที่พัก
ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก ําหนด หรือสถานที่ซึ่ง
ผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันตามที่ทางราชการกําหนด ได้แก่
สถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันซึ่งได้ขึ้นทะเบียนต่อ
้หนา ๓๘
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๓๐๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๔
กระทรวงสาธารณสุข หรือสถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกัน
ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการ
โรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี อนุมัติและตรวจสอบ ทั้งนี้
เฉพาะกรณ ีผู้เดินทางซึ่งมีสถานที่พํานักอยู่ในพื้นที่นําร่อง
ด้านการท่องเที่ยวและประสงค์เข้าที่พักในสถานที่พํานักของตนเอง
ให้มีหลักฐานการชําระค่าที่พักหรือสถานที่กักกันที่ทางราชการ
กําหนดเมื่อผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร อย่างน้อย ๑ วัน
พร้อมหลักฐานแสดงสถานท ี่พํานักที่ชัดเจนของผ ู้เดินทาง
และค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR รวมถึงค่าชุดตรวจและ
น้ํายาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS - CoV - 2
( เชื้อก่อโรค COVID - 19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง
(Antigen Self - test Kit หรือ ATK)”
้หนา ๓๙
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๓๐๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๔
|
test
| 986
|
46.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/46.pdf
|
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ฉบับที่ ๓๙๐ (พ.ศ. ๒๕๖๑)
ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
เรื่อง ก าหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการใช้วัตถุในอาหารที่ผลิตเพื่อจ าหน่าย
น าเข้าเพื่อจ าหน่าย หรือที่จ าหน่าย
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธาร ณสุขว่าด้วยเรื่อง ก าหนดวัตถุที่ห้ามใช้
ในอาหาร เพื่อให้เป็นปัจจุบันและสอดคล้องกับสากล
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๖ (๕) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร
พ.ศ. ๒๕๒๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิก
(๑) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๑๕๑ (พ.ศ. ๒๕๓๖) เรื่อง ก าหนดวัตถุที่ห้ามใช้
ในอาหาร ลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๖
(๒) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๒๔๗) พ.ศ. ๒๕๔๔ เรื่อง ก าหนดวัตถุที่ห้ามใช้
ในอาหาร (ฉบับที่ ๒) ลงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๔
ข้อ ๒ ก าหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการใช้วัตถุในอาหารที่ผลิตเพื่อจ าหน่าย
น าเข้าเพื่อจ าหน่าย หรือที่จ าหน่าย ดังนี้
(๑) แคลเซียมไอโอเดท (calcium iodate) หรือโพแทสเซียมไอโอเดท (potassium iodate)
อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะเพื่อปรับสภาวะโภช นาการเกี่ยวกับการขาดสารไอโอดีนเท่านั้น ตามที่ส านักงาน
คณะกรรมการอาหารและยาเห็นชอบ
(๒) เมทิลแอลกอฮอล์ (methyl alcohol) หรือเมทานอล (methanol) อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะ
เป็นสารช่วยในการผลิต (processing aid) ส าหรับการผลิตอาหารดังต่อไปนี้ เท่านั้น
(ก) วัตถุเจือปนอาหาร ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร
(ข) อาหารเพื่อการส่งออก
(๓) หญ้าหวาน ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Stevia rebaudiana Bertoni และผลิตภัณฑ์
จากหญ้าหวาน อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะกรณีดังต่อไปนี้ เท่านั้น
(ก) ใบหญ้าหวานเป็นชาสมุนไพร ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่อง ชาสมุนไพร
(ข) สตีวิออลไกลโคไซด์ (steviol glycosides) ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วย
เรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร
(ค) หญ้าหวาน หรือสารสกัดจากหญ้าหวาน ที่ใช้ส าหรับการผลิตสตีวิออลไกลโคไซด์
ตาม (ข)
้หนา ๑๖
่เลม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๓๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ กันยายน ๒๕๖๑
(ง) หญ้าหวาน หรือผลิตภัณฑ์อื่นจากหญ้าหวาน นอกเหนือจาก (ก) - (ค) ตามที่ส านักงาน
คณะกรรมการอาหารและยาเห็นชอบภายใต้หลักการข้อก าหนดของประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ว่าด้วยเรื่องอาหารนั้น ๆ
(จ) หญ้าหวาน หรือผลิตภัณฑ์จากหญ้าหวานที่ผลิตเพื่อการส่งออก
ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
้หนา ๑๗
่เลม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๒๓๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ กันยายน ๒๕๖๑
|
test
| 987
|
2204.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/2204.pdf
|
)#>@02ํ@'?@'!@##@'*ล># ?!์/B#2@ห##!
N#AP/ O#N#?Q*CO##/2/(@#%ํ@*ล># ?!์/B#2@ห##! ((?(%?P `_)
.0. `cde
P""%?PN)็'@#2!ค/#O#N#?Q*CO##/2/(@#%ํ@*ล># ?!์/B#2@ห##! NAP/"ํ@N'>'@###/2/(
@#%ํ@*ล># ?!์/B#2@ห##!
/@0?"/ํ@'@#@!ค/@!Q'!@##@ c OหN#>#@(?ญญ?#>!@##@'*ล># ?!์/B#2@ห##!
.0. `c__ @POORN>P!N#>!P""#>#@( ?ญญ?#>!@##@'*ล ># ?!์/B#2@ห##! ((?(%?P f)
.0. `cd` Nล@&>@#2ํ@'?@'!@##@'*ล># ?!์/B#2@ห##! P""ค/@!NหO'/(/ค!>##!@#
!@##@'*ล># ?!์/B#2@ห##! @//)#>@0R/O "?#N/R)'?Q
O/ _ )#>@0'?QN#?"/N@ )#>@02ํ@'?@'!@##@'*ล># ?!์/B#2@ห##! N#AP/ O#N#?Q
*CO##/2/(@#%ํ@*ล># ?!์/B#2@ห##! ((?(%?P `_) .0. `cde
O/ ` )#>@0'?QQหOQO(?ค?(#?QO#N/?'$?"@/?')#>@0Q'#@>@'BN(1@N)็'#O'R)
O/ a QหOO#N#?Q (#>1?% />?"Oล>? '@ /B#2@ห##! ํ@?" N)็'*CO##/2/(@#%ํ@*ล># ?!์
/B#2@ห##! ํ@'/' ac !@##@' "?#N/R)'?Q
ลํ@"?(%?P *ล># ?!์/B#2@ห##! !@##@'Nล%?P
!/.
1 ค/@!)ล/" ?"/*ล># ?!์NลN/#์ NลN! 1 @#?")#>N %(#> ?!์ Oล>คB!ล?1!>
%?P#O/@#
1604
2 ค/@!)ล/" ?"/*ล># ?!์NลN/#์ NลN! 2 ค/@!)ล/" ?"/#>((2AP/2@#Q"OO/'ํ@O2 1605
3 ?Q/#N/2ํ@ห#?(QOQ'@'#?(2NคลAP'ค/@!$?P/>%"B NลN! 1 O/ํ@ห'"%?P/R)Oล>/>&?/?" 1612 NลN! 1
4 2@"#N/!O'Oล>?Q/#N/ NลN! 5 2@"#N/!O' 50 P/ห์! 3.5 !>ลล>N!## Oล>%?P#/#?(?Q/ 2043
5 N%ค'>ค@##>"#?Q('AQ'*>/ - /B)#!์R!N#/!ห'N/" NลN! 9 %#@'>2N#/#์2/?Q/
O(()#>#Cค?P''/'
2125
6 #>((#>@"2 ?ญญ@!P%#% ?0'์Oล>N2 ?""O/"NคN( >ล NลN! 2 ค/@!N O@?'R"O
%@O!NNหลOR้@
2168
7 !@##ล?@'R้@#>O22ล?( : O/ํ@ห'"N@> !@##/>NลO%#/'>2์2ํ@ห#?(ล?@'
QO@' (?Q' 1 Oล>?Q' 2)
2543
8 !@##ล?@'R้@#>O22ล?( : O/ํ@ห'"N@> !@##/>NลO%#/'>2์2ํ@ห#?(ล?@'
QO@' (?Q' 0.2S Oล>?Q' 0.5S)
2544
9 (?##?Q(Nล?1!>N@>#?/ - (?##/##/!R#O@#2?!*?2 - (?##%@( NลN! 1 ล?1!>N@>
%@@" @
2860 NลN! 1
10 (?##?Q(Nล?1!>N@>#?/ - (?##/##/!R#O@#2?!*?2 - (?##%@( NลN! 2 ํ@ล?ค/@!$?P
/>%"BOล>2N/'#N/)#>2@'2?ญญ@!
2860 NลN! 2
หนา ๔๒
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
ลํ@"?(%?P *ล># ?!์/B#2@ห##! !@##@'Nล%?P
!/.
11 (?##?Q(Nล?1!>N@>#?/ - (?##/##/!R#O@#2?!*?2 - (?##%@( NลN! 4 P#P%ค/ล
@##?(2NO/!Cล
2860 NลN! 4
12 2@#2'N%0 C!>0@2##์ - O/ํ@ห'"คB!ล?1!>*ล># ?!์O/!Cล 19131
13 (#> ?!์#>((N2?" NลN! 3 Nค#AP/"@"2?ญญ@! 60268 NลN! 3
14 (#> ?!์#>((N2?" NลN! 4 R!Pค#P' 60268 NลN! 4
15 (#> ?!์#>((N2?" NลN! 7 หCัค@"0?#1>Oล>หCัQ2NหC 60268 NลN! 7
16 NคN(>ลN2O'Q"'ํ@O2 NลN! 4: O/ํ@ห'"คB!ล?1!>2N/'หล? - NคN(>ลN2O'Q"'ํ@O2
O/'/@@0#@!O'/2@"R้@
60794 NลN! 4
17 NคN(>ลN2O'Q"'ํ@O2 NลN! 4(10) : O/ํ@ห'"คB!ล?1!>N)็'#@"ลBN! - NคN(>ล OPGW
(optical ground wire) #@!O'/2@"R้@
60794 NลN! 4(10)
18 NคN(>ลN2O'Q"'ํ@O2 NลN! 6 NคN(>ล @"Q' - @"'//@ค@# - O/ํ@ห'"คB!ล?1!>2N/'หล?
2ํ@ห#?(NคN(>ล @"Q'- @"'//@ค@#
60794 NลN! 6
19 NคN(>ลN2O'Q"'ํ@O2 NลN! 6(10) NคN(>ล @"Q' - @"'//@ค@# - O/ํ@ห'"คB!ล?1!>
N)็'#@"ลBN! 2ํ@ห#?(NคN(>ล @"Q' - @"'//@ค@# O((/N')#>2ค์
60794 NลN! 6(10)
20 NคN(>ลN2O'Q"'ํ@O2 NลN! 6(20) NคN(>ล @"Q' - @"'//@ค@# - O/ํ@ห'"คB!ล?1!>
N)็'#@"ลBN! 2ํ@ห#?(NคN(>ล @"'//@ค@#O((ห'N/N)ล/R
60794 NลN! 6(20)
21 NคN(>ลN2O'Q"'ํ@O2 NลN! 6(30) NคN(>ล @"Q' - @"'//@ค@# - O/ํ@ห'"คB!ล?1!>
N)็'#@"ลBN! 2ํ@ห#?(NคN(>ล @"Q'/@ค@##@!2 @/@@0
60794 NลN! 6(30)
22
ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ (EMC) NลN! 2(2) 2>PO/"ลO/! - #>"?(ค/@!NO@?'R"O
2ํ@ห#?(2?ญญ@!#(/'Oล> @#2N2?ญญ@!ค/@!$ ?P#Pํ@%?P'ํ@#@!2@" Q'#>((N@"
ํ@ล?R้@O#"?'#Pํ@2@&@#!>
61000 NลN! 2(2)
23 ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ (EMC) NลN! 2(5) 2>PO/"ลO/! - @#/&>(@"Oล>@#ํ@O'
)#>N %2>PO/"ลO/!%@O!NNหลOR้@
61000 NลN! 2(5)
24 ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ NลN! 3(2) ?"ํ@?" - ?"ํ@?"2ํ@ห#?(2?ญญ@!)ลN/"
@PN)็'#>O20@#์!/'> (#>O2R้@NO@/(#> ?!์ ≤16 O/!O)#์#N/N2)
61000 NลN! 3(2)
25
ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ (EMC) - NลN! 3(3) ?"ํ@?" - ?"ํ@?"2ํ@ห#?(@#
N)ล?P"'O)ลO#"?'R้@ @##>NAP/!O#"?'R้@Oล> @#>#>( Q'#>((N@"ํ@ล?
R้@O#"?'#Pํ@2@&@#!>2 ํ@ห#?((#> ?!์%?P!? #>R้@%?Pํ@ห'" ≤ 16 A #N/N2
Oล>R!N@Q'/"CN?(@##N/O((!?NAP/'R
61000 NลN! 3(3)
26 ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ (EMC) - NลN! 6(1) !@##@'%?P/R) - !@##@' C!>คBO!?'
2ํ@ห#?(2 @O/"ลO/!%?P/"CN/@0?" 2 @O/"ลO/!N>@!>"์ Oล>2 @O/"ลO/!/B#2@ห##!N(@
61000 NลN! 6(1)
27 ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ (EMC) - NลN! 6(2) !@##@'%?P/R) - !@##@' C!>คBO!?'
2ํ@ห#?(2 @O/"ลO/!/B#2@ห##!
61000 NลN! 6(2)
หนา ๔๓
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
ลํ@"?(%?P *ล># ?!์/B#2@ห##! !@##@'Nล%?P
!/.
28 ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ (EMC) - NลN! 6(4) !@##@'%?P/R) - !@##@'
@#)ลN/"2?ญญ@!#(/'2ํ@ห#?(2 @O/"ลO/!/B#2@ห##!
61000 NลN! 6(4)
29 ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ (EMC) - NลN! 6(5) !@##@'%?P/R) - C!>คBO!?'2ํ@ห#?(
(#> ?!์%?PQOQ'2 @O/"ลO/!2$@'?R้@Oล>2$@'?R้@"N/"
61000 NลN! 6(5)
30 ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ (EMC) - NลN! 6(6) !@##@'%?P/R) - C!>คBO!?' HEMP
2ํ@ห#?((#> ?!์ @"Q'/@ค@#
61000 NลN! 6(6)
31
ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ (EMC) - NลN! 6(7) !@##@'%?P/R) - O/ํ@ห'" C!>คBO!?'
2ํ@ห#?((#> ?!์%?PN#'@%ํ@ห'O@%?PQ'#>((%?PN?P"/O/?(ค/@!)ล/" ?" (ค/@!)ล/" ?"
N>ั์?') Q'%?P#?Q/B#2@ห##!
61000 NลN! 6(7)
32 ค/@!NO@?'R"O%@O!NNหลOR้@ (EMC) - NลN! 6(8) !@##@'%?P/R) - !@##@'@#)ลN/"
2?ญญ@!#(/'2ํ@ห#?((#> ?!์!A//@?Q'%?P#?QN>@!>"์Oล>%?P#?Q/B#2@ห##!N(@
61000 NลN! 6(8)
33 (#> ?!์N2?" /?">%?0'์ (#> ?!์N%คP'Pล"?2@#2'N%0Oล>@#2AP/2@# NลN! 1 O/ํ@ห'"
"O@'ค/@!)ล/" ?"
62368 NลN! 1
34 (#> ?!์N2?" /?">%?0'์ (#> ?!์N%คP'Pล"?2@#2'N%0Oล>@#2 AP/2@# NลN! 3 "O@'
ค/@!)ล/" ?"2ํ@ห#?(@#$N@"P/'ํ@ล?R้@#>O2##*N@'NคN(>ล2AP/2@#Oล>N/N2?"(
62368 NลN! 3
35 (#> ?!์Oล>#>((Nค#AP/N2?"/?">%?0'์Oล>2AP/*2! - Nค#AP/#?(P%#%?0'์Q'#>((">>%?ล
2ํ@ห#?(@#NO@$@/ค'>@#Oล>*CO2C/@"B - O/ํ@ห'"คB!ล?1!>"O@'ห'O@%?P@#%ํ@@'
62944
)#>@0 ! /?'%?P `b #Bล@ค! .0. `cde
/?'?" '!?"
Nล@&>@#2ํ@'?@'!@##@'*ล># ?!์/B#2@ห##!
หนา ๔๔
เลม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๓๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
Powered by TCPDF (www.tcpdf.org)
|
test
| 988
|
1038.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/1038.pdf
|
กฎกระทรวง
ก ำหนดให้ผู้น ำของเข้ำเพื่อกำรผ่ำนแดนหรือกำรถ่ำยล ำได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติ
ตำมกฎหมำยว่ำด้วยศุลกำกรทั้งหมดหรือแต่บำงส่วน (ฉบับที่ 3)
พ.ศ. ๒๕๖๔
อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระรำชบัญญัติศุลกำกร พ.ศ. ๒๕๖๐
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กรณีที่มีพฤติกำรณ์พิเศษอันเนื่องมำจำกกำรระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙
จนเป็นเหตุให้ผู้น ำของเข้ำเพื่อกำรผ่ำนแดนหรือกำรถ่ำยล ำไม่สำมำรถ ส่งของที่น ำเข้ำมำเพื่อกำรผ่ำนแดน
หรือกำรถ่ำยล ำออกไปนอกรำชอำณำจักรได้ภำยในระยะเวลำที่กฎหมำยก ำหนด ให้ผู้น ำของเข้ำ
เพื่อกำรผ่ำนแดนหรือกำรถ่ำยล ำ ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตำมมำตรำ ๑๐๒ วรรคสอง และมำตรำ ๑๐๓
ทั้งนี้ ส ำหรับของที่น ำเข้ำมำเพื่อกำรผ่ำนแดนหรือกำรถ่ำยล ำหรือของที่ตกเป็นของแผ่นดินตำมมำตรำ ๑๐๓
ตั้งแต่วันที่ ๑ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๕
ข้อ ๒ ให้ผู้น ำของเข้ำเพื่อกำรผ่ำนแดนหรือกำรถ่ำยล ำแสดงหลักฐำนและเอกสำร
ที่เกี่ยวข้องที่เป็นเหตุให้ไม่อำจปฏิบัติตำมระยะเวลำที่ก ำหนดไ ว้ในมำตรำ ๑๐๒ วรรคสอง และ
มำตรำ ๑๐๓ ต่ออธิบดี เพื่อพิจำรณำขยำยระยะเวลำกำรด ำเนินกำรดังกล่ำวได้ตำมควำมจ ำเป็นแก่กรณี
ให้ไว้ ณ วันที่ 31 ธันวำคม พ.ศ. ๒๕๖4
อำคม เติมพิทยำไพสิฐ
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรคลัง
้หนา ๑๑
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๗ มกราคม ๒๕๖๕
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙
ยังค งระบำดอย่ำงกว้ำงขวำง ซึ่งเป็น พฤติกำรณ์พิเศษ ท ำให้ผู้น ำของเข้ำไม่อำจด ำเนินกำรน ำของ
ออกนอกรำชอำณำจักรตำมหลักเกณฑ์ที่กฎหมำยว่ำด้วยศุลกำกรก ำหนด สมควรก ำหนดให้ผู้น ำของเข้ำ
เพื่อกำรผ่ำนแดนหรือกำรถ่ำยล ำซึ่งได้รับผลกระทบอันเนื่องมำจำกกำรระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙
ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตำมกฎหมำยว่ำด้วยศุลกำกรในบำงกรณีต่อไปอีกช่วงระ ยะเวลำหนึ่ง จึงจ ำเป็น
ต้องออกกฎกระทรวงนี้
้หนา ๑๒
่เลม ๑๓๙ ตอนที่ ๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๗ มกราคม ๒๕๖๕
|
test
| 989
|
962.pdf
| null | null | null |
./mitr-phol-gen-ai-hackathon/test_docs/962.pdf
|
ประกาศกรมศุลกากร
ที่ 150/๒๕๖4
เรื่อง การขยายระยะเวลาการส่งออกของที่ขอคืนอากรและระยะเวลาการขอคืนอากรตามมาตรา 29
แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ในสถานการณ์แพร่ระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
(ฉบับที่ 2)
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในต่างประเทศ
ยังคงมีความรุนแรงและเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ภายในประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทา
ความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการ และเพื่อให้การคืนอากรภายใต้มาตรการคืนอากรตามมาตรา 29
แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 เป็นไปด้วยความเหมาะสมในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ซึ่ง เป็นเหตุสุดวิสัยที่ท าให้ผู้น าของเข้ า ไม่สามารถ
ด าเนินการส่งออกและขอคืนอากรภายในระยะเวลาที่ก าหนด
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 อธิบดีกรมศุลกากร
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กรณีที่ไม่สามารถส่งของที่ได้จากการผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือด าเนินการ
ด้วยวิธีอื่นใด ออกไปนอกราชอาณาจักร ภายในก าหนดหนึ่งปีนับแต่วันน าวัตถุดิบเข้ามาในราชอาณาจักร
ให้ขยายระยะเวลาการส่งออกอีกหกเดือน นับแต่วันครบก าหนดระยะเวลาหนึ่งปีดังกล่าว ส าหรับ
การน าเข้าวัตถุดิบ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ข้อ 2 กรณีที่ไม่สามารถขอคืนอากรภายในก าหนดหกเดือนนับแต่วันที่ส่งของออกไป
นอกราชอาณาจักร ให้ขยายระยะเวลาการขอคืนอากรอีกหกเดือนนับแต่วันครบก าหนดระยะเวลา
หกเดือนดังกล่าว ส าหรับของส่งออกที่ผลิตจากวัตถุดิบที่น าเข้าตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่
31 ธันวาคม 2564
ข้อ 3 กรณีอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ก าหนดไว้ในข้อ 1 และข้อ 2 ให้ขอผ่อนผัน
ตามประกาศกรมศุลกากรว่าด้วยการคืนอากรตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560
ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. ๒๕64
พชร อนันตศิลป์
อธิบดีกรมศุลกากร
้หนา ๔๒
่เลม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒๖๔ งราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
|
test
| 990
|
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.